บทที่ 1265 –ต่อสู้และก้าวต่อไป

 

ชิงสุ่ยเคยได้ยินกฎขอองนิกายของเธอมาก่อน ที่ห้ามให้สาวกของนิกายนั้นแต่งงาน เว้นแต่ว่าพวกเธอนั้นต้องออกมาจากนิกายเสียก่อน นอกจากนี้ก็ห้ามเปิดเผยถึงข้อมูลของนิกาย

 

เว้นแต่สาวกศักดิ์สิทธิ์ พวกเธอนั้นมีตัวตนอยู่เพื่อนิกาย ตายเพื่อนิกาย นอกจากนี้ยังไม่สามารถออกจากนิกายได้ นี่รวมไปถึงผู้นำนิกายก็ไม่มีข้อยกเว้น

 

 

ติ๊เฉินมองไปที่ชิงสุ่ย “ชิงสุ่ย ข้าไม่สามารถออกไปจากนิกายได้จริงๆ เว้นแต่เจ้าจะมีความสามารถเพียงและใช้กำลังดึงตัวข้าไปเท่านั้น หรือไม่เราก็ตายด้วยกันที่นั้น”ติ๊เฉินกล่าว

 

“เด็กโง่ มีใครกล้าแตะต้องผู้หญิงของช้า? เชื่อใจในสามีของเจ้าเถอะ ข้าจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวัง”ชิงสุ่ยกล่าวออกมา ในตอนนี้ตั้งแต่แรกพวกเขานั้นก็ถือว่าเป็นสามีภรรยากันอยู่แล้ว

 

 

“เห้อเจ้าก็เอาแต่เป็นอย่างนี้ ไม่เคยเห็นใครในสายตา ถึงข้าจะรู้ดีว่าเจ้านั้นไม่ได้โกหกก็ตาม……..”ติ๊เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

“แล้วตอนนี้ใครเป็นผู้นำนิกายบงกชเทวะ ข้าจะเป็นคนเข้าไปคุยเอง มันคงจะเป็นเรื่องดีกว่าใช้กำลังเสียในตอนนี้?”ชิงสุ่ยได้กล่าวออกมา ชิงสุ่ยรู้ดีว่านี่เป็นความคิดที่ดีที่สุด

 

ในตอนนี้วิหคเพลิงนภาหยุดอยู่บนอากาศ ขณะนี้ชิงสุ่ยและติ๊เฉินกำลังยืนอยู่บนหลังของมัน  ในตอนนี้ได้จับมือของติ๊เฉินและค่อยๆถอดผ้าปิดหน้าลง  ขณะนี้เธอไม่มีท่าทีที่จะชัดขืนเลยแม้แต่น้อย

 

ใบหน้าที่คุ้นเคยและงดงามได้ปรากฏออกมาอีกครั้ง ในขณะนี้เขาค่อยๆโอบกอดเธอเข้ามาในอ้อมอก ขณะนี้เองติ๊เฉินนั้นไม่มีท่าทีขัดขื่นเลยแม้แต่น้อย

 

“เจ้าต้องการพบผู้นำนิกายของข้าอย่างนั้นรึ?” ลมหายใจอ่อนโยนได้แพร่ออกมา  ในขณะที่ใบหน้าของเขาห่างออกไปเพียงแค่หนึ่งฝ่ามือเท่านั้น

 

“แต่ถึงอย่างไรหากนางไม่ยอม ปล่อยเจ้าออกมา ข้าเองก็คงต้องทำสงครามกับนิกายบงกชเทวะเพื่อดึงตัวเจ้ากลับมา”ชิงสุ่ยกล่าวอย่างจริงจัง

 

“แต่ท่านผู้นำดีต่อข้ามากๆ และยังเป็นคนช่วยชีวิตข้าเอาไว้ ข้าไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเลย”ติ๊เฉินกล่าว

 

“แล้วเจ้าไม่อยากกลับไป5ทวีปอย่างนั้นรึ?”นี่เป็นสิ่งที่ชิงสุ่ยอยากรู้ที่สุด

 

 

“แน่นอนข้าอยากกลับไป แต่มันยังไม่ใช่เร็วๆนี้  ข้านั้นต้องจัดการเรื่องราวทั้งหมดให้จบลงก่อน จึงจะสามารถกลับไปหาเจ้าได้และใช่ชีวิตอยู่กับเจ้าตลอดไป”ติ๊เฉินกล่าว

 

คำกล่าวไม่กี่คำที่มาจากหญิงงามเช่นเธอนั้นทำให้หัวใจของเขานั้นสั่นไหวอย่างมาก ชิงสุ่ยค่อยโอยกอดเธอแน่นขึ้นและแน่นขึ้น “ไม่ต้องคิดอะไรมาก ข้าจะไปหาผู้นำของเจ้าหลังจากปีใหม่นี้ ข้าจะไม่ยอมเสียเจ้าไปเด็ดขาด ”ชิงสุ่ยกล่าว

