ตอนที่166 หน้าชา
จ้าวเฉียนไม่อยากมีเรื่องกับหวางเจ๋อ ชายคนนี้คุณสมบัติต่ำเกินกว่าที่เขาควรไปเกลือกกลั้ว แม้ว่าหวังซินซินจะสุภาพขนาดนั้น เขาเองก็ไม่ต้องการไปยุ่งอยู่ดี
แต่หวางเจ๋อกลับไม่ทราบว่าจ้าวเฉียนคิดอะไรอยู่ เขาจึงกล่าวขึ้นทันทีว่า
“ทำไมเธอดูตื่นเต้นขนาดนั้น เจ้าหมอนี่ถูกไล่ออกจากบริษัทนั้นแล้ว ตอนนี้ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียใดๆ กับเกมนี้ทั้งสิ้น”
หวังซินซินเหลือบมองหวางเจ๋ออย่างคร้านจะใส่ใจ คล้อยหลังหันกลับมายิ้มให้จ้าวเฉียนพร้อมกล่าวว่า
“ปล่อยเจ้านี่ไปเถอะ เราออกไปคุยกันข้างนอกดีไหม? ช่วยสอนฉันเล่นเกมนี้หน่อยสิ ฉันอยากเก่งน่ะ ได้ไหม? แนะนำฮีโร่ที่เล่นง่ายแต่เก่งให้หน่อยนะ นายเป็นคนพัฒนาเกมนี้ขึ้นมาน่าจะรู้ดี”
คำกล่าวนี้ของหวังซินซินไม่เพียงแต่จะทำให้หวางเจ๋อโมโหเท่านั้น แม้แต่เหลียวเซียวหยุนเองก็หัวเสียอย่างมากเช่นกัน
“หวางเจ๋อ นายช่วยดูแลแฟนสาวของตัวเองดีๆ หน่อยได้ไหม มาแรดต่อหน้าฉันแบบนี้ไม่อายเลยรึไง?”
เหลียวเซียวหยุนเอ่ยปากด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย
หวังซินซินที่ได้ฟังดังนั้นเธอเองก็ไม่พอใจอย่างมาก เธอชี้หน้าด่าเหลียวเซียวหยุนตอกกลับโดยไวว่า
“เธอเป็นใครห๊ะ!? เชื่อไหมว่าฉันสามารถฉีกปากเน่าๆ ของเธอได้!”
“แล้วเธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร? ถึงมีสิทธิ์มาแรดใส่แฟนคนอื่นเขา!หวางเจ๋อ รสนิยมของนายเพี้ยนไปแล้วรึไง? ดูสิ แต่งหน้าจัดขนาดนั้น หน้าสดไม่เท่าไหร่แหละ นายเลือกลงไปได้ไง!”
เหลียวเซียวหยุนกล่าวด้วยท่าทางรังเกียจ
อันที่จริงหวางเจ๋อเองก็ไม่ค่อยพอใจกับแฟนสาวคนนี้มากเป็นทุนเดิม แต่บริษัทของเราต้องพึ่งพาบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของแฟนสาวคนนี้ เพื่อจะยืนหยัดได้ต่อไป แต่เขาเองก็ไม่ยอมให้ใครมาต่อว่าเธอง่ายๆ เช่นกัน
“นี่แฟนฉัน เกี่ยวอะไรกับเธอ? ไม่ว่าเธอจะแย่แค่ไหน เธอก็ดูดีที่สุดในสายตาฉัน!”
หวางเจ๋อเอ่ยตอบไปอย่างภาคภูมิใจ และคว้าร่างแฟนสาวเข้ามาสวมกอด
บรรดาเพื่อนร่วมชั้นต่างกังวลยิ่งว่า ทั้งสองจะทะเลาะกันอีกรอบ ดังนั้นพวกเขาจึงรีบเข้าไปห้ามปรามทันที และแยกทั้งคู่ออกจากกันโดยด่วน
“หวางเจ๋อมานี่ ใจเย็นๆ ก่อนนะ มาชนแก้วกันมา!”
“เซียวหยุน สร้อยคอเธอสวยดีนะ ซื้อมาจากไหนเหรอ?”
