บทที่ 286 เดอะเฮลไร้ซึ่งทางออก
บทที่ 286 เดอะเฮลไร้ซึ่งทางออก
ความแข็งแกร่งของเซียวเฟิงนั้นทำให้หลิวเฉียงเหว่ยรู้สึกได้ถึงความปลอดภัยที่เธอไม่เคยรู้สึกมาตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมา เธอยอมลดคุณค่าในตนเองโดยการยอมเสี่ยงกับการถูกวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นานา หรือยอมให้ถูกข่มขู่เพียงเพื่อให้ตนเองได้เข้ามาอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้กับเซียวเฟิง
เพียงเพราะความรู้สึกปลอดภัยเวลาที่ได้อยู่ข้าง ๆ ชายหนุ่มคนนี้ ความรู้สึกที่เธอไม่เคยได้รู้สึกมาก่อน และเป็นความรู้สึกที่เธอโหยหามาตลอดยี่สิบกว่าปี
ด้วยการเจริญเติบโตของกิลด์มิดซัมเมอร์ที่ราบรื่นเสียยิ่งกว่าตอนแรกเป็นอย่างมาก ตอนนี้กิลด์ของเธอไม่เพียงแต่เป็นที่หนึ่งในฟากใต้เท่านั้น แต่ยังได้กลายมาเป็นพันธมิตรกับร้านค้ามหาสมบัติ ที่ถือว่าเป็นหอการค้าที่ใหญ่ที่สุดในเขตฮัวเซียด้วย ซึ่งนั่นหมายถึงเธอจะได้รับส่วนแบ่งในเมืองแห่งความโศกเศร้าด้วยเช่นกัน!
อย่างที่ทุกคนรู้กัน เมืองแห่งความโศกเศร้านั้นถือเป็นเมืองหลักเมืองหนึ่ง เพราะงั้นนี่จะถือว่าเป็นเมืองหลักเมืองแรกที่เป็นของผู้เล่นเลยก็ว่าได้ ดังนั้นมันจึงมีความหมายและคุณค่ามากพอที่จะทำให้ทั่วทั้งฮัวเซียเกิดการถกเถียงกันอย่างคึกคัก!
พูดได้ว่ามิดซัมเมอร์กิลด์ในวันนี้ ได้ฝากรอยเท้าที่เด่นชัดเอาไว้ในโลกของเกมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเขามีสิทธิ์ที่จะพูดมันได้แล้ว!
ไม่ว่าโลกของเกมที่เปรียบเสมือนโลกใบที่ 2 นี้จะดำเนินไปในทิศทางใด แต่เธอก็มีตัวตนชัดเจนพอแล้วสำหรับโลกใบนี้!
ชัดเจนพอที่จะปกป้องตนเอง หรือบางทีอาจจะชัดเจนพอที่จะสู้กับชะตากรรมสีเทาได้เลย!
