บทที่ 341 สั่นสะเทือนไปทั่วโลก

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)

บทที่ 341 สั่นสะเทือนไปทั่วโลก

พื้นที่หลายกิโลเมตรถูกย้อมไปด้วยเลือด

นี่คือการปะทะกันครั้งแรกระหว่างจอมยุทธ์จีนกับนักสู้จากยุโรปและสุดท้ายนักสู้จากยุโรปก็พ่ายแพ้ตกตายจนหมดสิ้น

ในขณะนี้ โลกอินเทอร์เน็ตกำลังร้อนระอุเป็นอย่างยิ่ง

เนื่องจากภาพในเหตุการณ์นี้ถูกโพสต์ลงในโลกออนไลน์

มังกรดำมีความแข็งแกร่งแค่ไหน ก่อนหน้านี้ทุกคนในอินเทอร์เน็ตต่างทราบกันเป็นอย่างดี แต่ไม่มีใครคิดเลยว่า มันจะถูกฉู่ชวิ๋นปราบได้อย่างง่ายดายขนาดนี้

ฝ่ายนักสู้จากยุโรปเมื่อเห็นการสังหารหมู่ที่เกิดขึ้นจากภาพในอินเทอร์เน็ต พวกเขาต่างก็โกรธแค้นและตั้งมั่นว่าจะต้องแก้แค้นฉู่ชวิ๋นให้จงได้

“มีความสามารถก็เข้ามาเลย มาดูกันเถอะว่าพวกแกจะโดนตัดหัวเพิ่มอีกกี่คน”

“ไอ้พวกฝรั่งถูกนายท่านฉู่ชวิ๋นฆ่าราวกับหมาตัวหนึ่ง ลองพวกแกกล้าดีมาเห่าหอนอีกสิ รับรองว่านายท่านฉู่ชวิ๋นจะต้องสั่งสอนบทเรียนให้พวกแกหลาบจำในเวลาแค่ไม่กี่นาทีแน่นอน”

“สหพันธ์ศาสตร์มืด พวกแกร่วมมือกับมังกรดำสังหารนายทหารจีนไปมากมาย ไม่ช้าก็เร็ว จอมมารฉู่ชวิ๋นจะต้องโค่นล้มสหพันธ์ของพวกแกแน่”

บรรดาจอมยุทธ์ชาวจีนโต้ตอบด้วยความดูถูกดูแคลน

กลุ่มนักสู้ยุโรปก็พิมพ์โต้ตอบกลับมาอย่างเดือดดาล โดยบอกว่าฉู่ชวิ๋นจะต้องชดใช้ให้กับการนองเลือดในครั้งนี้

วิหารดวงตะวันก็ออกมาโพสต์ข้อความว่า “ฮอฟมันเป็นทายาทแห่งวิหารดวงตะวัน การที่จอมมารฉู่ชวิ๋นฆ่าเขา ถือว่าเป็นการดูหมิ่นพระเจ้าอย่างร้ายกาจ ไม่ช้าก็เร็ว จอมมารฉู่ชวิ๋นจะต้องได้รับบทเรียน!”

สหพันธ์ศาสตร์มืดเองก็ไม่ยอมอยู่นิ่งเฉยเช่นกัน ส่งตัวแทนออกมาพิมพ์ข้อความว่า “ฉันขอพูดในฐานะตัวแทนของสหพันธ์ศาสตร์มืด ไม่ช้าก็เร็ว ฉู่ชวิ๋นจะต้องถูกพวกเราตัดหัวเสียบประจาน!”

มีอีกหลายสำนักและองค์กรจากยุโรปที่ออกมาประกาศกร้าวว่าพร้อมที่จะสังหารฉู่ชวิ๋นเช่นกัน

เหตุการณ์นี้ไม่ได้ส่งผลเฉพาะ.oโลกยุทธภพเท่านั้น แต่ยังส่งผลไปถึงรัฐบาลของหลายประเทศอีกด้วย

รัฐบาลจากอเมริกาประกาศว่าฉู่ชวิ๋นลงมืออย่างโหดร้ายทารุณมากเกินไป และอยากขอความร่วมมือให้รัฐบาลจีนส่งตัวฉู่ชวิ๋นไปรับโทษที่ต่างประเทศ

