เพียงชั่วพริบตาใบหน้าก็ร้อนผะผ่าวขึ้นมาจนไม่รู้ว่ากำลังพ่นคำพูดหรือพ่นไฟออกมากันแน่ ฉันไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าต้องมากล่าวอะไรแบบนี้กับชายที่เคยคุยกันเพียงไม่กี่ครั้งในขณะที่มีชีวิตอยู่ แถมยังเหมือนฉันกำลังอ้อนวอนด้วย
แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ฉันไม่มีกระทั่งเวลาจะอับอายเรื่องนั้นแล้ว
“ถ้าไม่อยากทำก็บอกมา ข้าจะได้…”
“เช่นนั้นท่านจะทำอย่างไรหรือ?”
เขาคว้าข้อมือฉัน และออกแรงดึงเข้าหาตัว ร่างกายสูญเสียการทรงตัวและล้มเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดเพราะถูกดึงอย่างกะทันหัน รู้สึกได้ถึงกลิ่นกายเข้มข้นและความกำยำล่ำสันซึ่งอยู่ใต้ร่มผ้า
“หากข้าบอกว่าไม่ ท่านก็จะออกไปหาใครก็ได้ด้านนอกอีกอย่างนั้นหรือ?”
“…”
ฉันไม่ตอบ เพราะไม่มีความจำเป็นต้องตอบ ทันใดนั้น องค์ชายรัชทายาทจึงกล่าวขึ้นอีกครั้ง
“ข้าก็เคยได้ยินข่าวลือมาอยู่บ้าง แต่ไม่คิดว่าท่านจะออกมาอุกอาจถึงเพียงนี้ อันที่จริง…”
“พูดมากเกินไปแล้ว”
ฉันพูดขัดขึ้น ตอนนี้ไม่มีเวลาให้คุยเรื่อยเปื่อยอีกแล้ว ฉันผลักเขาออกและหมุนตัวไปทางประตู ตอนนี้สิ่งที่จำเป็นสำหรับฉันไม่ใช่บทสนทนา
ปึก!
ร่างกายหมุนกลับมาพร้อมกับเสียงกระแทก พอตั้งสติกลับมาได้ฉันก็กลับมาอยู่ในอ้อมกอดขององค์ชายรัชทายาทแล้ว
“ขออภัยที่ข้าไม่เข้าใจความรีบร้อนของท่าน หากท่านต้องการถึงเพียงนั้น”
พูดจบ องค์ชายรัชทายาทก็โน้มตัวลงมา ริมฝีปากของเขาลงมาทาบริมฝีปากของฉันในทันที ลิ้นเรียวล่วงล้ำเข้ามาระหว่างริมฝีปากที่บดขยี้กันอย่างรวดเร็ว
“อื้อ!”
เรียวลิ้นกวาดไปทั่วโพรงปากอย่างอุกอาจจนทำให้เกิดเสียงดูดดึง ลิ้นของเขาตวัดหาผิวหนังที่อ่อนนุ่มไปทั่วทุกซอกทุกมุมราวกับสัตว์ร้ายที่หิวโหย เขาดูดดุนและใช้ลิ้นลากไปตามแนวฟันคล้ายต้องการยืนยัน จากนั้นก็ล่วงล้ำเข้ามาในคอทันที
“ฮึก! อื้อ!”
ฉันดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของเขาเพราะใกล้หมดลมหายใจ แต่ว่าองค์ชายรัชทายาทกลับไม่ขยับตัวเลยสักนิด ราวกับเสียงคราญครางของฉันทำให้เบิกบาน เขายื่นมือมาดันหลังศีรษะจนริมฝีปากแนบชิดกันมากกว่าเดิม ลมหายใจหอบกระชั้น ฉันถูกลากไปตามที่เขาต้องการโดยที่ยังไม่สามารถหุบปากที่ถูกเขาบดขยี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เรี่ยวแรงเหือดหายจากร่างกายอย่างรวดเร็ว ฉันเคยแค่เพียงอ่านจากในหนังสือเท่านั้นว่าการจูบคืออะไร มันถูกบรรยายว่าเป็นการกระทำที่เปรียบดั่งการแลกเปลี่ยนความรู้สึกของคนสองคนที่ทั้งลึกซึ้งและงดงาม แต่ในความเป็นจริงกลับไม่ใช่แบบนั้นเลย มันถูกบดขยี้ ขบเม้มและดูดดึง มันไม่มีความลึกซึ้งเลย สิ่งฉันสัมผัสได้จากเขาตอนนี้มีเพียงความใคร่เท่านั้น
“อื้อ!”
