เล่ม 1 ตอนที่ 289 ไม่ได้รังแกได้ง่ายๆ!

ราชินีพลิกสวรรค์

“พวกเจ้าเคยเป็นประชาชนของสุ่ยหัน แต่ตอนนี้พวกเจ้าคือประชาชนของข้า แล้วจะให้ข้าศึกประเทศอื่นมารังแกง่ายๆ ได้อย่างไร!”

คำพูดที่เบาบาง แต่กลับข่มขู่ผู้คน พูดออกมาจากปากของสาวน้อย ผู้คนทั้งสองฝ่ายอึ้งไป

ประชาชนชาวสุ่ยหัน แววตาเต็มไปด้วยความตะลึงและเฉื่อยชา มีเพียงสาวน้อยที่ถูกเจียงหลีช่วยชีวิตไว้คนนั้นที่หลังจากได้ยินคำพูดนี้ แววตาเผยความซาบซึ้งออกมา

นางไม่รู้จักเจียงหลี แต่เพราะว่าคำพูดนี้ทำให้ความเร่าร้อนในใจของนางลุกขึ้น!

“ฮ่าๆๆๆ! นางพูดอะไรน่ะ”

“นางคิดว่านางเป็นใครกัน”

“…”

เสียงหัวเราะเยาะเย้ย ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เหมือนพวกเขาจะลืมไปแล้วว่ามีสองคนในกองทัพของพวกเขาที่ถูกสาวน้อยตรงหน้าสังหารไป

เสียงหัวเราะเยาะเย้ยของทหารซีเฉียน ทำให้สีหน้าของประชาชนชาวสุ่ยหันค่อยๆ เปลี่ยนไป ความป่าเถื่อนของทหารเถื่อนเหล่านี้พวกเขาได้ประสบมาแล้ว จะให้สาวน้อยเป็นอันตรายอีกไม่ได้

ณ ขณะนี้ ชายชราในฝูงชนนั้นตะโกนพูดกับเจียงหลีด้วยความกล้าหาญแน่วแน่ว่า “แม่นาง เจ้ารีบกลับมาเถอะ พวกเขาล้วนแต่เป็นคนเลือดเย็น ถึงแม้เจ้าจะเก่งกาจ แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขาที่มีคนเยอะมากขนาดนั้น รีบกลับมาเร็ว!”

เขาหวังดี แต่ไม่ได้ทำให้เจียงหลีเปลี่ยนใจเลยสักนิด

นางมองชายชรา ดวงตาที่สดใสเผยแววตาที่ทำให้คนเชื่อถือออกมา “ข้าพูดแล้วว่าประชาชนของข้า จะไม่ให้ถูกข้าศึกประเทศอื่นมารังแกได้ง่ายๆ! ถ้าหากใครกล้ามารังแก ต้องชดใช้สิบเท่าร้อยเท่า!”

เพิ่งสิ้นเสียงเจียงหลี ประโยคสุดท้าย เหมือนกับสายฟ้าที่ผ่าลงข้างหูของทหารซีเฉียนท่ามกลางท้องฟ้าที่ปลอดโปร่ง

นางพูดจบ ร่างนางก็ขยับ ในตอนที่สายตาของผู้คนเป็นประกาย พุ่งไปทางทหารซีเฉียน

การโจมตีที่ฉับพลันนี้ ทำให้สีหน้าที่หัวเราะเยาะเย้ยของทหารซีเฉียนหุบยิ้มในทันที แล้วต่างพากันยกอาวุธขึ้นต่อสู้

ด้านหลังของพวกเขา แสงสีทองพลุ่งพล่าน วิญญาณยุทธระดับล่างต่างๆ ปรากฏตัวอยู่ด้านหลังของพวกเขา วิญญาณยุทธเหล่านี้มีรูปลักษณ์ที่น่าเกลียด ต่างส่งเสียงร้องต่างๆ ออกมา

แต่ว่า ลำแสงที่พุ่งเข้าไป ประชาชนชาวสุ่ยหันเห็นเพียงวิญญาณยุทธ์เหล่านั้นแตกสลายทีละตัวๆ เจ้าของของพวกมันส่งเสียงร้องอย่างน่าเวทนาไม่หยุด

พวกเขาถึงกับตะลึงไปเลย!

ทุกคนอ้าปากค้างด้วยความตะลึง

ในแววตาของพวกเขา เต็มไปความสั่นสะเทือนและซาบซึ้ง!

