นี่เป็นความฝันหรือ
เป็นเพียงความฝันของฉันหรือ!
ในดวงตาอันเป็นประกายเหมือนดั่งดวงดาวคู่นั้นของเจียงหลี สะท้อนใบหน้าของลู่เจี้ย นางตกตะลึง ดีใจ ตื่นเต้น อยากร้องไห้ อารมณ์ความรู้สึกซับซ้อนไปหมด ทำให้นางลืมจิตสังหารเมื่อตอนตื่นนอนเมื่อครู่ไป
ตื่นแล้วหรือ ดวงตาของชายหนุ่มค่อยๆ หรี่ลง
“ลู่เจี้ย!” สาวน้อยบนเตียงลุกขึ้นมาทันใด แล้วกระโจนสู่อ้อมอกของเขา ทั้งสองมือโอบคอเขาเอาไว้แน่น “นี่เป็นฝันของฉันหรือ หรือว่าเจ้ากลับมายังข้างกายข้าจริงๆ”
ลมยังคงพัดผ่าน ยิ่งพัดก็ยิ่งแรงขึ้น ทำให้ประตูหน้าต่างมีเสียงดังออดแอด
แต่ว่า บนเตียงนั้น เจียงหลีกลับรู้สึกถึงความสงบอย่างไม่เคยมีมาก่อน ลู่เจี้ยของนาง กลับมาแล้ว
ต่อให้นี่จะเป็นความฝันที่นางคิดถึงจนเก็บไปฝัน นางก็อยากจะหลอกตนเองไม่อยากที่จะตื่นขึ้นมา!
เมื่อถูกสาวน้อยโอบกอดไว้แน่น ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดจากดาวดวงหนึ่งก็ค้างกระด้างไป ไม่เคยมีใครเข้าใกล้เขามากถึงเพียงนี้มาก่อน การกอดอย่างไม่ทันตั้งตัว เสียงที่น่าสงสารและเต็มไปด้วยความคิดถึง ทำให้เขาไม่อาจกระทำการตามเจตนารมณ์ของเขาได้เลย
นี่เป็นเพราะความยึดติดทั้งนั้น! เขาปัดความไร้การควบคุมนี้ให้เป็นผลจากความยึดติดของชาติก่อน
ส่วนหญิงสาวที่โอบกอดเขาเอาไว้นี้ ก็เป็นต้นเหตุของความยึดติดนี้
ทันใดนั้น เสื้อของเขาก็ถูกดึงออกอย่างหยาบโลน
บังอาจ! เขาเบิกตากว้าง อยากจะตบสาวน้อยเหิมเกริมผู้นี้ให้เละ
เขาคิดเช่นนี้ และคิดจะทำ
ในฝ่ามือของเขารวบรวมพลังที่สามารถทำลายล้างฟ้าดินได้ทันใด!
“เป็นเจ้า เป็นเจ้าจริงๆ!” ทว่า เสียงพึมพำที่ดังขึ้นกะทันหัน กลับทำให้พลังในฝ่ามือเขาสลายไปเอง
เขาเห็นสาวน้อยนั้น จ้องรอยฟันที่ไหปลาร้าของเขาด้วยดวงตาที่เปียกชุ่ม ใช่แล้ว นั่นเป็นผลงานของนาง นางย่อมรู้ดี
!
แรงดึงที่เกิดขึ้นกะทันหัน ทำให้เขาเบิกตากว้าง
ในชั่วพริบตา เขาก็ถูกเจียงหลีดึงขึ้นบนเตียง ส่วนร่างที่งดงามสะโอดสะองของสาวน้อยก็ทับขึ้นมาทันใด
เขามองดูสาวน้อยบนร่างกายเขานั้น ชุดนอนของนางหลุดเปลื้องไป ทิวทัศน์อันงดงามเผยออกมาตรงหน้าของเขา แต่กลับไม่มีท่าทีเคอะเขินใด
นางคิดจะยั่วยวนข้าหรือ ดวงตาของชายหนุ่มหรี่ลงเล็กน้อย
พันหมื่นปีมานี้ หญิงสาวนับไม่ถ้วนใช้วิธีที่คล้ายกัน คิดจะยั่วยวนเขา สุดท้าย พวกนางก็มีจุดจบเช่นเดียวกัน ต่างก็กลายเป็นวิญญาณที่ตายไปในกำมือของเขา
ตอนนี้ สาวน้อยที่เหิมเกริมไม่รู้จักอายผู้นี้ ก็คิดจะยั่วยวนเขาเช่นกัน
เช่นนั้นก็อย่าโทษที่เขา…
ความหอมหวานอ่อนโยนที่ปะทะริมฝีปากมานั้น ทำให้ความคิดในหัวเขากลายเป็นความว่างเปล่า ให้ตายสิ! เรื่องแบบนี้ เขาไม่เคยทำ และไม่เคยมีใครทำกับเขา
แต่สาวน้อยในโลกใบเล็กใบนี้กลับ…
สังหารนางเสีย!
