ตอนที่177 กลยุทธของจางหยาง
ทุกคนระมัดระวังอย่างมาก ขณะเข้าใกล้ห้องทำงานของฟางนี่ ทันใดนั้นทุกคนพลันได้ยินเสียงครางประหลาดที่ไม่สามารถอธิบายได้ดังออกมา ทุกคนรีบร่นถอยกลับไปทันทีด้วยความตกใจสุดขีด
“เวรแล้ว! สองคนนั้นกำลังปรับความเข้าใจกันอีท่าไหนเนี่ย? พวกเรากำลังเครียดเรื่องเลิกจ้างแท้ๆ พวกเขายังมีอารมณ์เล่นจ้ำจี้กันอยู่อีก!”
“อืม…บางทีผู้จัดการจางอาจใช้แผนสละร่างตัวเองให้ประธานฟางอยู่ก็ได้ แผนของเขาดุเดือดไม่ใช่น้อย”
“สมเหตุสมผลดี! ฮ่าฮ่า…ฟังเสียงของประธานฟางเข้าสิ ดูท่าจะเริ่มอารมณ์ดีแล้วนะ!”
“ฮ่าฮ่า…”
พวกพนักงานต่างปิดปากหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุขและรีบกลับประจำที่รอให้จางหยางเสร็จกิจ ออกมาจากห้องทำงานของฟางนี่
ในอีกด้านหนึ่ง จ้าวฝู่กำลังได้การเรื่องสัญญาธุรกรรมของส่วนผู้ถือหุ้นของบริษัทเหล่ยอู่ให้อยู่ เว้นเสียว่าฟู่เทียนให้เงื่อนไขไว้ว่า ถ้าต้องการสิทธิ์บริหารจัดการเหล่ยอู่ จะต้องโอนเงินสดเท่านั้น
แต่สิทธิ์บริหารจัดการก็ใช่ว่าจะได้หุ้นไปทั้งหมด ฟู่เทียนยังมีส่วนผู้ถือหุ้นอยู่ถึง51%ในเหล่ยอู่ แต่คนของจ้าวฝู่ต้องการสิทธิ์การบริหารทั้งหมดอย่างเบ็ดเสร็จ ดังนั้นเขาจึงต้องหาวิธีซื้อหุ้นส่วนให้ได้มากว่านี้
ฟู่เทียนกำลังอ่านเอกสารพิจารณาอยู่ในห้องทำงานส่วนตัว และรายงานตอบกลับไปว่า ถ้าคนจากฟู่ไฮ่ อินเวสเมนท์ต้องการตามนั้นจริง ก็ควรเข้ามาหารือด้วยกันอีกทีหนึ่ง
กระบวนการเจรจาเป็นไปได้อย่างราบรื่น ใช้เวลาไม่นานทั้งสองฝ่ายก็สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ โดยฟู่เทียนเสนอไปว่า ตนจะมอบหุ้นส่วนให้อีก5%แก่ ฟู่ไฮ่ อินเวสเมนท์ในราคา20ล้านหยวน ซึ่งราคานี้สูงเกินมูลค่าแท้จริงของเหล่ยอู่ไปมาก
แต่ราคาจะแพงหรือถูกกลับไม่สำคัญต่อฟู่ไฮ่ อินเวสเมนท์ ต่อให้อีกฝ่ายเสนอขายมาในราคา100ล้าน พวกเขาก็ยินดีที่จะจ่าย เพราะต่างให้ที่พวกเขาได้รับบริษัทเหล่ยอู่มาได้อย่างถูกกฎหมาย พวกเขาก็สามารถส่งมอบให้คุณชายจ้าวเล่นได้อย่างอิสระ
ดังนั้นฟู่ไฮ่ อินเวสเมนท์จึงไม่คิดที่ตะต่อรองราคาใดๆเลย ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามสัญญากันทันทีและดำเนินการโอนหุ้นส่วนตามขั้นตอนต่อในช่วงบ่าย
ในความคิดของฟู่เทียน เขารู้สึกชื่นชมความ‘ตาถึง’ของฟู่ไฮ่ อินเวสเมนท์ไม่ใช่น้อย เพราะพวกเขาเล็งเห็นแล้วว่าบริษัทเหล่ยอู่จะขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งแห่งอุตสาหกรรมเกมแน่นอน พวกเขาจึงเข้าซื้อชนิดจ่ายได้จ่ายหมด
เขาอยากจะอวดข่าวดีนี้ใหใครสักคน จึงโทรหาฟางนี่ทันที
“ฮาโหล คุณฟางสบายดีไหมครับ?”
