บทที่ 453 ปู่นายสิ! / บทที่ 454 เซนส์แรงจนน่ากลัว Ink Stone_Romance
บทที่ 453 ปู่นายสิ!
เยี่ยหวันหวั่นรีบไล่ลงมาดูต่อ จากนั้นก็ต้องตกใจที่พบว่ากงซวี่ยังสเก๊ตซ์ภาพเหมือนของเธอด้วย!
เวร! ซวยแล้ว!
หัวใจของเยี่ยหวันหวั่นพลันเต้นโครมคราม แทบไม่กล้าเลื่อนไปหน้าถัดไป
กล้าเพียงลืมตาเป็นเส้นเดียว นิ้วสั่นๆ พลิกลงไปข้างล่าง…
ได้เห็นภาพเหมือนนั้นแล้ว เยี่ยหวันหวั่นอึ้งงันไปอีกครั้ง
โฮะๆๆ!
กงซวี่ ปู่นายสิแม่งเอ๊ย!
วาดเธอออกมาเป็นตัวอะไรหา?
นอกจากสีของเสื้อผ้าที่วาดถูกต้อง ส่วนอื่นมีตรงไหนที่เหมือนเธอบ้าง?
ระหว่างวิจารณ์ยับอยู่นั้น เยี่ยหวันหวั่นถอนใจโล่งอก โชคดีที่หมอนั่นฝีมือวาดภาพแย่สุดๆ
เวรกรรม…
หากรู้ก่อนเธอจะไม่ตาบอดเป็นคนใจดียกผลไม้เชื่อมอะไรให้เลย เพราะตอนนั้นเห็นว่าหมอนั่นน่าสงสารเกินไปหรอก…
ตอนนี้สร้างเรื่องจนทุกคนต้องตามหาตัวเธอ เธอก็ไม่แน่ใจว่าตอนเธอซื้อผลไม้เชื่อมมีคนสังเกตหรือเปล่า ดูท่าช่วงนี้คงต้องระวังตัวสักหน่อย พยายามไม่แต่งหญิงเข้าออกละแวกคอนโด
……
วันถัดมา เยี่ยหวันหวั่นเปลี่ยนกลับมาแต่งชาย เพื่อรับประกันความปลอดภัยจึงใส่แมสก์ปิดหน้า ไปด้อมๆ มองๆ สังเกตการณ์อยู่หน้าประตูร้านขนมแคนดี้
แม้ว่ากระแสวิพากษ์วิจารณ์ของกงซวี่แย่จนแทบกู่ไม่กลับ แต่ความนิยมไม่ต้องพูดถึง ชื่อราชาน้อยจอมฉาวโฉ่ไม่ใช่เรื่องโม้ ทว่าเวลาเพียงข้ามคืน ขนมหวานของร้านแคนดี้ก็เกือบจะเป็นสถานที่เลื่องชื่อ แฟนคลับนับไม่ถ้วนแห่กันมาเก็บภาพเป็นที่ระลึก รวมคนผ่านทางที่อยากรู้อยากเห็น ถนนทั้งเส้นจึงถูกล้อมแออัดไม่มีทางเข้าออก
ทั้งยังมีนักข่าวกำลังสัมภาษณ์พนักงานเมื่อคืนรายนั้น
เยี่ยหวันหวั่นยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน ตั้งใจเงี่ยหูฟัง
นักข่าวถาม “สวัสดีครับ คุณผู้หญิง ขอถามหน่อย เมื่อคืนพนักงานที่รับออเดอร์นางฟ้าผลไม้เชื่อมน้อยคือคุณหรือเปล่า?”
พนักงานตอบ “ใช่ค่ะ เพราะตอนนั้นเหลือผลไม้เชื่อมแค่สามกล่อง ลูกค้าคนนั้นเลยเหมาหมดเลย ฉันจึงพอจำได้บ้าง บวกกับเธอคนนั้น…”
นักข่าวถามอีก “เธอคนนั้นทำไมเหรอ?”
พนักงานว่า “เธอคนนั้นหน้าตาสวยมากๆ เลยค่ะ!”
นักข่าวสีหน้าตื้นเต้นดีใจขึ้นมา “จริงเหรอเนี่ย? สวยมากๆ?”
พนักงานเอ่ย “ใช่ค่ะ อีกอย่าง เป็นแบบ…ความสวยที่มีบุคลิกเฉพาะตัวมาก! ฉันทำงานที่นี่จะได้เจอดาราอยู่บ้าง ระดับแถวหน้าก็เคยเจอ ตอนนั้นยังคิดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นดาราดังคนไหน แต่หน้าไม่คุ้นเลย มั่นใจได้ว่าไม่เคยเห็นตามหน้าจอทีวีมาก่อน น่าจะไม่ใช่คนในวงการ!”
