บทที่ 451 เธอหวานยิ่งกว่าผลไม้เชื่อม / บทที่ 452 เวรกรรมจริงๆ! Ink Stone_Romance
บทที่ 451 เธอหวานยิ่งกว่าผลไม้เชื่อม
ความจริงซือหมิงหลี่ไม่เพียงพอให้ต้องกลัว ด้วยวิธีการของคุณหญิงย่า การสืบเจอเรื่องเขาทำได้อยู่แล้วไม่ช้าก็เร็ว ที่ตึงมือยังเป็นคนที่บงการเขาอยู่
แต่สำหรับเรื่องคนบงการอยู่เบื้องหลังนี้ แม้แต่เธอก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใครกันแน่
“รู้แล้ว ถ้าทางคุณหญิงใหญ่มีข่าวอะไรก็ติดต่อฉันได้ทุกเมื่อนะ” เยี่ยหวันหวั่นบอก
สวี่อี้รีบพยักหน้ารับคำ “ครับ!”
เยี่ยหวันหวั่นได้ยินแล้วคิ้วกระตุกเบาๆ “พ่อบ้านสวี่เชื่อใจฉันขนาดนี้เลย?”
สวี่อี้น่าจะรู้ดีที่สุด สายลับคนนั้นตายไปนานแล้ว เรื่องเหล่านั้นที่เธอรู้ไม่ใช่สิ่งที่สายลับบอกเธอเลย ตามหลักแล้ว เขาควรจะสงสัยว่าแท้จริงแล้วตัวตนของเธอคือใครกันแน่
สวี่อี้เอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง “ผมเชื่อใจคุณหนูหวันหวั่น และเชื่อการมองคนของคุณชายเก้า”
เยี่ยหวันหวั่นหลุดขำ “ไม่เลว เซนส์ของนายดีกว่าคนบางคนมากเลย!”
สวี่อี้รู้ว่าคนที่เยี่ยหวันหวั่นพูดถึงคือใคร จึงกระแอมเบาๆ ตอบว่า “อะแฮ่ม หลิวอิงเขา…แค่มีนิสัยตรงๆ ไปหน่อย…”
เยี่ยหวันหวั่นไม่พูดมากอะไร โบกมือกล่าว “ฉันไปดูนายท่านของนายแล้ว! ยาตอนค่ำต้มเสร็จแล้วใช่ไหม เดี๋ยวฉันเอาไปให้เอง!”
“เสร็จแล้วครับ ผมจะไปยกมาให้!”
ผ่านไปครู่หนึ่ง เยี่ยหวันหวั่นรับถ้วยยามาจากสวี่อี้ เดินขึ้นตึกไปยังห้องนอน
เสียงผลักประตูดังขึ้น
เห็นเพียงซือเยี่ยหานกำลังนั่งเอนกายบนเก้าอี้หวายอยู่ที่ระเบียง บนโต๊ะกลมด้านหน้ามีชากาหนึ่ง หนังสือเล่มหนึ่ง หน้ากระดาษถูกลมราตรีโชยพัดขยับเบาๆ
นานๆ ทีจะได้เห็นซือเยี่ยหานไม่ได้อยู่ในโหมดทำงาน
ไม่รู้ทำไม ซือเยี่ยหานนั่งนิ่งๆ อยู่ตรงนั้นให้ความรู้สึกเหงาหงอยอย่างบอกไม่ถูก จนคล้ายภาพลวงตาที่โลกทั้งใบมีเขาเพียงคนเดียว
เวลาซือเยี่ยหานทำงานราวกับเทพ คิดอุบายวางแผนการ ทุกอย่างอยู่ในแผนและการควบคุมของเขา แต่ตอนนี้เขาหยุดว่างกะทันหัน ก็เหมือนกับคนที่หลงทาง ไม่รู้ว่าตัวเองควรไปทางไหนควรทำอะไร
ผู้ชายคนนี้…
หรือว่านอกจากทำงานแล้วเขาจะไม่มีความสนใจเรื่องอื่น
รักสนุกแอบขี้เกียจไม่ใช่สัญชาตญาณของมนุษย์เหรอ
นานๆ ทีจะได้ใช้โอกาสป่วยพักผ่อนร่างกาย ไม่รู้จักหาความสุขให้ตัวเองบ้างเลย รู้จักแต่นั่งเหม่ออยู่ตรงนั้น!