เขาควรสังหารนางเสีย!
สังหารหญิงที่กล้าดูหมิ่นเขาคนนี้!
“ลู่เจี้ย ข้าคิดถึงเจ้า…” สาวน้อยพึมพำด้วยความคิดถึง
น้ำตาที่ไหลลงมาจากดวงตา เลอะเปื้อนบนผิวหน้าเขา ไหลลงไปกลางร่องปากที่ติดกันของทั้งสอง
เค็มจัง…
รสชาติที่เข้าปากไปนั้น น้ำตาของสาวน้อย ละลายจิตสังหารของเขาในทันใด
สาวน้อยพัวพันอยู่บนริมฝีปากของเขาดั่งของล้ำค่า การสัมผัสอย่างระมัดระวังเช่นนั้น ความรู้สึกที่คิดถึงมากจนกลัวจะตื่นขึ้นมานั้น ทำให้เขาลงมือไม่ลงในทันใด
ลมหายใจของนางหอมยิ่งนัก ไม่ทำให้เขารู้สึกรังเกียจเลย
ภายใต้การสัมผัสที่ทั้งระวังและเหิมเกริมของนางนั้น ในใจเขาก็มีความกระหายปะทุขึ้นมาทันใด ถึงขนาดที่ว่า ในชั่วพริบตา เขาก็แยกไม่ออกว่า ความรู้สึกนั้นมาจากความยึดติดจากชาติภพก่อนหรือจากตัวเขาเอง
เมื่อลองสัมผัสดู คนที่คิดถึงนั้นไม่ได้หายไป เจียงหลีก็ยิ่งกล้ามากขึ้น
ริมฝีปากของนาง ก็ใช้แรงมากขึ้นโดยไม่รู้สึกตัว นางอยากจะงัดริมฝีปากที่ปิดสนิทของเขา และกัดริมฝีปากของเขาเหมือนกำลังแก้แค้นอย่างนั้น
ความเจ็บแสบบนริมฝีปาก ทำให้เขาหายใจแรงขึ้น
ทันใดนั้นเอง เขาขยับแล้ว มือทั้งสองโอบกอดร่างที่ทับอยู่บนร่างของเขาอย่างเหิมเกริมนั้น เขาพลิกตัวกะทันหัน แล้วกดนางไว้ใต้ร่างกายของตน
เขาเก็บความระวังนั้นไป แล้วพัวพันกับริมฝีปากของนางขึ้นมาเอง
บางเรื่อง สำหรับชายหนุ่มแล้ว อาจจะเป็นแต่กำเนิด เพียงแต่หลังจากที่มีความเคอะเขินไปสักครู่แล้ว เขาก็สามารถเข้าใจและใช้เคล็ดวิธีได้อย่างถนัดมือ
การตอกกลับของเขา มีความรุกล้ำอย่างรุนแรง
เจียงหลีดื่มด่ำกับการจูบนี้ เพียงแต่ไม่รู้ว่า ในระหว่างนั้น นางได้ทักทายกับยมทูตไปหลายครั้งแล้ว
ไม่พอ! ยังอยากได้อีก! ความกระหายเมื่อปรากฏขึ้นแล้วนั้น ก็จะเพิ่มทวีคูณขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่อาจเก็บไว้ได้
มืออันใหญ่ของเขา ล้วงเข้าไปในชุดนอนของนาง สัมผัสกับผิวที่เนียนละเอียดกระชับของนาง สัมผัสที่ไม่เคยมีมาก่อนนั้น ทำให้อุณหภูมิร่างกายของเขาเพิ่มขึ้นจนถึงจุดสูงสุดในทันที
เจียงหลีก็ไม่อ่อนข้อ ดึงเข็มขัดของเขาออกมา ปลดเสื้อของเขาออก เผยส่วนโค้งเว้าอันสมบูรณ์แบบและกระชับนั้นออกมา
คนบนเตียงพัวพันไปมาไม่หยุด ทั้งสองต่างไม่ยอมอ่อนข้อให้กัน
ลมพายุโหมกระหน่ำเป็นเวลานาน ผ้าม่านที่ปลิวไปตามลม ม่านเตียงกระพือตามจังหวะที่ทั้งสองนัวเนียกัน
ปัง!