นักข่าวยิงคำถามต่ออย่างตื่นเต้น “งั้นคุณช่วยบรรยายรูปลักษณ์ของเธอคนนั้นสักหน่อยได้ไหมครับ?”
พนักงานเผยสีหน้าลำบากใจ เอ่ยตอบอย่างขออภัย “เรื่องนี้ ขอโทษนะคะ เกี่ยวข้องกับความเป็นส่วนตัวของลูกค้า คำถามนี้ฉันตอบไม่ได้”
คำถามต่อมาอีกสองสามข้อของนักข่าว ล้วนถูกพนักงานปฏิเสธที่จะตอบ
ได้ยินถึงตรงนี้ เยี่ยหวันหวั่นก็โล่งอก
ยังดีที่ร้านแห่งนี้เคร่งระเบียบวินัย ต่อให้พนักงานบรรยายรูปลักษณ์ อาศัยแค่ใช้ปากบรรยายรูปพรรณสันฐานของเธอ ก็ไม่มีทางหาเธอเจอได้
เยี่ยหวันหวั่นรออยู่พักหนึ่ง ก็เดินไปยังคอนโด วันนี้ต้องท่องบทละครกับลั่วเฉินต่อ
เพิ่งจะเดินเข้าประตูมาไม่นาน เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
เยี่ยหวันหวั่นคิดว่าเป็นลั่วเฉิน ผลกลับเป็นหานเซี่ยนอวี่ที่เคาะประตู
“เซี่ยนอวี่? ทำไมวันนี้ถึงมีเวลามาได้ นายถ่ายโฆษณาเสร็จแล้วเหรอ?” เยี่ยหวันหวั่นเปิดประตู
“ถ่ายเสร็จแล้ว เพิ่งกลับประเทศมาเมื่อคืน” หานเซี่ยนอวี่เดินเข้ามาพลางเอ่ยถามน้ำเสียงซุบซิบ “ใช่แล้ว ข่าวฉาวของกงซวี่ในช่วงนี้ คุณเห็นหรือยัง?”
เยี่ยหวันหวั่นกระแอมเสียงเบา “เห็นแล้ว ทำไมเหรอ?”
“พูดกันว่าเป็นลูกบ้านที่คอนโดของพวกเรา แต่ในความจำผมไม่เคยเห็นผู้หญิงในคำบรรยายของกงซวี่เลย!”
เยี่ยหวันหวั่นหน้าเครียด หานเซี่ยนอวี่น่าจะไม่เคยเห็น น้อยครั้งมากที่เธอจะแต่งหญิงมาปรากฏตัวละแวกนี้ ใครจะรู้ แค่ไปซื้อขนมหวานเท่านั้นก็เจอเรื่องราวแบบนี้ได้
“เขาพูดถึงฉันยังไง?” เยี่ยหวันหวั่นถามไปโดยไม่รู้ตัว
………………………………………………………..
บทที่ 454 เซนส์แรงจนน่ากลัว
หานเซี่ยนอวี่ได้ยินก็ตะลึงงัน “พูดถึง…คุณ…?”
เยี่ยหวันหวั่นพลันชะงักค้างไป ได้สติกลับมาว่าเมื่อครู่ตนพูดอะไรออกไปแล้ว แทบจะตบตัวเองให้ตายไปเลย
ยิ่งร้อนตัวยิ่งลนลาน ยิ่งลนลานยิ่งทำผิดได้ง่าย!
เยี่ยหวันหวั่นรีบแก้ตัว “ไม่ใช่…ความหมายฉันคือ…พูดถึงลูกบ้านที่พักที่เดียวกับพวกเรายังไง?”
หานเซี่ยนอวี่มองเยี่ยหวันหวั่นด้วยแววตาสงสัย ผ่านไปพักหนึ่งจึงเอ่ยว่า “ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าสรุปแล้วเป็นลูกบ้านที่พักอยู่ที่นี่กับเราหรือเปล่า…”
“อ้อ เอ่อ นายยังไม่ตอบคำถามฉันเลย กงซวี่พูดว่าไง? ไม่แน่ฉันอาจเคยเห็นก็ได้!” เยี่ยหวันหวั่นรีบเบี่ยงประเด็นสนทนา
หานเซี่ยนอวี่นั่งลงบนโซฟาในห้องรับแขก เปิดวีแชทในโทรศัพท์ จากนั้นยื่นโทรศัพท์ให้เธอ เอามือนวดสองขมบด้วยใบหน้าอ่อนเพลีย เอ่ยว่า “เมื่อคืนผมเกือบบ้าตายเพราะโดนหมอนั่นทรมาน คุณฟังเองเถอะ!”