เยี่ยหวันหวั่นถือถ้วยยาเดินเข้าไปหาด้วยความจนปัญญา “กินยาได้แล้ว”
ได้ยินเสียงของหญิงสาว ชายหนุ่มค่อยๆ เอียงหน้าหันไป ดวงตาลึกล้ำตกลงที่ร่างของเธอ ในที่สุดถึงมองโฟกัสขึ้นมา
ครั้งนี้ ซือเยี่ยหานไม่ต้องให้เยี่ยหวันหวั่นเร่งรัด รับยาจีนสีดำเข้มมาแล้วยกดื่มลงไปหมดในคำเดียว ให้ความร่วมมือดีมาก
เยี่ยหวันหวั่นกลืนน้ำลายลงคอ ตัวเองรู้สึกขมคอแทนเขา
รอจนเขาดื่มหมด เยี่ยหวันหวั่นรีบรับถ้วยยาไปวางบนโต๊ะ จากนั้นหยิบผลไม้เชื่อมเม็ดหนึ่งที่ตนเพิ่งซื้อจากร้านขนมหวานเมื่อครู่มา “อ้าปากเร็ว!”
ซือเยี่ยหานมองเธอแวบหนึ่ง
เยี่ยหวันหวั่นไม่รอให้เขาโต้ตอบ จับผลไม้เชื่อมเม็ดนั้นยัดเข้าปากให้เขาเลย จากนั้นทำหน้าเฝ้ารอมองดูเขา
ได้ยินเสียงดังกึก ผลไม้เชื่อมชนกับฟันที่ปิดสนิทเบาๆ เบียดเข้ากับปลายลิ้น ซือเยี่ยหานรู้สึกแต่ความหอมหวานจากสิ่งที่เธอยัดเข้าปากกะทันหัน เพียงพริบตาก็กลบรสชาติฝาดขมเข้มข้นในปากให้อ่อนลงไป
สังเกตเห็นหว่างคิ้วของเขาผ่อนคลายลงมาก เยี่ยหวันหวั่นทำหน้าภาคภูมิใจรอรับรางวัล “หวานไหม? ฉันตั้งใจไปซื้อผลไม้เชื่อมจากร้านมาให้คุณเลยนะ ต่อไปทุกครั้งเวลาที่คุณกินยาให้กินสักสองสามอัน แบบนี้ก็ไม่ขมแล้ว! อีกอย่างพวกนี้ปลอกเปลือกแล้ว กินง่าย!”
“ไม่ต้องลำบากขนาดนี้” ซือเยี่ยหานเอ่ยปาก
เยี่ยหวันหวั่นกะพริบตาปริบๆ “ไม่ลำบากเลย! ลดความขมลงได้ทำไมต้องทนด้วย?”
ทันทีที่สิ้นเสียง เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกแต่ว่าร่างกายถูกแรงดึงเข้าไปโดยพลัน วินาทีถัดมาก็ไปนั่งอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มแล้ว เสียงแหบพร่าของเขาแว่วข้างหู “แบบนี้ก็พอ…”
………………………………………………………..
บทที่ 452 เวรกรรมจริงๆ!
อะแฮ่ม…
นี่หมายความว่า…
เธอหวานกว่าผลไม้เชื่อมอย่างนั้นเหรอ?
เยี่ยหวันหวั่นนั่งอยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่ม เอียงศีรษะมองเขาอย่างคาดไม่ถึง ตกใจว่าซือเยี่ยหานมีอีคิวแบบนี้ด้วยเหรอ
หรือจะเป็นเพราะว่าคนกำลังจะตาย?
รู้สึกเหมือนว่าช่วงนี้ซือเยี่ยหาน…จะอ่อนโยนขึ้นมาก…
เยี่ยหวันหวั่นกำลังคิดเช่นนี้อยู่ ซือเยี่ยหานก็รับโทรศัพท์ในลักษณะที่กำลังโอบเธออยู่ในอ้อมกอด
ฟังปลายสายพูดอยู่พักหนึ่ง ก็เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “ไม่ต้องส่งศาล เอาไปทิ้งที่เขามังกรเร้น”
เขามังกรเร้นเป็นสุสานร้างบริเวณชานเมือง
เยี่ยหวันหวั่นได้ยินดังนั้น สีหน้าพลันมืดดำ
ในช่วงเวลาที่สดใสแบบนี้ พูดอะไรช่วยระวังทำลายบรรยากาศหน่อยได้ไหม?
อีคิวอะไรกัน ก็แค่เพ้อฝันไปเท่านั้นเอง
…
ก่อนนอน เยี่ยหวันหวั่นเลื่อนดูข่าวบันเทิงตามปกตินิสัย ผลกลับพบว่ามีชื่อกงซวี่ปรากฏอยู่เต็มไปหมด
“รักครั้งใหม่ของกงซวี่ ‘นางฟ้าผลไม้เชื่อม’ ปรากฏตัว”
“ทุกคนกำลังตามหาสาวน้อยผลไม้เชื่อม”
“ผลไม้เชื่อมหนึ่งกล่องบันดาลรัก”
“กงซวี่สารภาพรักอีกแล้วกับสาวน้อยข้างถนน”
กงซวี่กลับมาแล้วเหรอ?
