ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 176

มู่หรงเจี๋ยพูดอย่างเฉยเมย “ตัวข้าต้องมีกลิ่นสุราติดอยู่ทุกวัน”

เมื่อสักครู่ที่ได้ยินเสียงเซียวท่ากับจื่ออานพูดคุยกัน และทั้งสองคนก็เทสุราจากชามออกทันทีและซ่อนชามไว้ที่ด้านหลังกระถางดอกไม้ จากนั้นก็จึงหยิบชามที่เซียวท่าใช้เพื่อรักษาบาดแผลขึ้นมา เพื่อปกปิดกลิ่นสุรา?

เซียวท่าเดินตามเข้ามา มองดูทั้งสองคนด้วยความอิจฉา เขาหยิบถั่วลิสงขึ้นมากิน ถั่วลิสงทอดข้ามคืนยังคงกรอบอยู่ไม่เปลี่ยน เขาเคี้ยวดัง กรอบ ๆ ๆ

เขานั่งลงและมองดูที่ไหสุรา หนอนสุรากระตุ้นรุนแรงมาก รู้สึกคันยุกยิกยุกยิก แล้วเขาก็ผุดแผนใหม่ขึ้นมา “ไหใบนี้เป็นอุปสรรคในเรือนจริง ๆ ข้าจะเอามันออกไป”

พูดแล้วก็วางถั่วลิสงลงบนโต๊ะ แล้วไปโอบกอดไหใบนั้นไว้

มู่หรงเจี๋ยกล่าวอย่างเคร่งขรึม “วางลงเถอะ ข้าต้องใช้ฆ่าเชื้อทุกวัน เจ้าเอาออกไปเวลาจะใช้มันจะไม่สะดวก วางลงเถอะ วางลง” เอาออกไปจะแอบดื่มก็ไม่สะดวกแล้ว

“มีอะไรที่ไม่สะดวกหรือ? เมื่อเจ้าต้องการใช้ ข้าก็จะถือเอามาให้เอง?” หนอนสุรากระตุ้นหนักขึ้น หากสุราไม่เข้าปากตกถึงท้อง รู้สึกว่าจะคันจนตายเป็นแน่ ดังนั้นไม่ต้องสนการคัดค้าน เขาต้องเอาออกไปให้ได้

จื่ออานพูดอย่างเฉยเมย “ท่านแม่ทัพใหญ่ วางเหล้าลงเถิด”

เซียวท่ามึนงงเล็กน้อย “เอาไว้ในเรือนก็เป็นอุปสรรคเดิมทีห้องก็เล็กอยู่แล้ว ย้ายไปมาก็ไม่ดี ”

“รอสักครู่!” จื่ออานยืนขึ้นและเทชามสุราที่ใช้ฝ้ายชุบเพื่อฆ่าเชื้อแล้วกลับเข้าไปในไห “ครั้งนี้ใช้ไม่หมด อย่าสิ้นเปลือง เก็บไว้ใช้ครั้งต่อไปได้อีก”

นางเหลือบมองไปที่ใบหน้าที่แดงก่ำของซูชิง และจานถั่วลิสงบนโต๊ะ บนตัวมู่หรงเจี๋ยก็มีกลิ่นสุราแรงเช่นกัน เมื่อครู่ตอนที่นางให้เซียวท่าวางสุราลง ลมหายใจของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นสุราที่รุนแรง

สุราไหนี้ใช้ฆ่าเชื้อไม่ได้แล้ว แต่ควรเลิกใช้ ดีกว่าปล่อยให้มู่หรงเจี๋ยแอบดื่ม สุรานี้มีฤทธิ์แรงเกินไป แผลของเขายังไม่หาย สุราดีกรีสูงแบบนี้จะทำให้เลือดเร็วไหลเวียนเร็วขึ้น และจะทำให้กับหัวใจและตับทำงานหนัก ตอนนี้ให้ดื่มยาสามครั้งต่อวัน มันก็ได้ทำให้ตับและไตทำงานหนักเกินไปอยู่แล้ว หากยังแอบดื่มสุราฤทธิ์แรงนี่อีก ยานี่ถึงดื่มไปก็ไร้ประโยชน์

