ตอนที่165 ก็แค่เกมไม่ใช่เหรอ

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี [นิยายแปล]

ตอนที่165 ก็แค่เกมไม่ใช่เหรอ

พอบรรยากาศดูคลี่คลายลง จ้าวเฉียนก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาก เขารีบคว้ามือเหลียวเซียวหยุนแล้วยิ้มกล่าวว่า

“ถ้าอยากทุบตีผมขนาดนั้น คืนนี้ก็เปิดห้องด้วยกันเลยไหม ผมจะให้คุณทุบตีได้สมใจอยากไปเลย หลังจากนั้นผมก็จะกินคุณต่อ…”

เหลียวเซียวหยุนบ่นกลับไปทันที

“นายนี่มันหื่นจริงๆ คิดจะใช้ประโยชน์ทำย่ำยี่ฉันงั้นเหรอ? เจ้าบ้า…”

จ้าวเฉียนยิ้มเยาะและตอบกลับไปว่า

“แล้วที่คุณใช้ประโยชน์จากผมล่ะ? ถือซะว่าเท่าเทียมนะ เป็นข้อตกลงที่ดูเหมาะสมดีออก แล้วไม่ไปงานเลี้ยงรุ่นแล้วเหรอ? เดี๋ยวก็สายเอาหรอก?”

“แย่แล้ว!”

เหลียวเซียวหยุนอุทานลั่นทันทีด้วยความตกใจ จากนั้นก็รีบวิ่งขึ้นรถของเธอโดยไว

จ้าวเฉียนระเบิดหัวเราะเสียงดัง แล้วกลับไปสตารท์รถและขับตามเหลียวเซียวหยุนไป

เพื่อนร่วมชั้นม.ปลายของเหลียวเซียวหยุนใช่ว่าทุกคนจะร่ำรวย บ้างก็เป็นลูกจากครอบครัวฐานะปานกลาง ดังนั้นสถานที่จัดงานเลี้ยงจึงไม่ได้หรูหราอะไร เป็นแค่โรงแรมระดับกลางเท่านั้น

ไม่นานทั้งสองก็มาถึงโรงแรมที่มีชื่อว่า เทียนไห่ หลังจากจอดรถเสร็จสรรพ เหลียวเซียวหยุนก็ควงแขนจ้าวเฉียนเดินเข้าไปในตัวโรงแรม

ทั้งสองเดินไปยังห้องอาหารส่วนตัวภายในโรงแรม เคาะประตูสองสามครา ไม่นานก็มีคนมาเปิดประตูให้ พอทุกคนเห็นว่าเป็นเหลียวเซียวหยุน ทุกคนก็รีบลุกขึ้นไปต้อนรับอย่างตื่นอกตื่นเต้น

“เสี่ยวหยุน!เข้ามาเลย เข้ามา!”

“แหม ออกกำลังกายบนเตียงกับแฟนมากไปหน่อยรึไง ถึงมาสายแบบนี้!”

เหลียวเซียวหยุนดึงร่างของจ้าวเฉียนมากอดแน่น และกล่าวตอบไปอย่างภาคภูมิใจว่า

“ไม่มีใครถึกทนไปกว่าเขาแล้ว ฉันโดนไปตั้ง13ครั้งแนะ เลยกว่าจะตื่นทีก็สายแล้ว”

“ฮะ…ฮะ…”

จ้าวเฉียนได้แต่ขำแห้ง หัวข้อการสนทนาของนักเรียนม.ปลายร้อนแรงเกินไปหรือเปล่า?

“เสี่ยวหยุน เธอแนะนำแฟนให้ทุกคนได้รู้จักทีสิ?”

“ใช่!ใช่!เราอยากรู้มากว่าคนที่สามารถจีบเธอติดได้ต้องเป็นคนยังไงกัน!ตอนที่อยู่โรงเรียนมีผู้ชายไล่จีบตั้งมากมาย แต่เธอกลับไม่แลสักคน”

“อยู่อย่างหนุ่มฮออตในตอนนั้นอย่างหวางเจ๋อสิ ยังแห่วเลย ฮ่าฮ่า…”

“ฮ่าฮ่าๆ … ใช่ๆ!”