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ทุกอย่างกำลังเป็นไปได้ด้วยดี หลิวเฉียงเหว่ยกลับรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยอีกครั้ง
และความรู้สึกไม่ปลอดภัยนั้น ดันมาจากเซียวเฟิงด้วย
เพราะพอมาคิดดูดี ๆ แล้ว เธอก็ไม่ได้รู้เรื่องของเซียวเฟิงเรื่องอื่นเลยนอกจากการที่เขาแข็งแกร่งมาก
เรื่องนี้หลิวเฉียงเหว่ยก็เพิ่งตระหนักรู้ได้หลังจากที่ได้คุยกับเฉียนโตวโตว ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าเฉียนโตวโตวกับเซียวเฟิงคงจะเป็นเพื่อนที่มีสัมพันธไมตรีด้วยกันมาเนิ่นนาน ดังนั้นหากถามเฉียนโตวโตว เธอจะต้องได้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับเซียวเฟิงมากยิ่งขึ้นแน่ ๆ
ทว่าสิ่งที่ได้รู้กลับกลายเป็นว่า เฉียนโตวโตวก็เพิ่งรู้จักเซียวเฟิงในเกมเมื่อไม่นานนี้เหมือนกัน เพราะงั้นแล้วเธอคนนี้ก็รู้เรื่องของเซียวเฟิงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ต้นกำเนิดเป็นความลับ ตัวตนไม่เป็นที่รู้จัก รายละเอียดก็ไม่เปิดเผย ดีไม่ดีชื่อ ‘เซียวเฟิง’ นี่ก็อาจจะไม่ใช่ชื่อจริงด้วยซ้ำไป ไม่มีอะไรเลยที่เธอรู้เกี่ยวกับเขา
ครั้งหนึ่งหลิวเฉียงเหว่ยเคยสืบหาข้อมูลของเซียวหลิง แต่สิ่งที่เธอได้กลับมานั้นกลับเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเซียวเฟิงแทน นั่นคือเขาเป็นผู้ที่จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมา และการที่จู่ ๆ ชายหนุ่มก็ปรากฏตัวขึ้นมาเช่นนี้ มันยิ่งทำให้เขาดูลึกลับมากกว่าเดิมไปอีก
เมื่อสองวันก่อนเธอใช้ข้ออ้างว่าห้องน้ำพังเลยไปยืมห้องน้ำภายในห้องของเซียวเฟิงแทน หญิงสาวจงใจย่องเข้าไปในห้องของชายหนุ่มตอนที่เขาไม่อยู่เพื่อที่จะหาบางอย่างที่สามารถใช้ยืนยันตัวเขาได้ อย่างเช่น บัตรประชาชน แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้อะไรกลับมาอยู่ดี
ระดับความลึกลับในตัวของเซียวเฟิงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาลึกลับเสียจนราวกับว่าไม่มีตัวตนจริง ๆ ไปแล้ว
การไม่มีตัวตนของเขาเช่นนี้ คือที่มาของความรู้สึกไม่ปลอดภัยของหลิวเฉียงเหว่ยที่เธอมักจะรู้สึกได้ แม้ในขณะนั้นจะรู้สึกถึงความปลอดภัยจากตัวเขาอยู่ด้วยก็ตาม…
หลิวเฉียงเหว่ยไม่สามารถทำความเข้าใจในตัวเซียวเฟิงได้เลย และมันก็ทำให้ตัวเองไม่สามารถควบคุมเขาได้ หรือแม้แต่จะล่อลวงเขาให้ทำนู่นทำนี่ก็ไม่สามารถทำได้
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เกิดวันหนึ่งเซียวเฟิงเลิกยุ่งกับเธอหรือปล่อยวางตนเองจากมิดซัมเมอร์กิลด์ล่ะ?
ความรุ่งเรืองของกิลด์มิดซัมเมอร์ในตอนนี้ล้วนแต่มีพื้นฐานมาจากเซียวเฟิงทั้งนั้น หลิวเฉียงเหว่ยก็รู้เรื่องนี้ดี เธอกล้าพูดได้เลยว่าหากเซียวเฟิงตั้งใจจะสนับสนุนกิลด์ไหนแล้วล่ะก็ กิลด์นั้นจะเติบโตอย่างรวดเร็วไม่ต่างกับมิดซัมเมอร์ที่มีวันนี้ได้เลยล่ะ
