ฉู่สิงพูดสรุปว่า “หมายความว่าอันดับของแต่ละคณะในตอนนี้คือ คณะหยินหยาง คณะกระบี่ คณะบังเหิน คณะฟ้าร้อง คณะกำแหง คณะสงบใจ คณะศิงขร คณะนานา และคณะหนึ่งเดียวของเรา”
หานเฟิงพูดว่า “ถูกต้อง แต่คณะสงบใจอาจสู้กับคณะกำแหงอีกครั้ง คณะฟ้าร้องจะสู้กับคณะบังเหิน ยังไม่รู้แพ้ชนะ”
ฉู่สิงสะบัดมือพูดว่า “นั่นไม่เกี่ยวกับเราแล้ว ถ้าเราจะพุ่งขึ้นไปที่สูง ต้องเริ่มจากคณะนานา ฉันเตรียมตัวพร้อมแล้ว ศิษย์พี่ศิษย์น้องทุกคนว่าไง เราออกเดินทางพรุ่งนี้เลยไหม”
ฉู่สิงกับฉู่เทียนพยักหน้าเบาๆ
ฉู่สิงพูดว่า “ไม่มีปัญหา งั้นออกเดินทางพรุ่งนี้เลย เริ่มสู้จากคณะนานา”
จู่ๆ ลู่ฝานพูดออกมาว่า “ศิษย์พี่ทุกท่าน รออีกสักสองสามวันเถอะ”
หานเฟิงมองลู่ฝานอย่างสงสัย “ศิษย์น้องลู่ฝาน นายยังมีเรื่องที่ยังไม่จัดการเหรอ”
ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “ผมจัดการเรื่องตัวเองแล้ว แต่อยากช่วยยกระดับพละกำลังของศิษย์พี่ก่อน จากนั้นค่อยไป แบบนี้ความมั่นใจจะมากขึ้นหน่อย”
หานเฟิงพูดว่า “ยกระดับพละกำลัง ยกระดับยังไง ฉันถึง……ให้ตายเถอะ!”
หานเฟิงเบิกตาโต หานเฟิงและคนอื่น เห็นลู่ฝานเอาขวดยาออกมาจากเข็มขัด
เมื่อเปิดขวดยา กลิ่นยาแผ่ซ่านไปทั่วคณะหยินหยางทันที
“ยาชีวิต ยาชีวิตชั้นดี”
อาจารย์อี้ชิงตาเป็นประกาย ฉู่สิง ฉู่เทียนและศิษย์พี่ใหญ่ มองลู่ฝานเอายาออกมาทีละขวดจนตาค้าง
ลู่ฝานเอายาออกมาสิบกว่าขวด จากนั้นลู่ฝานแบ่งยาให้ศิษย์พี่ทั้งสี่คน คนละสิบขวดพอดี
หานเฟิงกลืนน้ำลายอย่างตื่นเต้น “ศิษย์น้องลู่ฝาน ยาพวกนี้ให้ฉันเหรอ”
ลู่ฝานพยักหน้า “ใช่ ศิษย์พี่ทุกคน ยาพวกนี้เป็นยาชีวิตระดับ 2-3 น่าจะช่วยพวกพี่ได้มาก”
ฉู่สิงหยิกตัวเองอย่างแรง จากนั้นตีขาแล้วพูดว่า “ฉันไม่ได้ฝันไป ยาชีวิตสิบขวด สิบขวดเต็มๆ มียาพวกนี้ ฉันน่าจะพุ่งไปถึงแดนปราณนอก ศิษย์น้องลู่ฝานให้ฉันจริงเหรอ แล้วของนายล่ะ”
ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “ผมเจอตำหนักเก็บยาในจวนอากาศธาตุของเซียนสือฟาง วางใจเถอะ ผมกินมาไม่น้อยแล้ว ไม่งั้นผมคงไม่ยกระดับเร็วแบบนี้หรอก”