ชายหนุ่มที่ชื่อหวางเจ๋อมุ่ยหน้าด้วยความไม่พอใจทันที และกล่าวตอบเสียงดังไปว่า

“เจ้าพวกบ้า!ลากฉันเข้าไปทำไม? โชคยังดีนะที่แฟนฉันไปเข้าห้องน้ำ ถ้าเธอได้ยินเข้า มีหวังบ้านแตกแน่นอน!หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะพวกเธอ!”

ทุกคนรีบปิดปากเงียบทันที และกล่าวถึงหัวข้อนี้อีกต่อไป ทักทามเรียกให้เหลียวเซียวหยุนกับจ้าวเฉียนนั่งลงก่อน

ทันทีที่นั่งประจำที่เรียบร้อย เหลียวเซียวหยุนก็พาจ้าวเฉียนมาแนะนำตัวให้ทุกคนรู้จักทันที

“นี่แฟนฉันเอง เขาชื่อจ้าวเฉียน แก่กว่าฉันประมานสองปี เขาทำงานให้กับบริษัทเกมฟางนี่ ที่สร้างเกม”League of Glory” โปรเจคนี้ได้เขานี่แหละเป็นผู้นำทีม”

เมื่อได้ฟังสิ่งที่เหลียวเซียวหยุนเล่ากล่าวออกไป ทุกคนต่างก็เริ่มสนใจในตัวจ้าวเฉียนทันที

“หนุ่มหล่อคนนี้ต้องรวยมากแน่ๆ เกม”League of Glory”โด่งดังอย่างมากในปัจจุบัน คงทำเงินได้มหาศาลหลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน”

จ้าวเฉียนหัวเราะเป็นพิธี กล่าวตอบไปว่า

“ที่จริงแล้ว เป็นบริษัทซิงหยวนครับที่ถือครองลิขสิทธิ์ของเกมนี้ ผมได้ส่วนแบ่งเพียงเล็กน้อยเท่านั้นจากโปรเจคดังกล่าว บริษัทเกมของเรายังไม่ดังถึงขนาดนั้นครับ”

คนอื่นๆ ต่างรู้สึกอิจฉาอย่างมาก แต่ทันใดนั้นกลับมีสายตาหนึ่งไม่เข้าพวก นั้นก็คือหวางเจ๋อที่จับจ้องจ้าวเฉียนด้วยท่าทีเหยียดหยาม แม้ว่าเขาจะมีเงินไม่ค่อยมาก แต่เรียกได้ว่าเป็นเถ้าแก่น้อยเจ้าของกิจการหน้าใหม่ไฟแรงคนหนึ่ง พอได้ยินแบบนั้นจึงเอ่ยถามจ้าวเฉียนขึ้นทันทีว่า

“แล้วทำอยู่ในตำแหน่งอะไรในบริษัทเหรอครับ?”

พอจ้าวเฉียนได้ยินแบบนั้นพลันถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้

“ผมเพิ่งถูกไล่ออกจากบริษัทครับ ตอนนี้ถือว่าว่างงานอยู่ครับ”

พอคำกล่าวออกไปแบบนั้น บรรยากาศทั่วทั้งห้องอาหารพากันเงียบสงัดลงทันที

คนที่ตกใจที่สุดคงเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกเสียจากเหลียวเซียวหยุน เธอเอ่ยถามทันทีว่า

“นายถูกไล่ออก? เกิดอะไรขึ้น? ไม่ใช่ว่านายเพิ่งดิลกับบริษัทฉันได้ แล้วทำไมพวกนั้นต้องไล่นายออกด้วย?”

