สมบัติเวทย์สวรรค์!

 

เย่หยวนจับจ้องชายหนุ่มตรงหน้าอย่างพินิจตั้งใจ

เขาไม่คิดจริงๆว่า อีกฝ่ายจะยอมมอบบุปผาคุนหวูง่ายๆเช่นนี้

ก่อนหน้า เย่หยวนยังคำนวณถึงความเป็นไปได้มากมายที่อาจจะเกิดขึ้น และเตรียมใจรับมือทุกสถานการณ์ รวมถึงหากต้องถึงขั้นสัประยุทธ์ลงมือ

ทว่าความเป็นไปได้เดียวที่เขานึกไม่ถึงก็คือ การที่อีกฝ่ายยอมมอบของให้ตนโดยไม่มีเงื่อนไขใด

ได้รับบุปผาคุนหวูกับมือแล้ว เย่หยวนรู้สึกดั่งว่าฝันไป

 

“ท่านอาวุโส…ทำไม?”

เย่หยวนกล่าวถามขึ้นอย่างสงสัย

 

ชายหนุ่มคลี่ยิ้มบางพลางกล่าวตอบว่า

“ข้าเองก็มีปัญหากับพฤกษาวิญญาณมรณะมาเนินนานแล้ว เจ้านั้นน่าสะอิดสะเอียนเกินทน แต่สุดท้ายก็ถูกกำจัดทิ้งไปเสียที เจ้าทำได้ดีมาก! ดังนั้นนี่ถือเป็นรางวัลที่เจ้าควรได้รับแล้ว! นอกจากนี้เอง ข้ามีหน้าที่ช่วยเหลือผู้สืบทอดของตาแก่จอมเทพนิรันดร์อยู่แล้ว ส่วนที่ว่าเจ้าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ นั้นขึ้นอยู่กับชะตาของเจ้าแล้ว”

 

เย่หยวนอดฉงนใจมิได้ เขาได้ยินบุคคลชื่อ‘จอมเทพนิรันดร์’มาเกินสองสามครั้งแล้ว รวมไปถึงข้อสงสัยก่อนหน้าที่ยังค้างคา เพราะเหตุใดดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ถึงถูกเรียกว่า ดินแดนพฤกษานิรันดร์

แล้ว ‘ดินแดนพฤกษานิรันดร์’ กับ ‘จอมเทพนิรันดร์’ มีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่!

 

“ผู้เยาว์มีข้อสงสัยโปรดท่านอาวุโสแถลงไข ดินแดนพฤกษานิรันดร์คืออะไร? แล้วทำไมมีบางคนเรียกดินแดนศักดิ์สิทธิ์ว่า ดินแดนพฤกษานิรันดร์?”

เย่หยวนเอ่ยถามขึ้นทันที

 

คุนหวูยิ้มและกล่าวว่า

“คำว่า ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เป็นสิ่งที่พวกเจ้าเรียกขานตั้งกันเอง แต่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเจ้าเชื่อกันว่าเป็นจุดสูงสุดแห่งผืนพิภพ ในความเป็นจริง นี่กลับเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น! และแน่นอนว่าที่แห่งนี้ก็มีจักรพรรดิดินแดนเช่นกัน และนั้นก็คือ ตาแก่จอมเทพนิรันดร์!”

 

“ตาแก่จอมเทพนิรันดร์?”

เย่หยวนพลันขมวดคิ้วหนาทวนคำถามในทันใด

 

คุนหวูพยักหน้าและอธิบายต่อว่า

“จอมเทพนิรันดร์คือผู้สร้างดินแดนพฤกษานิรันดร์แห่งนี้ขึ้นมาและตั้งตนขึ้นเป็นจักรพรรดิดินแดน เมื่อบรรลุสู่อาณาจักรนิรันดร์ หนึ่งกระบวนสร้างโลก และดินแดนพฤกษานิรันดร์แห่งนี้ก็เป็นโลกที่ตาแก่จอมเทพนิรันดร์สร้างขึ้นมา”

มิใช่เพียงแค่เย่หยวน ทุกคนที่ได้ยินต่างสั่นสะท้านถึงทรวงในเมื่อได้ยินคำอธิบายเหล่านี้!