เขายึดริมฝีปากเอาไว้จนลมหายใจหอบถี่ ตอนนั้นเองก็พลันรู้สึกเจ็บหน้าอก มือของเขาขึ้นมาอยู่บนหน้าอกของฉันตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ มันกอบกุมหน้าอกและกำลังบีบเค้นอย่างรุนแรง
“ยะ หยุด…”
องค์ชายรัชทายาทยกมือออกไปเมื่อได้ยินคำ ความเจ็บปวดเบาบางจากการถูกขยำหน้าอกทำให้ฉันเกิดความรู้สึกวูบวาบตรงท้องน้อยโดยไม่รู้ตัว มือของเขาเข้ามากอบกุมใต้ทรวงอกอีกครั้ง คราวนี้เขาเริ่มเคล้นคลึงอย่างเชื่องช้าและนุ่มนวลต่างจากเมื่อครู่
“อือ อื้อ!”
สัมผัสบางเบาบนหน้าอกที่ยังหลงเหลือความเจ็บแปลบทำให้ความรู้สึกเสียวซ่านแผ่กระจายไปทั่วหัว เรียวขาที่ยืนอยู่ค่อยๆ หมดแรง ลิ้นของเขาดุนเข้ามาส่วนลึกด้านในปากจนสุดท้ายฉันก็ทนไม่ไหวและทรุดลง
“อะไรกัน”
เขากล่าวด้วยน้ำเสียงแฝงแววขบขันพลางโอบเอวฉันเอาไว้ ฝ่ามือของเขาลูบไล้บนช่วงเอวอย่างเชื่องช้าแล้วเลื่อนขึ้นไปบนหน้าท้องแบนเรียบ การเคลื่อนไหวของเขาราวกับบอกว่าข้าจะเข้าไปในนี้ทำให้ฉันขนลุกซู่
“ข้าเคยได้ยินมาว่าท่านเป็นคนมากประสบการณ์แท้ๆ…”
ร่างกายของฉันสั่นสะท้านเมื่อได้ยินน้ำเสียงที่เอ่ยอย่างแปลกใจของเขา อาจเป็นเพราะเข้าใจท่าทางของฉันผิด เขาจึงรีบพูดออกมา
“ดูสิ ข้าเสียมารยาทแล้ว ข้าเพียงแค่ตกใจที่ท่านอ่อนไหวกว่าที่คาดไว้เท่านั้น”
“อ่า เข้าใจแล้ว รีบ…”
สิ่งที่อยู่ในหัวของฉันมีเพียงความตกใจที่ได้รับจากเขาและความคิดที่ว่าให้รีบทำไวๆ เท่านั้น
“ท่านสั่นถึงเพียงนี้ยังจะเร่งอีกหรือ เอาจริงหรือ”
พูดจบ มือทั้งสองข้างของเขาก็คว้าเอวของฉันแล้วอุ้มขึ้นเบาๆ จากนั้นก็วางฉันลงบนเตียงด้านข้าง เขาขึ้นมาบนตัวฉัน อ้าขาสองข้างแล้วกักฉันไว้ในอ้อมแขน เขาขยับตัวเข้ามาใกล้ อ้าปากและโน้มลงมากัดหน้าอกของฉันอย่างแรงโดยไม่ลังเล
“อึก!”
