ตอนที่ 1249 จะเทียบพลังวิญญาณสีม่วงกับข้าไหมล่ะ? (3)
ผู้อาวุโสหวงบังคับให้ตัวเองรักษาความสงบนิ่งเอาไว้ พยายามโน้มน้าวให้ตัวเองไม่ถือสากับแมลงตัวหนึ่ง แม้ว่าวิหารทั้งสิบสองจะถูกเรียกรวมกันว่าสิบสองวิหาร แต่วิหารแต่ละแห่งก็ไม่ได้รักใคร่กลมเกลียวกัน พวกเขาแอบต่อสู้กันเองมาตลอด และทำท่าว่าอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขแค่ผิวนอกเท่านั้น
ในเมื่ออีกวิหารเลือกจักรพรรดิหนุ่มมาร่วมมือด้วย คนพวกนั้นก็คงไม่ลังเลที่จะต่อสู้กับเขาเพื่อปกป้องจักรพรรดิหนุ่มคนนี้ ผู้อาวุโสหวงจะไม่ทะเลาะกับจวินเสียแน่ เว้นแต่ว่าเขาจะมีแต่ขี้เลื่อยอยู่ในหัว
แต่ก็นั่นแหละ เมื่อครู่เขาได้พูดออกไปแล้ว ตอนนี้ไม่ว่าเขาจะทำอะไร สุดท้ายมันก็คือการตบหน้าตัวเอง ในใจผู้อาวุโสหวงตอนนี้ได้ทักทายบรรพบุรุษของจวินเสียไป 18 รุ่นแล้ว
[เจ้าเด็กนี่น่ารังเกียจเข้าไส้!]
มีเทพยืนอยู่ข้างหลัง 6 คนชัดๆ แต่ไม่พูดบอกอะไรสักคำ รอจนผู้อาวุโสหวงโกรธจัดและเตรียมจะเข้ามาโจมตีแล้ว ค่อยซัดหลังมือฟาดหน้าเขาเน้นๆ ไม่เหลือหนทางให้เขาถอยเลย!
เสียเปรียบขนาดนี้แล้ว ผู้อาวุโสหวงจะพูดอะไรได้? เขาโมโหมากจนเกือบจะระเบิดออกมา
“ในเมื่อเจ้าเป็นเพื่อนของสิบสองวิหาร และตาแก่คนนี้ก็มาจากวิหารมังกร เช่นนั้นข้าก็จะไม่สร้างความลำบากให้เจ้า ลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้ซะเถอะ คิดซะว่าตาแก่คนนี้ไว้หน้าเพื่อนจากสิบสองวิหารก็แล้วกัน” แม้ว่าจะเจ็บแปลบๆจากที่โดนตบหน้า แต่ผู้อาวุโสหวงก็ยังสามารถบิดคำพูดให้ออกมาฟังดูดีได้
ราวกับว่าที่เขาถอนตัวนั้น ไม่ใช่เพราะเขากลัวเย่ฉากับคนอื่นๆ แต่เป็นเพราะ ‘เขาไว้หน้าเพื่อน’
ความระหองระแหงภายในระหว่างสิบสองวิหารไม่เคยถูกนำขึ้นมาสู่ภายนอก ผู้อาวุโสหวงเชื่อว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นชัดเจนอยู่แล้ว และอีกฝ่ายจะเข้าใจสิ่งที่เขาพยายามพูดอย่างแน่นอน แม้ว่าจวินเสียจะมีประโยชน์มากสำหรับพวกเขาก็จริง แต่พวกเขาคงไม่อยากให้สิบสองวิหารต้องสู้กันจริงๆหรอก
แต่……
ถึงผู้อาวุโสหวงจะคิดมาดีแล้วก็เถอะ จวินอู๋เสียก็ไม่คิดที่จะปล่อยให้เรื่องเป็นไปอย่างที่เขาต้องการ
“ก็แก่แล้วนี่นะ ควรกลับบ้านไปดูแลตัวเองในวัยเกษียณได้แล้ว แทนที่จะออกมาทำให้ตัวเองขายหน้าต่อหน้าคนอื่นแบบนี้ คิดว่าตัวเองเป็นใคร? มีค่าพอจะอ้างว่าเป็นเพื่อนกับองครักษ์ของข้าได้งั้นเรอะ?” จวินอู๋เสียไม่ไว้หน้าผู้อาวุโสหวงเลยสักนิด ปากของนางทั้งร้ายกาจและโหดเหี้ยมไร้ความปราณี
ผู้อาวุโสหวงสูดหายใจเข้าเสียงดัง เขาก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่ง และมองจวินเสียอย่างเหลือเชื่อ
สายตาของเขามองไปที่เย่ฉาอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนกำลังต่อว่าเย่ฉาถึงความหยาบคายของจวินเสีย
แต่เย่ฉายังคงทำหน้านิ่ง ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไรเลย ท่าทางที่ยืนนิ่งเฉยอยู่ข้างหลังจวินอู๋เสียนั่น ความหมายของมันไม่อาจชัดเจนไปมากกว่านี้ได้แล้ว
ไม่ว่าจวินอู๋เสียจะพูดอะไร เขาจะสนับสนุนจนถึงที่สุด ผู้อาวุโสหวงไม่ต้องคาดหวังถึง ‘ความรัก’ ระหว่างสิบสองวิหารอะไรทั้งนั้น
สถานการณ์เช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผู้อาวุโสหวงคาดฝัน เขาไม่เข้าใจเลย ต่อให้อีกวิหารจะอยากใช้แคว้นเหยียนที่อยู่เบื้องหลังจวินเสีย แต่พวกเขาจะต้องทำถึงขนาดนี้เลยหรือ? ขนาดเขาประกาศชื่อวิหารมังกรแล้ว พวกเขาก็ยังไม่มีปฏิกิริยาอะไร ราวกับว่าวิหารมังกรไม่อยู่ในสายตาของพวกเขาเลย
ในใจผู้อาวุโสหวงโกรธจนแทบกระอักเลือด แต่เขาไม่กล้าลงมือกับจวินเสีย หกคนที่อยู่ข้างหลังจักรพรรดิหนุ่มกำลังจ้องเขาเหมือนเสือจ้องเหยื่อ ถ้าเขาลงมือตอนนี้ สุดท้ายคนที่เดือดร้อนจะเป็นตัวเขาเองอย่างแน่นอน!
ผู้อาวุโสสูดหายใจเข้าลึกๆ เขากุมหน้าอกตัวเอง แล้วตัดสินใจถอยจากความเสียเปรียบครั้งนี้ เขาเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าที่กำลังอ้อนวอนของจักรพรรดิแคว้นจิ้วแล้วพูดว่า “วันนี้ข้ารู้สึกไม่ค่อยสบาย ต้องกลับไปพักก่อน”
พูดจบ เขาก็เมินสีหน้าตกตะลึงของจักรพรรดิแคว้นจิ้ว แล้วหันหลังเดินออกไปในทันที
“ไม่ต้องพักหรอก หลับยาวชั่วนิรันดร์ไปเลยก็ได้” จู่ๆจวินอู๋เสียก็ฟาดประโยคนั้นใส่ด้านหลังของผู้อาวุโสหวง
เท้าของผู้อาวุโสหวงแข็งค้าง แต่เขาก็ฝืนกล้ำกลืนคำดูหมิ่นนั้นลงไป แล้วหนีไปพร้อมความอัปยศ