ตอนที่ 925 คุณอยู่ในห้องของผมแล้ว

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

“อย่ามาบอกฉันถึงเรื่องคุณธรรมหรือความเป็นธรรมเลย ในวงการนี้ที่ฉันรู้ก็แค่ผู้ชนะจะได้ทุกอย่างไปเท่านั้นแหละ! …

 

 

“ถังหนิงถ้าเธอจะทำอะไรล่ะก็ อย่างนั้นก็มาว่ากับฉันสักตั้ง”

 

 

หลังจากเธอพูดจบเฝิงจิ้งก็วางสายไป

 

 

เบื้องหลังถังหนิง โม่ถิงได้ยินทุกอย่างที่เฝิงจิ้งพูด ในขณะที่เขาอุ้มลูกคนหนึ่งไว้ในอ้อมแขน ท่าทีของเขายังคงสงบนิ่ง “มีใครบางคนพยายามข่มขู่คุณอีกแล้วเหรอครับ ทำไมคุณถึงถูกข่มขู่ตลอดเลยล่ะ”

 

 

“ช่วยไม่ได้นี่คะ ทุกครั้งที่ฉันยืนหยัดเพื่อบางสิ่งก็มักจะลงเอยด้วยการมีปัญหากับใครสักคนตลอดเลย ประธานโม่เหนื่อยที่จะปกป้องฉันแล้วเหรอคะ” ถังหนิงหันไปส่งยิ้มให้

 

 

โม่ถิงส่ายหน้าพลางวางลูกชายลงบนพื้นและรั้งถังหนิงเข้ามาในอ้อมกอด “ไม่ครับ คุณไม่รู้หรอกว่าคุณพิเศษสำหรับผมขนาดไหน”

 

 

มีไม่กี่คนบนโลกนี้ที่กล้าหาญพอที่จะต่อสู้กับค่านิยมเดิมๆ หากแต่ถังหนิงเป็นคนคนนั้นที่ลุกขึ้นมาท้าทายและไม่ยอมแพ้ง่ายๆ

 

 

“อะไรก็แล้วแต่ ฉันจะไปพบพี่หงก่อนค่ะ”

 

 

“พาบอดี้การ์ดไปด้วยและก็อย่าทำให้ตัวเองบาดเจ็บนะครับ” นี่เป็นคำขอร้องง่ายๆ ของโม่ถิง

 

 

ถังหนิงพยักหน้าและโอบแขนกอดเขาแน่น คงเป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นช่วงนี้ ถังหนิงจึงรู้สึกปลอดภัยและอุ่นใจยามที่เธออยู่ในอ้อมแขนของเขาเท่านั้น

 

 

“พอแล้วล่ะครับ จื่อเฉินยังอยู่ด้านนอก เดี๋ยวผมจะไปพาเขามาข้างในเอง” พูดจบโม่ถิงก็หันไปเปิดประตู แต่เจ้าตัวแสบถังจื่อเฉินกลับคลานมาจากห้องนั่งเล่นด้วยตัวเอง และเงยหน้ามองพ่อของตัวเองด้วยดวงตากลมโตอย่างซุกซน

 

 

เขาไม่เหมือนโม่จื่อซี ไม่ได้ร้องให้อุ้มทันทีที่เห็นโม่ถิงกลับมาถึงบ้าน ความจริงแล้วเขาไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเลยด้วยซ้ำ เขาเป็นเหมือนผู้ใหญ่ตัวย่อมๆ เท่านั้น

 

 

“เจ้าแสบนี่โตขึ้นมาเมื่อไหร่ต้องยุ่งแน่ๆ ” ถังหนิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

 

 

“หืม” โม่ถิงร้องในลำคอ “รู้เรื่องแต่เด็กอย่างนี้หมายความว่าเขาจะต้องเรียนรู้ได้ไวนะครับ”

 

 

“แต่เขายังเด็กอยู่เลยนะคะ”

 

 

“เขาเป็นลูกชายของโม่ถิงกับถังหนิงนะครับ”

 

 

เจ้าตัวป่วนไม่เข้าใจสิ่งที่พ่อแม่ของตัวเองพูดกัน แต่เขาก็คลานส่ายก้นไปมาตรงไปที่เตียงของเขา แน่นอนว่าเขาไม่อาจปีนขึ้นเตียงด้วยตัวเองได้ สุดท้ายโม่ถิงจึงช้อนตัวเขาขึ้นมาวางไว้บนเตียง

 

 

โม่จื่อเฉินนั่งลงบนเตียงและจ้องมองพ่อของเขา หลังสบตากันครู่หนึ่ง เขาหันไปหยิบของเล่นข้างตัวและเล่นอย่างมีความสุขเองตามลำพังโดยไม่สนใจโม่ถิงอีก

 

 

ถังหนิงแปลกใจกับปฏิกิริยาระหว่างสองพ่อลูก

 

 

อยู่ๆ โม่จื่อเฉินก็ทำตัวเหมือนเด็กวัยย่างเข้าสองขวบปกติ

 