มีคนมาช่วยชีวิตพวกเขาแล้วหรือ

สาวน้อยคนนี้ คือคนที่สวรรค์ส่งมาช่วยพวกเขาใช่ไหม

แม้แต่วิญญาณยุทธ์ นางก็ไม่ได้ปลดปล่อยออกมา จัดการกับทหารซีเฉียนเหล่านี้ที่ดุร้ายอย่างกับหมาป่าได้อย่างที่พวกเขาไม่มีทางสู้

ประชาชนชาวสุ่ยหันดูการสังหารอยู่ฝ่ายเดียวนี้ จู่ๆ ก็เกิดความแปลกใจขึ้นมา

สาวน้อยคนนี้สามารถใช้วิธีที่แข็งแกร่งกว่านี้จัดการทีเดียวได้ชัดๆ แต่ว่านางกลับจงใจไม่ใช้วิธีนี้ แต่กลับเลือกใช้วิธีที่ตรงที่สุด โหดเหี้ยมที่สุด!

อ้ากกก!

ฟุบ!

ทหารซีเฉียนคนหนึ่งส่งเสียงร้องออมาอย่างน่าสังเวท แขนข้างหนึ่งของเขาถูกเจียงหลีดึงออกมาอย่างง่ายดาย

มือทั้งสองข้างของนางกลายเป็นกรงเล็บที่แหลมคมของเลี่ยเทียนซื่อ และด้วยพลังของมัน ทำให้นางเดินผ่านท่ามกลางเหล่าทหารซีเฉียนได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องใช้แรงเลยสักนิด ไม่ว่านางจะเดินไปที่ใด ก็จะมีแขนขาขาดกระจายร่วงลงพื้น เลือดเต็มไปหมด

แต่ทว่า ภาพที่โหดร้ายทารุณแบบนี้ ประชาชนชาวสุ่ยหันที่ตะลึงเหล่านั้น กลับไม่รู้สึกกลัวเลยสักนิด

พวกเขารู้สึกเพียงแค่โล่งใจ!

โล่งใจมากๆ!

สาวน้อยตรงหน้าโหดร้ายหรือไม่ ไม่! ทหารซีเฉียนโหดร้ายยิ่งกว่านาง! พวกเขารู้สึกเพียงว่าสาวน้อยคนนี้ก็แค่หนามยอกก็เอาหยามบ่งเท่านั้น

ใช่แล้ว! หนามยอกเอาหนามบ่ง!

หนี้เลือดต้องชดใช้ร้อยเท่า!

ในการรุกรานครั้งนี้ ประชาชนชาวสุ่ยหันต้องสูญเสียบ้านเรือน สูญเสียครอบครัว หวังให้เจียงหลีโหดเหี้ยมอีก โหดเหี้ยมกว่านี้อีก!

“อ้ากกก! ไว้ชีวิตด้วยเถิด!”

“ปล่อยพวกเราไปเถอะ!”

“ภายใต้พลังที่เหนือกว่าอีกฝ่ายโดยสิ้นเชิง ท้ายที่สุดทหารซีเฉียนก็รับรู้อย่างแจ่มแจ้งว่าเดิมพวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสาวน้อยตรงหน้า”

สาวน้อยคนนี้โผล่มาจากไหนกันล่ะ

ทำไมถึงได้เก่งกาจเช่นนี้! วิธีการโหดเหี้ยมเช่นนี้!

แต่ว่า ในตอนที่เจียงหลีได้ฟังคำร้องขอชีวิตเหล่านี้ ความเยือกเย็นในแววตาไม่เพียงแต่ไม่ได้อ่อนลง มุมปากกลับยกขึ้น ยิ้มเยาะเย้ยแทน

ไว้ชีวิตอย่างนั้นรึ

ในตอนที่สังหารชาวสุ่ยหัน ได้ยินเสียงร้องขอชีวิต เคยไว้ชีวิตพวกเขาสักคนไหม! ทันใดนั้น แววตาของเจียงหลีก็ดุดันขึ้นมา

แรงกดดันที่น่ากลัวออกมาจากตัวนาง แผ่คลุมไปยังทหารซีเฉียน

อ้ากกก!

“นี่มัน! หลิง…หลิงไซว่”

ในที่สุด ก็มีคนที่อยู่ท่ามกลางแรงกดดันที่น่ากลัวนี้รู้ถึงพลังของนางแล้ว

หลิงไซว่! หลิงไซว่!

ทหารซีเฉียนตะลึง! ชาวสุ่ยหันก็ตะลึงเช่นกัน!

หลิงไซว่!

นี่ถือเป็นที่สุดของทั้งหนานฮวง นอกจากคนเหล่านั้นที่มีจำนวนน้อยมาก แม้กระทั่งหลิงจงก็ไม่รู้ว่ายังมีอยู่รึเปล่า หลิงไซว่สามารถเรียกได้ว่าเป็นเจ้าเหนือหัวที่ตัดสินใจในผืนแผ่นดินนี้

สาวน้อยตรงหน้า คือหลิงไซว่จริงๆ หรือ!