ในเมื่อเป็นไพ่ไม้ตายในมือของโจวเหวินปิน เมื่อเห็นชื่อกงซวี่ เยี่ยหวันหวั่นจึงพลันสนใจขึ้นมา
ทว่า นางฟ้าผลไม้เชื่อม สาวน้อยผลไม้เชื่อม นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?
เยี่ยหวันหวั่นกดเปิดบทความข่าวหนึ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว พบว่าสาเหตุต้นเรื่องเกิดจากโพสต์ตามหาคนบนเวยป๋อของกงซวี่
เหมือนว่าครั้งนี้คุณชายผู้เลื่องชื่อในความเจ้าชู้แห่งวงการบันเทิงคนนี้จะถูกใจสาวน้อยที่บังเอิญเจอคนหนึ่ง
ในฐานะบุคคลสาธารณะที่เพิ่งจะมีเรื่องราวข่าวฉาวจนชื่อเสียงเละตุ้มเป๊ะไม่นานก่อนหน้านี้ แค่หันหลังก็กล้าโพสต์เวยป๋อแบบสาธารณะ ทั้งยังเป็นการสารภาพรัก เป็นการตามหาคน ไม่ใช่…นิสัยเอาแต่ใจของคนรวยธรรมดาๆ อย่างแน่นอน
ตอนนี้โจวเหวินปินคงจะโมโหจนหัวระเบิดไปแล้วล่ะมั้ง
ด้วยพื้นเพของกงซวี่แล้ว นับว่าเป็นไพ่ที่มีอำนาจมากจริงๆ แต่ถ้าคิดจะควบคุมเขาให้อยู่ ไม่ใช่เรื่องง่ายดายอย่างนั้น
ด้วยความรู้สึกที่อยากเห็นเรื่องสนุกๆ โดยไม่สนว่าจะเป็นเรื่องเดือดร้อนหรือเปล่า เยี่ยหวันหวั่นบ่นพึมพำพลางเข้าไปอ่านเนื้อความที่กงซวี่โพสต์อย่างสนอกสนใจ
‘วันนี้เวลาสองทุ่มหกนาที ที่ประตูร้านขนมหวานแคนดี้ ผมได้ตกสู่ห้วงแห่งความรักแล้ว…’
เมื่อเห็นประโยคแรก ปฏิกิริยาแรกของเยี่ยหวันหวั่นคือตกใจ สถานที่เกิดเหตุเป็นที่ที่คืนนี้เธอเพิ่งจะไปมา
แต่ว่า เมื่ออ่านประโยคที่สอง เยี่ยหวันหวั่นเหวอไปเลย
‘รบกวนทุกคนช่วยผมตามหานางฟ้าที่ซื้อผลไม้เชื่อมสามกระป๋องสุดท้ายจากร้านแคนดี้คนนั้นให้หน่อยนะครับ…?’
ทั้งเมืองหลวงมีร้านขนมหวานแคนดี้ที่ใต้คอนโดของพวกเธอแห่งเดียวเท่านั้น และคืนนี้ คนที่ซื้อผลไม้เชื่อมสามกล่องสุดท้าย…ก็คือเธอไม่ใช่หรือไง!
แม่เจ้า! นี่มันเรื่องอะไรกัน!
เยี่ยหวันหวั่นนิ่งอึ้งอยู่พักหนึ่ง จากนั้นรีบเลื่อนอ่านต่อ แล้วก็ได้เห็นประโยคประกาศสารภาพรัก
‘เธอให้ผลไม้เชื่อมผมมากล่องหนึ่ง แต่กลับขโมยหัวใจของผมไป…’
เยี่ยหวันหวั่นอ้าปากค้าง นิ่งค้างไปหลายสิบวินาทีถึงรู้สึกตัวกลับมา เธอเหวอไปเลย
คืนนี้เธอไม่เพียงซื้อผลไม้เชื่อมที่เหลืออยู่สามกล่องสุดท้าย ทั้งยังเอากล่องหนึ่งให้คนอื่นไปด้วย
อ่านเนื้อความข้างหน้าอย่างละเอียดอีกครั้ง เชื่อมโยงเวลา สถานที่…ทั้งหมดล้วนตรงกัน…
ดังนั้น ผู้ชายสวมแมสก์ปิดบังใบหน้าอย่างมิดชิดที่เธอเจอในร้านขนมหวานคืนนี้…ก็คือกงซวี่อย่างนั้นเหรอ?!
ก่อนหน้านี้เธอยังเดาว่าจะเป็นดาราสักคนหรือเปล่า ใครจะไปนึกว่าเป็นดาราจริงๆ แล้วยังเป็นไพ่ไม้ตายของโจวเหวินปินซะด้วย!
อะไรจะบังเอิญขนาดนี้! เกลียดอะไรมักได้อย่างนั้น…จริงๆ…
นี่แม่งเวรกรรมอะไรเนี่ย?!
………………………………………………………………