ตอนที่ 602

Elixir Supplier

602 อาศัยอยู่ร่วมกับหนู

 

เขามองดูก้อนหินและยื่นมือออกไปผลักมันดู เขากลั้นหายใจและจดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำอยู่

 

หืม?

 

หวังเย้ารู้สึกว่า หินก้อนนี้คล้ายกับกำลังสั่นไหวอยู่เบาๆ

 

มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน?

 

มีบางอย่างอยู่ข้างในนี้! มันคืออะไรกัน? หรือจะลองทำลายมันดู?

 

ในตอนนี้ แม้แต่เหล็ก หวังเย้าก็สามารถทำลายจนแหลกละเอียดได้ ดังนั้น ไม่ต้องพูดถึงหินก้อนนี้เลย

 

โฮ่ง! โฮ่ง! ซานเซียนที่อยู่ด้านหลังเขา เอาแต่เห่าด้วยอาการอยู่ไม่เป็นสุข

 

เดี๋ยวนะ! อะไรที่อาจจะอยู่ในหินก้อนนี้กันล่ะ? กบ, งู, หนู, หรือสัตว์อะไรที่กำลังจำศีลอยู่ในนั้น? ถ้าเกิดหินแตกออก แล้วฉันจะทำยังไง ถ้าพวกมันพากันออกมาเป็นฝูง?

 

หวังเย้าตัดสินใจจากไป ซานเซียนเดินตามหลังเขาไป หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กลับมาพร้อมกับถังน้ำที่ใส่แอลกอฮอลอยู่จนเต็ม

 

“ซานเซียน ถอยออกไป” หวังเย้าพูด

 

ซานเซียนเห็นท่าทางของหวังเย้า แล้วมันก็ได้ถอยออกไป

 

หวังเย้ายื่นมือออกไปกดก้อนหิน แล้วปลดปล่อยพลังออกมาบางเบา แคร๊ก! มีเสียงปริแตกดังออกมาจาก้อนหิน มันแตกออกและล้มลงไปนอนกับพื้น ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาส่งพลังเข้าไปอีก แล้วหินก็แตกออกอย่างช้าๆ

 

อยู่ๆเขาก็หยุดมือ เขามองเห็นไส้เดือนที่มีขนาดพอๆกับตั๊กแตน ร่างทั้งร่างของมันถูกปกคลุมด้วยกระดองสีดำและมีขาที่แหลมคม มันมีกรงเล็บขนาดใหญ่ที่ยืนออกมาจากร่างกายอยู่หนึ่งคู่ และมีเดือยแหลมที่ดูคล้ายกับเหล็กในของผึ้ง เขาไม่รู้เลยว่ามันคือตัวอะไรกันแน่

 

หวังเย้ารู้สึกตกใจ เขาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านกลางเขาแห่งนี้มานานหลายปี และไปมาแทบทุกซอกมุมของเนินเขาในแถบนี้ แต่เขาก็ไม่เคยพบเห็นแมลงแบบนี้มาก่อนเลยสักครั้ง

 

ไส้เดือนดูเหมือนจะรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมภายนอก และสิ่งมีชีวิตแปลกที่อยู่ไม่ไกลจากตัวมัน มันคลานตรงไปหาหวังเย้าด้วยความรวดเร็ว และพยายามจะต่อยเขา

 

“น่าสนใจจริงๆ!” หวังเย้าบีบร่างของมัน แล้วไส้เดือนก็แหลกเหลว

 

เขาลงมือทำลายก้อนหินต่อไป โครงสร้างภายในหินดูคล้ายกับรังผึ้ง มีแมลงจำนวนมากไต่ออกมาจากรูพวกนั้น

 

โฮ่ง! โฮ่ง! ซานเซียนเห่าไม่หยุดและวิ่งเข้ามา

 

“กลับไป ซานเซียน!” หวังเย้าตะโกน

 

