อันซย่าซย่าจมอยู่ในห้วงความคิด เซิ่งอี่เจ๋อพอสังเกตเห็นว่าเธอไม่ใส่ใจเขาจึงเพิ่มแรงกดลงบนมือเธอนิดหนึ่ง จนทำให้เธอร้องออกมาทันที  

 

 

“โอ๊ยเจ็บนะ! เบาๆ หน่อยได้ไหม” 

 

 

“เธออ่อนแอเองต่างหาก” เซิ่งอี่เจ๋อสบประมาทเธอ แต่การกระทำนั้นกลับอ่อนโยนมากขึ้น  

 

 

หลังจากทำแผลเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็กล่าวขอบคุณพลางมองเขาอย่างใสซื่อ ทั้งสองมองกันไปมาอยู่ครู่หนึ่ง จนกระทั่งเขาตระหนักได้ว่าควรจะต้องกลับห้องแล้ว 

 

 

ชายหนุ่มกระแอมแล้วลุกขึ้นยืน แล้วเขาก็บอกกล่าวด้วยน้ำเสียงวางท่า “อย่าลืมหน้าที่ของเธอด้วยล่ะ ทำงานให้คุ้มหน่อยไม่งั้น… สัญญาจะกลายเป็นโมฆะ” 

 

 

ความประทับใจเสี้ยวเล็กๆ ที่หญิงสาวมีให้เขานั้นถูกรีเซตกลับเป็นศูนย์ฉับพลันทันใดนั้นเอง 

 

 

“เข้าใจแล้วนายท่านอี่เจ๋อ” อันซย่าซย่าเบะปาก ชายหนุ่มชำเลืองมองเธอแวบหนึ่งก่อนจะก้าวเท้ายาวๆ เดินออกจากห้องขึ้นชั้นบน 

 

 

เมื่อกลับมาถึงห้องของตัวเอง เขาก็รู้สึกกระสับกระส่ายอย่างบอกไม่ถูก ทำไมมันถึงได้เงียบเหงาเหลือเกิน… เมื่อเทียบกับตอนที่มียัยผู้หญิงจอมจุ้นอยู่ใกล้ๆ 

 

 

– 

 

 

วันจันทร์ 

 

 

อันซย่าซย่ามาถึงโรงเรียนก็ได้เจอกับซูเสี่ยวมั่ว ซึ่งวิ่งแจ้นเข้ามาหาเธอด้วยสีหน้าท่าทางฉุดจัด “มันเป็นใคร ใครต้อนเธอเข้ามุมเมื่อวันศุกร์ มันได้ตายแน่!” 

 

 

เมื่อคืนนี้ตอนอันซย่าซย่าได้คุยกับซูเสี่ยวมั่ว เธอก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้เพื่อนฟัง 

 

 

หญิงสาวหัวเราะแหะๆ “ลืมมันเถอะน่า เรื่องมันผ่านไปแล้ว มาสร้างสันติและหลีกเลี่ยงปัญหากันนะ” 

 

 

ซูเสี่ยวมั่วกลอกตามองบนพลางตอบ “เธอนี่… ช่างเถอะ ฉันเตรียมพร้อมเสมอเมื่อไหร่ก็ตามที่เธออยากแก้แค้น ว่าแต่ วันนั้นเซิ่งอี่เจ๋อหาตัวเธอเจอจนได้นะ…” 

 

 

“อะไรนะ” อันซย่าซย่าร้องถาม ท่าทางงุนงง 

 

 

ซูเสี่ยวมั่วอธิบายให้เธอฟังอย่างไม่รีบร้อน “ก็บ่ายวันนั้นน่ะ เซิ่งอี่เจ๋อกลับมาหาเธอที่โรงเรียน ดูเหมือนเขาจะเป็นห่วงเธอเพราะเธอป่วยหนัก ปรากฏว่าเขาดันมาเจอผู้หญิงคนที่มาเรียกเธอไป นายนั่นพูดอะไรกับหล่อนเบาๆ อยู่สองสามคำละมั้งแล้วก็รีบวิ่งไป… ฉันคิดว่าเขารีบไปทำธุระอย่างอื่นเสียอีก ที่แท้ก็รีบวิ่งไปช่วยเธอนี่เอง!” 