ซึ่งทั้งคู่ต่างรู้ทันว่า บรรดาเพื่อนๆ เหล่านี้จงใจเบี่ยงประเด็นไม่ให้ทะเลาะกัน ดังนั้นพวกเขาจึงเอออ่อไปตามเพื่อน หวังว่าสถานการณ์ที่แย่ๆ จะเบาเทาลงบ้าง
“นี่ สุดหล่อ อย่าขี้เหนียวไปเลยนะ ช่วยสอนฉันเล่นหน่อยสิ น๊าา…”
หวังซินซินยิ้มหวานเชิงยั่วยวนอีกฝ่าย
จ้าวเฉียนไม่สนใจผู้หญิงแนวนี้อยู่แล้ว เขาจึงตอบปฏิเสธน้ำเสียงเย็นกลับไปว่า
“ผมรับผิดชอบในด้านการวางแผนเท่านั้น ไม่ใช่แผนกพัฒนาเกม ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าฮีโร่แต่ละตัวมีลักษณะเด่นยังไงบ้าง ถ้าอยากเก่งจริงๆ แนะนำให้ไปดูคลิปที่มือโปรเขาสอนเอาก็ได้นะครับ หรือจะลองดูในแพลตฟอร์มเทียนซูวก็ได้ มีสตีมเมอร์หลายคนที่เล่นเกมนี้อยู่”
หวังซินซินยังคงส่งยิ้มหวานให้จ้าวเฉียนอย่างต่อเนื่อง แต่ภายในใจแอบดุเขาไม่น้อยที่ไม่ยอมเล่นกับเธอเลย ทำไมถึงต้องปฏิเสธเธอด้วยล่ะ?
เหลียวเซียวหยุนสุดจะทนไหวแล้วจริงๆ เธอตะคอกเสียงดังลั่นข้ามฝากไปด่าหวางเจ๋อว่า
“หวางเจ๋อ แกนี่มันไร้ยางอายจริงๆ ไม่สนใจแฟนตัวเองเลยรึไง?!ดูเธอสิยั่วจนแทบจะถกเสื้อถกกางเกงอยู่แล้ว ไหนว่ารักนักรักหนาห่ะ?!”
หวางเจ๋อเองก็ทนอยู่นานแล้วเช่นกัน ภายในห้องอาหารแห่งนี้มีเพื่อนร่วมชั้นเก่าและพี่น้องคนสนิทมากมาย แต่หวังซินซินกลับไม่ให้หน้าเขาเลย
“ซินซิน!เธอไม่ใช่เหรอที่บอกว่า อยากออกไปเดินเล่นข้างนอก!ออกไปเถอะ ถ้าเดินดูจนหนำใจแล้วค่อยกลับมา!”
สีหน้าของหวังซินซินดูเย็นยะเยือกลงถนัดตา เธอเอ่ยถามขึ้นว่า
“นี่นายหมายความว่ายังไง? คิดจะไล่ฉันเหรอ? นี่ไม่รู้สึกละลายใจตัวเองเลยรึไง? หวางเจ๋อ ฉันขอเตือนนายไว้หน่อยนะ ที่นายมีวันนี้ได้ก็เพราะครอบครัวฉัน ถ้าไม่มีเงินทุนก้อนนี้ของฉัน ธุรกิจนายเจ๊งไปนานแล้ว!ดังนั้นนายควรจำใส่กะโหลกไว้ซะนะว่า นายควรปฏิบัติกับฉันยังไง!”
หวางเจ๋อรู้สึกขายหน้าอย่างมาก ตะกี้นี่เขายังเพิ่งสบประมาทจ้าวเฉียนไปว่า เป็นแค่พนักงานกินเงินเดือน แต่ตอนนี้หวังซินซินพูดอย่างกับว่าเขาเป็นไอ้ขี้แพ้
แต่สิ่งที่หวังซินซินกล่าวไปล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น หากไม่มีบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของเธอ ธุรกิจของเขาคงไม่สามารถประสบความสำเร็จถึงจุดนี้ได้
ในแง่ของความยิ่งใหญ่และเงินทุนของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของเธอ หวางเจ๋อไม่กล้ายั่วยุเธอแม้สักนิด หากในอนาคตเขายังต้องการสร้างโครงการยักษ์ใหญ่ขึ้นมา สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเงินทุนสนับสนุนจากครอบครัวเธอ
ในกรณีรี้ หวังซินซินในอิทธิพลของพ่อออกคำสั่งเพื่อขอ ‘เงินทุน’ ถ้าทำให้เธอโกรธขึ้นมา พ่อของเธอสามารถเรียกร้องขอเงินทุนทั้งหมดคืนได้ทุกเมื่อ
“อย่าเข้าใจฉันผิดไปสิซินซิน ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้นซะหน่อย ก็แค่คิดว่าเธออเจจะเบื่ออยู่ที่นี่น่ะ”
หวางเจ๋อพยายามอธิบาย
หวังซินซินพ่นลมหายใจเย็น เอ่ยตอบกลับเพียงว่า
“ก็ฉันอยากอยู่ที่นี่ แขนขาก็ของฉัน หัวใจก็ของฉัน นายมีสิทธิ์อะไร?”