ลมแรงพัดโคมวังหลวงล้มลงกับพื้น จนเกิดเสียงดังขึ้น
ทว่า ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ก็ยังคงไม่ส่งผลกระทบกับคนทั้งสองบนเตียง เสื้อผ้าของพวกเขานั้น แทบจะถูกเปลื้องจนหมด ร่างกายที่เปลือยครึ่งท่อนนั้น สัมผัสซึ่งกันและกัน ทำให้อุณหภูมิบนเตียงสูงขึ้นเรื่อยๆ
“ฝ่าบาท! ในตำหนักมีเสียงลอยมา รบกวนฝ่าบาทบรรทมหรือไม่เพคะ”
นอกตำหนักบรรทมนั้นมีเสียงคนดังขึ้นมา
ดวงตาอันพร่ามัวของเจียงหลีก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
ชายหนุ่มก็เหมือนจะได้สติขึ้นมาในเวลานี้เช่นกัน ขณะที่ประตูตำหนักบรรทมเปิดออก เขาก็กลายเป็นเงาแล้วหายไปในอ้อมอกของเจียงหลี
เจียงหลีมองดูเขาค่อยๆ หายไป ไม่ได้ขัดขวางเอาไว้ และถึงขนาดกับไม่ได้ส่งเสียงอะไรเลย เพียงแต่ดวงตาค่อยๆ หดหู่ลง เป็นเพียงฝันจริงหรือ
ประตูตำหนักบรรทมเปิดออก อวี้ซูนำนางกำนัลเดินเข้ามา เหล่านางกำนัลแยกตัวกันไปเก็บโคมวังหลวงที่ล้มลงกับพื้นนั้นขึ้นมา จุดไฟโคมหวังหลวงที่ไกลออกไปนั้นไล่ความมืดมิดไปได้อีกครั้ง แล้วจัดม่านที่ถูกลมพัดจนเสียสภาพ
อวี้ซูเดินไปที่เตียง เมื่อเข้าใกล้แล้วกลับต้องตกใจที่เห็นสภาพเสื้อผ้าปลดเปลื้องของเจียงหลี “ฝ่าบาท!”
“เจ้าออกไปก่อน” เจียงหลีตอบกลับอย่างนิ่งสงบ
อวี้ซูปิดปากสนิท มองลงเพื่อปกปิดความหวาดกลัวในดวงตา ก้มโค้งแล้วถอยออกจากผ้าม่านไป
“ฝ่าบาทจะทรงชำระร่างกายหรือไม่เพคะ” อึดอัดอยู่สักพัก อวี้ซูก็เอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวัง
เจียงหลียิ้มเยาะตนเอง “ไม่ต้อง” นางก็แค่ฝันถึงลู่เจี้ย ไม่ได้ทำอะไรจริงๆ เสียหน่อย ทำไมต้องอาบน้ำกันเล่า
อีกอย่าง ถึงแม้จะอยู่ในฝัน เรื่องดีๆ ของนางและลู่เจี้ยก็ยังถูกขัดจังหวะเสียได้
“พวกเจ้าไปพักผ่อนเถิด”
“เพคะ” อวี้ซูไม่กล้าถามอีก แล้วนำนางกำนัลออกจากตำหนักบรรทมของเจียงหลี
เมื่ออยู่คนเดียว ในดวงตาของเจียงหลีจึงมีความผิดหวังเผยออกมา ทันใดนั้นเอง นางก็คลำเจอของสิ่งหนึ่งในผ้าห่ม เมื่อนางเอาออกมาดู เข็มขัดที่ไม่เหมือนของธรรมดาทั่วไปปรากฏอยู่ในสายตาของนาง
เข็มขัดของชายหนุ่ม มาอยู่บนเตียงของนาง!
เจียงหลีกำเข็มขัดนั้นไว้ในมือ แล้วเก็บมากอดไว้แน่น ดวงตาทั้งคู่หรี่ลงเล็กน้อย ไม่ใช่ความฝัน!
…
ในเมืองที่ล่องลอยนั้น ชายหนุ่มฐานะสูงศักดิ์ สภาพเสื้อผ้าไม่ปลดเปลื้อง บนใบหน้าอันงดงามของเขานั้น เต็มไปด้วยความเคร่งเครียด ความยึดติด บ้าเอ๊ย!