ฟู่เทียนเปิดฉากเอ่ยถามขึ้นอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส
ฟางนี่พลันนึกไปว่า ที่อีกฝ่ายโทรหาเธอแบบนี้คงจะเป็นเรื่องโปรเจคความร่วมมือ ดังนั้นเธอจึงรีบตอบกลับทันทีอย่างยิ้มแย้มว่า
“คุณฟู่ดูอารมณ์ดีไม่น้อยเลยนะคะ สงสัยจะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นกับคุณแน่นอนเลย?”
“คุณเดาถูกต้อง! ผมเพิ่งลงนามสัญญาข้อตกลงกับฟู่ไฮ่ อินเวสเมนท์ อีกไม่นานเหล่ยอู่ของผมจะขึ้นกลายมาเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งแห่งอุตสาหกรรมเกมแล้ว! ตอนนี้รู้สึกเสียใจไหมล่ะที่ไม่ได้ทำโปรเจคร่วมกับผม! ฮ่าฮ่า…”
ฟู่เทียนระเบิดหัวเราะอย่างมีชัย
ฟางนี่รู้สึกเสียดายไม่น้อยเลย แต่เธอเองก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกัน คนระดับฟู่เทียนไม่ใช่สิ่งที่เธอจะยั่วยุได้แม้แต่น้อย
“คุณฟู่ล้อเล่นแล้ว ดิฉันไม่มีอะไรต้องเสียใจหรอกค่ะ คงทำได้เพียงขอแสดงความยินดีด้วยนะคะที่บริษัทของคุณฟู่พัฒนาขึ้นอีกระดับหนึ่งแล้ว”
น้ำเสียงฟางนี่เต็มไปด้วยความเสียใจ
“ถ้าคุณบังคับให้จ้าวเฉียนก้มหัวยอมรับความผิดตั้งแต่แรก ปานนี้พวกเราคงร่วมมือกันไปนานแล้ว ถ้าบริษัทผมกลายมาเป็นอันดับหนึ่ง บริษัทฟางนี่ของคุณต้องะยานขึ้นฟ้าในชั่วพริบตา! ทั้งๆที่มีโอกาสดีๆอยู่ในมือแท้ๆ คุณไม่รู้สึกเสียใจเลยงั้นเหรอ?”
ฟู่เทียนระเบิดหัวเราะเยาะลั่นอีกครั้ง จงใจยั่วยุฟางนี่อย่างชัดเจน
ฟางนี่เองก็ตระหนักดีว่า ที่เขาโทรมาเพื่อเย้ยหยันเธอโดยเฉพาะ ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงทนสภาพอันน่าอัปยศอยู่ภายในใจ
“ดีใจกับคุณฟู่ด้วยนะคะ ถึงพวกเราจะร่วมมือไปแต่โครงสร้างบริษัทของดิฉันก็เล็กเกินไปอยู่ดี ความร่วมมือคงถูกยกเลิกในไม่ช้าก็เร็ว ถ้าไม่มีธุระไรแล้ว ดิฉันขอตัวนะคะ”
ฟางนี่กดตัดสายทิ้งทันที การกระทำของฟู่เทียนทำให้เธอโกรธมากจนสะบัดแขนกวาดกองเอกสารทั้งหมดบนโต๊ะกระจายไม่เป็นท่า
เธอโกรธมากที่ฟู่เทียนสันดานทรามแบบนี้ ถึงขั้นโทรมาเยาะเย้ยถ่มถุยเธอโดยเฉพาะ อีกด้านหนึ่งก็รู้สึกโกรธตัวเองเช่นกันที่ไม่สามารถเกลี้ยกล่อมจ้าวเฉียนได้สำเร็จ ทำให้เธอพลาดโอกาสที่จะนำพาบริษัทของตัวเองพัฒนาไปอีกขั้น
จางหยางบังเอิญมาเห็นภาพฉากนี้พอดี เมื่อเห็นภรรยาของตนดูทุกข์โศกอย่างหนัก เขาจึงรีบวิ่งไปกอดและเอ่ยถามด้วยความกังวลว่า
“เกิดอะไรขึ้น? ไอ้เจ้าฟู่เทียนมันพูดอะไรกับคุณ?”
“หึ! ไอ้เลวทรามนั้น! มันไร้ยางอายเกินไปแล้ว! มันโทรมาอวดกับฉันว่า ฟู่ไฮ่ อินเวสเมนท์เพิ่งเซ็นสัญญาร่วมมือกับเหล่ยอู่ และอีกไม่นานมันจะขึ้นกลายไปเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งแห่งอุตสาหกรรมนี้ หลังจากนั้นยังมีหน้ามาถามฉันอีกว่า รู้สึกเสียใจไหมทที่ไม่ได้ร่วมมือกับมัน! ดูสิ่งที่มันพูดกับฉันสิ!”