พวกเพื่อนร่วมชั้นต่างจ้องมองไปที่หวางเจ๋อด้วยสายตาแสนเวทนา พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าดาวเด่นของโรงเรียนในวันนั้น กลับเป็นแค่ชายรับใช้เหนือหัวในวันนี้
ทุกคนล้วนตระหนักได้ในทันทีว่า ที่หวางเจ๋อประสบความสำเร็จได่จวบจนวันนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะพึ่งพาบารมีของหญิงสาวคนนี้ล้วนๆ
หวางเจ๋อสัมผัสได้ชัดเจนว่า ทุกคนต่างจ้องมามองทางเขาด้วยสายตาแปลกๆ แผ่นหลังของเขาเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อภายในใจรู้สึกกระวนกระวายอย่างบอกไม่ถูก เพื่อนเก่าเหล่านี้ไม่กล่าวชื่นชมอย่างก่อนหน้าเสียแล้ว ณ เวลานี้เขาจึงทำได้เพียงหาข้ออ้าง ขอตัวออกไปห้องอาหารไปโดยเร็ว
หลังจากนั้นไม่นาน โทรศัพท์มือถือของหวางเจ๋อก็ดังขึ้น ปรากฏว่าเป็นผู้จัดการของบริษัทคู่ค้าของเขาโทรเข้ามาหา
“ประธานหวาง มีข่าวดีครับ!ผมได้เชิญคนจากบริษัทหยางไห่ ดีเวลลอปเม้นท์ มารับประทานดินเนอร์ด้วยกัน และพวกเขาเปิดเผยว่า อาคารชุมชนจิงไฮ่เป็นของเราครับ!”
หวางเจ๋อดีอกดีใจอย่างมากเมื่อได้ยิน ส่งเสียงตะโกนดังลั่นขึ้นว่า
“เยี่ยม!เยี่ยมมาก!ฮ่าฮ่า…นายรีบแต้อนรับเขาให้ดีเลยนะ!ถ้าเราสามารถชนะการประมูล แล้วที่ดินส่วนนั้นตกเป็นของเราแล้วจริงๆ สิ้นปีฉันจะให้โบนัสนาย1ล้านหยวน!”
“ขอบคุณมากครับประธานหวาง ผมจะรีบดำเนินการโดยเร็วที่สุดเลยครับ!”
หวางเจ๋อวางสายพลางฮัมเพลงอย่างมีความสุข สำหรับโครงการที่จะวางแผนในที่ดินอาคารชุมชนนี้ ถ้าทำได้สำเร็จเขาจะกวาดกำไรมานับหลายสิบล้านในอึดใจเดียว
หวางเจ๋อรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังลอยได้ ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องสนใจหน้าแฟนสาวอีกดต่อไป
พอกลับไปยังห้องอาหาร มีเพื่อนคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นว่าไปไหนมา เขาจึงเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง จนเพื่อนคนนั้นอดถามไม่ได้ว่า ธุรกิจกำลังเติบโตขึ้นอีกระดับแล้วเหรอ?
หวางเจ๋อพยักหน้าและกล่าวตอบไปอย่างภาคภูมิใจว่า
“เมื่อกี้ผู้จัดการในบริษัทฉันโทรมาบอกว่า เราอาจจะชนะการประมูลที่ดิน เป็นโครงการอาคารชุมชนที่15ในเขตจิงไฮ่ ฮ่าฮ่า… ถ้าโครงการนี้สำเร็จไปด้วยดี กำไรนับสิบล้านจะไหลเข้ามาในกระเป๋าตังฉันแน่นอน!”