ฉู่สิงกับหานเฟิงหัวเราะออกมา
ฉู่เทียนพยายามสงบสติ แม้สีหน้าของเขาไม่ตื่นเต้น แต่นิ้วมือสั่นเบาๆ
ฉู่สิงสูดหายใจลึก “ศิษย์น้องลู่ฝาน นายรู้ไหมยาพวกนี้ราคาเท่าไร รู้ไหมว่ายาพวกนี้ทำเรื่องได้เยอะขนาดไหน นายให้พวกเราแบบนี้เลยเหรอ”
ลู่ฝานพยักหน้า “ผมรู้ แต่พวกพี่เป็นศิษย์พี่ผมไม่ใช่เหรอ”
ศิษย์พี่ใหญ่ตบท้องตัวเอง เขาเป็นคนเดียวที่นิ่งสุขุม “ศิษย์น้องลู่ฝาน ต่อไปเรื่องของนาย ให้เป็นหน้าที่ศิษย์พี่ใหญ่ ของที่ศิษย์น้องเราให้ พวกนายจะชักช้าอยู่ทำไม เก็บไว้ๆ รีบกลับไปกิน เพื่อยกระดับพละกำลัง”
ฉู่สิง ฉู่เทียนและหานเฟิง เก็บยาไว้ทั้งหมด มองลู่ฝานอย่างซาบซึ้ง
ศิษย์พี่ใหญ่หัวเราะ ในแววตามีความตื่นเต้น
เหมือนลู่ฝานคิดอะไรได้ เอายาสองสามขวด ออกมาให้อาจารย์อี้ชิงกับอาจารย์เต้ากวง ยาขวดพวกนี้ เป็นยาหม้อที่เขากลั่นได้ดีที่สุด
ลู่ฝานไม่ได้นอนทั้งคืน เพื่อกลั่นยาหลายสิบขวดนี้
แต่อาจารย์ทั้งสองคนโบกมือไปมา “ลู่ฝาน เราไม่เอายาของนายหรอก ถึงแดนอย่างพวกเรา ยาชีวิต ยาทิพย์ ยาเสวียน ประสิทธิภาพไม่มากแล้ว นายเก็บไว้เองเถอะ ให้เจ้าดำสักสองสามขวดก็ได้ ตอนนี้มันต้องการพลัง ยาของนายช่วยมันได้ไม่น้อย”
เจ้าดำยกอาหารเดินเข้ามา มองลู่ฝานด้วยสีหน้าโหยหา
ลู่ฝานตอบรับเบาๆ จากนั้นเอายาให้เจ้าดำ
เจ้าดำตื่นเต้นทันที โยนอาหารที่ยกมาใส่หน้าหานเฟิง
เจ้าดำอ้าปากกินขวดไปด้วย นอนข้างลู่ฝาน ส่งเสียงออกมาอย่างมีความสุข
ตอนนี้หานเฟิงยิ้มเหมือนคนสติไม่ดี ไม่สนใจความเละเทะบนใบหน้า
อาจารย์อี้ชิงยิ้มแล้วพูดว่า “ดูเหมือนครั้งนี้ฟ้ากำหนดไว้แล้ว คณะหนึ่งเดียวของเราจะรุ่งโรจน์แล้ว พวกนายรีบกินยา รีบยกระดับขั้น ไปสู่แดนปราณนอกให้หมดทุกคน จากนั้นเราไปหาคณะอื่นกันสักหน่อย”
หานเฟิงหัวเราะเสียงดัง
“ไอ้พวกคณะหยินหยาง รอฉันก่อนเถอะ พี่หานเฟิงจะไปตีก้นพวกนาย”
ลู่ฝานมีรอยยิ้มเต็มใบหน้า เงยหน้ามองไปไกลๆ
ทิวเขามากมาย ท้องฟ้าแจ่มใส
การต่อสู้จัดอันดับของสถาบันงั้นเหรอ
แปดคณะอื่น พวกนายเตรียมพร้อมรับคณะหนึ่งเดียวที่แข็งแกร่งหรือยัง