 

“เจ้าแน่ใจรึว่าจะทำสำเร็จ?”ติ๊เฉินเงยหน้ามอง

 

“มันต้องสำเร็จ!”ชิงสุ่ยยิ้มและตอบ

 

“ก็ได้ข้าจะพาเจ้าไปพบนางหลังจากปีใหม่ แต่ถ้าไม่ตกลงกันได้ เราจะสู้ตายกับนาง?”ติ๊เฉินล่าวออกมา

 

“สมแล้วที่เป็นภรรยาของข้า”ชิงสุ่ยยิ้มอย่างมีความสุข

 

“คนโง่ใครเป็นภรรยาของเจ้า?”ติ๊เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

“ฮ่าๆไม่พบกันนานเจ้ายังไม่เปลี่ยนไปเลยนะ รอดูเถอะอีกไม่นานข้าจะทำให้เจ้าเป็นภรรยาของข้าให้ได้อย่างแท้จริง”ชิงสุ่ยกล่าวขณะที่กอดเธอไว้

 

“เห้อเจ้าก็ไม่เปลี่ยนไปเลย อย่างเป็นคนลามกเช่นเดิม ไหนบอกมาสิตอนนี้เจ้าภรรยาเพิ่มมากี่คนแล้วในช่วงที่ข้าไม่อยู่?”ติ๊เฉินกล่าวขณะที่จ้องไปที่หน้าของเขา

 

“เออ…คือว่า… แบบว่า”ชิงสุ่ยถึงกับกล่าวไม่ออก

 

 

“ฮ่าๆ อย่าคิดมากเลยไม่ว่าจะกี่คน ข้าก็ยังรักเจ้าอยู่ดี ถึงข้าไม่อาจอยู่กับเจ้าได้ตลอดเวลา แต่อย่างน้อยข้าก็รู้ว่าในใจของเจ้ายังมีข้าๆก็มีความสุขแล้ว”

 

“สาวโง่ มีรึที่ข้าจะไม่รักเจ้า ข้าจะทำให้เจ้ามีความสุขที่เลือกข้า”ชิงสุ่ยยิ่ม

 

ในเวลาหลายปีนี่เธอนั้นเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย แต่ถึงอย่างไรเธอนั้นก็คือติ๊เฉินคนเดิมของเขา ในท้ายที่สิดชิงสุ่ยนั้นต้องการให้เธอออกจากนิกายของเธอมา หรือไม่เขานั้นก็ต้องเปลี่ยนกฎบางอย่างเพื่อให้พวกเขานั้นสามารถอยู่ด้วยกัน

 

“ข้ารู้ดีไม่เช่นนั้นข้าจะปล่อยให้เจ้ากอดข้าอย่างนี้รึ”

 

ชิงสุ่ยไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขาค่อยๆก้มหน้าและจูบลงไปที่ริมฝีปากของเธอ  แต่อย่างไรเธอก็ได้หลบมันและให้เขาหอมไปที่แก้มของเธอ “ชิงสุ่ยข้าเป็นสาวกศักดิ์สิทธิ์ของนิกาย ข้ายังจำเป็นต้องเก็บความบริสุทธิ์เอาไว้”

 

“ยังไง?”ชิงสุ่ยกล่าวถามออกมา

 

 

“นอกเหนือจากสาวกศักดิ์สิทธิ์ของนิกายแล้ว หญิงสาวของนิกายบงกชเทวะไม่จำเป็นต้องรักษาความบริสุทธิ์เอาไว้ ถึงแม้เราจะมีกฎว่าห้ามแต่งงานก็ตาม ”

 

“นั้นหมายความว่าหญิงสาวของนิกายบงกชเทวะ นั้นสามารถมองหาผู้ชายได้ แต่พวกเขาไม่มีสิทธิ์ครองคู่กันอย่างนั้นรึ?”ชิงสุ่ยถามออกมา

 

“ก็ใช่ แต่มันก็ไม่ได้หมายว่าสามารถมองหาได้”ติ๊เฉินกล่าว

 

 

“นั้นหมายความว่าต้องแอบอย่างนั้นรึ?”ชิงสุ่ยกล่าวด้วยความสงสัย

 

“ใช่และไม่ใช่!”

