บทที่ 1263 –รองเท้าเก้าเทวาที่ทรงพลัง

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้มองออกไปที่นอกหน้าต่าง  แสงไฟยามค่ำคืน ที่ประดับไปด้วยโคมไฟนาๆตา มันทำให้เมืองแห่งนี้ดูคึกคึกอยู่ตลอดเวลา อาจกล่าวได้ว่าเมืองจักรพรรดิแห่งนี้เป็นเมืองไม่เคยหลับใหลอย่างแท้จริง

 

สายตาของชิงสุ่ยในตอนนี้ได้บรรจบลงที่หญิงสาวที่งดงามมากมาย พวกเธองดงามอย่างมากนอกจากนี้พวกเธอยังแต่งการด้วยผ้าไหมที่งดงาม เช่นเดียวกับมีคู่รักมากมายที่เดินจับมือกันอยู่บนท้องถนน แม้ว่าท้องถนนในตอนนี้จะเต็มไปด้วยความวุ่นวาย แต่ก็แฝงไปด้วยความสง่างาม ทุกอย่างช่างลงตัวอย่างมาก

 

มันทำให้เขานึกถึงเรื่องเก่าๆในอดีต ตั้งแต่ที่เขานั้นเป็นขยะที่ไร้ค่า จนถึงเดียวนี้ทุกๆอย่าง นั้นแทบไม่หน้าเชื่ออย่างมาก ทั้งหมดทั้งสิ้นนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่เขาได้รับหยกยุพราชอมตะมา

 

ความทรงจำมากมายในอดีตได้ถาโถมเข้ามาในใจของเขา มันเป็นอดีตที่ทำให้เขาเติบโตขึ้นมาได้ในทุกวันนี้

 

ชิงสุ่ยมองย้อนกลับไปที่เรื่องต่างๆมากมาย และมันก็ทำให้เขานึกถึงติ๊เฉินอีกครั้ง ในตอนนี้ติ๊เฉินคือคนที่เขาคิดถึงที่สุด นอกจากในตอนนี้เขาก็กังวลว่าติ๊เฉินจะลืมเขาไปเสียแล้ว เมื่อคิดยิ่งคิดเรื่องนี้มันให้เขายิ่งกังวลใจมากขึ้น

 

และแล้วเวลาก็มาถึง ชิงสุ่ยได้เข้ากลับไปในดินแดนหยกอีกครั้ง

 

ในขณะนี้วิหคเพลิงได้บินไปรอบๆ ชิงสุ่ยพอใจอย่างมากกับกลิ่นอายของมัน ความเข็งแกร่ง ความหน้าสะพรึงกลัวได้แพร่ขยายออกมาจากตัวของมัน  ในขณะที่เขาเดินเข้ามามันก็ได้กู้ร้องและทักทายเขา

 

ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ มันก็ได้กลายเป็นสัตว์อสูรที่ทรงปัญญาอย่างมาก ชิงสุ่ยได้แค่ยิ้มออกมาและตรงไปยังที่มังกรไอยราเกล็ดทองคำ

 

เช่นเดียวกับวิหคเพลิงในตอนนี้ มันนั้นมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่ง  พวกมันนั้นจะกลายเป็นกองกำลังชั้นยอดในการต่อสู้ของเขา

 

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยค่อยๆนั่งลงและทำการบ่มเพาะของเขา หลังจากฝึกฝนไปพักใหญ่ชิงสุ่ยได้นำรองเท้าเก้าเทวาออกมา ขณะที่วางมันไว้ข้างๆศิลาดาราจันทราทมิฬ ตอนนี้เขารู้สึกมีความสุขอย่างมาก และตื่นเต้นอย่างที่สุดที่จะยกระดับมัน

 

สิ่งนี่เป็นสิ่งที่เขาได้รับมาในอดีตจากท่านหญิงโม่ ถึงแม้รูปลักษณ์ของมันจะเปลี่ยนไปมากมายแต่ถึงอย่างไรมันก็ทรงอำนาจเช่นเดิมดังเก่า ที่สำคัญในตอนนี้มันได้ยกระดับขึ้นหลายๆครั้ง จนทำให้อำนาจของมันนั้นทวีคูณอย่างมาก ในตอนนี้ถึงแม้มันยังจะไม่การเป็นอาวุธในตำนาน แต่ก็คงอีกไม่ไกลที่จะไปถึง

 

ตอนนี้ชิงสุ่ยได้จัดเตรียมสิ่งของทั้งหมดออกมา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในตอนนี้ก็ไม่มีอะไรที่จะขัดขวางไม่ให้เขากลั่นรองเท้าเก้าเทวาได้อีกแล้ว

 

ในตอนนี้ศิลาดาราจันทราทมิฬนั้นมีขนาดเท่ากับกับศิลาหยางก่อนหน้า ถ้าไม่ใช่เพราะความแข็งแกร่งที่ชิงสุ่ยมีเพิ่มขึ้น เขาต้องใช้เวลาไม่น้อยการกลั่นศิลาหยางในอดีต ในขณะนี้เขาค่อยหลอมและกลั่นมันออกมา