นี่ถึงขั้นสร้างโลก! นี่เป็นการดำรงอยู่ที่เกินขอบเขตจินตนาการไปแล้วโดยสมบูรณ์!

ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเขาอาศัยอยู่ กลับกลายเป็นว่าถูกสร้างขึ้นโดยจอมเทพท่านหนึ่ง!

 

“สะ-สร้างโลก! ทะ-ท่าน…ท่านอาวุโสมิได้ล้อเล่นใช่หรือไม่?”

แม้ประสบการณ์ความรู้ของเย่หยวนค่อนข้างกว้างไกลไพศาล แต่เรื่องนี้ยังต้องทำให้เขากลายไปเป็นคนโง่งมในบัดดล

ผลกระทบต่อจิตใจจากคำอธิบายเหล่านี้ของคุนหวูช่างยอดเยี่ยมเกินไปนัก!

 

“เหอะ ข้าเองก็มิใช่คนขี้เล่นขนาดนั้น! การสร้างโลกกลับมิใช่เรื่องน่าตื่นเต้นอันใด แต่การสร้างโลกก็มิใช่สิ่งที่ทุกคนจะทำได้เช่นกัน ในปัจจุบันเจ้าไม่มีทางเข้าใจได้แน่นอน รอจนกว่าสักวัน เจ้าจะสามารถออกจากดินแดนพฤกษานิรันดร์ได้ เมื่อนั้นเจ้าจะเข้าใจทุกอย่างเองโดยธรรมชาติ”

 

เย่หยวนสูดหายใจเข้าลึกๆแช่มช้า คำกล่าวนี้ของคุนหวูได้เปิดโลกใบใหม่ให้แก่เขา

เขาไม่เคยคิดไม่เคยฝันเลยว่า ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้จะถูกสร้างขึ้นมา!

และก็คาดไม่ถึงเช่นกันว่า เส้นทางแห่งการต่อสู้ของมนุษย์จะสามารถพัฒนาได้ถึงอาณาจักรพลังที่น่าทึ่งเพียงนี้!

หากวาจาคำอธิบายนี้มิได้ออกจากปากคุนหวูโดยตรง เย่หยวนไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด

เมื่อบรรลุขึ้นสู่อาณาจักรพลังที่เหมาะสม ก็จะสามารถสร้างโลกเป็นของตัวเองได้ ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในปัจจุบัน ย่อมไม่สามารถจินตนาการถึงได้เลย

 

หลังจากนั้นไม่นาน เย่หยวนก็ได้สติฟื้นตัวจากความตื่นตะลึง เขาเอ่ยถามต่อว่า

“ท่านอาวุโส ในเมื่อศาสตร์แห่งสวรรค์ได้สูญสิ้นไปแล้ว เหตุใด…เหล่าการดำรงอยู่ภายในเขตพระเจ้าต้องห้ามถึงดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบเลย”

เย่หยวนกล่าวขึ้นด้วยความสงสัยอย่างยิ่งยวด ไม่ว่าจะเป็นพฤกษาวิญญาณอมตะ หรือ พฤกษาคุนหวูที่อยู่ตรงหน้า ขอบเขตพลังของทั้งคู่ เย่หยวนกลับไม่สามารถหยั่งรู้ได้เลยแม้สักนิด

แตกต่างจากท่านบรรพบุรุษแห่งเผ่ามังกร และซือโปเทียน ถึงขุมพลังความแกร่งกล้าจะเกินหยั่งรู้เช่นกัน แต่ก็ยังเห็นได้ชัดว่าอาณาจักรพลังของพวกเขาถูกจำกัดเอาไว้

 

คุนหวูยิ้มและกล่าวอธิบายว่า

“เพราะพวกเราทั้งหมดที่อยู่ที่นี่มิได้ถือกำเนิดในดินแดนพฤกษานิรันดร์แห่งนี้ และมิได้บรรลุเต๋าจากที่นี่เช่นกัน ดังนั้นพวกเราจึงมิได้ถูกระงับพลังเอาไว้”

 

เย่หยวนยิ่งตกใจสุดขีดเมื่อได้ยิน ปรากฏว่าพวกเขาทั้งหมดที่อยู่ที่นี่มาจากดินแดนอื่น?

