ตอนที่ 40 ถ้าถึงตาย พี่จัดการให้เอง

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

สีหน้าท่าทางของเซิ่งอี่เจ๋อนิ่งไปในทันที 

 

 

เขาหรี่ตาลงเพ่งมองอันซย่าซย่า เธอก็เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง แต่มีอะไรในตัวเธอกันนะที่ทำให้เขาติดใจ  

 

 

เขาเสมองไปทางอื่น และพูดแบบคนที่แข็งนอกอ่อนใน “ฉันก็แค่บังเอิญผ่านมา” 

 

 

“อ้อ… แต่ตอนนี้นายควรจะอยู่ในห้องเรียนไม่ใช่เหรอ” อันซย่าซย่าถามพร้อมกับเอียงศีรษะอย่างสับสน  

 

 

เป็นครั้งแรกในชีวิตเซิ่งอี่เจ๋อที่ไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไร 

 

 

เขาเหลือบมองเธอพลางพูดด้วยน้ำเสียงติดจะรำคาญนิดๆ “พูดมากเกินไปแล้ว” 

 

 

อันซย่าซย่าก้มหน้างุดพลางดึงชายเสื้อชุดเครื่องแบบนักเรียบแก้เก้อ จากนั้นก็ยืนรอเฉยๆ ให้อันอี้เป่ยออกมา 

 

 

ทางด้านอันอี้เป่ยปลีกตัวจากอาจารย์ใหญ่ได้อย่างง่ายดายด้วยคำพูดไม่กี่ประโยค ไม่มีใครรู้ว่าเขาพูดกับฝ่ายหลังอย่างโหดร้ายขนาดไหน แต่ผลคืออาจารย์ใหญ่นั้นเดินมาจับแขนเธอและพยายามพะเน้าพะนอเธอด้วยการเอ่ยปากชมเปาะ ซึ่งทำให้เด็กสาวขนลุกซู่ 

 

 

“คุณอันเป็นนักเรียนที่น่าชื่นชม โรงเรียนของเราต้องการเด็กที่มีความสามารถเช่นเธอ…” 

 

 

อันซย่าซย่ายิ้มเย้ยหยันก่อนดึงแขนเธอกลับโดยไม่ใส่ใจสีหน้าบูดบึ้งของเขา เธอถอยไปหลบอยู่ที่มุมมุมหนึ่งแล้วเริ่มจะขย้อนของเก่าออกมา 

 

 

ไอ้ครูใหญ่เฮงซวย! ไว้กลับถึงบ้านเมื่อไหร่ละก็ ฉันจะจัดการร้องเรียนทางฮอตไลน์สายด่วนของนายกเทศมนตรี! แล้วก็จะไปโพสต์เปิดโปงในเว็บบอร์ดของโรงเรียน คอยดู!  

 

 

ระหว่างที่อันซย่าซย่าอาเจียนเสียงโอ้กอ้ากอยู่นั้น อันอี้เป่ยก็สังเกตเห็นเซิ่งอี่เจ๋อ เขาขยับแว่นตาพลางยิ้ม “นายน้อยเซิ่ง ผมมีข้อเสนอในการร่วมมือกัน คุณสนใจไหมครับ” 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อขมวดคิ้ว คนที่สามารถคาดเดาความเชื่อมโยงระหว่างเขากับตระกูลเซิ่งได้ต้องไม่ใช่คนธรรมดา 

 

 

“ตระกูลเซิ่งกับตระกูลเจี่ยนเป็นคู่แข่งด้านอสังหาริมทรัพย์กันมาโดยตลอด ช่วงหลังๆ นี้พวกคุณแข่งกันในเรื่องโปรเจกต์การพัฒนาพื้นที่ ผมเชื่อว่าตระกูลเซิ่งคงไม่ปลื้มตระกูลเจี่ยนเท่าไรนัก บังเอิญว่าผมก็ไม่ชอบคนพวกนั้นเหมือน…” 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อจ้องเขาเงียบๆ อยู่ครู่เดียวก่อนจะยิ้มอย่างเฉยเมยให้ และตอบด้วยเสียงแผ่วต่ำ “ตกลง” 

 

 

จากนั้นทั้งสองคนก็แลกเปลี่ยนแผนการลับกัน อันอี้เป่ยพึงพอใจในตัวเซิ่งอี่เจ๋อมาอย่างเห็นได้ชัด เขาตบไหลเด็กหนุ่มเบาๆ ก่อนจะเดินไปช่วยพยุงอันซย่าซย่าให้ลุกขึ้น 