“เรื่องมันยาว ไว้วันอื่น…”

“ถ้าเรื่องมันยาว นายก็เล่าย่อๆ ให้ฟังก็ได้ ฉันอยากรู้เหตุผลจะได้รีบแก้ไขได้ทันไง”

เหลียวเซียวหยุนทำอะไรไม่ได้นอกจากเอ่ยตอบไปตามตรงว่า

“ก็ครั้งล่าสุดที่ฉันมีปัญหากับฟู่เอ๋อร์ไง ฉันเลยจ้างให้คนที่รู้จักสั่งสอนไปรอบหนึ่ง ก็เลยกลายมาเป็นศัตรูของตระกูลฟู่ แต่บังเอิญว่าบริษัทที่ผู้จัดการผมไปดิลด้วยดันเป็นบริษัทเหล่ยอู่ ทันทีที่พวกนั้นรู้ว่าผมอยู่ในบริษัทฟางนี่ สัญญาเลยถูกยกเลิกทั้งหมดในทันที”

ทันทีที่ได้ยินว่า จ้าวเฉียนกลายมาเป็นคนตกงาน สีหน้าการแสดงออกของบรรดาเพื่อนร่วมชั้นของเหลียวเซียวหยุนก็แปรเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ คำเยินยอก่อนหน้าราวกับไม่เคยเกิดขึ้น

เหลียวเซียวหยุนโมโหอย่างมาก เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาทันที เพื่อต้องการจะโทรไปต่อว่าฟางนี่ แต่จ้าวเฉียนกลับหยุดเธอไว้ได้ทันเวลาและกล่าวว่า

“อย่าไปสร้างปัญหาเลย นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของผม ผมจัดการเองได้”

“ไม่ ฉันต้องการให้เธออธิบายเหตุผลมาว่า ทำไมพวกเธอถึงไล่พนักงานมากความสามารถแบบนายออก พวกงี่เง่าแบบนี้ ฉันไม่อยากร่วมงานด้วยหรอก ฉันจะยกเลิกสัญญา!”

“ใจเย็นก่อน เดี๋ยวผมจัดการเองดีกว่า”

“ก็แค่พนักงานหน้าโง่คนหนึ่งนี่หว่า!ทีแรกก็คิดว่าเก่งมาจากไหน!”

ณ เวลานั้นเอง ไม่อาจทราบได้เลยว่าใครเป็นเจ้าของประโยคนี้ที่เอ่ยดังลั่นออกมา ทุกคนต่างเหลียวมองตามต้นเสียง และคนที่สบประมาทจ้าวเฉียนก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก หวางเจ๋อคนที่เคยตามจีบเหลียวเซียวหยุน สมัยที่เรียนม.ปลาย

“หวางเจ๋อ ทำไมนายต้องพูดแบบนี้ออกมา? เขาไม่ใช่แค่พนักงานธรรมดานะ เขามีความสามารถรอบด้าน ทั้งยังสร้งาโปรเจคที่กวาดกำไรไปไม่รู้กี่ร้อยล้าน แล้วธุรกิจที่นายเพิ่งก่อตั้งทำได้แบบนี้หรือเปล่า?”

หวางเจ๋อรู้ดีอยู่แล้วว่า เขาไม่มีโอกาสชนะใจเหลียวเซียวหยุนได้อีกต่อไป ดังนั้นเขาไม่ยอมเสียหน้าเพราะเธอเป็นอันขาด

“มันก็จริงที่เขาทำได้แบบนั้น แต่ใช่ว่ากำไรทั้งหมดจะเข้ากระเป๋าเขาสักหน่อยจริงไหม? กลับเป็นเจ้านายของเขาต่างหากที่ได้กินกำไรหลักล้านนั้นไป แถมตอนนี้พอหมดประโยคก็โดนถีบส่งออกจากบริษัท สุดท้ายมันก็แค่หมาหัวเน่าล่ะวะ!”