เวียดนามเป็นสุนัขรับใช้ของอเมริกา ไม่ว่าเจ้าของสั่งอะไร สุนัขรับใช้ก็จะคล้อยตามเสมอ เวียดนามกล่าวหาว่าฉู่ชวิ๋นข้ามพรมแดนมาเข่นฆ่าคนของพวกเขาและเล่าย้อนไปถึงตอนที่ฉู่ชวิ๋นจัดการกับกลุ่มหมาป่าทองคำในเขตแดนของเวียดนามเมื่อสิบกว่าปีก่อน รวมถึงกล่าวหาด้วยว่าชายหนุ่มสังหารนายทหารของเวียดนามไปเป็นจำนวนมาก

หัวหน้าหมายเลข 1 โทรมาปรึกษากับฉู่ชวิ๋นว่าควรจะตอบคำถามยังไงดี

ฉู่ชวิ๋นบอกไปว่าไม่ต้องตอบอะไรทั้งนั้น แต่ฝากบอกทุกประเทศหน่อยว่า เขากำลังจะมีของขวัญไปฝาก

ตัวแทนจากประเทศจีนออกประกาศตามนั้น โดยขอร้องให้ทุกประเทศอย่าบังคับกดดันและรอคอยของขวัญชิ้นใหญ่ที่จะถูกส่งให้ทุกคน

ในขณะที่ทุกประเทศกำลังประหลาดใจอยู่นั้นเอง ก็ได้มีการแจ้งเตือนว่าค่ายทหารขนาดใหญ่ของเวียดนามโดนโจมตี นายทหารหลายร้อยคนเสียชีวิตไปอย่างน่าสยองขวัญ

ข่าวอันน่าตกตะลึงนี้ทำให้ผู้นำเวียดนามไม่สามารถอยู่นิ่งเฉยได้ เขาสั่งให้ทำการสืบสวนเรื่องนี้ทันที นี่คือเรื่องราวใดกันแน่?

หรือว่าการลงมือครั้งนี้เป็นของขวัญที่ฉู่ชวิ๋นพูดถึง?

ในวันเดียวกันนั้น หลังจากที่สังหารนักสู้ยุโรปไปหมดสิ้น ฉู่ชวิ๋นก็ไม่ได้เดินทางกลับที่พัก แต่เขาตรงเข้าไปในพื้นที่ฝั่งเวียดนาม

“พี่ฉู่ชวิ๋นจะไม่เป็นไรแน่เหรอ?” ถางโร้วถามออกมาเป็นครั้งที่ร้อยแล้ว

ตอนนี้สมาคมนักล่ามังกรเดินทางกลับกันไปหมดแล้ว ไม่มีใครเหลืออยู่เลยสักคนเดียว

หยานหวูซวงยิ้มอย่างขมขื่นและตอบเป็นครั้งที่ร้อยเช่นกันว่า “เธอห่วงตัวเองดีกว่า พี่ฉู่ชวิ๋นของเธอน่ะหน้าด้านหน้าทนแม้แต่กระสุนก็เจาะไม่เข้า แถมเขาเจ้าเล่ห์ร้ายกาจขนาดนั้น ใครจะไปทำอันตรายเขาได้?”

ถางโร้วตอบกลับด้วยความไม่พอใจ “ฉันรู้ว่าคุณตั้งใจใส่ความพี่ฉู่ชวิ๋น เพราะพี่ฉู่ชวิ๋นฉลาดมากกว่าคุณ คุณก็เลยอิจฉาเขาสินะ”

หยานหวูซวงโมโหขึ้นมาทันที “ฉันเนี่ยนะอิจฉาเขา? เธอไม่ได้เปิดตาดูโลกภายนอกบ้างเลยหรือไง เพียงแค่เอ่ยชื่อของจอมมารฉู่ชวิ๋นออกมาเท่านั้น คนแก่ก็หวาดกลัวจนแทบตาย แม้แต่เด็กน้อยก็ร้องไห้อย่างขวัญเสีย แบบนี้มีอะไรให้น่าอิจฉา?”