 

“เด็กคนนี้ฉลาดมาก ฉันล่ะสงสัยว่าเขาได้มาจากใครกัน”

 

 

“แน่นอนว่าต้องเป็นคุณครับ” โม่ถิงเอ่ยพลางลูบศีรษะถังหนิง

 

 

“คุณนี่รู้ดีว่าจะเอาใจฉันได้ยังไงสินะคะ”

 

 

โม่ถิงระบายยิ้ม หลังจากพาลูกๆ เข้านอน เขากลับไปที่ห้องนอนตัวเอง ไม่ว่าโลกภายนอกจะวุ่นวายแค่ไหน เขามักจะเป็นความสุขและความอบอุ่นให้ถังหนิงเสมอ

 

 

 

 

ในขณะเดียวกันหลินเฉี่ยนกำลังจะเริ่มงานชิ้นใหม่ ทว่าก่อนที่อะไรจะเกิดขึ้น คุณนายหลี่ได้หว่านล้อมเธออยู่พักหนึ่งเพื่อทำให้เรื่องของเธอกับหลี่จิ่นเป็นกิจจะลักษณะเสียที คุณนายหลี่ต้องการให้เธอมาเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของหลี่จิ่น

 

 

“เฉี่ยนเฉี่ยน ป้าไม่ได้ต่อต้านหนูอะไรหรอกนะ แต่ป้าอยากจะถามว่าหนูมีญาติคนอื่นที่บ้านบ้างไหม ทำไมหนูถึงถูกตระกูลเฉวียนรับมาเลี้ยงล่ะจ๊ะ”

 

 

เมื่อฟังคำถามของคุณนายหลี่ หลินเฉี่ยนรู้สึกประหม่าเล็กน้อย หากแต่เธอเข้าใจว่าเธอไม่ควรปิดบังเรื่องใดๆ ก็ตามกับตระกูลหลี่ เพราะเธอกำลังอยู่ในบ้านของพวกเขาและพวกเขาก็ปฏิบัติกับเธอดีเหลือเกิน

 

 

“ถ้าหนูไม่อยากพูดถึงก็ไม่ต้อง…”

 

 

หลินเฉี่ยนส่ายหน้าและพูดขึ้นขณะที่นั่งบนโต๊ะอาหาร “คุณป้าคะ จริงๆ แล้วหนูก็ไม่รู้เรื่องอดีตหรือครอบครัวนักหรอกค่ะ นับตั้งแต่จำความได้ หนูก็มาอยู่กับตระกูลเฉวียนแล้ว หลังจากนั้นหนูก็ใช้เวลาส่วนใหญ่กับการเรียนที่เมืองนอก เลยไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วหนูมีญาติที่ไหนหรือเปล่าน่ะค่ะ”

 

 

เมื่อคุณนายหลี่ได้ยินดังนั้น เธอรั้งหลินเฉี่ยนเข้ามากอดไว้ทันที “ถ้าหนูจำไม่ได้ก็ไม่ต้องคิดหรอกนะจ๊ะ จากนี้ไปเราจะเป็นพ่อแม่ให้หนูเองนะ ที่รัก หนูเป็นคนดีแล้วก็จริงใจ ตาแก่กับฉันชอบหนูจริงๆ นะ

 

 

“จินเอ๋อร์เองก็ชอบหนูเหมือนกันจ้ะ เราถึงได้อยากเห็นพวกเธอตบแต่งเป็นเรื่องเป็นราวกันสักทียังไงล่ะ”

 

 

“แต่…งานของหนู”

 

 

“มันไม่ได้มีผลกับงานของหนูหรอกจ้ะ ถ้าหนูอยากทำงานต่อไปก็ได้ ป้าไม่ใช่คนใจแคบที่เอาแต่อยากได้ลูกสะใภ้หรอกนะ ป้าก็อยากเห็นผู้หญิงที่เข้มแข็งและพึ่งพาตัวเองได้เหมือนกัน ดังนั้นลุยต่อไปแล้วทำสิ่งที่หนูต้องทำเถอะจ้ะ”

 

 

หลินเฉี่ยนรู้สึกว่าเธอเหนื่อยมาทั้งชีวิตเพื่อได้มาพบกับหลี่จิ่นและคนตระกูลหลี่

 

 

เมื่อนึกถึงสิ่งที่คุณนายหลี่ทำให้เธอ เธออดไม่ได้ที่จะซาบซึ้งใจขึ้นมาเล็กน้อย

 

 

ถังหนิงเป็นเพื่อนและเจ้านายที่ดี หลี่จิ่นเองก็เป็นคนรักและเนื้อคู่ที่เยี่ยมยอด อีกทั้งคุณนายหลี่ยังเอ็นดูเธออีก ในจังหวะนั้นเองที่เธอรู้สึกว่าชีวิตของเธอช่างสมบูรณ์แบบ

 

 

ดังนั้นทันทีที่หลี่จิ่นกลับมาถึงบ้าน เธออดไม่ได้ที่จะเอ่ยกับเขา “ฉันตกลงที่จะแต่งงานค่ะ”

 

 

“หือ” หลี่จิ่นชะงักไปในขณะที่กำลังถอดชุดเครื่องแบบทหารของตัวเอง

 

 

“ฉันบอกว่า ฉันตกลงจะแต่งงานค่ะ”

 

 

เมื่อเขามองพวงแก้มขึ้นสีระเรื่อของเธอ หลี่จิ่นอุ้มหลินเฉี่ยนไว้ในวงแขนและวางเธอบนโต๊ะเครื่องแป้ง “คุณตอบตกลงอย่างนี้แล้วอย่าคิดว่าจะหนีรอดไปได้นะครับ คุณอยู่ในห้องของผมแล้วนะ…”

 

 

“จริงจังหน่อยสิคะ ฉันอยากให้คุณตามสืบอดีตของฉันค่ะ ฉันได้ยินมาว่าหาประวัติของครอบครัวในฐานข้อมูลจากลายนิ้วมือได้นี่คะ”

 

 

“ถ้าพ่อแม่ของคุณเป็นคนไม่ดีขึ้นมาล่ะครับ” หลี่จิ่นถาม “คุณมั่นใจว่าคุณพร้อมจะยอมรับผลเหรอครับ”

 

 

“ฉันอยากแต่งงานกับคุณด้วยความบริสุทธิ์ใจที่สุด ฉันไม่ต้องการให้อยู่ๆ มีเรื่องวุ่นวายจากไหนก็ไม่รู้มาทำให้ครอบครัวของคุณอับอายหรอกนะคะ ถึงยังไงครอบครัวของคุณก็ดีกับฉันมากจริงๆ ”

 

 

หลี่จิ่นกอดหลินเฉี่ยนก่อนพยักหน้ารับ “โอเคครับ”

 

 

 

 

ในขณะเดียวกันที่กองถ่ายรายการ ในที่สุดพิธีกรก็โผล่หน้ามา หลังจากการเตรียมการสามวันโดยที่ไม่มีเขา

 

 

ซย่าหันโม่ดูออกว่าโจวชิงบาดเจ็บไม่ใช่น้อยๆ แต่เขาก็อดทนกับความเจ็บปวดจนถึงขั้นหน้าซีด แต่นั่นก็ไม่ได้สำคัญอะไร เพียงเพราะไอ้สารเลวบาดเจ็บ ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่เป็นคนชั่วช้าอีก

 

 

“พี่โจว คุณดูอาการไม่ค่อยดีเลยนะครับ ไหวแน่นะครับ” ทีมงานรีบวิ่งเข้ามาช่วยประคองเข้าไว้

 

 

“ฉันไม่เป็นไร ถ่ายต่อเถอะ”

 

 

“พี่โจว คุณนี่เป็นมืออาชีพจริงๆ”

 

 

เมื่อซย่าหันโม่ได้ยินดังนั้น เธออดไม่ได้ที่จะว่าเย้ยหยัน “พี่โจวทำตัวให้น่าสงสารได้เก่งดีนี่ ให้ฉันบอกทุกคนไหมว่าทำไมคุณถึงบาดเจ็บน่ะค่ะ”

 

 

“ซย่าหันโม่ ไม่เห็นจำเป็นต้องต้อนฉันให้จนมุมแบบนี้เลย” โจวชิงเอ่ยเตือน

 

 

“ความสนุกมันยังไม่จบแค่นี้หรอกค่ะ ฉันชอบที่คุณตอบฉันแบบนี้นะ ยังไงคุณก็ต้องทำตามคำสั่งของประธานหลิวไม่ใช่เหรอ ฉันชอบความรู้สึกที่ได้เหยียบย่ำคุณอย่างนี้จัง ฉันจะไม่มีทางปล่อยให้เรื่องจบลงง่ายๆ หรอกค่ะ”

 

 

โจวชิงมองค้อนใส่เธอ แต่เธอทำเพียงหัวเราะใส่ “ฉันรู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่ค่ะ อยากจะทำลายฉันใช่ไหมละคะ ขอเตือนไว้ก่อนเลยนะ โจวชิง อย่ามาแข่งกับฉันเรื่องความเลือดเย็นจะเป็นการดีที่สุด ฉันจะทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อทำให้คุณทรมาน ต่อให้ฉันต้องตาย ฉันก็จะลากคุณไปด้วย”

 

 

“เธอมันโรคจิต!” โจวชิงสบถออกมาก่อนที่จะเดินจากไป

 

 

หากแต่ลึกๆ แล้วเขาเจ็บปวดมากเหลือเกิน

 

 

อย่างไรเสียเขาก็กลัวที่จะกลับบ้านเกินไป ตอนนี้เขาทำได้เพียงอยู่ที่โรงพยาบาลเพราะกลัวโดนจับได้และถูกทำร้ายอีก