กู้ชูหน่วนย้อนกลับมาอีกครั้ง

นางนวดขมับที่ปวดตุบๆของตัวเอง แล้วพูดออกมาว่า “พวกเราหลงอยู่ในค่ายกลแล้ว แถมยังเป็นค่ายกลที่สุดยอดมากด้วย”

“นายหญิงมีวิธีแก้ค่ายกลไหมขอรับ?”

กู้ชูหน่วนส่ายหัว

นางเพิ่งจะเคยเห็นค่ายกลที่ซับซ้อนแบบนี้เป็นครั้งแรก ไม่มีสามถึงห้าปีก็คงแก้ไม่ได้หรอก

“ถ้าทางลับไปไม่ได้ งั้นข้าน้อยปกป้องทุกคนบุกหน้าประตูใหญ่แล้วกัน”

“ข้าจำได้ว่าทางลับมีหลายเส้นทาง ไปทางนี้ดู ถ้าไม่ได้จริงๆค่อยบุกออกไปหน้าประตู”

“ขอรับ”

จอมมารถูกตบหน้าอย่างจัง

เสวียซาก้มหน้าต่ำลงไปอีก อยากจะหายตัวไปจากที่นี่จริงๆ

เขาคิดว่านายท่านจะโกรธเสียอีก แต่ทว่า ข้างหูกลับมีเสียงเรียบเฉยของนายท่านดังขึ้น

“ใช่แล้ว ต้องเดินทางนี้สิ เมื่อกี้ข้ารอนางอยู่ทางลัดนั้นนี่”

เสวียซา “เออ……”

“เสวียซา พวกเราไปดูกันเถอะ”

“ขอรับ”

เสวียซาเดินตามจอมมาร แอบเดินตามพวกกู้ชูหน่วนตลอดทาง

แต่ทว่าพวกกู้ชูหน่วนเดินอ้อมไปมา เหมือนเดินวนอยู่ในเขาวงกตขนาดใหญ่ แม้นางจะเดินไปตามทางที่เขียนสัญลักษณ์ไว้ ก็ยังกลับมาที่เดิมอยู่ดี ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาอ่อนข้อให้ เกรงว่าจะเจอเข้ากับพวกทหารแล้วล่ะ

เขาพูดเตือนอย่างระมัดระวัง “นายหญิง ทักษะค่ายกลของท่านไม่มีใครเทียบเทียมกับท่านได้ แม้จะเป็นเย่จิ่งหานกับเจ้าสำนักสำนักอสุราหรือหัวหน้าเผ่าเทียนเฟิ่น ก็ไม่มีทางทำอย่างท่านได้ ท่านลอง……สลายค่ายกลบางส่วนออก ให้ค่ายกลดูง่ายขึ้น”

จอมมารทำหน้าบึ้งตึง นัยน์ตามีเสน่ห์รู้สึกไม่พอใจ

“คนพวกนั้นคือใครกัน เทียบกับพี่สาวได้เหรอ?”

เสวียซาปาดเหงื่อ ตอบกลับว่า “ขอรับๆๆ……”

เดินวนอยู่แบบนี้

พวกกู้ชูหน่วนก็รู้สึกลนลาน

เสวียซาลนลานกว่าอีก

แต่เจ้านายของเขากลับไม่ร้อนใจเลย แถมยังพูดจาชวนให้เขาสับสนอีก

“พี่สาวกำลังตรวจสอบพื้นที่ ต่อไปจะได้มาหาข้าที่ตำหนักได้ง่ายขึ้น”

ตรวจสอบพื้นที่?

เดินวนไปมาอยู่ในนี้ เรียกว่าการตรวจสอบพื้นที่เหรอ?

“ให้ตายสิ……”

กู้ชูหน่วนอดไม่ได้สบถด่า “เจ้าบ้าที่ไหนมาวางค่ายกลนี้เนี่ย เดินยังไงก็เดินออกไปไม่ได้ แก้ไปแก้มาก็ยังอยู่ที่เดิม”

“นายหญิง……หรือว่า……พวกเราไปทางประตูใหญ่ ข้าน้อยเกรงว่ายิ่งยื้อเวลานานมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งบุกออกไปทางประตูใหญ่ยากขึ้นเท่านั้น”

“เสียเวลามาก็เยอะแล้ว พวกเขาจะเพิ่มกำลังคน ก็เพิ่มตั้งนานแล้วล่ะ ยิ่งไปกว่านั้นเดินออกไปจากประตูใหญ่ จะต้องถูกไล่ฆ่าตลอดทางแน่”

“งั้น……นายหญิงจำผิดหรือเปล่า ที่นี่ไม่มีทางลับหรือเปล่าขอรับ”

กู้ชูหน่วนอยากจะตบเขาให้คว่ำ

ไม่มีทางลับแล้วนางเข้ามายังไง?

“ถ้าข้ารู้ว่าเจ้าบ้าคนไหนตั้งค่ายกลนี้ขึ้นมา เดี๋ยวแม่จะพ่นอึใส่หน้ามันเลย”

เย่เฟิงกับฝูกวงไม่กล้าพูด

รู้จักกู้ชูหน่วนมาตั้งนาน นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นนางพ่ายแพ้ขนาดนี้

คนที่ตั้งค่ายกล ไม่รู้ว่าเป็นใครกัน ทำไมนางถึงยังแก้ค่ายกลนี้ไม่ได้กันนะ

เสวียซาอกสั่นขวัญแขวน

ผู้หญิงคนนี้ใจกล้าจริงๆ กล้าด่าจอมมารแบบนี้ได้ยังไง

เขาแอบถอยห่างออกจากจอมมารสองก้าว รอจอมมารโกรธแล้วฆ่าปาดคอกู้ชูหน่วน

แต่ว่า……

จอมมารแค่ถามว่า “อึคืออะไร?”

“คือว่า……”

เสวียซาชะงัก

จะให้เขาพูดออกมายังไง

ถึงเขาจะมีความกล้าแค่ไหนก็ไม่กล้าพูดออกมาหรอก

“ข้าน้อย……ข้าน้อยไม่ทราบขอรับ”

“ข้ารู้ว่าหมายความว่าอะไร นางกำลังด่าก็แอบชื่นชม ชมที่ข้าสามารถสร้างค่ายกลที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ออกมาได้”

เออ……

นายท่านมโนอีกแล้ว

“นานๆทีจะเจอคนที่ชื่นชมในตัวข้าเช่นนี้ ข้าก็ต้องไว้หน้านางบ้าง เดี๋ยวนางจะรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเอา”

จอมมารปัดมือใหญ่ พลังของค่ายกลก็ลดลงไปมาก