“ก็เป็นเพราะว่าพี่ฉู่ชวิ๋นแข็งแกร่งเกินไป จนไม่มีใครสามารถทำอะไรเขาได้ ได้แต่ใส่ความพี่เขาเท่านั้นเอง” ถางโร้วพูดอย่างไม่คิดมาก

หยานหวูซวงยกมือตบหน้าผากตัวเองด้วยความเหนื่อยใจ “เธอเนี่ยอาการหนักแล้วนะ หลงไอ้หมอนั่นจนโงหัวไม่ขึ้น น่าเวทนาจริง ๆ”

ถางโร้วหน้าแดงด้วยความเขินอาย เธอไม่ได้หลงฉู่ชวิ๋นจนโงหัวไม่ขึ้น แต่เธอแค่ยอมตายแทนเขาได้เท่านั้นเอง

ในเวลาเดียวกันนั้น ก็ได้เกิดการโจมตีครั้งใหญ่ที่ประเทศเวียดนามอย่างต่อเนื่อง สำนักจอมยุทธ์ชื่อดังของเวียดนามหลายสำนักถูกกวาดล้างไม่มีหยุด

หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องเป็นฝีมือของฉู่ชวิ๋นอย่างแน่นอน

เนื่องจากตั้งแต่ที่ฉู่ชวิ๋นเดินทางเข้าไปในเวียดนาม ก็ไม่มีใครทราบถึงที่อยู่ของเขาอีก

เวียดนามเป็นประเทศเล็ก ๆ มีจอมยุทธ์อยู่ไม่มาก ทว่าแต่ละสำนักก็มีชื่อเสียงโด่งดังไม่ใช่น้อย พวกเขาถูกกวาดล้างอย่างต่อเนื่อง ถ้าทุกอย่างยังเป็นเช่นนี้ต่อไป วงการยุทธภพของเวียดนามคงย้อนกลับไปอยู่ในสภาพเดียวกับก่อนที่จะเกิดความเปลี่ยนแปลงของโลกขึ้นเป็นแน่แท้

แต่ข่าวร้ายก็ยังคงถูกแจ้งเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน

โดยข่าวล่าสุดก็คือ ยอดนักดาบที่อายุน้อยที่สุดของเวียดนาม ผู้เป็นถึงจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 7 ได้เสียชีวิตลงไปแล้ว เขาถูกดาบของตัวเองปักติดอยู่กับหน้าผา สภาพที่น่าเวทนาเป็นอย่างยิ่ง

ในวันเดียวกันนั้น หัวหน้าสำนักใหญ่ในเวียดนามแห่งหนึ่ง ซึ่งมีพลังอยู่ในขั้นจักรพรรดิระดับ 7 เช่นกัน ก็ถูกสังหารและนำศพมาแขวนไว้ที่หน้าประตูสำนักของตัวเอง

วันต่อมา เรือรบสองลำของเวียดนามที่อเมริกาเป็นคนผลิต ก็ถูกทำลายจนจมลงใต้น้ำ

วันที่สาม จอมยุทธ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากคนหนึ่งของเวียดนาม ถูกฆาตกรรมอย่างโหดร้าย แม้จะมีเวรยามเฝ้าอารักขาอย่างแน่นหนาก็ตาม

ว่ากันว่าผู้นำของเวียดนามในตอนนั้น หวาดกลัวจนถึงขั้นโรคหัวใจกำเริบเลยทีเดียว

ประชาชนชาวเวียดนามตกอยู่ภายใต้ความหวาดกลัว ไม่ว่าจะเป็นผู้นำทางการเมืองหรือจอมยุทธ์ในยุทธภพ ต่างก็ไม่สามารถอธิบายความหวาดกลัวของตัวเองออกมาได้เลย ด้วยทราบดีว่าพวกเขาอาจจะเสียชีวิตได้ทุกเมื่อถ้าไม่ระวังตัว

ทุกคนรู้ดีว่านี่คือฝีมือของฉู่ชวิ๋น

ผู้นำของเวียดนามภายใต้การคุ้มครองของกองทหาร ได้ออกมาจัดการแถลงข่าวและประกาศว่า “เมื่อโลกเกิดความเปลี่ยนแปลง สัตว์ร้ายออกอาละวาด พวกเราทุกประเทศควรต้องร่วมมือกันด้วยความรักใคร่สามัคคี และช่วยกันรับมือความเปลี่ยนแปลงของโลกใบนี้ให้จงได้”

สุดท้าย เขาถึงกับพูดคำคมจีนออกมาว่า “เพราะชีวิตของทุกคนดำรงอยู่ได้ด้วยความรักและความยุติธรรม”

ถึงแม้ว่ารูปประโยคจะไม่ได้ถอดมาจากสุภาษิตจีนแบบทุกกระเบียดนิ้ว แต่ชาวจีนก็รู้สึกพึงพอใจ เนื่องจากเวียดนามมีท่าทีที่อ่อนลงแล้ว

การโจมตีของจอมมารฉู่ชวิ๋นเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวเป็นอย่างยิ่ง เขามีฝีมือร้ายกาจ แถมยังไม่ขึ้นตรงต่อใคร

เมื่อมีปัญหากับประเทศจีน ใครจะคิดเลยว่าผลลัพธ์จะร้ายแรงขนาดนี้ ผู้นำเวียดนามได้แต่เศร้าเสียใจว่าทำไมพวกเขาถึงไปร่วมมือกับพวกยุโรปได้นะ?