 

“ข้าไม่เข้าใจพวกเขาเลย พวกเขาจะตั้งกฎเช่นนี้มาทำไม หรือว่าบางทีผู้ก่อตั้งของเจ้าอาจจะเกิดความเปล่าเปลี่ยวใจ เลยแอบแก้ไขกฎรึป่าว?”ชิงสุ่ยกล่าวอย่างติดตก

 

“เจ้าบ้า หยุดคิดเรื่องไร้สาระได้แล้ว”

 

………

 

 

 

“แล้วที่นั้นเป็นอย่างไรบ้าง?”ติ๊เฉินกล่าวออกมา

 

ชิงสุ่ยสามารถรู้ได้ทันที่ว่าเธอกำลังกล่าวถึง5ทวีป

 

“ทุกๆอย่างได้รับการดูแลอย่างดีแล้ว  ตอนนี้ข้าได้ว่าแผนที่จะสร้างแท่นเคลื่อนย้ายบรรพกาลเพื่อให้พวกเขาสามารถเดินทางมาที่นี่ได้ เจ้าว่าดีมั้ย?”ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าว

 

“ข้าเกรงว่าตอนนี้มันยังไม่เหมาะสมเท่าไร ความแตกต่างระหว่าง5ทวีปและ4ทวีปนั้นมีมากเกินไป”

 

 

“ใช่นี่จึงเป็นเหตุผลที่ข้าต้องรีบแข็งแกร่งขึ้นให้มากกว่านี้ เมื่อถึงเวลานั้นพวกเราจะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง ตอนนี้ข้าเองก็คิดถึงพวกเขาอย่างมาก ”ชิงสุ่ยกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนแอ

 

“ข้าเข้าใจดีความคิดถึงเป็นสิ่งที่ทรมาน เอาเถอะข้าเชื่ออีกไม่นานเราก็จะได้พบกับพวกเขาอีกครั้ง”

 

 

“ดูนั้นสิ เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ออกมามองท้องงฟ้าของทวีปอูเซียตะวันตก มันช่างงดงามจริงๆ เจ้าคิดเหมือนข้ารึไม่?”

 

“ใช่ มันช่างงดงาม”ติ๊เฉินยิ้มและกล่าว

 

 

“ชิงสุ่ย ตอนนี้เจ้ายังรู้สึกเหมือนเดิมกับข้าอยู่อีกหรือไม่?”ติ๊เฉินกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล

 

“แน่นอน แต่ข้าก็ยังโกรธที่เจ้าจากข้ามาในตอนนั้น ข้าเคยกล่าวไว้กับตัวเองว่าหาเจอเจ้า ข้าจับเจ้าตีก่นให้หลายๆครั้ง”ชิงสุ่ยกล่าว

 

“ก็ได้ข้าให้อนุญาตเจ้า ถือว่าเป็นการไถ่โทษ”ติ๊เฉินกล่าว

 

 

ธรรมชาติของชิงสุ่ย เขามักจะลวนลามเธอเสมอ ซึ่งเธอนั้นจะพยายามหลีกเลี่ยงมัน แต่ในครั้งนี้อาจเป็นเพราะความคิดถึง ความรู้สึกผิดเธอจึงอนุญาตให้เขาแตะต้องร่างกายของเธอ

 

ในตอนนี้เองมือของชิงสุ่ยคว้าลงไปที่ก้นของเธอย่างรวดเร็ว มันนั้นช่างนุ่มนวลและดึงดูด ความรู้สึกที่น่าหลงใหลได้ผ่านซึมเข้ามาในมือของเขา ในตอนนี้แม้อากาศจะออกหนาวเล็กน้อย แต่พวกเขากับรู้สึกว่ามันร้อนผ่าวอย่างมาก

 

ใบหน้าของติ๊เฉินเปลี่ยนเป็นแดงเข็ม ขณะที่เธอก้มหน้าลงไปที่หน้าอกของเขา

 

 

โดยไม่รอช้ามือของชิงสุ่ยได้จับและวนไปรอบบริเวณนั้นเป็นเวลานาน เสียงที่หน้าอายได้หลุดออกมาจากปากของเธอ แม้แต่ชิงสุ่ยเองก็ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินมัน

 

ถึงอย่างไรตอนนี้ชิงสุ่ยนั้นยังไม่ค่อยพอใจกับมันเท่าไร เขาพยายามเคลื่อนมือไปยังจุดๆอื่น

 

โดยไม่รู้ตัว ชิงุ่ยนั้นได้จูบลงไปบนปากของเธอ ขณะที่มือของเขาได้ขย้ำลงไปที่หน้าอกคู่งามดังหยก

 

 

ร่างกายของเธอนั้นสั่นสะท้านและ อ่อนลงอย่างเห้นได้ชัด แต่ถึงอย่างไรเธอก็ไม่ได้หยุดเขา

 

 