เหลียวเซียวหยุนต้องการจะโต้เถียงกับอีกฝ่ายต่อ ทว่าจ้าวเฉียนกลับหยุดไว้

“เอาล่ะ หยุดเถียงกันได้แล้ว วันนี้เพื่อนๆ ของคุณอุตส่าห์นัดรวมตัวกันไม่ใช่เหรอ? ทำไมต้องทำลายบรรยากาศดีๆ แบบนี้ด้วย? พวกคุณควรจะย้อนวันวานเล่าเรื่องเก่าๆ กัน อย่าโต้เถียงกับเรื่องคนนอกอย่างผมเลยจะดีกว่า”

จ้าวเฉียนไม่ได้โกรธเลยสักนิดที่คนพวกนี้จะดูถูกดูแคลนเขา เพราะอันที่จริง คนพวกนี้ไม่มีคุณสมบัติดังกล่าวเลย ก็แค่เด็กหนุ่มไฟแรงที่เริ่มต้นทำธุรกิจ กับเพื่อนชนชั้นต่ำของเหลียวเซียวหยุน

ณ เวลาเดียวกัน หวังซินซิน แฟนสาวของหวางเจ๋อก็กลับเข้ามาในห้องอาหาร แต่เธอเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเล่นเกมในมือถือ สังเกตจากลักษณะภูมิฐานที่แต่งตัวแบรนด์เนมทั้งตัว ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป

หวังซินซินเดินเข้ามา เพื่อนที่นั่งข้างๆ หวางเจ๋อก็สละตำแหน่งให้เธอได้นั่งข้างแฟนแทน

“Doublekill!Triblekill!Quadrakill!Pentakill!ACE!”

“ฮ่าฮ่า….ฉันฆ่าได้ห้าตัวรวด!!”

หวันซินซินตะโกนเสียงดังลั่นอย่างมีความสุข และกระโดดจุ๊บหวางเจ๋อด้วยความดีใจ

หวางเจ๋อทราบดีว่าเกมที่แฟนสาวของเขากำลังเล่นอยู่ เป็นเกมที่ได้รับการพัฒนามาโดยจ้าวเฉียน เขาจึงรู้สึกไม่พอใจเป็นธรรมดา สีหน้าการแสดงออกของเขาดูไม่มีความสุขเลย

หวังซินซินที่เพิ่งสังเกตเห็นว่าแฟนหนุ่มของเธออารมณ์ไม่ค่อยรับแขก พลางทำให้เธออารมณ์เสียไปด้วยเช่นกันโดยเอ่ยถามขึ้นว่า

“นี่ เป็นอะไรของนาย? ช่วยทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยได้ไหม?”

“มันก็แค่เกม ทำไมต้องตื่นเต้นขนาดนั้นด้วย? ฆ่าได้ห้าคนรวดแล้วมันยังไง? แลกเป็นข้าวได้ไหม?”

หวางเจ๋อแซะตอบพร้อมสีหน้าดูถูก

“นี่นายกำลังพูดบ้าอะไรออกมา? หรือพอเจอเพื่อนเก่าเลยแอคทำเป็นตัวเองอยู่เหนือกว่าฉันขึ้นมา? คิดว่าเท่มากเหรอ?”

หวังซินซินเอ่ยถามเจืออารมณ์หงุดหงิด

“จะเล่นอะไรก็เล่นไปเถอะ ขอให้สนุกกับเกมแล้วกัน”

หวางเจ๋อประชดประชันตอบ

“อะไรของนาย!”

หวังซินซินตะคอกสวนกลับไป

เมื่อเห็นว่าทั้งสองกำลังทะเลาะกัน ทุกคนจึงรีบเกลี้ยกล่อมทันทีและมีคนหนึ่งกล่าวขึ้นว่า

“แฟนของหวางเจ๋อชอบเล่น League of Honor เหรอ? แฟนของเหลียวเซียนหนุนเป็นคนพัฒนาเกมนี้ขึ้นมา เธอสามารถคุยกับเขาได้นะ น่าจะถูกคอกันดี”

เมื่อหวังซินซินได้ยินแบบนั้น เธอก็สงบลงทันทีและเอ่ยถามด้วยสีหน้าชื่นชมว่า

“นาย…นายเป็นคนพัฒนาเกมนี้ขึ้นมาเหรอ? นายเก่งจังเลย ทั้งหล่อทั้งเก่งเลยแหละ!”

หวางเจ๋อระเบิดทันทีที่ได้ยิน แฟนสาวของเธอกำลังชื่นชมจ้าวเฉียนต่อหน้าเขา นี่ไม่ต่างอะไรกับการตบหน้าเขาต่อหน้าฝูงชนเลย