บทที่11 เรียนเชิญท่านประธาน
พอเซียวไห่หลงคำนับเสร็จเรียบร้อยสามครั้ง น้ำตาแห่งความอัปยศก็เอ่อล้นดวงตา
แต่ว่าครั้งนี้เขาไม่กล้าก่อเรื่องอีก
เพราะเขารู้ว่า ตอนนี้คุณย่ากำลังไม่พอใจเขาอย่างแรงกล้า
ตัวเขาเองในเวลานี้ ยังไงก็ไปแหย่คุณย่าให้โกธรอีกไม่ได้แน่นอน
นายหญิงใหญ่เซียวเห็นเซียวหลงไห่คำนับรับผิด ในใจก็รู้สึกคลายลงบ้าง
หล่อนเองก็ไม่อยากให้หลานชายคำนับให้กับสวะอย่างเย่เฉินสักเท่าไหร่นัก แต่ประเด็นสำคัญคือเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเป็นความตายของตัวหล่อนเอง
หล่อนนับถือพระมาโดยตลอด หากว่าเซียวไห่หลงไม่คำนับรับผิด เกรงว่าหล่อนคงจะกินอยู่หลับนอนไม่เป็นสุขนัก เกรงว่าเวรกรรมจะตามทัน
ดังนั้น หล่อนมองไปที่เซียวไห่หลง พูดเสียงเรียบ“ไห่หลง คำนับสามครานี้ เป็นบทเรียนให้กับเจ้าเองนะ ต่อไปเรื่องที่ไม่มีความมั่นใจ อย่าเที่ยวไปพนันกับใครอีก ต่อให้พนัน ก็อย่าไปสร้างความบรรลัยให้ใครที่ไหน!”
เซียวไห่หลงน้ำตานองหน้า พูดขึ้น“คุณย่าครับ ผมทราบแล้วครับ ต่อไปผมไม่กล้าแล้วครับ……”
ในตอนที่พูด แววตาลอยไปจับที่เย่เฉิน เฝ้ามองเขาอย่างร้ายกาจ ในใจคิด สวะคนนี้ บังคับให้ฉันคำนับให้แก ขายขี้หน้านัก ช้าเร็วฉันต้องเอาแกถึงตายแน่นอน!
จากนั้น นายหญิงใหญ่เซียวจึงพูดขึ้น“ในเมื่อวันนี้ได้หนังสือสัญญามาเป็นเรื่องที่น่ายินดีช่วงนี้ทุกคนต้องเตรียมพร้อมให้ดี พวกเราต้องอาศัยโอกาส สร้างคอนเนคชั่นกับตี้เหากรุ๊ป!”
เย่เฉินพูดเตือนอยู่ข้างๆ“คุณย่าครับ ในเมื่อชูหรันคุยการร่วมมือของโครงการมาได้สำเร็จ งั้นตำแหน่งผู้อำนวยการของบริษัทจะต้องตกเป็นของชูหรันใช่หรือไม่”
นายหญิงใหญ่เซียวกระตุกคิ้วขึ้นทีหนึ่ง ในใจอดแอบคิดขึ้นมาไม่ได้
หล่อนเป็นคนพูดเองว่าถ้าใครได้หนังสือสัญญามา ก็จะได้เป็นผู้อำนวยการ
แต่ว่า พอนึกว่าเซียวชูหรันไม่เคยเป็นที่โปรดปราน และผัวสวะของเธอก็ทำให้หล่อน เหม็นขี้หน้ามาโดยตลอด ในเธอก็เต้นเป็นกลองรัว
ถ้ายกระดับเซียวชูหรันขึ้นมา ต่อไปไม่ต้องโดนเธอควบคุมหรอกหรือ แล้วจะทำอย่างไรดี
ในตอนนี้ หล่อนอยากจะถอนคำมั่นสัญญาคืนอย่างยิ่ง
อย่างไรเสียตอนที่หล่อนให้คำมั่นสัญญาหล่อนไม่ได้สาบานเสียหน่อย ต่อให้หล่อนถอนคำพูดก็ยังคงสบายใจ
หล่อนรู้สึกว่าคำพูดเหล่านี้ จะพูดตอนที่เซียวชูหรันเพิ่งเซ็นสัญญามาใหม่ๆไม่ได้ จึงพูดขึ้น“แบบนี้แล้วกัน คืนวันพรุ่งนี้ ย่าจะจัดงานเลี้ยง จะเชิญแขกเหรื่อผู้มีหน้ามีตาในเมือง จินหลิงมา พอถึงเวลา ย่าจะประกาศความร่วมมือของตี้เหากรุ๊ป กับผู้รับตำแหน่งผู้อำนวยการคนใหม่”
ได้ยินแบบนี้ เย่เฉินถอนหายใจออกมาด้วยความพึงพอใจ
เซียวชูหรันยิ้มออกมาอย่างอ่อนหวาน ดูแบบนี้แล้วตำแหน่งผู้อำนวยการคงไม่พ้นจะเป็นของเธอ ต่อไปเธอก็จะได้ไม่ต้องถูกผู้คนกีดกัน บิดามารดาก็ได้ลืมตาอ้าปากเป็นผู้เป็นคน!