จะเห็นได้ว่าหวางเจ๋อในตอนนี้มีความสุขอย่างมากในขณะที่เล่าให้ทุกคนฟัง
หวังซินซินระเบิดหัวเราะเช่นกันอย่างมีความสุข เธอกระโดนหอมแก้มหวางเจ๋อพร้อมเอ่ยชมว่า
“สุดยอด!ถ้าโปรเจคนี้สำเร็จเมื่อไหร่ ฉันอยากไปเที่ยวฝรั่งเศสเล่นจัง ตกลงไหม?”
หวางเจ๋อโอบแขนแฟนสาวอย่างมีความสุข เขากล่าวตอบไปว่า
“แน่นอน ถ้ามีเวลา เดี๋ยวเราไปด้วยกัน!”
“บอสหวาง อย่าลืมฉันด้วยสิ!”
“ฮ่าฮ่า…โอกาสดีๆ เข้ามาแบบนี้ อย่าลืมพวกฉันด้วยนะ!”
พอคนพวกนี้เรียนจบไปบ้างก็เข้าเรียนมหาวิทยาลัยต่อ ไม่ก็ไปทางสายอาชีพ แน่นอนว่าพวกเขายังไม่มีรายได้มากพอจะไปเที่ยวอะไรแบบนี้ได้ คงทำได้แค่หวังพึ่งเพื่อนที่รวยแล้ว
หวางเจ๋อรู้สึกสดชื่นหัวใจราวกับสายลมยามฤดูใบไม้ผลิพัดผ่าน เขายิ้มตอบไปว่า
“ฉันกำลังคนคนมาช่วยดูแลโครงการนี้อยู่พอดี ถ้าพวกนายสนใจลองมาสมัครกันดูสิ เรื่องเงินค่าตอบแทนไม่ต้องพูดถึง ฉันแถมรถให้ไปขับเล่นมูลค่า200,000หยวนเลย!”
เหลียวเซียวหยุนอดหัวเราะไม่ได้เมื่อได้ยิน เธอกล่าวสวนกลับไปว่า
“นี่เอาเศษเหล็กวิ่งได้มาล่อกันรึไง รถราคาแค่สองแสน? ไม่ชั้นต่ำเกินไปหน่อยเหรอ?”
หวางเจ๋อได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งยอมไม่ได้ ตลอดมาเขาคิดว่าตัวเองสูงส่งอยู่เหนือคนอื่นมาโดยตลอด ถูกเหลียวเซียวหยุนสบประมาทขนาดนี้ยิ่งยอมไม่ได้เข้าไปใหญ่ เขาจึงแฉเรื่องพฤติกรรมของเหลียวเซียวหยุนจนหมดเปลือก เรื่องนิสัยความฟุ่มเฟือยของเธอ เปลี่ยนเสื้อผ้าแบรนด์เนมทุกวัน และที่เธอทำได้ก็เพราะเกาะพ่อแม่กินล้วนๆ
ด้วยเหตุนี้เหลียวเซียวหยุนจึงรีบอธิบายให้คนอื่นฟังทันทีว่ามันไม่ใช่แบบนั้น แต่หลายคนก็ยังเชื่อว่า เธอก็แค่ลูกแหง่เกาะพ่อแม่กิน
หากเป็นก่อนหน้านี้ หวางเจ๋อคงไม่มีทางกล้าพูดแบบนี้กับเหลียวเซียวหยุนแน่นอน แต่ตอนนี้เขากำลังจะกลายมาเป็นมหาเศรษฐีร้อยล้านแล้ว ทำไมเขายังต้องกลัวเธออีก?
“ฮิฮิ…ถึงฉันจะซื้อบ้านซื้อรถหรูให้ทุกคนไม่ได้ แต่ฉันก็ภูมิใจที่หาเงินมาด้วยแขนขาของตัวเอง ไม่ใช่เที่ยวแบมือขอเงินพ่อแม่ แล้วอวดคนอื่นไปเรื่อย มันน่าภูมิใจตรงไหนกัน? แถมยังขอเงินไปเลี้ยงผู้ชายจนๆ อีก น่าสังเวชใจสิ้นดี!”