ไม่เพียงแต่กิลด์มิดซัมเมอร์เท่านั้น ต่อให้เป็นร้านค้ามหาสมบัติ ที่กลายเป็นหอการค้าที่ทรงพลังที่สุดในเขตฮัวเซีย…ไม่สิ น่าจะทรงพลังที่สุดในระดับเซิร์ฟเวอร์แล้ว ที่แห่งนี้เองก็ยังสามารถถูกทำลายได้เพียงชั่วพริบตาหากมีปัญหากับเซียวเฟิง และในขณะเดียวกันก็คงจะมีหอการค้าที่ขึ้นมายิ่งใหญ่แทนหรือไม่ก็มีร้านค้ามหาสมบัติ ที่ 2 หรือที่ 3 โผล่ขึ้นมาด้วยฝีมือเซียวเฟิงแน่ ๆ
ที่หญิงสาวสามารถคาดเดาระดับนั้นได้ ก็เพราะเธอรู้ดีว่าเซียวเฟิงแข็งแกร่งและมีอิทธิพลขนาดไหน
ต่อให้เซียวเฟิงไม่ทำเช่นนั้น แต่ถ้าวันใดวันหนึ่ง เกิดจู่ ๆ เขาหายไปเหมือนกับตอนที่จู่ ๆ เขาก็ปรากฏตัวขึ้นมา ทั้งกิลด์มิดซัมเมอร์และร้านค้ามหาสมบัติได้สูญเสียกำลังที่คอยหนุนหลังแน่ ๆ และถ้าวันนั้นมาถึง พวกเธอจะต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่ทรงพลังอีกมากมายในโลกแห่งเกม มันคงเป็นเรื่องที่ยากจะรับมือเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
เขตฮัวเซียนั้นมีขนาดใหญ่มาก ไม่ต้องพูดถึงเมืองอื่นนอกจากเทียนหลงเลยก็ยังรู้สึกว่าตนเองเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ ของเขตนี้ ต่อให้รวมเอาฟากใต้มาไว้ด้วยกันทั้งหมดมันก็ยังเป็นเพียงมุมเล็ก ๆ ในฮัวเซียอยู่ดี
ไม่ว่าจะเป็นเขตชายฝั่ง ตะวันตกเฉียงเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันออกเฉียงใต้ รวมไปถึงเขตเหนือของฮัวเซีย พวกมันล้วนแต่ถูกปกครองด้วยกิลด์ขนาดใหญ่เพียงกิลด์เดียว นั่นคือ กิลด์ไดนัสตี้!
การมีอยู่ของโลกของเกมนั้นมีเป้าหมายก็คือการสร้างโลกเสมือนใบที่ 2 ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ว่าในอนาคต โลกใบนี้จะมีอิทธิพลในชีวิตจริงขนาดไหน!
หากฉายาที่ว่า ‘ผู้ปกครองฟากใต้’ นั้นสามารถทำให้พวกเธอสามารถทำได้ทุกอย่างล่ะก็ กิลด์กลอรี่คงไม่ต้องถ่อไปไกลถึงดินแดนของเอลฟ์เพื่อตั้งแคมป์ของตนเองหรอก
ดังนั้นแล้วหลิวเฉียงเหว่ยจึงจำเป็นต้องเข้าใกล้เซียวเฟิงให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ก็เพื่อทำให้ความรู้สึกไม่ปลอดภัยนั้นลดน้อยลงมา
ขวดไวน์แดงข้าง ๆ ตัวเธอมันหมดกระทั่งหยดสุดท้ายแล้ว ดังนั้นภายในดวงตาคู่สวยจึงมีความเมามายเผยให้เห็นอยู่อย่างชัดเจน เช่นเดียวกับใบหน้าที่งดงามซึ่งกำลังถูกย้อมไปด้วยสีแดงระเรื่อราวกับเป็นผิวของกุหลาบ หญิงสาวมองตรงไปยังเซียวเฟิงที่อยู่ด้านหน้า
“ฉันไม่กลัวนายหรอก”
เธอรู้ดีว่าอาวุธที่ทรงพลังที่สุดของตัวเธอคืออะไร สิ่งนั้นก็คือรูปลักษณ์ของเธอนั่นแหละ ซึ่งรูปลักษณ์นี้เองก็ยังเป็นต้นเหตุให้เกิดชะตากรรมสีเทานั้นด้วย