 

 

“กลับไปที่ห้องเรียนได้แล้ว และทำตัวดีๆ ด้วยล่ะ คราวหน้าถ้ามีใครแกล้งเธออีกละก็ไม่ต้องลังเล สู้กลับเลย! ป๊าจะดูแลเรื่องค่ารักษาให้เองถ้าเธอทำพวกนั้นเจ็บ แต่ถ้าถึงตายละก็พี่จัดการให้เอง!” คำพูดเย็นชาดุจน้ำแข็งดันไปเข้าหูเจี่ยนซินเอ๋อร์และติงอีอีซึ่งเพิ่งเดินออกมาจากห้องอาจารย์ใหญ่พอดี เด็กสาวทั้งสองแทบจะสะดุดขาตัวเองล้มก้นจ้ำเบ้า 

 

 

พระเจ้า ทำไมโลกนี้ถึงได้มีผู้ชายร้ายกาจแบบนี้อยู่นะ 

 

 

สีหน้าอันซย่าซย่าเต็มไปด้วยความประหลาดใจขณะที่เธอกระซิบถาม “พี่ใหญ่ หนูรู้สึกว่าพี่หล่อขึ้นนิดนึงนะวันนี้” 

 

 

อันอี้เป่ยแสยะยิ้มพลางลูบคาง “พี่ก็หล่อแบบนี้มาตลอดนะ” 

 

 

อันซย่าซย่า “…” 

 

 

“พี่ยังมีธุระอื่นค้างอยู่ ต้องทิ้งเธอไว้ที่นี่ก่อนนะ อ้อ นี่เป็นของขวัญที่พี่ซื้อมาฝากธอ” อันอี้เป่ยโยนตั๋วคอนเสิร์ตใส่มือน้องสาว เป็นตั๋วคอนเสิร์ตของหรงเช่อในสัปดาห์หน้า! 

 

 

“อ๊าย! พี่ชายสุดที่รัก รักพี่ที่สุดเลย!” อันซย่าซย่ามีความสุขมากจนอยากจะกระโดดกอดเขา แต่อันอี้เป่ยดันเธอออกไป “ไปซะ กลับไปเรียนได้แล้ว” 

 

 

อันซย่าซย่าเบ้ปาก กำตั๋วคอนเสิร์ตไว้แน่นก่อนจะเดินกลับไปยังห้องเรียนอย่างร่าเริงพร้อมเซิ่งอี่เจ๋อ 

 

 

ขณะนั้นเป็นช่วงเวลาพักเบรกระหว่างคาบเรียน 

 

 

ซูเสี่ยวมั่วสวมหน้ากากอนามัย พุ่งเข้ามาขนาบข้างตัวเธอก่อนกระซิบถาม “นี่ ยัยบื้อซย่าซย่า บอกความจริงมานะ ว่าเธอมีความสัมพันธ์ยังไงกับเซิ่งอี่เจ๋อกันแน่” 

 

 

“เพื่อนร่วมชั้นไง” อันซย่าซย่าตอบโดยไม่ลังเล 

 

 

“บ้าบอ! ถ้าพวกเธอเป็นแค่เพื่อนร่วมชั้นกันจริงๆ ถ้าอย่างนั้นตอนที่พี่ชายเธอมาตามหาตัวเธอที่ห้อง ทำไมเซิ่งอี่เจ๋อถึงได้เดินตามเขาไปที่ห้องอาจารย์ใหญ่โดยไม่รีรอเลยล่ะ” 

 

 

อันซย่าซย่านิ่งอึ้งไป 

 

 

อันอี้เป่ยมาที่โรงเรียนและมาตามหาตัวเธอเพราะอยากแวะเอาของขวัญมาให้ แล้วอย่างนั้นเซิ่งอี่เจ๋อไปทำอะไรกันแน่ตอนที่เขาเดินไปที่ห้องอาจารย์ใหญ่ เขาบอกว่าเขาแค่เดินผ่านมาไม่ใช่หรือ… 

 

 

เด็กสาวครุ่นคิดเรื่องนั้น ทว่าก็ยังไม่สามารถค้นหาคำตอบได้ว่าเพราะอะไร เป็นไปได้หรือไม่ว่า… เซิ่งอี่เจ๋อจะชอบเธอ