เซียวท่ามองนางเทสุราที่ผ่านการใช้ฆ่าเชื้อกลับ เขาก็แทบคลั่ง เขาแน่ใจว่าเซี่ยจื่ออานมองออกว่าพวกเขาทั้งสองดื่มสุรา และก็รู้ด้วยว่าตนเองยังไม่ได้ดื่ม เขาเดินเข้าไปหยิบถั่วมาหนึ่งกำมือแล้วยัดมันเข้าปาก ความเค็มของถั่วลิสงคั่วยังติดอยู่ระหว่างริมฝีปากและฟันของเขา มันเค็มมาก เขากัดฟันแล้วพูดว่า “่ท่านเป็นผู้หญิงที่จิตใจเย็นชาเกินไปแล้ว”

“หืม?” จื่ออานยิ้มเยาะเย้ย “เย็นชายังไง? ท่านแม่ทัพใหญ่กล่าวมาตรง ๆ เลยสิ”

เซียวท่าไม่สามารถบอกได้ว่าพวกเขาต้องการขโมยดื่มสุรา และไม่อาจกล่าวว่าจื่ออานเย็นชาได้ เขาจึงมองไปที่มู่หรงเจี๋ย “ท่านอ๋องท่านพูดสิ นางน่ะเย็นชาเกินไปใช่หรือไม่?”

มู่หรงเจี๋ยหันกลับมาอย่างไร้อารมณ์และหาวทันที กล่าวเหมือนคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย “ข้าจะนอนสักหน่อย ค่อยเรียกข้าตอนจะทานข้าวนะ”

ทันใดนั้นเขาก็หันไปมองที่ซูชิง แต่ซูชิงได้เดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งเขาไว้เบื้องหลังให้จมอยู่กับความทุกข์ระทม

“ท่านแม่ทัพใหญ่สามารถเอาไหสุราออกไปได้แล้ว” จื่ออานนั่งลงและกล่าว

เซียวท่าหันหลังกลับและเดินจากไป “เหนื่อย! ถือมันไม่ไหวแล้ว” จะเอามันออกไปเพื่ออะไร? เหล้าที่ผ่านการถูร่างกายมาก็ใช้ดื่มไม่ได้ แผลนั่นก็มีหนอง

ทันทีที่เขาไปถึงประตู เขาก็ได้ยินเสียงของจื่ออาน กล่าวว่า “จริงสิ อาหารคืนนี้มีหลายอย่างมาก ท่านแม่ทัพช่วยไปถามองครักษ์ที่ด้านนอกให้หน่อยว่า ทำสุราหอมหมื่นลี้มาทานกับอาหารได้หรือไม่? บาดแผลของท่านอ๋องดีขึ้นมากแล้ว สุราฤทธิ์แรงดื่มไม่ได้ แต่พอจะดื่มสุราหอมหมื่นลี้ได้สักหน่อย”

เซียวท่าหันกลับมาทันที และยิ้มอย่างเปิดเผย “จริงหรือ? ได้สิ ต้องทำได้แน่นอน ข้าจะไปที่นั่น คืนนี้พวกเราจะดื่มคารวะคุณหนูใหญ่สักหน่อย สองสามวันมานี้ ลำบากท่านแล้ว”

พูดจบ เขาก็เดินออกไปอย่างมีความสุข

จื่ออานส่ายหัว อารมณ์ฉุนเฉียวอยู่ดี ๆ ก็ยิ้มออกมาได้ใครจะไปคิดว่าแม่ทัพใหญ่ผู้เยือกเย็นที่มีทักษะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมนี้ จะมีด้านที่น่ารักเช่นนี้? เพื่อเหล้าแล้ว ทำให้เขาลำบากจริง ๆ

เมื่อหันกลับมา ก็เห็นมู่หรงเจี๋ยหันมามองที่นาง นัยน์ตาของเขาเป็นประกาย เมื่อเห็นนางจ้องมา เขาก็หาวอีกครั้ง “นอนสักหน่อย จะทานอาหารแล้วเรียกข้าด้วย”