ความรู้สึกอุ่นและเปียกชื้นที่สัมผัสได้ผ่านเนื้อผ้าบาง ปลายยอดอกถูกเขาเลียอยู่หลายครั้งจนเห็นหัวนมชูชันอยู่ใต้เนื้อผ้าที่เปียกชื้น ทันใดนั้นองค์ชายรัชทายาทก็ขบเม้มลงไปอย่างแรงราวกับรอมันอยู่ ก้อนเนื้อนุ่มสั่นไหวอยู่ภายในริมฝีปากของเขา เขาดึงขึ้นเบาๆ อย่างหยอกเย้า
“อือ อ อื้อ! อั้ก! ย หยุด!”
เสียงลมหายใจหอบหนักหลุดออกมาจากปากฉันทุกครั้งที่เขาทำแบบนั้น
พระเจ้าช่วย รู้สึกเหมือนข้างในหัวกำลังหลอมละลาย ความรู้สึกที่เพิ่งสัมผัสเป็นครั้งแรกทำให้ทุกอย่างค่อยๆ พร่ามัว
หลังจากหยอกเย้าหน้าอกอยู่สักพักเขาก็เงยหน้าขึ้น ความสุภาพบนใบหน้าที่เห็นตอนเข้าห้องมาไม่หลงเหลือบนใบหน้าของเขาอีกแล้ว สัตว์ร้ายที่คิดจะกินเหยื่อตรงหน้ากำลังขึ้นขี่บนตัวฉันด้วยความตื่นเต้นถึงขีดสุด
“ข้าเคยคิดว่าท่านจะอร่อยเสียอีก”
เขาพูดพลางใช้นิ้วคลึงไปที่ยอดอก
“แต่ท่านหวานกว่าที่ข้าคิดเอาไว้มาก”
“อ๊ะ อึก!”
ชั่วขณะ พลันรู้สึกเหมือนมีสายฟ้าฟาดลงมากลางกระหม่อม ร่างของฉันกระตุกอยู่ใต้ร่างของเขาราวกับปลาที่หลุดขึ้นมาบนพื้นดิน ราวกับพึงพอใจในการเคลื่อนไหวแบบนั้นของฉัน เขายืดมือมาทางหน้าอกด้วยสีหน้าอมยิ้ม
ปลายนิ้วเรียวยาวถอดชุดนอนตัวบางออกอย่างคล่องแคล่ว ภาพของเนินอกขาวนวลปรากฏออกมาใต้แสงจันทร์ที่ลอดผ่านมาทางหน้าต่าง เขาเคล้นคลึงสองเต้าอย่างนุ่มนวลราวกับลุ่มหลง ปลายนิ้วของเขาเริ่มข่มเหงส่วนยอดอีกครั้ง
“อ๊ะ อ๊า! พ พอแล้ว หน้าอกพอ!”
เสียงร้องอ้อนวอนถูกเมินเฉยอย่างเลือดเย็น กลายเป็นว่าสองนิ้วของเขากลับยิ่งเขี่ยยอดอกเร็วขึ้นราวกับคำพูดนั้นเป็นจุดเริ่มต้น ในตอนนั้นเองร่างกายก็รู้สึกที่เหมือนทะยานขึ้นที่สูงพร้อมกับมีอะไรบางอย่างไหลออกมาระหว่างขา ความเสียวซ่านและความเจ็บปวดปะปนกันอยู่ในร่างของฉัน ริมฝีปากของเขาลงมาซุกไซร้ลำคอ มืออีกข้างหนึ่งที่นวดคลึงหน้าอกค่อยๆ เลื่อนลงไปด้านล่างช้าๆ
“อันที่จริง ตรงนี้ของท่านนักบุญหญิงตอนนี้ดูจะรีบร้อนกว่าหน้าอกแล้ว”
มือของเขาเลื่อนผ่านสะดือแล้วล้วงเข้าไปในซับในด้านล่างอย่างลื่นไหล คลำอยู่บนผืนป่าชั่วครู่ มือเรียวก็ลุกล้ำส่วนล่างอย่างไม่ลังเล ฝ่ามือนวดคลึงจุดซ่อนเร้นอย่างเชื่องช้า ความกระดากและความเขินอายที่เกิดขึ้นชั่วขณะทำให้ในหัวเปลี่ยนเป็นขาวโพลน
ไม่นานมือที่บดขยี้ส่วนล่างอย่างเชื่องช้าแต่หนักแน่นก็หยุดการเคลื่อนไหว ขณะที่ฉันกำลังจะหายใจ
“อ อ๊ะ!!”