เขาสะบัดมือ แล้วแมลงส่วนหนึ่งก็เข้าไปอยู่ในขวดกระเบื้อง เขาเปิดฝาถังที่ใส่แอลกอฮอลเอาไว้ แล้วเทมันลงไปในสิ่งที่ดูคล้ายกับรังผึ้ง จากนั้น เขาก็จุดไฟเผา

 

ฟูม! เปลวไฟลุกลามอย่างรวดเร็วและเกิดเสียงดังคล้ายกับเสียงไข่ที่กำลังถูกทอดอยู่ มีกลิ่นเหม็นฉุนลอยออก

 

พวกมันเป็นแมลงชนิดไหนกัน? ทำไมพวกมันถึงมาอยู่ในก้อนหิน แล้วพวกมันมาจากไหน?

 

ในเวลานี้เอง มีคำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัวของหวังเย้า เขาสามารถบอกได้แค่ว่า แมลงพวกนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับโรคระบาดที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เขาจำเป็นต้องถอนรากถอนโคนแมลงร้ายเหล่านี้ให้หมดไป

 

เปรี้ยง!

 

หวังเย้าชกไปที่ก้อนหินที่กำลังถูกไฟเผาอยู่ แคร๊ก! หินแตกออกราวกับน้ำตาลก้อน มีแมลงร่วงหล่นออกมาจากด้านในอีกเป็นจำนวนมาก เปลวไฟยังคงลุกไหม้ต่อไป เขานำแอลกอฮอลเทลงไปอีก เสียงปริแตกยังคงดังออกมาอย่างต่อเนื่อง

 

แล้วอยู่ๆก็มีหนูตัวหนึ่งวิ่งออกมา เขายื่นมือออกไปจับหนูตัวนั้นขึ้นมา เขาจับมันเอาไว้ในมือ ขนทั่วร่างของมันเป็นสีดำ มันพยายามกัดมือหวังเย้า แต่กลับกลายเป็นฟันหน้าสองซี่ของมันที่ได้รับความเสียหายแทน

 

ลอย! หวังเย้างอนิ้วมือของเขาเพื่อกดไปที่ตัวหนู

 

แคร๊ก! แคร๊ก! ขาทั้งสองข้างของมันถูกหัก

 

“ซานเซียน เฝ้ามันเอาไว้ ถ้ามันคิดจะหนี ก็ฆ่ามันซะ!” หวังเย้าโยนตัวหนูลงไปที่พื้น แล้วหันไปสนใจกับไส้เดือนต่อ

 

ดูเหมือนแอลกอฮอลจะไม่พอ เขาจึงไปเก็บฟืนจากในป่าที่อยู่ไม่ไกลและดึงต้นสนต้นหนึ่งมาด้วย ในที่สุด เขาก็จัดการทำลายก้อนหินทั้งก้อนและฆ่าไส้เดือนไปจนนับไม่ถ้วน

 

ใต้หินก้อนนี้ มีรูไส้เดือนและรูหนูซ่อนตัวอยู่ หวังเย้าไม่เข้าใจว่า ทำไมหนูถึงมาอาศัยอยู่กับแมลงพวกนี้ได้ ไว้เขาค่อยคิดเรื่องนี้ทีหลัง สำหรับตอนนี้ เขาต้องรู้จำนวนของแมลงที่อยู่ในรูและขนาดของโพรงที่พวกมันอาศัยอยู่ เขาเริ่มลงมือขุดรูไส้เดือน เขาทำอย่างช้าๆ ถึงแม้ว่าเขาจะทำได้เร็วกว่านี้ก็ตาม

 

หลังจากที่ขุดไปได้ประมาณ 1 เมตร เขาก็พอจะกะขนาดของโพรงได้แล้ว ถึงเขาจะจัดการๆไส้เดือนไปจนหมดแล้ว แต่เขาก็ยังไม่วางใจ ความกังวลของเขายังเพิ่มขึ้นอีกด้วย

 

แล้วที่อื่นล่ะ?

