ตอนที่ 922 ความน่ากลัวของผู้หญิงเจ้าคิดเจ้าแค้น

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

“เฉี่ยนเฉี่ยน…”

 

 

“ฉันไม่รู้สึกสงสารคนที่เคยทำร้ายฉันหรอกค่ะ อีกอย่างซย่าหันโม่ก็ไม่คู่ควรกับการความเห็นใจด้วย เธอเลือกเส้นทางของเธอเอง เธอก็ควรยอมรับผลที่ตามมาด้วยตัวเองค่ะ มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับคนอื่นเลย”

 

 

เมื่อได้ยินคำตอบของหลินเฉี่ยน หลี่จิ่นรู้สึกโล่งใจ เขากังวลว่าเธอจะเกิดสงสารซย่าหันโม่ขึ้นมาเสียอีก

 

 

หากแต่เขาคิดผิด เฉี่ยนเฉี่ยนของเขาไม่ใช่คนใจอ่อนหลี่จิ่นจึงคลายกังวล “สั่งอาหารกันเถอะครับ…”

 

 

หลินเฉี่ยนพยักหน้ารับและหันมาสนใจรายการอาหารในมือทันที

 

 

 

 

หลังออกจากโรงแรม ซย่าหันโม่ขับรถไปที่บ้านโจวชิง น่าเสียดายที่เมื่อเธอมาถึงเธอก็พบว่ากุญแจของเธอใช้ไม่ได้อีกแล้ว เพราะโจวชิงได้เปลี่ยนตัวล็อกประตูไปเสียแล้ว

 

 

ในขณะที่ข้าวของของเธอถูกโยนออกมาด้านนอกไปอยู่บนกองขยะใกล้ๆ กับหัวมุมอาคารห้องพัก ชายคนนี้ช่างโหดร้ายเหลือเกิน…

 

 

ทว่าเธอไม่อาจโทษใครกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เธอทำให้ตัวเองเดือดร้อนเพราะการตัดสินใจของตัวเอง

 

 

ซย่าหันโม่ทรุดตัวลงกับพื้น เมื่ออยู่ๆ เธอก็ได้สูญเสียทุกอย่างไปหมดสิ้น

 

 

เมื่อก่อนเธอยังมั่นใจนักหนาว่าหลินเฉี่ยนเป็นคนวางแผนทำร้ายเธอ ตอนนี้เมื่อมานึกย้อนดู เธอได้แต่ละอายใจ เป็นเธอเองที่คิดผิดมาตั้งแต่แรก

 

 

ฮ่าๆ …

 

 

ด้วยเหตุนี้เธอจึงไม่โทษที่หลินเฉี่ยนทำกับเธอเหมือนคนแปลกหน้า มันเป็นสิ่งที่เธอสมควรได้รับแล้ว

 

 

ถึงอย่างไรหลินเฉี่ยนเองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่น้อย

 

 

ในตอนนี้ คนที่เธอเกลี่ยดที่สุดหนีไม่พ้นโจวชิง

 

 

เขาวางกับดักไว้มากมายเพื่อหลอกล่อให้เธอเข้าข้างเขา และตอนนี้เขากลับกับเช่นนี้กับเธอ เขาเขี่ยเธอทิ้งและเธอทำได้เพียงนั่งร้องไห้คร่ำครวญ

 

 

โจวชิงคิดว่าเขาจะกลับไปอยู่ในจุดสูงสุดของอาชีพของเขาโดยใช้เธอเป็นเครื่องมือได้จริงหรือ ซย่าหันโม่จะไม่ยอมปล่อยให้มันเกิดขึ้นหรอก…

 

 

เธอจะทำให้เขาต้องชดใช้คืนเป็นสิบเท่า…

 

 

เมื่อผู้หญิงมีความเกลียดชังอยู่ภายในจิตใจ ร่างกายของเธอก็จะกลายเป็นอาวุธที่น่ากลัวขึ้นมา โจว

 

 

ชิงคิดว่าซย่าหันโม่ที่ไร้ทางสู้จะได้แต่รู้สึกเสียใจกับตัวเองหรือ

 

 

เขาคิดผิดแล้ว เพราะซย่าหันโม่ได้กลับไปพบประธานหลิว “ฉันยินดีจะเป็นเมียน้อยของคุณค่ะ ถ้าคุณตกลงกับฉันอย่างหนึ่ง ฉันอยากให้โจวชิงใช้ชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น”

 

 

ประธานหลิวนั่งลงบนโซฟาพลางสูบบุหรี่และหัวเราะออกมา “ไม่มีปัญหา ฉันไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับข้อเสนอนี้สักหน่อย จริงๆ แล้วถ้าเธอต้องการ เธอจะมาทำงานกับบริษัทของฉันแล้วมาถ่ายหนังก็ได้นะ”

 

 

“ฉันไม่สนใจเรื่องอื่นหรอกค่ะ ฉันแค่อยากให้โจวชิงทุกข์ทรมานเท่านั้นแหละ!”

