บทที่ 168 อา ทำไมนี่ไม่ใช่ลูกสาวของเขากัน

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

แต่แสนรักไม่ได้รู้สึกถึงความจืดชืด
เนื่องจากว่าเขาเห็นบนโต๊ะหนังสือที่อยู่ไม่ไกล มีแจกันดอกไม้ที่เป็นสีแดงอมม่วงวางอยู่หนึ่งอัน ในแจกันมีไม้ดอกในฤดูหนาวนี้อยู่พอดี ดอกเบญจมาศสีเหลืองช่อหนึ่งผลิบานอย่างงดงาม
ดอกเบญจมาศนี้ เหมือนกับแสงอาทิตย์ในช่วงฤดูหนาว ทำให้ทั้งห้องนอนดูอบอุ่นขึ้นมา
ผู้หญิงคนนี้มีรสนิยมอยู่บ้าง
แสนรักถอดเสื้อคลุมออก
เดิมทีคิดจะนั่งอยู่ตรงเก้าอี้ตรงโต๊ะหนังสือพังๆตัวนั้นทั้งคืน เขาใช้ชีวิตที่มีเกียรติมาจนชินแล้ว เตียงพังๆที่ผู้หญิงคนนี้เคยนอน เขาจะไปแตะต้องได้อย่างไร
แต่ความจริงแล้วก็คือ สุดท้ายไม่รู้ว่าคืออะไร ก็นอนลงไปแล้ว
อีกทั้งตอนที่เขาตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น เขาพบว่าตัวเองยังใช้ผ้าห่มนั้นห่อหุ้มเอาไว้อย่างหนาแน่นอีกด้วย กลิ่นของเธอเต็มจมูกไปหมด กลิ่นหอมเปรี้ยวๆหวานๆที่เจือจาง!!!!
เมื่อคืนเขาจะต้องถูกผีเข้าแล้วแน่ๆ!
เขาไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกที่ซับซ้อนแบบนี้อย่างไร สลัดสิ่งพวกนี้ออก และกำลังจะลุกขึ้นนั้น เวลานี้ทางด้านนอกร่างเล็กๆก็วิ่งเข้ามาอย่างร่าเริง
“แด๊ดดี้ สวัสดีตอนเช้าครับ เมื่อคืนนอนหลับสบายไหมครับ?”
เป็นคิวคิวนั่นเอง เขาตื่นมาแล้ว
แสนรักยิ่งรู้สึกอาย เพียงแต่รีบหันหันหน้าไป แล้วแสร้งทำเป็นมองไปทางอื่น
“สวัสดีตอนเช้า พวกเราตื่นกันแล้วเหรอ?”
“ใช่แล้วครับ แปดโมงครึ่งจะต้องไปโรงเรียนอนุบาลแล้ว แด๊ดดี้ วันนี้จะไปส่งผมกับน้องไปโรงเรียนอนุบาลหรือเปล่าครับ?”
คิวคิวขอร้องด้วยความหวังอีกครั้ง
โรงเรียนอนุบาล?
สุดท้ายแล้วแสนรักก็หันมามองลูกชาย มองดูใบหน้าเล็กๆของเขาที่เต็มไปด้วยความคาดหวัง เขาจึงพยักหน้าลงอย่างสบายๆ : “แน่นอนสิ พวกเราเสร็จแล้วเหรอ?”
“ยังครับ น้องยังไม่ได้หวีผม แด๊ดดี้ทำเป็นไหมครับ?”
“……..”
แสนรักทำไม่เป็น
เขาดูแลลูกได้ แต่ชินจังเป็นเด็กผู้ชาย เด็กผู้ชายไม่จำเป็นต้องหวีผม
แต่สุดท้ายแล้วเนื่องจากว่าในบ้านไม่มีผู้ใหญ่คนอื่นแล้ว หนูรินจังที่ถูกพี่ชายจับแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ถูกพี่ชายพามาตรงหน้าแด๊ดดี้อย่างกล้าๆกลัวๆ
ความจริงแล้วตอนที่หนูรินจังเพิ่งจะตื่น ก็ได้ยินพี่ชายพูดว่าแด๊ดดี้มาแล้ว เธอนั้นไม่เชื่อ
แด๊ดดี้จะมาที่นี่ได้อย่างไรกัน?
บ้านที่นี่ไม่ใหญ่ ความสัมพันธ์ของแด๊ดดี้กับหม่ามี๊ก็ไม่ดี มักจะทะเลาะกัน ทิ้งหม่ามี๊ แล้วเขาจะมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?
หนูรินจังไม่เชื่อ
จนกระทั่งตอนนี้ เธอเห็นร่างสูงใหญ่นี้มาปรากฏตัวอยู่ในบ้านจริงๆ
“หนูน้อย มานี่สิ!”
