เย่กวงตอบกลับว่า “พวกเราไม่ได้หลอกพวกท่านจริงๆ ลูกเขยของพี่ชายผมเป็นพวกป่าเถื่อน นอกจากมันจะแย่งทุกสิ่งทุกอย่างของตระกูลเย่ไปแล้ว มันยังทำร้ายพ่อผมจนหลอดเลือดสมองตีบ ตอนนี้เป็นอัมพาตทั้งตัว……”
“เดี๋ยวก่อน!”
เย่ห้าวที่เงียบมาตลอดเอ่ยปากถามขึ้น “แกกำลังจะบอกว่า น้องชายของฉันเส้นเลือดในสมองตีบ?”
เย่กวงรีบพยักหน้า “ใช่แล้ว ทั้งหมดเป็นฝีมือของลูกเขยพี่ชายทั้งนั้น”
ได้ยินดังนั้น หวางห้าวก็เงียบไป
เย่หมิงรีบชิงกล่าวออกมาว่า “พ่อครับ อย่าไปฟังสองคนนี้พูดจาไร้สาระอยู่เลย เย่ลั่วไปตงไห่ครั้งนี้แต่กลับมาเป็นหมัน พวกมันสองพ่อลูกต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วย”
“ไม่ได้นะ ไม่เกี่ยวกับพวกเราจริงๆ”
เย่กวงกับเย่ชิวตกใจจนหน้าซีดเผือด ก่อนจะรีบกล่าวแก้ตัว
“พวกแกสองคนยังจะมาหัวหมออีก ใครก็ได้มาจัดการมัน!” เย่หมิงตามคนมาจัดการ
เย่ห้าวกล่าวว่า “สองพ่อลูกนี้จะลงโทษเมื่อไหร่ก็ได้ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทำให้เย่ลั่วปลอดภัยก่อน”
เย่ลั่วเป็นหลานชายคนโตของตระกูลเย่
หากเขาเป็นอะไรขึ้นมา จะต้องส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อตระกูลเย่อย่างแน่นอน
ในตอนนั้นเอง หมอก็เดินออกมา
“คุณหมอ ลูกชายของผมเป็นยังไงบ้างครับ”
เมื่อเห็นหมอเดินออกมาจากห้องแล้ว เย่หมิงก็รีบถามขึ้นอย่างร้อนใจ
หมอถอนใจเบาๆ ก่อนจะตอบว่า “ตอบท่านผู้นำตระกูล หมอทำเต็มที่แล้ว แต่อาการบาดเจ็บของคุณชายเย่นั้นสาหัสมากจริงๆ เกรงว่าวันข้างหน้าคงจะกลายเป็นคนพิการ”
“อะไรนะ?”
สีหน้าของเย่ห้าวกับเย่หมิงเปลี่ยนไปในทันที
“ลูก!”
เย่หมิงตะโกน ก่อนจะวิ่งเข้าไปด้านในห้อง
เย่กวงกับเย่ชิวที่นั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นหันมาสบตาซึ่งกันและกัน
สีหน้าของทั้งสองเต็มไปด้วยความกังวล
ตอนนี้เรื่องราวดำเนินไปสู่ความยุ่งยากเสียแล้ว
“ลูกเป็นยังไงบ้าง”
เย่หมิงเดินมาหยุดอยู่ด้านข้างแล้วมองไปที่เย่ลั่วด้วยสีหน้าเป็นห่วง
ตอนนี้เย่ลั่วได้สติกลับมาแล้ว
เมื่อเขาเห็นเย่หมิง เขาก็ร้องไห้โฮออกมา “พ่อครับ พ่อต้องแก้แค้นแทนผมนะ ตอนนี้ผมกลายเป็นคนพิการไปแล้ว วันข้างหน้าผมไม่สามารถมีลูกหลานให้กับตระกูลเย่ได้อีกแล้ว”
เย่หมิงกัดฟันแล้วกล่าวว่า “ลูกไม่ต้องห่วงนะ พ่อจะต้องแก้แค้นแทนลูกให้ได้!”
หวางห้าวมองไปที่เย่ลั่วแล้วถามว่า “เย่ลั่ว ไหนแกบอกปู่มาซิว่าใครที่ทำจนแกกลายเป็นแบบนี้ไปได้”
เย่ลั่วตอบแล้วร้องไห้โฮออกมาด้วยอาการเจ็บปวด “ลูกเขยของตระกูลเย่แห่งตงไห่เป็นคนทำให้ผมตกอยู่ในสภาพแบบนี้ คุณปู่ต้องแก้แค้นแทนผมนะครับ ไม่อย่างนั้นผมคงตายตาไม่หลับ!”
เย่ห้าวกล่าวออกมาด้วยสีหน้าหมองคล้ำ “ไม่ต้องห่วง ปู่จะต้องแก้แค้นแทนหลานแน่ ใครที่กล้าทำร้ายหลานของฉัน ฉันไม่มีทางปล่อยมันไปแน่ หลานรักษาตัวให้ดีก็พอ อีกไม่กี่วันปู่จะลากตัวไอ้ลูกเขยตัวดีแห่งตงไห่นั้นมาคุกเข่าอยู่ตรงหน้าหลานแล้วฆ่ามันให้ตาย!”
“ขอบคุณครับปู่”
สีหน้าของเย่ลั่วเคียดแค้นเจ็บใจ
หยางเฟิงทำร้ายเขาจนพิการ นี่ทำให้เย่ลั่วยิ่งเกลียดหยางเฟิงเข้ากระดูกดำ
ยิ่งคิดว่าวันข้างหน้าเขาจะไม่สามารถเป็นลูกผู้ชายได้แล้ว นี่ยิ่งทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ
“ไอ้สารเลวสองคนนี้ทำให้หลานชายของฉันกลายเป็นขันที ฉันจะฆ่าพวกแก”
เมื่อออกมาจากห้องของเย่ลั่วแล้ว เย่หมิงก็มุ่งหน้าเดินไปทางเย่กวงกับเย่ชิวทันที
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกเราจริงๆ นะครับ!”
“เห็นแก่ความเป็นพี่น้องของพวกเรา ได้โปรดไว้ชีวิตพวกเราไปสักครั้งหนึ่งเถอะ!”
เมื่อเห็นสีหน้าอำมหิตของเย่หมิง สองพ่อลูกเย่กวงก็กลัวจนตัวสั่น
“ไม่เกี่ยวกับพวกแกงั้นหรือ?” เย่หมิงแยกเขี้ยวยิ้ม “ใครก็ได้มาลากหมาสองตัวออกไปให้หมากินที!”
ทันใดนั้น
บอดี้การ์ดตระกูลเย่สิบกว่านายก็วิ่งเข้ามา
ในมือของพวกเขายังจูงสุนัขพันธ์ทิเบตัน มาสทิฟฟ์พันธุ์แท้ที่มีราคาสูงเป็นแสนหยวนเข้ามาหลายตัว ฟันของพวกมันยังปรากฏคราบเลือดให้เห็น