 

 

“เก็บเรื่องนี้ไปคิดก็แล้วกัน ฉันใจกว้างกับสาวๆ เสมอนั่นแหละ”

 

 

ทุกอย่างอยู่นอกเหนือการคาดการณ์ของโจวชิง เขานึกไม่ถึงว่าโม่ถิงได้ไปพูดคุยกับผู้จัดการสถานี นึกไม่ถึงว่าถังหนิงจะวางแผนไว้ทุกย่างก้าว และยิ่งนึกไม่ถึงว่าซย่าหันโม่จะยอมกลายเป็นเมียน้อยเพียงเพื่อแก้แค้นและทำให้เขาทุกข์ทรมาน

 

 

ตอนนี้เขากำลังปลื้มปริ่มกับการกำลังจะได้เป็นพิธีกรรายการใหม่

 

 

หากแต่ประธานหลิวได้รักษาสัญญาและมอบหมายรายการใหม่ให้กับซย่าหันโม่ พูดอีกอย่าง ซย่าหันโม่ได้ข้ามหน้าข้ามตาทุกคนและกลายเป็นคนที่รับผิดชอบดูแลรายการใหม่ จากนี้ไปโจวชิงจะอยู่ใต้อำนาจของเธอ

 

 

โจวชิง…

 

 

ถึงเวลาที่เขาจะได้สัมผัสว่าผู้หญิงเจ้าคิดเจ้าแค้นนั่นน่ากลัวได้เพียงไหนแล้ว

 

 

 

 

ในขณะเดียวกัน ถังหนิงรับรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับซย่าหันโม่ หากแต่ในท้ายที่สุดเธอทำได้เพียงถอนหายใจออกมา เธอนึกไม่ถึงว่าซย่าหันโม่จะกลับไปแก้แค้น บางทีการลงเอยกับประธานหลิวอาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเธอ อย่างไรเสียถึงประธานหลิวจะไม่ใช่คนดีนักแต่เขาก็ใจดีกับผู้หญิงไม่น้อย มีข่าวร่ำลือว่าเขายังชื่นชมคนรักของเขาหลังจากที่เลิกรากันไปด้วยซ้ำ

 

 

“ฉันล่ะอยากจะเห็นสีหน้าของโจวชิงตอนที่เขารู้ว่าซย่าหันโม่กลายมาเป็นหัวหน้าของเขาจริงๆ ฉันมั่นใจว่าเขาจะต้องรู้สึกเหมือนอยู่ในนรกแน่!” หลงเจี่ยฮึมฮัม “ฉันหวังว่าซย่าหันโม่จะเอาคืนอย่างถึงที่สุดและไม่คิดยั้งมือ”

 

 

ถังหนิงหันหน้าไปมองหลงเจี่ย ผู้หญิงคนนี้เป็นแม่คนมานานแล้ว แต่นิสัยของเธอก็ไม่ได้เปลี่ยนไปสักนิด

 

 

“มีการแสดงเด็ดๆ ให้เธอดูแล้วล่ะ”

 

 

“ถ้าเป็นอย่างนั้น ไม่ได้หมายความว่าซย่าหันโม่มีที่พึ่งคนใหม่แล้วเหรอคะ”

 

 

“เป็นเธอ เธอจะยอมเป็นเมียน้อยไหมล่ะ” ถังหนิงถาม

 

 

“แน่นอนว่าไม่ค่ะ”

 

 

“นี่เป็นความทรมานที่สุดของซย่าหันโม่ แน่นอนล่ะว่าถ้าเธอยังอยู่กับประธานหลิวก็ดีกับตัวเธอเอง ต่อให้เราเจอเธออีก เธอก็จะเป็นแค่เพื่อนร่วมวงการเท่านั้น เธอไม่ได้สำคัญอะไรหรอก” ถังหนิงตอบ

 

 

คนที่น่าสมเพชย่อมต้องมีคนรังเกียจ ประโยคนี้ได้บอกเล่าชีวิตว่าซย่าหันโม่ไว้ได้หมดแล้ว!