นิ้วข้างหนึ่งของเขาสอดแทรกเข้ามาด้านใน
“อ๊ะ อ๊ะ!”
ฉันอ้าปากกว้างโดยอัตโนมัติเมื่อได้สัมผัสกับความรู้สึกข้างในที่เพิ่งเคยรู้สึกเป็นครั้งแรก ความรู้สึกทั้งหมดกำลังทะลักออกมาจากส่วนลับ ฉันจิกฝ่าเท้าอย่างไม่รู้สึกตัว พระเจ้าช่วย ความหวาดกลัวถาโถมเข้ามา ตอนนี้ฉันกำลังทำอะไรอยู่? อะไรเข้ามาร่างกายของฉัน?
เรียวนิ้วขยับเข้าออกอย่างรวดเร็ว ปลายนิ้วสะกิดผนังนุ่มด้านใน ร่างกายกระตุกเสียวจนยกสะโพกขึ้นทุกครั้งที่เขาทำแบบนั้น ฉันอยากเอ่ยปากให้เขาหยุดแต่สิ่งที่ออกมากลับมีแต่เสียงครางกระเส่า ไม่อาจเอ่ยคำพูดอื่นได้เลย
“อยากให้ข้าเร็วขึ้นอีกใช่หรือไม่?”
“อื้อ อึ๊ง!”
เมื่อเรียวนิ้วยาวถอนออกไปก็ได้ยินเสียงถอดเสื้อผ้าดังขึ้น ขณะเดียวกันก็ได้ยินคำสบถสั้น ๆ พร้อมกับเสียงหายใจแรงและเสียงที่คล้ายกับเสื้อผ้าฉีกขาด แค่นี้ก็รู้ได้แล้วว่าตอนนี้องค์ชายรัชทายาทกำลังเกิดความต้องการขนาดไหน
“ข้าจะทำให้ท่านอิ่มเอมใจจากด้านล่างก่อนเลย”
ชั่วขณะที่เขาพูดเช่นนั้น อ๊ะ เสียงร้องครวญครางก็หลุดออกมาพร้อมกับอะไรบางอย่างที่ไหลมาตามง่ามขา ฉันยกศรีษะขึ้นมองเขา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยประกายไฟแห่งความปรารถนาที่กดข่มเอาไว้ สายตานั้นกำลังจ้องมองมาที่ร่างกายของฉัน
แค่ถูกจ้องมองก็รู้สึกเหมือนกำลังถูกเขากลืนกิน เขาแทรกตัวเข้ามาระหว่างเรียวขาของฉัน สองมือจับเอวแล้วดึงเข้าหาตัว ทันใดนั้นแก่นกายขนาดใหญ่พลันสัมผัสกับกลีบดอกไม้ด้านล่าง
“อึก!”
ลมหายใจสะดุดเพราะของขนาดใหญ่ที่โผล่ออกมาอย่างกะทันหัน ส่วนอ่อนไหวที่สัมผัสโดนพลันสั่นสะท้าน ทันใดนั้นแก่นกายของเขาก็แนบเข้ากับส่วนล่างของฉันพร้อมกับถูไถขึ้นลงส่งเสียงดังเฉอะแฉะ
“…!”