 

แม้ว่าจะใช้พลังไปจำนวนมาแต่เขาก็ใช้เวลาน้อยกว่ากรกลั่นศิลาหยางในอดีต 64วันคือเวลาที่เขาใช้ในการหลอมศิลาดาราจันทราทมิฬในตอนนี้  โดยไม่ลังเลชิงสุ่ยได้จุ่มรองเท้าเก้าเทวาลงไปในของเหลวที่ร้อนระอุอย่างรวดเร็ว

 

 

ในขณะนี้เพลิงได้ลุกไหม้ขึ้นบนชั้นผิวของรองเท้า ก่อนที่ของเหลวจะถูกดูดซับเข้าไปในเนื้อในของมัน ในเวลาสั้นๆของเหลวทั้งหมดก็ถูกดูดซับไปจนหมด แม้กระนั้นชิงสุ่ยก็ยังไม่หยุดที่จะใช้เพลิงแรกเริ่มของเขา

 

 

ในอดีตขิงสุ่ยได้รู้ว่าความทนทานของรองเท้าเก้าเทวานั้นสูงอย่างมาก ความทนทานของมันเป็นรองแค่กระบี่ดารายุพฆาตเท่านั้น ดังนั้นมันจึงทำให้เขาตัดสินใจใช้วิธีในการกลั่นร้องเท้าเก้าเทวา

 

ชิงสุ่ยยังเร่งพลังวิญญาณออกมา ขณะที่เขากำลังเผาผลาญมันเพื่อกลั่นรองเท้าเก้าเทวาอยู่ในตอนนี้ ในไม่ช้าแสงที่คุ้นเคยก็ได้ปรากฏออกมาอีกครั้ง พร้อมๆกับรอยยิ้มของชิงสุ่ย

 

อย่างน้อยในตอนนี้มันก็มีโอกาสที่จะสำเร็จสูงมาก  แสงที่ส่องสว่างนั้นในเรืองแสงที่จ้าและสว่างเป็นเวลานานก่อนที่จะค่อยๆจางหายไป ในตอนนี้ชิงสุ่ยค่อยๆหยุดมือลง ก่อนที่จะใช้บุปผาศิลาอมตะในการเพิ่มอัตราสำเร็จของมัน

 

 

ในตอนนี้เขาได้มุ่งความสนใจไปที่รองเท้าเก้าเทวาของเขาเพียงอย่างเดียว ในตอนนี้คือขั้นตอนที่ห้ามผิดพลาดโดยเด็ดขาด

 

ติ๊ง!

 

รองเท้าเก้าเทวา :ถูกสร้างมากจากชิ้นส่วนของโลกทั้งเก้า และขัดเกลาด้วยเลือด เนื้อของอสูรบรรพกาล มีความลับมากมายที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้ภายในมัน

 

เร็วเพิ่มขึ้น4เท่าและลดการใช้ปราณลง เมื่อเปิดใช้ แม้แต่ผู้บ่มเพาะที่ระดับต่ำกว่าจักรพรรดิก็สามารถใช้มันได้

 

ในตอนนี้ผลอย่างแรกที่พัฒนาขึ้นคือความเร็วในอดีตนั้นมันสามารเพิ่มความเร็วได้3เท่าๆนั้น

 

ย่างก้าวเก้าเทวา: เพียงแค่กระตุ้นมันจะสามารถเคลื่อนย้ายไปข้าหน้าได้ในระยะ 2ล้านลี้  สามารถใช้มันได้วันละ20ครั้งเท่านั้น ระดับจักรพรรดิเท่านั้นที่สามารถใช้ได้

 

ชิงสุ่ยยิ้มออกมาอย่างมีความสุข ถึงแม้ความสามารถด้านความเร็วของมันจะไม่เพิ่มขึ้นมากมายนัก มันก็ทำให้เขามีความสุขความเร็วที่เพิ่มขึ้น4เท่า จะทำเขาการเป็นสัตว์ประหลาดที่น่ากลัวยิ่งขึ้น น้อยคนที่จะตามความเร็วของเขาได้ น้อยคนที่จะมองเห็นการเคลื่อนไหวของเขาได้ มันนั้นจะกลายเป็นอาวุธที่ทรงพลังให้กับเขา

 

ในตอนนี้ในการเคลื่อนย้ายแต่ละครั้งเขาสามารถเคลื่อนที่ได้ถึง 2ล้านลี้ นั้นหมายความว่าชิงสุ่ยสามารถเคลื่อนที่ไปไหนก็ได้ 40ล้านลี้ในหนึ่งวัน นั้นมันก็เพียงพอที่เขาจะไปกลับราชวงค์เดชสวรรค์กับสำนักสวรรค์เร้นลับได้ในหนึ่งวัน มันยิ่งทำให้เขามีความมั่นใจที่จะสามารถเดินทางข้ามไปยังมหาทวีปที่เหลือได้ในเร็ววันนี้

 

 