ฟางนี่เคียดแค้นใจอย่างยิ่ง
จางหยางถึงกับใจสั่นเช่นกันเมื่อได้ยินว่า ฟู่ไฮ่ อินเวสเมนท์เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมเกม การันตีได้เลยว่าเหล่ยอู่จะต้องกลายมาเป็นพระอาทิตย์แห่งวงการเกมรายต่อไปแน่นอน
ฟู่ไฮ่ อินเวสเมนท์ไม่เพียงแค่ร่ำรวย แต่บริษัทนี้ยังเป็นดั่งกุญแจแห่งความสำเร็จที่ทุกบริษัทใฝ่ฝันอยากจะร่วมลงทุนด้วย
“เสี่ยวนี่ ไอ้คนแบบนี้อย่าไปโกรธให้เสียเวลาเลย! ผมกำลังจะพาหวังเฉียงออกไปพบลูกค้าเพิ่มอีกสองสามราย ผมจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นเอง!”
จางหยางกล่าวปลอบโยน
ฟางนี่พยักหน้าและบอกจางหยางให้ขับรถระมัดระวัง
จางหยางพยักหน้าพร้อมจุ๊บหน้าผากของฟางนี่ไปทีหนึ่ง และก็พาหวังเฉียงกับเจียงเสี่ยวปิงออกไปทันที
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หวังเฉียงสงสัยที่สุดคือ ทำไมผู้จัดการจางถึงต้องพาเจียงเสี่ยวปิงมาด้วยในครั้งนี้?
“ผู้จัดการจาง พวกเราทั้งคู่ก็ออกไปดิลลูกค้าประจำอยู่แล้ว ทำไมครั้งนี้ถึงต้องพาเธอมาด้วย?”
หวังเฉียงเอ่ยถามเจือสีหน้าสงสัย
“ฉันมีแผนเตรียมไว้แล้ว นายรอดูไปเถอะ”
จางหยางยิ้มตอบ
“โอ้? แล้วเราจะไปไหนกันดีตอนนี้?”
หวังเฉียงเอ่ยถามต่อ
“ไปบริษัทเหล่ยอู่ พวกเขาเพิ่งร่วมมือกับฟู่ไฮ่ อินเวสเมนท์ ในสามถึงห้าปี พวกเราจะขึ้นเป็นยักษ์ใหญ่แห่งวงการเกมแน่นอน ถ้าอยากจะกู้วิกฤตบริษัทของเราในครั้งนี้ มีแต่ต้องพึ่งพาพวกเขาเท่านั้น!”
จางหยางรีบอธิบายให้ฟังทันที
ทั้งสามมาถึงที่เหล่ยอู่ในไม่ช้า และพวกเขาใช้เวลานั่งรอนานมากกว่าจะได้พบกับฟู่เทียน
พวกเขาทั้งสองฝ่ายกล่าวทักทายกันสักพัก หลังจากนั้นประมาณ10นาทีเห็นจะได้ จางหยางก็เข้าเรื่องที่มาในวันนี้ทันที
“คุณฟู่ ตราบใดที่เหล่ยอู่ยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับเรา ทางผมจะโอนหุ้นส่วนบริษัทฟางนี่ให้คุณฟู่ทันทีในราคาถูก ในอนาคต พวกเราจะยอมขึ้นตรงกับบริษัทเหล่ยอู่ในฐานะฐานผลิตเกมก็ยังได้ เรื่องโปรโมทกับอัปเดตตัวเกม ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเราได้เลย ทางคุณฟู่ไม่ต้องมีส่วนรับผิดชอบหรือต้องจ่ายสักแดงเดียว”
เงื่อนไขน่าดึงดูดขนาดนี้ ฟู่เทียนถึงกับยิ้มให้พร้อมเอ่ยถามไปว่า
“ถ้าอย่างนั้นคุณจะขายให้ผมในราคาเท่าไหร่?”
จางหยางยิ้มและตอบกลับไปว่า
“เรื่องนี้ปล่อยให้ผู้ช่วยเจียงคุยกับคุณฟู่อีกทีล่ะกันครับ ผมมอบโปรเจคนี้ให้เธอรับผิดชอบไป ยังไงผมก็ขอตัวออกไปคุยกับรองผู้จัดการหวังก่อนนะครับ มีอะไรสามารถถามเธอคนนี้ได้เลย”
หลังจากผู้จบ จางหยางก็ขยิบตาให้หวังเฉียงและพาเขาออกไปทันที
เจียงเสี่ยวปิงตกตะลึงอย่างมากที่จู่ๆจางหยางก็ปล่อยเธอทิ้งไว้คนเดียวแบบนี้ และตระหนักได้ในทันใดว่า จางหยางต้องการให้เธอใช้เสน่ห์เล่ห์กลเพื่อครองใจฟู่เทียนให้อยู่หมัด
หวังเฉียงที่รู้ดังนั้นก็อารมร์เสียอย่างมากด ถึงเขาจะไม่อยากคบกับเจียงเสี่ยวปิงอีกต่อไปแล้ว แต่เขาก็ยังกุ๊กกิ๊กอยู่กับเธอบ้างเป็นครั้งคราว แต่นี่จางหยางถึงกับใช้เธอเป็นเหยื่อล่อเพื่อตกปลาใหญ่
“ผู้จัดการจาง นี่มันหมายความว่ายังไงครับ?”