เยี่ยหวันหวั่นรับโทรศัพท์ไป ก็เห็นประวัติสนทนาในช่องส่วนตัวระหว่างหานเซี่ยนอวี่กับกงซวี่ เขาส่งข้อความเสียงนับจำนวนไม่ถ้วนหาหานเซี่ยนอวี่ เช้าตรู่แล้วก็ยังส่งเรื่อยๆ ไม่หยุด
เยี่ยหวันหวั่นเปิดข้อความเสียงเหล่านั้น ได้ยินแต่…
[กงซวี่: พี่อวี่! ขอร้องล่ะ! ช่วยฉันคิดดีๆ หน่อยว่าเคยเจอไหม! ฉันรู้สึกจริงๆ ว่าเธออาจจะพักอยู่ในคอนโดตึกนี้ บางทีอาจเป็นเพื่อนบ้านพี่ก็ได้นะ!]
เยี่ยหวันหวั่นตะลึงงัน
อย่ามาเซนส์แรง…จนน่ากลัวแบบนี้…
[กงซวี่: ตอนนั้นเธอสวมเดรสสีขาวทั้งตัว ปักลายดอกไม้ที่ข้อมือและคอเสื้อ รองเท้าส้นสูงสีชมพู มัดผมหางม้า ผิวขาวใสเหมือนผลลิ้นจี่ ดวงตางดงามเหมือนอัลมอนด์บนเค้ก ปากแดงเหมือนเชอร์รี่แช่แข็ง…]
เยี่ยหวันหวั่นหมดคำจะพูด
บรรยายผีบ้าอะไรเนี่ย?
[กงซวี่: พี่อวี่ พี่อวี่! พี่อย่าเฉยใส่สิ! หากผมหาเธอไม่พบ ชีวิตผมก็จะเหมือนทะเลทรายอันว่างเปล่า! ขอร้องล่ะพี่ช่วยผมตามหาที! พี่จะให้ผมทำอะไรก็ยอมทั้งนั้น! ]
[กงซวี่: เฮ้! พี่อวี่หลับไปหรือยัง? ผมนอนไม่หลับอ่า ในฝันของผมมีแต่นางฟ้าคนนั้น! ผมเหมาผลไม้เชื่อมหมดทั้งโลกก็ยังรั้งเธอไว้ไม่ได้ ผมควรทำไงดี?]
[กงซวี่: พี่อวี่! ผมฝันร้ายอีกแล้ว! เห็นว่านางฟ้าตัวน้อยของผมถูกราชาปีศาจตัวหนึ่งขังอยู่! ผมจะไปช่วยเธอ!]
เยี่ยหวันหวั่นเพลียใจ
พูดถูกอีกแล้ว…
ด้านหลังยังมีอีกเป็นร้อยข้อความเสียง เยี่ยหวันหวั่นฟังจนกะโหลกเจ็บไปหมด มองหานเซี่ยนอวี่ที่ถูกรบกวนตลอดทั้งคืนด้วยแววตาเห็นใจ “หมอนี่ช่าง…”
ยากจะอธิบายด้วยถ้อยคำสั้นๆ
หานเซี่ยนอวี่อดขำไม่ได้ “ต่อให้ผมรู้ว่าเธอคนนั้นคือใคร ก็ไม่มีทางบอกเขาหรอก เดี๋ยวจะมีผู้หญิงอีกคนต้องมาเดือดร้อนเพราะเขา!”
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าหงึกๆ แสดงออกชัดเจนว่าเห็นด้วยกับการกระทำที่มีคุณธรรมของหานเซี่ยนอวี่ “ถูกต้องๆ!”
หานเซี่ยนอวี่ขบคิด พลางกล่าวพึมพำ “เพียงแต่ ครั้งนี้ต่างไปจากครั้งที่แล้วจริงๆ ที่ผ่านมากงซวี่ก็เป็นคนไม่มีศีลธรรม ใครเสนอมาก็ไม่เคยปฏิเสธ แต่ยังไงก็ไม่เคยเป็นฝ่ายตามจีบผู้หญิงก่อน เพราะไม่ชอบความวุ่นวาย นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นเขาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ทั้งยังคลั่งไคล้ขนาดนี้…”
………………………………………………………..