คาดไม่ถึงจริงๆ!

“ใต้เท้า แท้จริงแล้วท่านคือผู้ใดกัน” หนึ่งในทหารซีเฉียน ตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่หวาดกลัว

ใช่แล้ว! แท้จริงแล้วนางคือผู้ใดกัน

นี่ก็เป็นคำถามในใจของชาวสุ่ยหันเช่นกัน

เจียงหลียิ้ม รอยยิ้มที่งดงามนั้น มีความงามที่สิ่งมีชีวิตทุกสิ่งต้องหลงใหล แต่ว่าในสายตาของทหารซีเฉียน กลับเหมือนเจอกับเรื่องที่น่ากลัวที่สุด เพราะว่าพวกเขาเห็นจิตสังหารที่รุนแรงมากในสายตาของสาวน้อย

“ข้าคือใครน่ะหรือ ข้าไม่ได้พูดไปตั้งแต่แรกแล้วรึ!” เจียงหลีพูดอย่างหยอกล้อ

พูดแล้ว?

ทหารซีเฉียนพยายามนึกคำพูดก่อนหน้านี้ของเจียงหลี

ประชนชาของข้า จะถูกข้าศึกประเทศอื่นรังแกง่ายๆ ได้อย่างไรกัน!

นางพูดว่าประชาชนของข้าอย่างนั้นหรือ

ประชาชนชาวสุ่ยหันคือประชาชนของนาง!

นำข้อมูลที่รู้มารวมกัน ทหารซีเฉียนคนนั้นนึกออกขึ้นมา “ท่านคือจักรพรรดินีแห่งจยาเซียน!” เขาพลั้งปากพูดออกมา

จักรพรรดินี!

จักรพรรดินีแห่งจยาเซียน!

จักรพรรดินีพระองค์นั้นที่เพิ่งจะขึ้นครองราชย์ ถูกสังคมภายนอกลือกันว่าเป็นจักรพรรดินีที่มักมากในกาม!

บริเวณรอบๆ ทันใดนั้นก็ตกอยู่ในความเงียบที่แปลกประหลาด

“คือฝ่าบาท! คือฝ่าบาทมาช่วยพวกเราแล้ว!” ทันใดนั้น สาวน้อยที่ถูกเจียงหลีช่วยไว้ก่อนหน้าคนนั้น ทำลายความเงียบนี้ลงด้วยน้ำเสียงที่ดีใจและซาบซึ้ง

เจียงหลียิ้มกว้างกว่าเดิม นางมองไปยังทหารซีเฉียนที่หวาดกลัวเหล่านั้น พูดด้วยน้ำเสียงที่เหมือนพิจารณาตัดสินคดีอย่างช้าๆ ว่า “ในนามของจักรพรรดินีแห่งจยาเซียน ขอมอบโทษประหารให้แก่เจ้า!”

ตูม!

ทันใดนั้น แรงกดดันที่น่ากลัวก็ตกลงมา ราวกับคมดาบเป็นพันเป็นหมื่นเล่ม ตกลงมาบนตัวของทหารซีเฉียนเหล่านั้น

อ้ากกก!

อ้ากกก!

เสียงร้องน่าเวทนาที่สิ้นหวังดังขึ้นมา

เดิมพวกเขาคิดว่าเจียงหลีจะฆ่าพวกเขาในทีเดียว แต่ว่านางกลับใช้วิธีที่ทรมานที่สุด โดยใช้วิธีพันมีดหมื่นแล่จัดการพวกเขา

เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง ในที่สุดเสียงร้องก็สงบลง

และกลิ่นคาวเลือดฟุ้งกระจายไปทั่วในอากาศ

บนพื้นดินที่ถูกเผาไหม้นี้ ซากศพทหารซีเฉียนนับร้อย กองอยู่บนพื้นอย่างไม่มีศพไหนสภาพดีสักศพ พวกเขายอมรับผิดและขอโทษต่อประชาชนของแผ่นดินนี้ด้วยการตายอย่างโหดร้ายทารุณ

ซากศพที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้ชาวสุ่ยหันหน้าซีด เด็กๆ ถูกปิดตาไว้แน่น ขนาดผู้ใหญ่ก็รับภาพที่โหดร้ายทารุณเป็นอย่างมากเช่นนี้ไม่ไหว และอ้วกออกมาอยู่ข้างๆ

จักรพรรดินี! นางคือจักรพรรดินีจริงๆ!