หลิวเฉียงเหว่ยเตรียมตัวไว้แล้ว หากเธอสามารถทำให้ตนเองผูกพันกับเซียวเฟิงได้มากขึ้น และสามารถโน้มน้าวความคิดเขาได้แล้วล่ะก็ ต่อให้ต้องเอาตนเองไปเป็นเครื่องผูกมัด เธอก็ไม่นึกเสียใจ
“ดูเหมือนเธอจะไม่กลัวตายด้วยสินะ”
เซียวเฟิงกวาดตามองเรือนร่างที่งดงามของหลิวเฉียงเหว่ยตั้งแต่หัวจรดเท้า ด้วยสัดส่วนที่เย้ายวนของเธอนั้น ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน เธอก็ดูไม่ต่างกับนางฟ้าตกสวรรค์ที่ไม่ว่าชายใดได้เห็นต่างก็ต้องลุ่มหลง
เขาเดินตรงไปหาเจ้าหล่อนช้า ๆ ทีละก้าว สายตาที่เฉียบคมจ้องมองไปยังคอเสื้อที่เปิดกว้างบริเวณทรวงอกสลับกับเรียวขางามที่โผล่ให้เห็นภายใต้ชุดคลุมอาบน้ำนั้น นั่นไม่ใช่แววตาที่เป็นมิตรเลย
กระนั้นแล้วหลิวเฉียงเหว่ยก็ไม่ได้มีความกลัว เธอจงใจเชิดลำคอขาวของตนอย่างภาคภูมิใจขณะจ้องมองเซียวเฟิงกลับไปด้วย
ยามเมื่อทั้งสองร่างมายืนประจันหน้ากันและมือของเซียวเฟิงเกือบจะสัมผัสผิวของเธอแล้ว กลิ่นหอมราวกับดอกกล้วยไม้ก็พวยพุ่งออกมาจากร่างของหลิวเฉียงเหว่ย มันเป็นกลิ่นหอมตามธรรมชาติของหญิงสาว เพราะเธอเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จหมาด ๆ กลิ่นหอมนี้จึงหอมตลบอบอวลกลบกลิ่นอื่นในบรรยากาศโดยรอบไปเสียหมด
มือของเขายื่นออกไปจรดปลายนิ้วลงบนลำคอขาวประดุจหิมะของเธอแล้ว และจังหวะเดียวกันนั้น ขนตายาวสลวยของหญิงสาวก็สั่นเบา ๆ เธอรู้สึกกังวลใจนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนและปล่อยให้เซียวเฟิงสัมผัสผิวลำคอของตนต่อไป
ผิวของเธอละเอียดและเรียบเนียน ราวกับเป็นผิวกระเบื้องที่อ่อนนุ่มและไร้ซึ่งตำหนิใด ๆ ให้ขัดสายตา
นิ้วของเซียวเฟิงที่สัมผัสอยู่บนลำคอของเธอนั้นค่อย ๆ ลูบตามแนวสันขึ้นไปอย่างอ่อนโยนด้วยความรู้สึกแสนจะวิเศษ
ดวงตาคู่สวยที่มักจับจ้องชายหนุ่มของหลิวเฉียงเหว่ยหลับลงและสั่นเทาเบา ๆ เธอขบริมฝีปากล่างเอาไว้ขณะที่แก้มนวลเองก็แดงระเรื่อมากขึ้น สีหน้าของหญิงสาวนั้นราวกับกำลังบอกให้เขาทำต่อไป
แต่หลังจากที่รออยู่พักหนึ่ง เธอก็พบว่าเซียวเฟิงยังคงเอาแต่ลูบตามลำคอของเธอ โดยเฉพาะบริเวณที่มีเส้นเลือดใหญ่พาดผ่านอยู่ใต้ผิวหนังลามไปถึงบริเวณกระดูกหลังคอที่เป็นจุดศูนย์รวมเส้นประสาท
หญิงสาวค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาเพื่อดูว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น แล้วเธอก็พบว่าเซียวเฟิงตรงหน้าเธอ ดูแปลกไปเล็กน้อย เขาไม่เพียงแต่ขมวดคิ้วแต่ภายในดวงตายังมีแสงไฟสีแดงจาง ๆ เผยให้เห็นอยู่ด้วย สีหน้าที่ดูผิดเพี้ยนไปจากเดิมนั้นแสดงให้เห็นถึงความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ภายในของเขาได้เป็นอย่างดี
“เซียวเฟิง! เป็นอะไรไป? เซียวเฟิง!”
หลิวเฉียงเหว่ยรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที เธอยกมือขึ้นจับไหล่เขาพร้อมกับเขย่าสลับกับเรียกสติเขากลับมา
“อะ…หือ?”