แต่ทันใดนั้น เย่หยวนพยันนึกอะไรขึ้นได้ แต่ในขณะที่กำลังจะเอ่ยปากกล่าว คุนหวูกลับหยุดไว้เสียก่อน

 

“อย่าได้คิดเชียว! ทุกคนในเขตพระเจ้าต้องห้ามไม่สามารถออกจากเขตแดนนี้ได้! ยิ่งไปกว่านั้นดินแดนพฤกษานิรันดร์แห่งนี้ใกล้สิ้นสุดอายุขัยของมันแล้ว มันไม่สามารถทนรับพลังของพวกเราได้ไหว ทันทีที่เริ่มลงมือ ดินแดนพฤกษานิรันดร์แห่งนี้ได้พินาศก่อนแน่นอน!”

คุนหวูกล่าวขึ้น

 

เย่หยวนมองหน้าอีกฝ่ายด้วยสีหน้าอันผิดหวัง เขาคิดได้ว่า หากพฤกษาคุนหวูมิได้ถูกระงับพลังเอาไว้ บางทีเขาอาจให้ความช่วยเหลือ เข้าจัดการข่านนั่วด้วยตัวเอง

 

เย่หยวนอดกล่าวอย่างเศร้าโศกมิได้ว่า

“ท่านอาวุโส แล้วเกิดอะไรขึ้นกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์กัน? ไฉนศาสตร์แห่งสวรรค์ถึงหายสาปสูญไป?”

 

คุนหวูยักไหล่เล็กน้อยพร้อมกล่าวตอบว่า

“เพราะตาแก่จอมเทพนิรันดร์ตายแล้ว!”

 

หนึ่งประโยคดังขึ้น ทำเอาเย่หยวนฉุดคิดได้ถึงอะไรบางอย่าง

จอมเทพผู้สร้างโลกเองก็ตายเป็นเช่นกัน?

ถ้าเช่นนั้นต้องเป็นจอมเทพที่ไร้เทียมทานเพียงใดถึงสามารถฆ่าลงได้?

 

 

“อย่างไรก็ตาม…เดิมทีอายุขัยของดินแดนพฤกษานิรันดร์ไม่ควรเสื่อมถอยเร็วขนาดนี้ เมื่อห้าล้านปีก่อน ตาแก่จอมเทพนิรันดร์ได้ตัดขาดทุกการเชื่อมต่อกับดินแดนพฤกษานิรันดร์ไป มีความเป็นไปได้สูงว่า เขาอาจตายลงไปแล้ว แต่อายุขัยของดินแดนพฤกษานิรันดร์ยังคงดำเนินต่อไปเป็นปกติ จนกระทั้งหนึ่งแสนปีก่อน หนึ่งในสามสมบัติเวทย์สวรรค์ของเขาได้ถูกคนอื่นขโมยไป จึงส่งผลให้ดินแดนพฤกษานิรันดร์เสื่อมโทรมลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากขาดสมดุลไป ศาสตร์แห่งสวรรค์สูญสิ้น พลังฉีลี้ลับไม่มีอีกต่อไป นั้นจึงทำให้ผู้คนในยุคหลังไม่สามารถขึ้นกลายเป็นเซียนอาณาจักรพระเจ้าได้”

 

เย่หยวนหรี่ตาแคบจับจ้องอย่างเอาจริงเอาจัง พลางกล่าวพึมพำว่า

“สมบัติเวทย์สวรรค์?”

 

คุนหวูหันเข้าจับจ้องเย่หยวน พร้อมกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มที่มิใช่รอยยิ้มว่า

“เจ้าเองก็มีเหมือนกันมิใช่รึ? แถมยัง…มิใช่แค่ชิ้นเดียว!”