 

แล้วเขาก็ตัดสินใจในทันที เขามุ่งหน้าไปยังสถานที่แห่งความตายที่ใกล้ที่สุดและลงมือขุดหลุมลงไป มันไม่มีรูไส้เดือนอยู่ในบริเวณนี้ แต่มีรูหนูอยู่หลายรู เขาไปตามจุดอื่นๆและพบเรื่องแบบเดียวกัน

 

หนู? โรคระบาด? ตัวแปร! แล้วแมลงพวกนั้นล่ะ? พวกมันกินอะไร?

 

หวังเย้าเดินออกมาจากเนินเขาซีชานพร้อมกับความสงสัย

 

“ซานเซียนกลับไปก่อนนะ ระวังตัวด้วยล่ะ” หวังเย้าพูด

 

ซานเซียนกลับไปที่เนินเขาหนานชาน

 

“ลูกกังวลเรื่องอะไรอยู่เหรอจ๊ะ?” จางซิวหยิงสังเกตเห็นลูกชายที่ดูใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ในระหว่างที่พวกเขากำลังทานอาหารเย็นกันอยู่

 

“ครับ มีเรื่องที่ผมไม่ค่อยเข้าใจนิดหน่อยน่ะครับ” หวังเย้าพูด

 

“กินข้าวก่อนแล้วค่อยคิดดีกว่านะ” จางซิวหยิงพูด

 

ในตอนที่กำลังทานอาหารอยู่นั้น หวังเย้าก็ยังคงคิดถึงแต่เรื่องนี้ เขารีบกินอย่างรวดเร็ว จากนั้น เขากลับขึ้นไปบนเนินเขาหนานชานในทันที

 

“ลูกเราเป็นอะไรไปน่ะ?” จางซิวหยิงถาม “เขาดูกังวลมากเลยนะ”

 

“ไม่ต้องห่วงหรอก ปล่อยเขาไปเถอะ” หวังเฟิงฮวาพูด

 

“นี่ ไม่คิดจะถามเขาสักหน่อยเลยเหรอไง” จางซิวหยิงพูด

 

หวังเย้ารีบร้อนกลับขึ้นไปบนเนินเขาหนานชาน แมลงที่เขาจับมาจากเนินเขาซีชานถูกใส่ลงไปในขวดแก้วเพื่อให้สามารถมองเห็นการกระทำของมันได้อย่างชัดเจน แมลงมีท่าทีปั่นป่วนและคลั่ง

 

“พวกมันกินอะไร?” หวังเย้าโยนใบของต้นพืชชนิดหนึ่งลงไปในขวด แมลงไม่มีปฏิกิริยาใดๆกับใบไม้เลยสักนิด พวกเขาทำเพียงพยายามปีนขึ้นลงอยู่ภายในขวดแก้วเท่านั้น

 

จากนั้น หวังเย้าก็นำเนื้อชิ้นเล็กๆใส่ลงไป แมลงทั้งหมดก็พุ่งตัวเข้าหาชิ้นเนื้อและกินเข้าไปทันที

 

หวังเย้าขมวดคิ้ว กินเนื้อเหรอ? แล้วทำไมฉันไม่เห็นอะไรในโพรงสักอย่างเลยล่ะ?

 

พวกมันกินหมดอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาสั้นๆ ชิ้นเนื้อก็หายไปจนหมด

 

หวังเย้าคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาหยิบหญ้าพิษออกมาจากช่องเก็บของของระบบและใส่มันลงไปในขวดแก้ว แมลงทั้งหมดเริ่มมีอาการตื่นตระหนก ราวกับว่า พวกมันได้พบกับศัตรูทางธรรมชาติของพวกมัน

 

พวกมันกลัวสิ่งนี้!