ตอนนั้นเองฉันก็ตระหนักขึ้นมาได้แล้ว ความจริงที่ว่าตอนนี้ฉันกำลังมีอะไรกับผู้ชายอยู่
***
เลออนเหมือนกำลังจะเสียสติ
เป็นเพราะหญิงสาวที่กำลังหายใจหอบเหนื่อยพลางจ้องมองส่วนล่างของตนราวกับหวาดกลัว สีหน้าที่ราวกับไม่อยากเชื่อว่าแก่นกายนี้กำลังสัมผัสกับอวัยวะเพศของตนทำให้ท่อนล่างเลออนยิ่งแข็งขืนขึ้น
‘ให้ตายเถอะ’
เขาข่มคำสบถที่จะออกมาด้วยริมฝีปาก ท่อนล่างที่ปวดร้าวคล้ายจะปลดปล่อยออกมาเดี๋ยวนั้นกำลังดันส่วนหัวเข้าไปในปากทางรัก ปลายโค้งมนเพิ่งสัมผัสเข้าไปเพียงนิดเดียวแต่ส่วนล่างของนักบุญหญิงก็ตอดรัดอย่างนุ่มนวล ทันทีที่เนื้อนุ่มชื้นแฉะกลืนกินส่วนปลายของเขาเข้าไป เลออนก็รู้สึกได้ถึงความเสียวซ่านที่ไม่ได้พบมานาน
แท่งเอ็นของเขามีของเหลวหยดไหลออกมาด้วยความกระหาย สภาพที่ไหลเยิ้มดูเหมือนน้ำลายกำลังไหลอย่างไม่ผิดเพี้ยน
เพียงแค่แตะยังขนาดนี้ เขาจินตนาการไม่ออกเลยว่าถ้าได้เข้าไปด้านในจะสุขสมถึงเพียงไหน
เขาอยากจะแทรกกายเข้าไปด้านในนี้อย่างหยาบคาย อยากแทงเข้าไปอย่างไม่ปรานีจากนั้นก็โหมขยับกายอย่างบ้าคลั่ง น่าจะทำได้ ผู้ที่อ้อนวอนขอให้เขารีบสอดใส่เข้าไปไวๆ ก็คือนักบุญหญิงมิใช่หรือ
เลออนที่ตั้งใจจะสอดแทรกร่างกายของตนเข้าไปกดข่มไฟปรารถนาอย่างสุดกลั้นพลางจ้องมองนักบุญหญิงอีกครั้ง เขารู้สึกถึงความผิดปกติ
‘นี่คือนักบุญหญิงที่ลือกันจริงๆ หรือ?’
เขารู้สึกประหลาดตั้งแต่ตอนที่จูบกันแล้ว นักบุญหญิงเคยเรียกชายหนุ่มมาที่ห้องหลายสิบคนและมีความสัมพันธ์กันในทุกค่ำคืน ดังนั้นเขาจึงเชื่อว่านางจะต้องเชี่ยวชาญแน่ ทว่าอย่าว่าแต่เชี่ยวชาญเลย ในตอนที่ลิ้นเกี่ยวกระหวัดกันเขากลับเห็นนางเบิกตาโตราวกับตกใจด้วยซ้ำ หลังจากนั้นแทนที่นางจะจูบตอบกลับทำเพียงหายใจหอบถี่โดยไม่ทำอะไรคล้ายว่าได้กลายเป็นหินไปแล้ว
เลออนรู้ว่าการตอบสนองแบบนั้นจะพบได้ตอนไหน นักบุญหญิงกำลังทำตัวเหมือนหญิงสาวที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน
สตรีที่เอ่ยชวนให้มามีอะไรกันและลากเขามา แถมยังรำคาญที่เขาพูดมากจนตั้งใจจะออกไปหาชายคนอื่นเดี๋ยวนั้น นักบุญหญิงที่เป็นแบบนั้นดูเหมือนคนที่ร้อนรุ่มอยากจะกอดผู้ชาย ไม่สิ มันดูเร่งรีบมากกว่าจะเรียกว่าร้อนรุ่ม