ในขณะนี่ชิงสุ่ยกดเธอลงบนหลังวิหคเพลิงนภา และเริ่มดูดดื่มน้ำในบ้าของเธอย่างบ้าคลั่ง  ในขณะนี้มือของเขาได้เคลื่อนลงมาที่จุดได้สือของเธอ

 

“ชิงสุ่ย มันยังไม่ใช่ตอนนี้ สัญญากับข้า ให้เราจัดการปัญหาทั้งหมดให้จบลงก่อนและเมื่อนั้นข้าจะยอมเป็นของเจ้า”เสียงที่นุ่มนวลดังออกมา

 

 

“ก็ได้หากเจ้าไม่ยอมให้ข้ากินส่วนนั้นของเจ้า เจ้าก็ต้องยอมให้ข้ากินส่วนๆอื่นๆแท่น”ชิงสุ่ยกล่าวออกมาขณะที่ปลดเสื้อของเธออกมา

 

 

เธอไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างได้ ในเวลานี้เสื้อตัวนอกของเธอได้ถูกปลดออกอย่างสมบูรณ์โยชิงสุ่ยแล้ว เผยให้เห็น หน้าอกที่งดงามดังหยก สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้หัวใจของชิงสุ่ยหยุดเต้นไปชั่วขณะ นี่มันเป็นสิ่งที่งดงามอย่างมาก เทียบกับงานศิลปะชั้นยอดในโลกก็ว่าได้

 

 

มันนั้นแทยไม่มีข้อบกพร่องแต่อย่างใดๆ มันเป็นหน้าอกที่ผู้ชายทุกๆคนใฝ่ฝันถึง  นอกจากนี้จุดสีชมพูเล็กๆยังสามารถดึงดูดหัวใจของผู้ชายทุกคนได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

ขณะนี้ชิงสุ่ยจ้องมองไปที่ดวงตาของเธอ แต่เธอนั้นไม่กล้าที่จะสมสายตากับเขา เขาไม่สามารถทดได้ต่อไป ชิงสุ่ยได้จับและดูดดื่มที่มันอย่างบ้าคลั่ง เสียงแห่งความสุขดังออกมาเป็นระลอกดังคลื่นที่ถามโถมเข้ามา  ในเวลานี้ทั้งสองต่างมีความสุขอย่างมาก

 

 

ฝ่ายไป4ชั่วยาม แต่ทั้งสองก็ไม่ได้ทำอะไรเกินไปกล่าวนั้น แต่ถึงอย่างไรในช่วงเวลานั้นเคล็ดวิชาทวิบ่มเพาะได้หมุนวนอย่างต่อเนื่องภายในจิตสำนึกของทั้งสอง

 

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้สวมใส่เสื้อผ้าให้กับเธอ ขณะที่ใบหน้าของเธอยังคงแดงอยู่  เช่นเดียวกันมืออีกข้างของเขายังก็ไม่ปล่อยมือออกจากหน้าอกของเธอ ในขณะที่ติ๊เฉินก้ไม่ได้หยุดเขาแต่อย่างใด

 

 

“ชิงสุ่ยต่อจากนี้เจ้าแข็งแกร่งระดับไหน?”ในตอนนี้ติ๊เฉินได้ถามคำถามออกมา ขณะที่เธอไม่สนใจมือที่ซุกซนของเขา

 

“ข้าคิดว่าตอนนี้แม้แต่ ผู้บ่มเพาะที่มีความแข็งแกร่ง 7000-8000 สุริยาก็ไม่อาจแตะต้องตัวข้าได้ แต่ข้าก็ไม่แน่ใจกับความแข็งแกร่งมากนัก  ว่าจะสามารถรับมือกับระดับ 1หมื่นสุริยาได้หรือไม่”ชิงสุ่ยกล่าวออกมาหลังจากคิดอยู่พักใหญ่

 

“เห้อ เจ้ามันสัตว์ประหลาดจริงๆ แล้วเจ้ามีแผนจะทำอะไรต่อในอนาคต?”

 

“เหตุผลหลักๆที่ข้ามาที่นี่ก็คือเจ้า แต่ในตอนนี้ข้าก็ได้พบกับจ้าแล้ว ข้าก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ แต่ถึงอย่างไรก็ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ข้าต้องสืบดูก่อน มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพ่อของข้า ในอดีตพี่ชิงชิงได้บอกข้าว่าหลุมศพของพ่อของข้านั้นว่างเปล่า นอกจากนี้ยังมีจารึกบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับ4ทวีปแห่งนี้ ดังนั้นข้าจึงจะลองสืบเรื่องนี้ดูก่อน บางทีพ่อของข้าอาจจะยังมีชีวิตอยู่ หากเป็นเช่นนั้นข้าจะพาเขาไปพบกับแม่ของข้า ”