 

จากนั้น หวังเย้าก็หากระดูกมาชิ้นหนึ่งและใส่ลงไปในขวดแก้ว แมลงเข้าไปกัดกินกระดูกด้วยความเร็วสูง

 

ในที่สุด เขาก็โยนร่างของหนูที่กำลังจะตายลงไป แล้วเรื่องประหลาดก็เกิดขึ้น แมลงกลับไม่เข้าไปกินหนูตัวนั้น

 

ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะ? หวังเย้ารู้สึกแปลกใจ พวกมันไม่กินสิ่งมีชีวิตเหรอ? นั่นมันไม่ถูกต้อง จะต้องมีบางอย่างในตัวหนูที่ทำให้แมลงพวกนี้ไม่กล้ากินมันอยู่แน่ๆ!

 

เพื่อเป็นการยืนยันเรื่องนี้ หวังเย้าจึงรีบลงไปจากเขาและกลับไปที่บ้าน

 

“อะไรนะ? กระต่ายเหรอ?” หลังจากที่ได้ยินความต้องการของลูกชาย จางซิวหยิงก็รู้สึกงุนงง ลูกจะเอาไปทำอะไรเหรอจ๊ะ?”

 

“ผมจะเอาไปทำการทดลองน่ะครับ” หวังเย้าพูด

 

“ทดลองเหรอ?” ถึงเธอจะไม่รู้ว่าการทดลองคืออะไร แต่จางซิวหยิงก็ยังคงสนับสนุนลูกชายของเธอ “งั้นรอเดี๋ยวนะ แม่จะลองไปถามดูก่อน”

 

“จะกระต่ายหรือไก่ก็ได้ทั้งนั้นครับ” หวังเย้าพูด

 

“ตอนนี้ ชาวบ้านพากันฆ่าสัตว์เลี้ยงของพวกเขาไปก็เยอะ” จางซิวหยิงพูด

 

“แม่ไม่ต้องรีบมากก็ได้ครับ ผมจะลองออกไปหาซื้อข้างนอกดู” หวังเย้าพูด

 

เขาขับรถเข้าไปในตัวเมืองและซื้อไก่กับกระต่ายมาหลายตัว จากนั้น ก็ขับรถกลับมาที่บ้าน

 

“แม่ครับ ตอนนี้ แม่ช่วยเลี้ยงพวกมันไว้ก่อนได้ไหมครับ?” หวังเย้าถาม

 

“ลูก ทำไมถึงซื้อพวกมันมาเยอะขนาดนี้ล่ะ? ดูสิ ตัวนี้ก็ดูป่วย ตัวนี้ก็ด้วย ลูกไม่ดูให้ดีดีตอนซื้อล่ะสิ พวกมันอยู่ได้ไม่นานหรอกนะ” จางซิวหยิงบ่น

 

หวังเย้าซื้อพวกมันมาแบบสุ่มๆ แต่เขาก็ซื้อพวกมันมาเพื่อทำการทดลองเท่านั้น ไม่ได้ตั้งใจจะนำพวกมันมาเลี้ยงเพื่อเอาไข่หรือกินเนื้อ

 

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กลับขึ้นไปบนเนินเขาหนานชาน เขาวางไก่ตัวหนึ่งลงไปในขวดแก้วที่มีแมลงอยู่ในนั้น ซึ่งท่าทางของพวกมันดูตื่นเต้นอย่างมาก ราวกับได้พบเพื่อนใหม่ พวกเขาพุ่งตัวเข้าไปหาไก่ ซึ่งต่างจากตอนพวกมันเห็นหนูที่ใกล้ตายตัวนั้นมาก

 

หนูตัวนั้นมีบางอย่างอยู่จริงๆด้วย!

 

ต่อมา เขาก็ต้องมาดูว่า แมลงและหนูมีโรคระบาดอยู่ในตัวหรือไม่ หวังเย้าไม่สามารถทำที่ไหนก็ได้ เพราะเรื่องนี้มันค่อนข้างเสี่ยง