เซียวเฟิงส่ายหน้าอย่างรุนแรงหลังได้สติ สีหน้าเขาดูงุนงงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่แววตาปกติของชายหนุ่มจะกลับมา ชายหนุ่มเหลือบมองไปยังหลิวเฉียงเหว่ยตรงหน้าอีกครั้ง
“นายเป็นอะไรไปเมื่อกี้นี้? ดูน่ากลัวมากเลยนะรู้ไหม?”
หญิงสาวโล่งอกขึ้นมานิดหน่อย กระนั้นก็ยังถามต่อด้วยความกังวลใจ เธอยังคงมองเขาด้วยความหวาดกลัวอยู่ลึก ๆ
“ฉันทำอะไรลงไป?”
ชายหนุ่มขมวดคิ้ว แต่แล้วตอนนั้นเองที่สีหน้าของเจ้าตัวก็เปลี่ยนไปอีกรอบ แต่ครั้งนี้เขาก็รีบหันไปมองทางด้านนอกหน้าต่างของคฤหาสน์แทนที่จะมองหลิวเฉียงเหว่ย!
ลมที่ทำให้รู้สึกเยือกเย็นถูกปล่อยออกมาจากตัวของเซียวเฟิง ลมนั้นดูไม่เหมือนสิ่งที่จิตปรุงแต่งขึ้นมา เพราะหลิวเฉียงเหว่ยรู้สึกราวกับว่ามันเป็นลมกระโชกแรงที่พร้อมจะซัดเธอให้ลอยออกไปได้ทุกเมื่อเลย
สองมือเรียวรีบกดช่วงล่างของเสื้อคลุมอาบน้ำเอาไว้กันไม่ให้สายลมนั้นพัดให้ผ้าผืนบางนี้เปิดออก และทันใดนั้นเองร่างของเซียวเฟิงก็หายไปจากสายตาของเธออย่างรวดเร็ว
เพล้ง!
เสียงของกระจกที่แตกออกดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของเซียวเฟิงอีกครั้งที่ด้านนอกคฤหาสน์
ตึก ตึก ตึก
พื้นหินอ่อนตรงด้านหน้าคฤหาสน์ถูกเซียวเฟิงเหยียบขณะเดินผ่านออกไป เขาดูเย็นชาขณะที่มุ่งหน้าตรงไปยังสวนอุทยานที่อยู่ด้านบนยอดของภูเขาที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของคฤหาสน์หลังนี้!
แควก แควก
ภายในสวนอุทยานแห่งนั้นถูกความมืดในยามค่ำคื่นซ่อนเร้นมันเอาไว้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีเงา ๆ หนึ่งที่สามารถเคลื่อนที่อยู่ภายในนั้นได้อย่างรวดเร็วราวกับใบไม้ที่ร่วงหล่นลงมา
ฟุ่บ!
เซียวเฟิงตามติดร่างนั้นอย่างรวดเร็วราวกับกระสุนปืนใหญ่ ไม่ว่าเงานั้นจะขยับไปทางไหน ชายหนุ่มก็สามารถก้าวตามไปได้อย่างเยือกเย็นจนกระทั่งเข้าใกล้มันไปทุกที
“อั่ก!?”
เสียงร้องโอดครวญดังขึ้น เงานั้นถูกเซียวเฟิงคว้าคอไว้ได้กลางอากาศก่อนจะถูกเหวียงลงพื้นอย่างรุนแรง
“เฮฟเว่นมีทางมุ่งไป ในขณะที่เดอะเฮลนั้นไร้ทางออก! เจ้าแห่งความมืดผู้สูงส่ง ผมเป็นสมาชิกของเดอะเฮลครับ! หมายเลข 138! ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าท่านผู้สูงส่งอยู่ที่นี่ด้วย! ได้โปรด ให้อภัยผมด้วยเถอะครับ!”
เงานั้นดิ้นไปมาอยู่บนพื้นของสวนสาธารณะ เจ้าตัวกอดกระดูกสะบักที่หักไปแล้วเอาไว้ด้วยความเจ็บปวดก่อนจะรีบตะโกนบอกเซียวเฟิงที่กำลังเดินเข้าไปใกล้
“เดอะเฮลไม่เคยสั่งภารกิจภายในประเทศ ทำไมนายถึงมาปรากฏตัวในฮัวเซียได้?”
“อะ…เอ่อเจ้าแห่งภูติผีครับ เจ้าแห่งภูติผีเป็นคนส่งผมมาที่นี่! ผมไม่เคยได้ยินเรื่องของเจ้าแห่งความมืดอีกเลย หลังจากที่ท่านหายเข้ามาในฮัวเซียแห่งนี้ ประเทศฮัวเซียยังคงเป็นดินแดนหวงห้ามของเดอะเฮลดั้งเดิมครับ ตั้งแต่ที่ท่านยืนยันจะทำภารกิจสุดท้ายด้วยตัวเอง พวกเราก็ตามตัวท่านไม่ได้อีกเลย จะมีก็แต่นายจ้างเก่าของท่านที่ติดต่อกลับไปยังเดอะเฮลเท่านั้น”
รูปร่างของเจ้าของเงานั้นเป็นชายชาวยุโรป เมื่อได้ยินเซียวเฟิงพูด เขาก็รีบตอบกลับไปด้วยภาษาจีนทันที
“ฮั่วจวนงั้นเหรอ?”
เซียวเฟิงหรี่ตาลง ความเยือกเย็นภายในแววตาของเขานั้นหายไปแล้ว ขณะที่ก้มลงไปมองชายชาวยุโรปตรงหน้า
“ท่านผู้สูงส่ง! ท่านฆ่าผมไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกครับ! ท่านก็รู้ดีว่าไม่มีใครในเดอะเฮลที่สามารถหนีรอดจากการควบคุมของเฮฟเว่นไปได้! ท่านเองก็ไม่มีข้อยกเว้น…”
ชายชาวยุโรปผู้นี้แสดงออกถึงความหวาดกลัวและตื่นตระหนก เขาอยากจะหนีอีกครั้ง ทว่าทันใดนั้นร่างของเขาก็หยุดชะงักไป รูม่านตาของชายผู้นี้เล็กแคบลงขณะที่มือทั้งสองข้างก็ถูกยกขึ้นจับลำคอไว้ด้วยก่อนที่เขาจะล้มลงไป
ใบไม้ที่พุ่งผ่านลำคอไปนั้นทิ้งรอยมีดขนาดใหญ่เอาไว้ขณะที่เลือดสีแดงฉานกำลังไหลลงมาจากบาดแผลร้ายแรงที่เพิ่งเกิด
ความเยือกเย็นในแววตาของเซียวเฟิงยังคงมีให้เห็นอยู่บ้างขณะที่มองไปยังศพของชายชาวยุโรปนี้ เขารอจนกระทั่งอุณหภูมิของอีกฝ่ายเย็นลงก่อนจะเริ่มจัดการเก็บศพของอีกฝ่ายไป
เฮฟเว่นมีทางไป ในขณะที่เดอะเฮลนั้นไร้ทางออก!
เดอะเฮลที่ว่านั้นถูกรู้จักกันดีในนามขององค์กรนักฆ่าที่ทรงพลังมากที่สุดภายในโลกใต้ดิน กระนั้นแล้วจะมีก็แต่เหล่าสมาชิกของเดอะเฮลเท่านั้นที่รู้ว่า แท้จริงแล้วเดอะเฮลก็เป็นเพียงที่แสวงหาผลประโยชน์ของเฮฟเว่น
เฮฟเว่นคือสถานที่ที่น่ากลัวที่สุด!
นักฆ่าที่ทรงพลังหลายคนในเดอะเฮล ล้วนแต่เป็นมนุษย์ที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรม ผู้คนเหล่านี้ถูกส่งลงมาจากเดอะเฮฟเว่น หรือไม่ก็ถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ!
และที่สำคัญ… เซียวเฟิงเองก็นับได้ว่าเป็นหนึ่งในพวกเขาเหล่านี้!!