นายหญิงใหญ่เซียวหันหน้ามา มองดูเซียวชูหรัน เปิดปากพูดขึ้น“ชูหรัน ยังมีอีกเรื่องนึงย่าอยากให้เจ้าช่วยเหลือ”
เซียวชูหรันกุลีกุจอพูดขึ้น“คุณย่า เชิญว่ามาเลยค่ะ”
นายหญิงใหญ่เซียวกล่าว“ย่าอยากให้เจ้าติดต่อท่านประธานของตี้เหากรุ๊ปสักหน่อย เชิญเขามาร่วมงานในวันพรุ่งนี้”
ชะงักเล็กน้อย หญิงชราพูดอย่างมีความหวัง“ถ้าหากเขามางานเลี้ยงของเราได้ สำหรับตระกูลเซียวของเราแล้ว ย่อมเป็นเรื่องมงคลแน่นอน และก็ทำให้เราได้รับยศถาบรรดาศักดิ์พร้อมชื่อเสียง!”
เซียวชูหรันครุ่นคิดชั่วครู่ เอ่ยขึ้นอย่างลังเล“แต่ว่า……คราวที่แล้วที่หนูไปก็ได้เจอแต่เพียงหวังตงเสวี่ยนรองประธานเท่านั้นนะคะ ยังไม่เคยได้พบตัวท่านประธานเลย……อีกอย่าง พวกเราเพิ่งได้รับโครงการจากพวกเขามา แล้วมาจัดงานเลี้ยงแบบนี้ จะดูจงใจเกินไปหรือไม่คะ……”
“แล้วยังไงล่ะ ย่าก็จะประกาศก้องให้คนทั่วทั้งเมืองจินหลิงรู้ว่า ตอนนี้เราอยู่กับหัวเรือใหญ่อย่างตี้เหากรุ๊ป ต่อไปตระกูลเซียวของเราเจริญรุ่งเรืองแล้ว!”
หญิงชราพูดจบจึงกล่าวขึ้นอีก“ต่อให้ท่านประธานไม่อยากมาเอง เชิญให้หวังตงเสวี่ยนมาแทนก็ได้นี่นา หล่อนเป็นหมายเลขสองของตี้เหากรุ๊ปมิใช่หรือ เชิญหล่อนมาก็มีหน้ามีตาเหมือนกัน”
พูดมาถึงตรงนี้นายหญิงใหญ่เซียว ดูตื่นเต้นยกใหญ่
เมื่อหล่อนคิดมาถึงว่า ตระกูลใหญ่ๆที่เคยดูแคลนตระกูลเซียวก่อนหน้า ต่อไปคงต้องยืมจมูกตระกูลเซียวหายใจแล้วล่ะ ในใจก็รู้สึกกระชุ่มกระชวย
ตระกูลเซียว อยู่ในมือของหล่อน ก็จะยิ่งรุ่งโรจน์ขึ้นไปอีก!
เซียวชูหรันนิ่งคิดชั่วครู่ จึงตอบออกไปอย่างลังเล“หนูเข้าใจแล้วค่ะ หนูจะลองดู……”
“ไม่ใช่แค่ลองดู!แต่ต้องเชิญมาให้ได้!”
เซียวชูหรันพยักหน้ารับเบาๆ จากนั้นจึงแอบกระซิบถามเย่เฉินว่า“เอายังไงดี ถ้าเกิดท่านประธานของตี้เหากรุ๊ปไม่มาจะทำไงดี แล้วถ้าหวังตงเสวี่ยนไม่มาด้วยล่ะ”
เย่เฉินหัวเราะเหอะๆ พูดขึ้น“ลองดูเถอะ เธอมีโทรศัพท์ของหวังตงเสวี่ยนไม่ใช่เหรอ ไม่แน่ว่าพอเธอโทรไป ฝ่ายตรงข้ามอาจจะยินยอมก็ได้”
งานเลี้ยงที่ตระกูลเซียวต้องการจัด นอกจากต้องการจะอวดศักดาของตระกูลเซียวสู่ภายนอกแล้ว ยังจะเป็นการประกาศการรับตำแหน่งผู้อำนวยการของเซียวชูหรันอีกด้วย
ภรรยารับตำแหน่งผู้อำนวยการ คนเป็นสามี ต้องไปให้กำลังใจอยู่แล้ว
ตอนนี้ไหนเลยเซียวชูหรันจะรู้ได้ว่าสามีของตนเองนั้น ก็คือท่านประธานของตี้เหากรุ๊ปนั่นเอง เธอยังคงทอดถอนใจออกมาอย่างสับสน พูดว่า“ฝ่ายตรงข้ามเป็นถึงท่านประธานของตี้เหากรุ๊ป แถมยังเป็นคุณชายของตระกูลใหญ่แห่งเมืองเย่นจิง บุคคลสำคัญที่มากธุระขนาดนี้ จะไปมีเวลามาร่วมงานเลี้ยงได้ไงกัน…..”
เย่เฉินยิ้มแล้วพูด“ผมว่าไม่แน่ บางทีฝ่ายตรงข้ามอาจจะอยู่บ้านเป็นเพื่อนเมียทั้งวันทั้งคืนทำกับข้าวซักผ้าก็ได้”
เซียวชูหรันกลอกตาขาวใส่ พูดกับเขาว่า“คุณคิดว่าใครๆก็เป็นเหมือนคุณหรือไง”
เย่เฉินพยักหน้า“ใช่สิ บางทีเถ้าแก่ตี้เหากรุ๊ปอาจจะเป็นเหมือนผมก็ได้……”
เซียวชูหรันเบ้ปาก พูดเสียงออดอ้อน“เชอะ!เป็นไปได้ไง!