แสนรักก้มลงมองหนูน้อยที่หลบอยู่ทางด้านหลังพี่ชายและจ้องมองตัวเองอย่างกลัวๆ เช้าตรู่ความอดทนยังนับว่าไม่เลวเลยทีเดียว เขาโบกมือให้เธอเข้ามาหา
ในที่สุดเจ้าตัวน้อยก็เดินเข้ามา
แตกต่างไปกับลูกชายทั้งสองคน หนูน้อยตัวขาวอมชมพูนี้ ทั้งเซ่อทั้งโง่จริงๆ มาถึงตรงหน้าแสนรักเป็นเวลานานแล้ว ยังเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาโตเหมือนลูกแก้วคู่นั้นกะพริบตามองเขา
เธอมองเขาทำไม? รู้สึกว่าเธอตาโตอย่างนั้นหรือ?
แสนรักหิ้วตรงคอเสื้อเธอขึ้นมา แล้ววางเธอลงบนเก้าอี้มานั่งตัวหนึ่งตรงด้านหน้า
“อา—จะหิ้วรินจังแบบนี้ไม่ได้นะคะ รินจังเป็นเด็กอยู่ จะหิ้วไม่ได้นะคะ ต้องอุ้ม!”
ในที่สุดหนูน้อยก็พูดออกมาแล้ว ถูกแด๊ดดี้หิ้วมานั่งที่ม้านั่ง จ้องมองแด๊ดดี้ แขนเล็กๆมีเนื้อโบกไปมา แล้วคัดค้านขึ้นด้วยเล็กเสียงน้อยแบบเด็กๆ
แสนรักรู้สึกตกตะลึง
เหมือนกับลมที่พัดผ่านผิวน้ำ และเหมือนกับขนนกนุ่มๆที่พัดผ่านหัวใจ เขามองท่าทางเล็กๆน้อยๆของเธอ และยังมีเสียงแบบเด็กๆที่แตกต่างออกไปจากลูกชายทั้งสองคนของเขานั่นอีก
สุดท้ายแล้วตรงส่วนใดส่วนหนึ่งของเขาก็อ่อนโยนลง
“ได้สิ ต่อไปจะไม่หิ้วแล้ว”
“………”
ดวงตาดวงโตที่แวววาวสดใสของหนูรินจังเป็นประกาย แล้วยืนอยู่บนมานั่งอย่างว่าง่ายให้แด๊ดดี้มัดผมให้
แต่กำลังมัดอยู่นั้นจู่ๆเธอก็ไม่ทำแล้ว
“คุณอา คุณอามัดผมเป็นหรือเปล่าคะ? แบบนี้เด็กก็เจ็บสิคะ” เธอลูบศีรษะตรงที่แด๊ดดี้ทำยุ่งอย่างโกรธๆ
ไม่คิดว่าแด๊ดดี้จะมัดผมไม่เป็น ถ้าอย่างนั้นต่อไปเธอจะเป็นลูกรักของเขาได้อย่างไรกัน?
แสนรักรู้สึกวุ่นวายสับสนเสียจนทำอะไรไม่ถูกอยู่เล็กน้อย
เขาพยายามแล้วจริงๆ แต่ใครจะคิดว่าผมยาวๆปุยๆบนหัวของหนูน้อยนี่จะจัดการได้ยากกว่าการเซ็นใบสั่งสินค้าหลักร้อยล้านในทางธุรกิจเสียอีก
นี่ใครเป็นคนคิดค้นขึ้นมากันแน่? ว่าเด็กผู้หญิงจะต้องมัดผมอย่างนั้นหรือ?!!
แสนรักอยากจะโยนหวีทิ้งมาก
แต่สุดท้ายแล้วเขาก็อดทนเอาไว้ พยายามอย่างสุดความสามารถ มัดจุกเล็กๆให้กับเด็กน้อย คิวคิวที่มองดูอยู่ข้างๆนั้นรู้สึกว่าน่าเวทนาเสียจนเกินกว่าจะทนดูได้
ช่างเถอะ ให้อภัยเขาเถอะ เพราะถึงอย่างไรนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้มาหวีผมให้กับเด็กผู้หญิง
แต่หนูรินจังนั้นรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
มืออวบเล็กๆลูบลงบนจุกที่แด๊ดดี้มัดให้ เธอดูเหมือนกับได้รับของขวัญที่มีค่ามากที่สุดเลยอย่างไรอย่างนั้น ออกจากบ้านไปด้วยความดีใจ
คิวคิว : “…….”
แสนรัก : “………”
เวรกรรม…..
——
ในโรงพยาบาล
เวลานี้เส้นหมี่ตื่นขึ้นมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กำลังเตรียมตัวจะพาชินจังกลับไป
“ชินชิน เรากลับบ้านกันเถอะนะลูก คุณหมอบอกว่าหนูไม่เป็นอะไรแล้ว พวกเรากลับบ้านกันก่อนดีไหมครับ?” เธอมองลูกที่หลับอยู่ในอ้อมกอดของเธอมาทั้งคืน อยากจะเกลี้ยกล่อมเขา
แต่เมื่อได้ยินว่าจะกลับบ้าน เดิมที่ที่ลูกฟื้นฟูได้ดีขึ้นมาแล้ว ก็หลับตาลงอยู่ในอ้อมกอดของเธอในทันที
แม้กระทั่งเขายังอยากจะพลิกตัว ไม่ยอมที่จะสนใจเธออีก
เส้นหมี่ : “……”