ก่อนและหลังพิธีสวดภาวนาเขาเคยคิดว่าร่างกายของนางจะอร่อยหรือไม่ ดังนั้นเพื่อตอบสนองความต้องการของนาง เขาจึงพยายามไม่ให้ความสำคัญกับการกระทำของนางมากนัก ทว่าในตอนที่เขาบีบขยำทรวงอกด้วยมือของตนนั้น เลออนก็เกิดความคิดที่อยากเล่นสนุกขึ้น
ดังนั้นเขาจึงจงใจเริ่มลูบไล้อย่างเชื่องช้าทั้งที่นางร้องเร่ง ทันทีที่เขาขบกัดเนินอกของนักบุญหญิงที่ล้นอยู่เต็มปากพลางเย้าแหย่ยอดอกที่สัมผัสได้ด้วยปลายลิ้น ร่างกายที่อยู่ไม่สุขของนางก็ยิ่งเข้ามาแนบชิดเขามากขึ้น เขาไม่มีความคิดที่จะผลักไสออกไปเลยสักนิด กลับยิ่งอ้าปากกว้างเติมเต็มความอวบอิ่มขาวใสจนเต็มปาก ร่างกายอันแสนงดงามดิ้นพร่านอยู่ใต้ร่างเมื่อเขาออกแรงดูดดึงอย่างหยาบคาย
ผิวขาวนวลไร้รอยด่างพร้อยให้รสชาติหอมหวานราวกับถูกโรยด้วยน้ำตาล ขนาดที่ว่าหากสั่งให้เลียทั้งวันเขาก็สามารถทำมันได้ไม่หยุด ชั่วขณะเขาพลันเกิดความคิดอื่นขึ้น หากเขาได้หลั่งออกไปที่นี่มันจะอร่อยมากขึ้นอีกแค่ไหนกัน
พอคิดได้เช่นนั้น ด้านล่างของเขาก็ร้องทุกข์ถึงความเจ็บปวด เลออนเลื่อนมือลงด้านล่าง เขาคลายความกังวลลงเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงลำธารฉ่ำน้ำที่เอ่อล้น นางเปียกง่ายขนาดนี้ทั้งที่โดนกระตุ้นเพียงแค่นี้เองหรือ
‘เกือบถูกหลอกเสียแล้ว’
เขาเกือบจะตกหลุมลงไปเพราะท่าทีไร้เดียงสาที่ราวกับครั้งแรกนั่น ทว่าร่างกายของนางตอบสนองอย่างซื่อสัตย์ต่างจากท่าทีที่แสดงออกมา ถ้าเป็นเช่นนี้ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาหากเขาสอดใส่เข้าไปเลย
มือที่ใช้ถอดกางเกงอย่างหยาบคายลื่นหลุดอยู่หลายครั้ง เลออนหลุดหัวเราะให้กับท่าทีของตนเอง เขาไม่ใช่หนุ่มน้อยที่เพิ่งเคยทำเป็นครั้งแรกด้วยซ้ำแต่กลับร้อนรุ่มด้วยความตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูกไปเสียได้
“ตอนนี้ให้ข้าเข้าไปได้หรือยัง”
เขาถามขณะโอบกอดศีรษะของนักบุญหญิงที่หายใจหอบถี่ นักบุญหญิงที่ยังคงหายใจหอบเหนื่อยผงกศีรษะตอบด้วยความยากลำบาก
“ร เร็ว…รีบหน่อย…”
เมื่อได้รับคำยินยอม เลออนก็ไม่ชักช้าอีกต่อไป
แท่งเอ็นแข็งตึงที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดโปดปูนผงาดออกมาคล้ายจะสัมผัสสะดือ เลออนจับแก่นกายของเขาด้วยมือข้างเดียวแล้วนำมาจ่อทางรักของนักบุญหญิง เสียงเปียกฉ่ำน้ำยิ่งทำให้เขารู้สึกร้อนรุ่มมากขึ้น ทันทีที่ออกแรงสอดใส่ ส่วนล่างของนางก็เริ่มดูดกลืนของเขาเข้าไป
“อ๊ะ!”
ทันใดนั้น นักบุญหญิงก็เบิกตากว้างพร้อมกับส่ายหน้า
“จ เจ็บ…”
เลออนลังเลไปชั่วครู่เมื่อได้ยินดังนั้น นี่ก็แสดงหรือ? ทว่าเขากลับเห็นข้อนิ้วมือที่ขยำผ้าปูเตียงแน่นจนเปลี่ยนเป็นสีขาว นี่ควรทำอย่างไรดี เขาเอ่ยปากกระซิบราวกับปลอบใจ
“หัวยังไม่ได้เข้าไปเลยด้วยซ้ำ ท่านช่วยผ่อนแรงลงหน่อย”
นักบุญหญิงตอบกลับมาอย่างตะกุกตะกัก
“ผ ผ่อน ผ่อนอย่างไร…”
“…”
นี่เขาต้องอธิบายอะไรให้ฟังอย่างนั้นหรือ เลออนที่ลังเลโน้มตัวลงไปทั้งที่ไม่ได้ถอนตัวออก แล้วประกบลงไปบนริมฝีปากของนักบุญหญิงที่กำลังสั่นระริก เรียวลิ้นลุกล้ำเข้าไปในโพรงปากอย่างเชื่องช้าต่างจากเมื่อครู่ก่อน เขาทั้งขบเม้มริมฝีปากด้านล่างเบาๆ แบบไม่สร้างความเจ็บปวดรวมถึงใช้ปลายลิ้นสะกิดด้านในปากอย่างหยอกล้อ
ทันใดนั้น เรียวลิ้นของนักบุญหญิงก็เริ่มเกี่ยวม้วนลิ้นของเขาอย่างระมัดระวัง เลออนยกมือขึ้นจับไหล่ของนักบุญหญิง มือหนาลูบไล้ไหล่ที่แข็งเกร็งอย่างนุ่มนวลแล้วค่อยๆ เลื่อนมือลงไปด้านล่างอีกครั้ง มันจับเข้าที่ทรวงอกของนักบุญหญิงที่กำลังเสียดสีเบาๆ อยู่ใต้หน้าอกของเขา
ยังคงเป็นการกระทำที่อ่อนโยน มือที่บีบเค้นอย่างรุนแรงราวกับจะแตกออกค่อยๆ คลายอย่างนุ่มนวลอีกครั้ง เขาใช้ฝ่ามือวาดเป็นวงกลมไปทั่วทรวงอก ร่างกายของนักบุญหญิงค่อยๆ ผ่อนคลายลงในขณะที่เลออนทำแบบนั้นซ้ำไปซ้ำมา และในตอนที่ร่างของนักบุญหญิงผ่อนคลายอย่างถึงที่สุดคล้ายว่าคุ้นชิ้นแล้วนั่นเอง
สวบ!
เขาดันแก่นกายของตนเองเข้าไปด้านในอย่างแรงจนมิดโคนอย่างไร้ความปรานีในครั้งเดียว
“อ อ อ้าก!”
เสียงกรีดร้องดังขึ้นใต้ร่างเขา อาจเป็นเพราะตกใจกับสิ่งที่เข้ามาในชั่วพริบตา นักบุญหญิงจึงอ้าปากกว้างพลางเบิกตาขึ้น เลออนยิ้มพลางโน้มลงไปทาบริมฝีปากนั้น เขาไม่ลังเลอีกต่อไปและเริ่มขยับกาย
เสียงเฉอะแฉะดังออกมาจากช่องทางรักของคนทั้งสองพร้อมกับน้ำที่สาดกระเซ็น เตียงนอนที่สร้างขึ้นจากไม้ส่งเสียงดังราวกับจะพังทลายลงมาเดี๋ยวนั้น
หยุดไม่ได้แล้ว จิตวิญญาณของเขาได้หลุดลอยไปตั้งแต่ตอนที่สอดแทรกเข้าไปในส่วนล่างของนักบุญหญิงแล้ว
มันแน่นมาก แถมยังอุ่นด้วย เลออนถึงกับเกิดความคิดว่าตนเองกำลังถูกกินอยู่เมื่อได้สัมผัสเข้ากับด้านในของนักบุญหญิงที่กำลังตอดรัดแน่น แต่ว่าเขาไม่สนใจแล้ว ขอแค่ได้รู้สึกแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เขาจะถูกกินมากเท่าไรก็ได้
“อ๊ะ! อื้อ! ฮ อึง!”
เสียงกรีดร้องใต้ร่างที่กระแทกกันอย่างแรงค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเสียงครางกระเส่า เสียงร่ำร้องดังกระหึ่มมากขึ้นเมื่อเขากระแทกลึกเข้าไป เลออนกระแทกไปตรงนั้นอย่างจงใจทันที เสียงร้องที่ดังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาพอใจมาก จนถึงขนาดว่าหากทำได้ก็อยากจะฟังไปชั่วชีวิต
บางทีอาจเป็นเพราะเหนื่อย มือเล็กยกขึ้นมาดันไหล่ของเขาออกอย่างไร้เรี่ยวแรง เลออนยิ้มและจับมือนั้นไว้ เขาใช้ปลายลิ้นเรียวเลียไปตามฝ่ามือของนาง ร่างกายที่อยู่ใต้ร่างดิ้นพล่านขึ้นมาอีกครั้ง
“อ๊ะ อือ! อ อึง!”
เสียงครางนั้นยิ่งกระตุ้นการเคลื่อนไหวของเขา ในตอนที่ร่างกายเคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่งอยู่ครู่หนึ่งถอยออกไปด้านหลังและปลายโค้งมนกำลังจะหลุดออกมา เลออนก็ยกร่างของนักบุญหญิงขึ้นเต็มแรง
“อ๊า…!”
นักบุญหญิงตัวสั่นสะท้านเมื่อได้สัมผัสกับความรู้สึกที่ถูกแทงเข้ามาในส่วนที่ลึกที่สุด เลออนดึงตัวนางเข้ามากอดอย่างแรง ร่างกายของคนทั้งคู่แนบชิดติดประสานกันจนแม้แต่กระดาษสักแผ่นยังไม่อาจสอดแทรกเข้าไปได้ ร่างของเลออนสั่นเบาๆ หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็ค่อยๆ ถอนตัวตนออกมาจากทางรัก
นี่หลั่งออกมามากเพียงไหนกันแน่ น้ำกามสีขาวขุ่นไหลลงมาบนผ้าปูเตียงพร้อมกับเสียงดังเปาะแปะ ช่องทางรักของนักบุญหญิงที่อ้าออกอยู่มีน้ำกามไหลรินออกมาราวกับมิอาจกั้นเอาไว้ได้
เลออนจึงได้รู้ว่าคำว่าตาหมุน[1]เป็นคำที่ถูกใช้ในสถานการณ์แบบใด
เส้นผมสีบลอนด์ทองกระจายไปทั่วบนผ้าปูเตียงที่ยับยู่ยี่ นัยน์ตาสีฟ้าที่เปียกชื้นจากน้ำตาดูล่องลอยและผ่อนคลายทั้งยังหยาดเยิ้มไปด้วยบรรยากาศของการร่วมรักเมื่อครู่ เนินอกอวบอิ่มที่มีร่องรอยสีแดงซึ่งเขาหยอกเล่นเอาไว้กำลังสั่นไหวอย่างช้าๆ ในทุกครั้งที่หายใจ เรือนร่างของหญิงสาวที่นอนแผ่อยู่ใต้ร่างของเขาอย่างหมดแรงจากการรับเขาเข้าไป และหลักฐานของเขาที่ไหลออกมาจากในนั้น
“แย่แล้ว…”
เลออนตระหนักได้ว่าตนทำอะไรลงไปจนสบถออกมา
จนถึงตอนนี้เขามีความสัมพันธ์กับหญิงสาวมามากมาย และเขาก็ไม่เคยหลั่งน้ำกามของตนด้านในหญิงสาวเลยสักครั้ง ไม่ว่าจะร่วมรักกันอย่างไรแต่เขาก็รักษากฏของตนเองมาตลอด
ไม่ใช่ว่าเขากลั้นไม่ได้ เขาอยากทำแบบนั้น
เขาอยากจะเข้าไปให้ลึกกว่านี้ อยากจะกลืนกินทุกอย่างกระทั่งลมหายใจ เขาอยากหลั่งน้ำกามของเขาเข้าไปในตัวของสตรีที่เขากำลังกอดอยู่ตอนนี้อย่างไม่หยุดยั้ง เขาหวังว่านางจะเปื้อนไปด้วยกลิ่นของเขาเท่านั้น