 

 

“ตอนนี้เราเดินหน้าต่อแล้วคุยเรื่องคนต่อไปได้แล้วล่ะ” ถังหนิงว่าขึ้นพลางเปิดแล็ปท็อปขึ้นมาให้หลงเจี่ยอ่านอีเมลที่เธอเพิ่งได้รับ

 

 

“ขอความช่วยเหลือเหรอคะ” หลงเจี่ยอ่านอีเมลทั้งหมดด้วยความสงสัย จากนั้นจึงร้องด้วยความตกใจ “เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในวงการของเราจริงๆ เหรอคะ”

 

 

ถังหนิงพยักหน้า “ฉันถามเพื่อยืนยันกับโม่ถิงแล้ว แล้วเขาก็บอกว่าเป็นเรื่องจริง”

 

 

ตอนนี้รางวัลเฟยเทียนกำลังเป็นประเด็นร้อนแรง นอกจากถังหนิงแล้วยังมีผู้เข้าชิงรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมคนอื่นๆ หนึ่งในผู้เข้าชิงเป็นคนที่ส่งอีเมลมาให้

 

 

“ฉันว่าจะส่งศิลปินคนนี้ให้หลินเฉี่ยนดูแล ฉันมั่นใจว่าหลังจากผ่านเรื่องของซย่าหันโม่มา เธอเข้าใกล้การเป็นผู้จัดการมาอีกขั้นแล้วล่ะ”

 

 

“โอเคค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปจัดการให้แล้วกันนะคะ” หลงเจี่ยพยักหน้ารับ เธอรู้สึกได้ว่ากำลังมีการแสดงดีๆ รออยู่ข้างหน้า แม้ว่ารางวัลเฟยเทียนในปีนี้จะไม่ได้น่าติดตามมากนักก็ตาม

 

 

เพราะเธอตั้งท้องลูกสาวอยู่ ถังหนิงเริ่มทำงานให้น้อยลง ถึงอย่างไรร่างกายของเธอก็สำคัญและโม่ถิงไม่ต้องการให้เธอฝืนตัวเองมากเกินไป

 

 

ในขณะเดียวกัน การถ่ายทำ มดราชินี ค่อยๆ ดีขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจของโคโค่และมันก็ดำเนินไปอย่างราบรื่น

 

 

แทบทุกครั้งที่เชียวเซินถ่ายทำฉากสำคัญ เขามักจะชื่นชมถังหนิงว่าฉลาด ด้วยหากเธอไม่ได้แนะนำให้เปลี่ยนตัวเคทเป็นนักแสดงเด็ก มดราชินี อาจจะถ่ายทำล่าช้าไปอีกหลายปีก่อนที่มันจะได้เผยโฉมบนหน้าจอ

 

 

“ประธานโม่ หลังถังหนิงคลอดลูกแล้ว บอกเธอให้กลับมาแสดงเถอะครับ เธอมีความสามารถจริงๆ นะ”

 

 

โม่ถิงมองเชียวเซินโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา

 

 

“พูดตามตรง ผมว่าเธอยังสร้างผลงานในวงการภาพยนตร์ได้อีกมาก”

 

 

“เราเป็นของกันและกัน แต่เราก็เคารพกันด้วยเช่นกันครับ ถ้าเธอไม่ต้องการทำบางอย่างผมก็จะไม่บังคับเธอ” โม่ถิงตอบ

 

 

“หาคู่รักอย่างพวกคุณยากนะครับ โดยเฉพาะในวงการบันเทิงอย่างนี้”

 

 

อันที่จริงมันไม่ได้ยากถึงเพียงนั้น ตราบใดที่พวกเขารักกันมากพอ

 

 

คืนนั้นอากาศหนาวเย็น ในระหว่างที่โม่ถิงถ่ายทำอยู่ ถังหนิงเตรียมซุปไก่และไปส่งให้เขา

 

 

“ผมไม่ได้บอกให้คุณรออยู่ที่บ้านเหรอครับ หือ”

 

 

“ฉันได้แต่นั่งรอที่บ้าน นี่เป็นเรื่องง่ายๆ ที่ฉันจะทำให้คุณได้บ้าง” ถังหนิงวางถ้วยซุปไก่ร้อนๆ ไว้ตรงหน้าโม่ถิง

 

 

เชียวเซินมองทั้งสองอยู่ห่างๆ ว่ากันตามจริงแล้ว ทีมงานทั้งหมดกำลังมองพวกเขาด้วยสายตาชื่นชมต่างหาก

 

 

เห็นได้ชัดจากการกระทำว่าพวกเขารักกันมากแค่ไหน พวกเขาทำทุกอย่างไปเพื่อกันและกันโดยไม่ได้นึกถึงตัวเองแม้แต่น้อย

 

 

บางทีนี่อาจเป็นต้นแบบของความรักที่ดีที่สุดก็เป็นได้…

 

 

 

 

วันถัดมารายการที่ประธานหลิวลงทุนสร้างก็พร้อมถ่ายทำ แต่แน่นอนว่าเขายังไม่ได้แนะนำคนที่รับผิดชอบดูแลรายการนี้

 

 

นี่จะต้องเป็นความน่าตกตะลึงครั้งใหญ่ในกองถ่ายแน่

 

 

อย่างไรเสียหากมีการประชุม โจวชิงก็ต้องเข้าร่วมอยู่แล้ว

 

 

ดังนั้นการแสดงจะต้องน่าตื่นตาตื่นใจแน่…