หากไม่ใช่เพราะศิลาดาราจันทราแล้ว รองเท้าเก้าเทวานั้นต้องใช้เวลาอีกไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยในการขัดเกลาเพื่อที่จะยกระดับขึ้นมาถึงระดับนี้

 

 

การค้นพบศิลาดาราจันทรานับว่าเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับชิงสุ่ยอย่างมาก

 

 

ในขณะที่เขาใส่รองเท้าเข้าไป พลังบางสายได้ตรงเข้าสู้ร่างกายของเขา ชิงสุ่ยสามารถสัมผัสได้ถึงพลังที่กำลังประทุในร่างกายของเขา

 

 

ตอนนี้เขาพยายามปรับตัวกับความเร็วที่เพิ่มขึ้นในตอนนี้ ชิงสุ่ยได้ใช้พื้นที่ในดินแดนหยกในรอบนี้เพื่อฝึกฝนความเร็วของเขา ตอนนี้ชิงสุ่ยเป็นดังเงาที่พุ่งไปรอบๆดินแดนหยกในตอนนี้

 

เมื่อถึงเวลาที่สมควรชิงสุ่ยได้ออกมาจากดินแดนหยกในทันที เขานั้นไม่ต้องการเสียเวลาในการบ่มเพาะในตอนเช้าไปในดินแดนหยก จึงได้ตัดสินใจออกมา

 

 

ในตอนนี้เช้าเขาได้ฝึกฝนตามปกติและทานอาหารที่โรงเตี๊ยมจัดมา ถึงแม้มันจะมีรสชาติที่สู้อาหารของเขาไม่ได้ แต่มันก็ไม่ได้แย่มากนัก หลังจากที่ทานอาหารและพักผ่อนเสร็จ ชิงสุ่ยได้ออกมาจากโรงเตี๊ยม และมุ่งหน้าไปยังที่เขานัดหมายไว้กับ ฟู่ร่ง ในขณะที่เขามาถึงฟู่ร่งก็รอเขาอยู่ที่นั้นแล้ว

 

 

“เจ้ามาเร็วเสียจริงๆ? ช้าก็คิดว่าข้านั้นไม่ได้มาช้าแล้วนะ?” ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าวทักทาย

 

 

“ไม่เลย ข้าพึ่งมาถึงในเร็วๆนี้เอง”เธอกล่าวและยิ้มกลับไป

 

 

“รับนี่ไป นี่คือยาเม็ดสรรพรส ที่เขากลั่นสำเร็จแล้ว ”ชิงสุ่ยหยิบยาทั้ง8ขวดให้เธอ

 

 

“ทำไมมันมีหลาย ขวดกันละ?”

 

 

“พอดีข้าสามารถกลั่นมันได้ 8เม็ด ดังนั้นข้าจึงแบ่งมันไว้ในแต่ละขวด”ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าว

 

“ถึงข้าจะคิดว่าเข้าสามารถทำมันได้สำเร็จ แต่ 8เม็ด เนี่ยเป็นจำนวนที่เกินกว่าข้าจะจินตนาการณ์ได้จริงๆ”ฟู่ร่งกล่าวด้วยความตกใจ ขณะที่กำลังเปิดขวด

 

 

“พระเจ้า ท่านสามารถทำมันได้จริงๆ ท่านเป็นนักปรุงยาที่เก่งจริงๆ รับนี่ไป ข้าจะมอบมันให้ท่าน4ขวด ท่านเห็นว่ายังไงบ้าง?”

 

 

ในขณะที่เธอมองไปที่เขา ชิงสุ่ยยิ้มออกมาและกล่าว“ข้าต้องการมันเพียงแค่สองเม็ดเท่านั้น”

 

“ไม่ๆข้าจะแบ่งให้ท่านสี่เม็ด นี่เป็นข้อตกลงที่เราคุยกันเอาไว้ ข้าได้ประโยชน์จากท่านนั้นมากมายมายแล้ว ”เธอรีบกล่าวออกมา

 

 

ถึงอย่างไรชิงสุ่ยก็ไม่ยอมรับมัน  จากการพูดคุยกันเป็นเวลานานสุดท้ายชิงสุ่ยนั้นก็ได้รับมันมา3เม็ด และอีก5เม็ดให้เธอเก็บเอาไว้  เพื่อเป็นการขอบคุณ เธอจึงได้เชิญชิงสุ่ยไปที่บ้านของเธอ เพื่อจัดงานเลี้ยง แต่ถึงอย่างไรก็ถูกชิงสุ่ยปฏิเสธเอาไว้ เพราะเขาไม่ต้องการที่จะสนิทกับราชวงค์เดชสวรรค์ เสียเท่าไร

 

 

 

แต่ถึงอย่างไรอนาคตเขานั้นอาจจะต้องทำความสนิทกับพวกเขาก็ได้ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ดังนั้นชิงสุ่ยจึงไม่ได้ไปตามคำเชิญของฟู่ร่งแต่อย่างใด นอกจากนี้นี่เป็นวิธีที่จะสร้างความประทับใจให้กับคนในราชวงค์เดชสวรรค์อีกด้วย ดังนั้นการวางตัวถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก