ตอนที่ 924 ครั้งนี้ถังหนิงทำเกินตัวไปหรือเปล่า

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

“จริงๆ ไห่รุ่ยเองก็มีส่วนเกี่ยวพันกับเรื่องนี้มานาน วงการนี้จะค่อยๆ ทำให้โจวชิงทรมานไปทีละนิดเองนั่นแหละ”

 

 

เมื่อได้ยินดังนั้นซย่าหันโม่เข้าใจว่าไห่รุ่ยถูกดึงมาเกี่ยวข้องด้วยเพราะถังหนิงและหลินเฉี่ยน

 

 

“คุณดูท่าจะไปได้สวยกับถังหนิงแล้วนะ แต่ก็ยังเสียสละตัวเองเพราะผู้ชายอย่างนี้ ฉัน หลิวเฉิงเฟิง อาจไม่ใช่คนดี แต่ฉันก็ไม่ชอบเอาเปรียบสาวๆ หรอก ถ้าเธอต้องการละก็ ฉันทำให้เธอมีชื่อเสียงได้นะ”

 

 

เมื่อได้ยินดังนั้น ความรู้สึกในอกของซย่าหันโม่ยิ่งผสมปนเปกันไปหมด อยู่ๆ เธอพลันรู้สึกปลอดภัยและอุ่นใจขึ้นมา

 

 

ทว่าในจังหวะต่อมา เธอก็ได้สติอย่างรวดเร็ว มันจะเป็นเช่นนี้ไปได้อีกนานสักเท่าไรกัน อีกอย่างประธานหลิวก็ยังดีกว่าไอ้สารเลวโจวชิงนั่น โจวชิงทั้งโกหกและหักหลังเธอ เขาไม่เคยทำสักอย่างเพื่อเธอเลย

 

 

 

 

หลังจากวางสาย โจวชิงไม่ได้ระวังตัว ต่อให้เขารู้ว่าลูกชายของผู้จัดการรู้ความจริงแล้วเขาก็ไม่ได้กังวลแต่อย่างใด

 

 

เสียงออดหน้าประตูดังขึ้นไม่นานหลังจากนั้น เขาลุกขึ้นไปเปิดประตูทันที ไม่ทันที่เขาจะได้เห็นหน้าคนที่อยู่หน้าประตู หมัดหนักๆ ก็กระแทกตรงมาที่เขา

 

 

แน่นอนว่าชายคนนั้นเป็นมืออาชีพ เขารู้ว่าไม่อาจทิ้งรอยแผลที่ชัดเจนไว้บนร่างกายของโจวชิงได้ เขาจึงมุ่งเป้าไปที่หน้าท้องของโจวชิงก่อนเหวี่ยงหมัดเข้าใส่รัวๆ

 

 

“ไอ้เศษสวะ! ฉันจะเตือนแกให้นะ จากนี้ไปฉันตามมาอัดแกให้น่วมอยู่เรื่อยๆ จะทำให้แกทรมานไปตลอดชีวิต ฉันว่าแกดวงตกแล้วล่ะ”

 

 

โจวชิงนอนลงไปกองอยู่บนพื้นอย่างไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้ เจ็บปวดบริเวณหน้าท้องอย่างหนักจนหมดสติไปในที่สุด

 

 

ถังหนิงเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าสัตว์โลกย่อมเป็นตามกรรม

 

 

อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด

 

 

ชะตากรรมของโจวชิงไม่คู่ควรแก่การเห็นอกเห็นใจ ถึงอย่างไรสำหรับคนส่วนใหญ่ เขาก็ยังคงเป็นคนที่ดูสมบูรณ์แบบ หากแต่เพราะเหตุนี้จึงทำให้เขาต้องทุกข์ทรมานอยู่แบบนี้

 

 

เขาเหลือเพียงเปลือกนอกให้ทุกคนได้ค่อยๆ เล่นสนุกกับมัน

 

 

ไม่มีใครรู้ว่าโจวชิงบาดเจ็บ ดังนั้นเมื่อเขาไม่ได้ไปทำงานในวันต่อมา ซย่าหันโม่จึงเอ่ยถามทีมงาน “ทำไมวันนี้โจวชิงไม่อยู่ล่ะ”

 

 

“ฉันเพิ่งโทรหาเขาเมื่อกี้ คือว่าเขาได้รับบาดเจ็บแล้วตอนนี้ก็อยู่ที่โรงพยาบาลน่ะค่ะ” ทีมงานคนหนึ่งตอบ

 

 

“เกิดอะไรขึ้น”

 

 

“จากที่รู้มาคือเขาถูกบุกมาทำร้ายที่บ้านค่ะ”

 

 

ซย่าหันโม่ไม่ได้ถามไปมากกว่านี้ เธอพอเดาได้ว่าเกี่ยวกับเรื่องอะไร มันคือผลกรรมของโจวชิง ผลกรรมที่เขาทำตัวเอง!

 

 

 

 

ในขณะเดียวกันหลังจากที่จู้ซิงมีเดียไล่ซย่าหันโม่ออกจากเอเจนซี่ ผู้คนต่างเฝ้าสงสัยอยู่พักหนึ่ง ทว่าพวกเขารู้ว่าต่อให้ถังหนิงไม่ทำอะไรเธอ ครั้งนี้ซย่าหันโม่ก็คงทำบางอย่างที่เกินจะทนลงไป ดีที่ซย่าหันโม่ไม่ได้ออกมาต่อว่า หรือตอบโต้กลับเหมือนอย่างตอนที่ผู้จัดการคนก่อนทรยศเธอ

 

 

อย่างน้อยมันก็ช่วยให้จู้ซิงมีเดียรักษาชื่อเสียงของพวกเขาไว้ได้

 

 

ระหว่างนี้เส้นทางสายการแสดงของลัวเซิงสดใสขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับชื่อเสียงของซิงหลานที่พุ่งสูงขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ดังนั้นคนภายนอกจึงตั้งความหวังในตัวถังหนิงไว้สูง และศิลปินมากมายที่ยังฝันที่จะทำงานภายใต้สังกัดของเธอ หากแต่พวกเขารู้ว่าถังหนิงจะยอมรับแค่คนที่มีความสามารถจริงๆ ที่ถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมเท่านั้น

 

 

สำหรับคนอื่นๆ เธอไม่แม้แต่จะชายตามองสักครั้งด้วยซ้ำ

 

 

ถังหนิงมอบหมายงานใหม่ให้กับหลินเฉี่ยน ว่าด้วยเรื่องศิลปินที่ส่งอีเมลมาขอความช่วยเหลือ ศิลปินคนนี้ไม่ได้โด่งดังในช่วงวัยรุ่นแต่อย่างใด

 

 

เธอคือผู้ที่ได้รับรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมถึงสามครั้งซึ่งมีเหตุให้ต้องพิการไปอย่างน่าเสียดาย และคนที่ทำให้เธอพิการกำลังพยายามแย่งสิ่งที่ดีที่สุดจากเธอไปและเสวยสุขกับความรักจากทุกๆ คน เธอจึงไม่อาจยอมรับเรื่องนี้ได้

 

 

หลินเฉี่ยนไปพบกับถังหนิง หลังจากดูข้อมูลของศิลปิน เธอมองอีกฝ่ายอย่างงุนงง “พี่หนิง เธออายุราวสี่สิบและยังพิการอีก เธอยังจะอยากแสดงและกลับมาโลดแล่นในวงการเหรอคะ ฉันกลัวว่านี่จะเป็นความท้าทายที่ยากเกินไปหน่อยนะคะ”

 

 

ลัวเซิงกับซิงหลานยังเด็ก ดูดี และมีความสามารถ มีหลายอย่างให้ได้แสดงศักยภาพออกมา การทำให้พวกเขามีชื่อเสียงขึ้นมาถือว่าง่ายด้วยฐานแฟนคลับที่ดี แต่ว่า…

 

 

…นักแสดงหญิงคนนี้…

 

 

“เธอคิดว่าทำไมฉันถึงมอบหมายงานนี้ให้เธอล่ะ เหตุผลง่ายนิดเดียว เพราะฉันคิดว่าจิตวิญญาณของมนุษย์ไม่มีวันตายยังไงล่ะ ฉันว่าเธอเหมาะกับเธอดีนะ ฉันไม่คิดว่าคุณค่าของนักแสดงจะขึ้นอยู่กับจำนวนหนังที่เคยเล่นหรือรางวัลที่เคยได้หรอก แต่เป็นความมุ่งมั่นในการสร้างผลงานให้กับวงการนี้ไม่ว่าพวกเขาจะอายุเท่าไหร่แล้วต่างหากล่ะ…

 

 

“ลองดูข้อมูลทั้งหมดในมือก่อนที่เธอจะบอกว่าเธอคิดยังไง”

 

 

หลินเฉี่ยนสงสัยแต่ก็ยังเปิดแฟ้มผลงานดู

 

 

จากข้อมูลที่มี นักแสดงคนนี้ก็มีอาชีพการงานราบรื่นมาตลอดช่วงปีแรกๆ หากแต่เพราะเธอมองโลกในแง่ดีเกินไป จนไปเชื่อใจผู้ช่วยของเธอโดยไม่รู้ตัวว่าอีกฝ่ายต้องการจะแทนที่เธอ เดิมทีเธอพาอีกฝ่ายไปออกงานด้วย จากนั้นผู้ช่วยของเธอก็ทำตัวเหมือนเป็นตัวแทนของเธอ จนในที่สุดก็แย่งทั้งรางวัลและชื่อเสียงของเธอไป ทั้งยังวางยาในอาหารและเกือบทำให้เธอเดินไม่ได้อีก เป็นที่มาของรอยแผลเป็นที่หลงเหลืออยู่บนใบหน้าของเธอ