หวังเฉียงโผล่ตัวถามขึ้นทันทีด้วยความโกรธ
จางหยางตบไหล่หวังเฉียงเล็กน้อยและกล่าวปลอบไปว่า
“พวกเราทั้งสองไม่สามารถทดแทนหน้าที่ของเธอได้ ถือซะว่าทำเพื่อบริษัทนะ ลองนึกถึงตอนที่บริษัทของเรามีกำไรเข้ามาสิ คนที่ได้ผลประโยชน์ก็ไม่ใช่พวกนายเองหรอกเหรอ? ฉันสัญญานะ ทันทีที่เราร่วมมือกับเหล่ยอู่เมื่อไหร่ ฉันจะซื้อคอนโดสามห้องนอนให้นายเลยฟรีๆ แต่ถ้าวันนี้เราทำไม่สำเร็จ ไม่ต้องพูดถึงคอนโดเลย พวกเราตายหมู่แน่นอน”
หวังเฉียงที่ได้ยินแบบนั้นถึงกับพูดไม่ออกเช่นกัน ถ้าแลกกับที่อยู่อาศัยถาวรไปแบบฟรีๆ ถึงเจียงเสี่ยวปิงจะโดนต้มยำทำแกงอะไรก็คงต้องยอม ถึงอย่างไรก็เลิกกันไปนานแล้วไม่ใช่เหรอ?
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เจียงเสี่ยวปิงและฟู่เทียนเดินออกมาด้วยกัน
ฟู่เทียนคลี่ยิ้มกว้างดูพึงพอใจอย่างมาก เขายิ้มกล่าวกับจางหยางว่า
“ผู้จัดการจาง ผู้ช่วยของคุณเป็นงานดีนะ ฉันขอชื่นชมความสามารถส่วนตัวของเธอเลย วันหลังฉันอยากได้เธอมาช่วยงานอีกคงดีไม่น้อย หวังว่าผู้จัดการจางจะยอมนะครับ?”
จางหยางปั้นหน้าแสร้งทำเป็นลังเลใจ และตอบกลับไปว่า
“อืม…ตราบใดที่คุณฟู่ยอมร่วมมือกับเรา เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาเลยครับ”
“เอาแบบนี้แล้วกัน ส่วนกำไรจากโปรเจคที่พวกเรากำลังจะร่วมมือกัน ให้ฉันเพิ่มอีก10% ว่ายังไง?”
ฟู่เทียนลอบแสยะยิ้มแสนชั่วร้ายออกมา และกล่าวฟันราคาอย่างไร้ยางอาย
“ฮ่าฮ่า…คุณฟู่จริงใจกับพวกเรามากจริงๆ ได้แน่นอนครับ”
จางหยางทำได้เพียงยอมรับข้อตกลงไปอย่างจนใจ
“เอาล่ะ! ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็พร้อมเซ็นสัญญากันแล้ว! ยิ่งเร็วยิ่งดีเลย แล้วผมหวังว่าพรุ่งนี้เธอจะมากับคุณด้วยนะ”
“ไม่มีปัญหาครับ งั้นพวกเราขอตัวกลับก่อน ผมจะรีบจัดเตรียมเอกสารสัญญาคืนนี้เลยครับ”
“ตกลง”
ฟู่เทียนยิ้มให้เจียงเสี่ยวปิง และเฝ้ามองทั้งสามจากไป
ในความเห็นของจางหยาง ทุกคนในที่แห่งนี้ล้วนได้รับชัยชนะทั้งสิ้น
หวังเฉียงได้คอนโดอยู่ฟรีๆ จางหยางได้ร่วมมือกับเหล่ยอู่ ส่วนฟู่เทียนได้เมียน้อยสาวอย่างเจียงเสี่ยวปิง และทางด้านเจียงเสี่ยวปิงเองก็มีความสุขไม่น้อยเช่นกัน ได้มีเสี่ยเลี้ยงระดับฟู่เทียน เธอไม่ต้องกังวลกับชีวิตในวันข้างหน้าอีกแล้ว แถมยังมีโอกาสได้ล้างแค้นจ้าวเฉียนอีก
ในอีกด้านหนึ่ง จ้าวเฉียนก็ใช้ช่วงเวลาเหล่านี้พันผ่อน รอสิทธิ์การบริหารบริษัทเหล่ยอู่มาประเคนถึงมือ