แต่บางคนก็ตั้งกระทู้ด้วยความสะใจว่า นี่แหละคือราคาของการเป็นสุนัขรับใช้ ตอนนี้เวียดนามคงต้องหาเจ้านายคนใหม่เอาไว้คอยคุ้มหัวตัวเองเสียแล้ว

แม้ว่ารัฐบาลเวียดนามจะมีท่าทีที่อ่อนลง แต่ข่าวร้ายก็ยังเกิดขึ้นเป็นรายวัน จอมยุทธ์เวียดนามยังคงถูกสังหารอย่างต่อเนื่อง

ในตอนนี้ ผู้นำของทุกสำนักในเวียดนาม ต่างก็ถูกฆ่าตายจนเกือบหมดสิ้นแล้ว

เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ นายกรัฐมนตรีของเวียดนามก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาออกคำสั่งให้กองทัพยกกำลังพลไปปิดล้อมฉู่ชวิ๋นและใช้อาวุธที่รุนแรงที่สุดเท่าที่กองทัพมีในครอบครองสังหารออีกฝ่ายให้ได้

อันที่จริงแล้ว อาวุธเหล่านี้ถูกผลิตขึ้นมาจากประเทศในยุโรป สามารถใช้กำจัดจอมยุทธ์ทั่วไปได้ แต่ไม่ใช่กับฉู่ชวิ๋น

รัฐบาลเวียดนามสามารถปิดล้อมฉู่ชวิ๋นได้จริง ๆ ในภูเขาใหญ่ลูกหนึ่ง ปืนทุกชนิดถูกกราดยิงเข้าไปอย่างหูดับตับไหม้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลเวียดนามสะใจเป็นอย่างยิ่ง ต่อให้ต้องเสียเงินมากเท่าไหร่ก็ไม่สำคัญอีกแล้ว

หลังจากระดมยิงและทิ้งระเบิดอยู่สองชั่วโมงเต็ม พื้นที่รอบภูเขาก็ราบเป็นหน้ากลอง

เมื่อถึงตอนนี้ บรรดาชาวจีนก็อดเป็นกังวลไม่ได้ แม้ว่าฉู่ชวิ๋นจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน แต่เขาจะสามารถต้านทานลูกกระสุนจำนวนมากมายเหล่านี้ได้ยังไง?

หลังจากการระดมยิงปิดฉากลง เวียดนามก็ส่งหน่วยทหารเข้าไปสำรวจในภูเขา พวกเขาพบเพียงเศษผ้าที่ไหม้ไฟอยู่กองหนึ่ง หลังจากนำไปตรวจสอบแล้ว ทุกคนก็ได้ทราบว่านี่คือเสื้อคลุมสีขาวสะอาดของฉู่ชวิ๋นนั่นเอง

ดังนั้น ประเทศเวียดนามจึงเฉลิมฉลองด้วยความยินดี

สหรัฐอเมริกาและประเทศในกลุ่มยุโรปจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองอย่างรื่นเริง

วิหารดวงตะวันออกประกาศว่า “ชื่อเสียงของจอมมารฉู่ชวิ๋นเป็นแค่เพียงคำคุยโวเท่านั้น พวกเรายังไม่ต้องทำอะไร เขาก็ถูกฆ่าตายเสียแล้ว”

ศัตรูเก่าของเขาทุกฝ่ายออกมาลอยหน้าลอยตา สหพันธ์ศาสตร์มืดไม่สามารถนิ่งเฉยได้แน่นอนอยู่แล้ว พวกเขาออกมาประกาศว่า “พวกเรากำลังจะส่งคนไปช่วยเวียดนามพอดี แต่น่าเสียดายที่จอมมารฉู่ชวิ๋นตายเร็วเกินไป ไม่งั้นฉันจะไปตัดหัวเขาด้วยมือของฉันเอง”