 

กายาเย่หยวนสั่นสะท้านคล้ายฟ้าผ่า เขาโพล่งตาโตเท่าไข่ห่านอุทานขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า

“หรือท่านอาวุโสจะหมายถึง…ศิลาจารึกเลื่องสวรรค์กับไข่มุกสยบวิญญาณ?”

 

คุนหวูคตลี่ยิ้มกว้างและกล่าวสวนขึ้นว่า

“หากเป็นอย่างอื่นนอกเหนือจากไข่มุกสยบวิญญาณแล้ว ยังมีอะไรบ้างบนผืนพิภพที่สามารถกำจัดเจ้าบัดซับพฤกษาวิญญาณมรณะได้?”

เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ น้ำเสียงของคุนหวูก็เจือสะใจมิใช่น้อย

เย่หยวนที่ได้ยินแบบนั้นก็คาดเดาได้ทันทีว่า ความสัมพันธ์ระหว่างพฤกษาคุนหวูกับพฤกษาวิญญาณมรณะมิค่อยดีนัก

อย่างไรก็ตามแต่ สิ่งนี้ได้สร้างคลื่นมหึมาเข้าถาโถมสู่จิตใจของเย่หยวนเข้าเต็มๆ

เขาไม่เคยทราบมาก่อนเลยสักนิด แท้ที่จริงแล้ว ต้นกำเนิดของศิลาจารึกเลื่องสวรรค์กับไข่มุกสยบวิญญาณคืออะไรกันแน่

ไม่น่าแปลกใจที่แม้แต่ยอดเซียนอย่างเซียนเต๋าสวรรค์ยังไม่สามารถเข้าถึงความลึกซึ้งของศิลาจารึกเลื่องสวรรค์ได้

 

“ตาแก่จอมเทพนิรันดร์มีสมบัติเวทย์สวรรค์ทั้งหมดสามชิ้น หนึ่งคือศิลาจารึกบัลลังก์พิภพ, สองคือไข่มุกสยบวิญญาณ และสาม…ดาบแห่งจักรวาล! สามสมบัติเวทย์สวรรค์มีหน้าที่รักษาความสมดุลของดินแดนพฤกษานิรันดร์ ดังนั้นแล้ว เมื่อดาบแห่งจักรวาลหายไป ดินแดนพฤกษานิรันดร์จะไร้เสถียรในทันที ผลกระทบที่หนักที่สุดคือ ไม่มีศาสตร์แห่งสวรรค์อีกต่อไป”

คุนหวูเอ่ยอธิบายเสียงเรียบเย็น

 

เย่หยวนพรูหายใจเย็นเข้าออกอย่างเงียบๆ

ทุกวาจาคำกล่าวของคุนหวูได้สร้างคลื่นความผันผวนกระทบสู่จิตใจโดยตรง

เพราะนั้นล้วนแต่เป็นความลับสุดยอดของดินแดนพฤกษานิรันดร์แห่งนี้!

 

ผู้คนบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่อาศัยอยู่มาเนินนาน กลับไม่มีใครรู้เลยว่านี่เป็นเพียงดินแดนที่ถูกสร้างขึ้นโดยคนๆหนึ่ง

สุดท้ายนี้ ทุกคนกลับเป็นแค่กบน้อยในก้นบ่อ!

ภายนอกดินแดนแห่งนี้ ยังมีจักรวาลอันกว้างใหญ่ไร้สิ้นสุดรออยู่!

 

นี่เป็นความลับสุดยอดอายุนับหลายล้านปี เย่หยวนที่ได้รับรู้ในวันนี้จะไม่ตกใจได้อย่างไร?

 

เย่หยวนไม่คิดไม่ฝันเลยว่า สองในสามสมบัติเวทย์สวรรค์อันยิ่งใหญ่จะตกอยู่ในมือเขาโดยบังเอิญเช่นนี้จริงๆ!