 

 

“ใครคือผู้ช่วยของเธอเหรอคะ”

 

 

“เฝิงจิ้ง”

 

 

“เธอคือคนที่เป็นผู้เข้าชิงรางวัลเฟยเทียนไม่ใช่เหรอคะ” หลินเฉี่ยนถาม

 

 

ถังหนิงพยักหน้าตอบ “ใช่ เธอนั่นแหละ”

 

 

หลินเฉี่ยนรู้ดีว่าถังหนิงเกลียดคนที่ยกระดับตัวเองขึ้นมาด้วยการเหยียบย่ำคนอื่น จึงไม่แปลกใจเลยที่อีเมลที่ส่งมาจากผู้หญิงที่ชื่อลัวอิงหงจะสามารถเรียกความสนใจจากเธอได้

 

 

“แล้วอยากให้ฉันทำอะไรเหรอคะ พี่หนิง”

 

 

“พาเธอมาเซ็นสัญญา!”

 

 

ทันทีที่ถังหนิงว่าดังนั้นเธอจึงรีบไปลงมือ เมื่อสาธารณชนรู้เรื่องนี้เข้าจะต้องเป็นที่ฮือฮาแน่ๆ

 

 

เพราะถังหนิงไม่ได้ช่วยนักร้องสาวหรือไอดอลหนุ่มหล่อ แต่กำลังช่วยนักแสดงหญิงตกรุ่นอายุสี่สิบปีที่พิการเอาไว้

 

 

“ครั้งนี้ถังหนิงทำเกินตัวไปหรือเปล่าเนี่ย”

 

 

“เธอไม่ได้แก่อย่างเดียวนะ แต่ยังพิการด้วย ทำไมถังหนิงถึงช่วยคนที่ไม่มีใครสนใจไปหลายปีแล้วกันล่ะ เธอพยายามทำอะไรอยู่กันแน่”

 

 

“ถ้าถังหนิงทำให้ผู้หญิงคนนี้กลับมามีชื่อเสียงได้อีกครั้ง ฉันจะตัดหัวตัวเองแล้วให้เธอเอาไปเตะเล่นเป็นลูกบอลเลย”

 

 

แน่นอนว่าเมื่อถังหนิงสนใจใครแล้ว หมายความว่าคนคนนั้นจะต้องโดนกดขี่ข่มเหง จึงเป็นเรื่องปกติที่คนที่ทำร้ายลัวอิงหงจะรู้สึกร้อน ๆ หนาวๆ ขึ้นมาและคนคนนั้นก็คือเฝิงจิ้ง

 

 

ภาพยนตร์ของเธอเองก็ได้รับเข้าชิงรางวัลเฟยเทียนเช่นกัน น่าเสียดายที่เธอต้องถูกถังหนิงจาก ผู้รอดชีพ บดบังจนมิด และตอนนี้ถังหนิงยังตกเป็นฝ่ายเดียวกับศัตรูของเธออีก เธอจะยอมได้อย่างไร

 

 

ดังนั้นจึงถึงเวลาที่เฝิงจิ้งจะติดต่อถังหนิงผ่านทางเอเจนซี่ของเธอ คนปลายสายเป็นผู้หญิงวัย 40 ที่ดูมั่นอกมั่นใจและมากประสบการณ์ “ถังหนิง ในฐานะรุ่นน้อง เธอควรเคารพรุ่นพี่บ้างนะ เธอคิดว่าตัวเองเป็นคนกำหนดทิศทางของวงการนี้เหรอยังไง เลิกเข้ามายุ่งเรื่องของคนอื่นได้แล้ว”

 

 

เมื่อได้ยินดังนั้น ถังหนิงระเบิดหัวเราะออกมา “พี่เฝิงคะ ฉันคิดว่าคุณจะใจเย็นได้ซะอีก ใจเย็นให้เท่ากับตอนที่คุณขโมยของมาจากคนอื่นแล้วไต่เต้าขึ้นไปในวงการน่ะค่ะ”

 

 

“ดูท่าแล้ว เธออยากจะเป็นศัตรูกับฉันสินะ”

 

 

“พี่หงก็แค่อยากกลับไปเป็นนักแสดงอีกครั้งเองนะคะ”

 

 

“เธอน่ะเหรอ ทั้งแก่ทั้งอัปลักษณ์ ฮ่าๆ! แม้แต่ตัวเธอเองยังเทียบฉันไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”