 

 

อันซย่าซย่าตะลึงงันพูดอะไรไม่ออก เธอไม่รู้มาก่อนเลยว่าการปรากฏตัวของเซิ่งอี่เจ๋อไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เป็นความตั้งใจ 

 

 

“นี่… ซย่าซย่า เขาคิดอะไรกับเธอหรือเปล่า” ซูเสี่ยวมั่วเบาเสียงตัวเองลงอย่างมีเลศนัย 

 

 

“จะเป็นไปได้ยังไง…” นอกเสียจากเซิ่งอี่เจ๋อจะเป็นบ้าไปนั่นแหละ ทำไมเขาถึงจะมาชอบเธอ 

 

 

อันซย่าซย่าผลักซูเสี่ยวมั่วผู้ซึ่งพร้อมจะฟังเรื่องซุบซิบเต็มที่แล้วออกห่าง แล้วเธอจึงนั่งลงที่โต๊ะ หยิบหนังสือออกมาเพื่อทบทวนบทเรียน 

 

 

ระหว่างคาบเรียนช่วงเช้านั้นเอง ผู้อำนวยการโรงเรียนก็เดินมาอย่างเร่งรีบด้วยท่าทีเกรี้ยวกราด เขาเคาะประตูห้องปีหนึ่งอย่างแรง ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงห้วนดุดัน “ใครคืออันซย่าซย่า ออกมาเดี๋ยวนี้!” 

 

 

ทุกคนในห้องมองมายังอันซย่าซย่าเป็นตาเดียว 

 

 

เธอเอินออกไปด้วยความงุนงง แล้วผู้อำนวยการก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “ตามมา” ด้วยความที่เธอกลัวครูมาตลอดตั้งแต่เด็ก หญิงสาวจึงเดินตัวลีบตามเขาไป 

 

 

– 

 

 

ห้องครูใหญ่ 

 

 

อันซย่าซย่ามองไปรอบๆ ห้องซึ่งตกแต่งอย่างหรูหราอลังการ และแอบทึ่งอยู่เงียบๆ ในความร่ำรวยของโรงเรียนฉีซย่า— เพียงแค่ห้องครูใหญ่ก็ยังฟู่ฟ่าขนาดนี้ 

 

 

เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น จากน้ำเสียงก็บอกได้เลยว่าเป็นคนปากร้าย “อาจารย์คะ ดิฉันขอบอกไว้เลยว่าจะให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นไม่ได้! ถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้นกับลูกสาวดิฉันละก็ ตึกห้องแลปทั้งสองหลังที่ดิฉันบริจาคเงินให้โรงเรียนนี้สร้างขึ้นมาจะถูกทำลาย!” 

 

 

“คุณนายเจี่ยน อย่าห่วงไปเลยครับ ผมจะไล่เด็กคนที่ฝ่าฝืนกฎของโรงเรียนออกแน่นอน” น้ำเสียงประจบสอพลอของครูใหญ่ฟังดูสั่นสะท้าน 

 

 

เสียงของเขายังไม่ทันจางหายไป บานประตูห้องครูใหญ่ก็ถูกผลักเปิดเข้ามา ครูใหญ่ผู้ดูท่าทางอารมณ์ร้ายก็เดินเข้ามาพร้อมกับผู้หญิงซึ่งแต่งตัวหรูหราคนหนึ่ง 

 

 

ทันทีที่สายตาของหล่อนจับมาที่อันซย่าซย่า หญิงคนนั้นก็รีบเดินเข้าหาเธอโดยไม่ทันให้เธอได้มีเวลาตั้งตัว หล่อนร้องอย่างขมขื่นพลางพูดว่า “แกนั่นเอง! แกทำร้ายลูกสาวฉัน! ฉันขอบอกแกไว้เลยนะ ฉันสาบานว่า ฉันจะไม่หยุดจนกว่าแกจะถูกไล่ออก!”