ในอินเทอร์เน็ต หลายประเทศออกมาแสดงความคิดเห็นของตนเอง แต่ส่วนใหญ่จะบอกว่าฉู่ชวิ๋นมีฝีมืออ่อนด้อยมากเกินไป พวกเขายังไม่ทันจะลงมือ ชายหนุ่มก็ชิงเสียชีวิตไปเสียก่อน

ผู้นำสำนักจอมยุทธ์ในเวียดนามบางคนอาศัยจังหวะนี้ออกมาท้าทายจอมยุทธ์ชาวจีนแถมยังประกาศออกมา “ฉู่ชวิ๋นอ่อนแอมากเกินไป นี่น่ะหรือจอมมารในตำนาน? ไร้น้ำยาสิ้นดี เสียดายที่เขาไม่เคยมาหาฉัน ไม่อย่างนั้นเขาก็คงถูกฆ่าตายไปนานแล้ว ไม่ต้องเดือดร้อนกันไปทั้งประเทศแบบนี้หรอก”

ผู้นำจากอีกหลายสำนักก็อยู่เฉยไม่ได้ พร้อมใจกันออกมาประกาศว่า เสียดายที่ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่มีเวลา ไม่อย่างนั้น คนที่มีฝีมืออ่อนด้อยอย่างฉู่ชวิ๋นคงโดนพวกเขาฆ่าตายไปนานแล้ว ฉู่ชวิ๋นเสียชีวิตเร็วเกินไป พวกเขายังไม่มีโอกาสได้ต่อสู้กันเลยสักครั้ง

ว่าแต่ฉู่ชวิ๋นเสียชีวิตไปจากการถูกระดมยิงจริง ๆ น่ะเหรอ?

นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นี้ จอมยุทธ์ชาวจีนต่างก็พากันปิดปากเงียบสนิท

พวกเขาไม่เชื่อว่าจอมมารฉู่ชวิ๋นจะมาตกตายในสภาพเช่นนี้ เนื่องจากประสบการณ์ที่ผ่านมาสอนให้รู้ว่า ควรปิดปากเงียบไว้จนถึงนาทีสุดท้ายดีกว่า

ทุกคนต่างทราบดีว่าฉู่ชวิ๋นมีอีกฉายาหนึ่งว่า ฉู่ชวิ๋น ผู้ฟื้นคืนจากความตาย

เมื่อสิบกว่าปีก่อน ฉู่ชวิ๋นต่อสู้กับเจ้าสำนักปีศาจ คนทั้งโลกต่างก็เข้าใจว่าชายหนุ่มเสียชีวิตไปแล้ว และมีหลายคนที่โง่พอจะขึ้นไปปิดล้อมภูเขาเฉียนหลง แต่ก็ถูกฉู่ชวิ๋นตลบหลังออกมาสังหารทุกคนจนหมดสิ้น

นอกจากนี้ ตอนที่สำนักสวรรค์ฟ้าถูกทำลายล้าง ทุกคนเห็นกับตาว่าฉู่ชวิ๋นล้มลงด้วยอาการขาดใจตาย แต่หลังจากหายตัวไปสิบกว่าปี ชายหนุ่มก็กลับมาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง และยังกวาดล้างกลุ่มตัววายร้ายที่กำลังออกอาละวาดในยุทธภพอีกด้วย

ไม่มีใครกล้าพูดอะไร พวกเขาได้แต่เพียงเฝ้ามอง ประสบการณ์ในอดีตสอนให้รู้ว่าเมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับฉู่ชวิ๋น จงอย่าพูดอะไรพล่อยๆ เนื่องจากไม่มีใครรู้เลยว่าจอมมารฉู่ชวิ๋นกำลังซ่อนตัว และรอคอยโอกาสปรากฏตัวเพื่อเล่นงานทุกคนอยู่หรือไม่?

แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะใจเย็นได้แบบนั้น ดังเช่นกลุ่มคนบนภูเขาเฉียนหลง ฉู่เทียนเหอและหลิวหรานเป็นห่วงบุตรชายสุดหัวใจ โดยเฉพาะหลิวหราน เธอร้องไห้จนเป็นลมไปแล้วด้วยซ้ำ

ในตอนที่รัฐบาลเวียดนามปิดล้อมภูเขาและระดมยิงทิ้งระเบิดเข้าใส่ชายหนุ่ม ได้มีการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก มันคือฉากสงครามที่เต็มไปด้วยเปลวไฟ

ผ่านไปสามวัน ยังคงไม่มีข่าวคราวของฉู่ชวิ๋น

กลุ่มคนหลายฝ่ายในเมืองจีนไม่รีรออีกต่อไป พวกมันออกมาประกาศตัวว่าเป็นสำนักปีศาจเก่า และเพื่อเฉลิมฉลองความตายของจอมมารฉู่ชวิ๋น สำนักปีศาจจึงประกาศจัดงานเลี้ยงสามวันสามคืน

สำนักดาบพิฆาตและปราสาทเทียนหลงก็ออกประกาศแสดงความยินดีติดต่อกัน ในวันที่พวกเขาได้รับทราบข่าวการตายของฉู่ชวิ๋น สำนักเหล่านี้ก็เรียกจอมยุทธ์ทั่วยุทธภพมาเฉลิมฉลองด้วยกัน

แต่เพิ่งจะเลี้ยงฉลองกันได้ไม่นาน ทุกคนก็ได้รับทราบข่าวที่ทำเอาหัวใจเกือบวายตายแล้ว

ด้วยว่าในคืนนั้น ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของเวียดนามถูกสังหารโหด นายทหาร 10 คนถูกตัดหัวและหัวของพวกเขาก็ถูกนำไปแขวนเรียงรายไว้บนตึกที่สูงที่สุดของเวียดนาม

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพเวียดนามยังถูกฆ่าตายในขณะที่กำลังเริงรักอยู่กับเมียน้อย และศีรษะของเขาก็ถูกนำมาแขวนไว้ที่หน้าทำเนียบรัฐบาลเวียดนาม

เมื่อนายกรัฐมนตรีของเวียดนามรู้ข่าวนี้ เขาก็เป็นลมไปในทันที

บรรดาจอมยุทธ์ที่ยังอยู่ในเวียดนามตื่นกลัวสุดขีด มีจำนวนไม่น้อยหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ หลายสำนักสลายตัวและเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าลึก

ส่วนจอมยุทธ์คนไหนที่พอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง พวกเขาก็เตรียมการรับมือด้วยความหวาดหวั่น หลายคนสั่งห้ามไม่ให้ญาติพี่น้องและพ้องเพื่อนเรียกชื่อของตนเอง รวมถึงจัดการเปลี่ยนชื่อใหม่ไม่ใช้ชื่อเดิมอีกต่อไป

การสังหารหมู่ยังดำเนินต่อไป จอมยุทธ์จำนวนมากยังคงตกตายต่อไป ยอดผู้เสียชีวิตยังคงพุ่งสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อไป

นักสู้จากยุโรปและนายกรัฐมนตรีของเวียดนามทำอะไรไม่ถูก

ขณะนี้ ทุกคนได้รับทราบแล้วว่าฉู่ชวิ๋นยังไม่ตาย เขายังมีชีวิตและแผลงฤทธิ์ได้ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ประชาชนคนจีนดีใจกันทั้งประเทศ

“ไอ้ลูกหมา ฉันก็หลงเป็นห่วงแทบแย่” หัวหน้าหมายเลข 1 หัวเราะไปพลางดุด่าไปพลาง

จักรพรรดิอ๋าวฮวงปล่อยปลาที่ตกขึ้นมาได้กลับลงไปในบ่อ พร้อมกับพูดออกมาอย่างเบื่อหน่อย “ไอ้หนู ใช้ลูกไม้เดิมอีกแล้วนะ น่าเบื่อจริง ๆ”

จิงหงได้ยินข่าวนี้ก็ยิ้มออกมา ที่ผ่านมาหัวใจของเธอรู้สึกทุกข์ทรมาน ตั้งแต่ที่ได้ข่าวว่าฉู่ชวิ๋นเสียชีวิต เธอก็แทบเสียสติ

กลุ่มคนบนภูเขาเฉียนหลงรู้สึกโล่งอกเป็นอย่างยิ่ง ฉู่เทียนเหอโยนเม็ดยาทิ้งลงถังขยะ หลิวหรานร้องไห้ติดต่อกันมาหลายวันแล้ว

“ไอ้เด็กบ้า กลับมาเมื่อไหร่พ่อจะต้องเตะตูดแกให้ได้!”

“เป็นบ้าไปแล้วเหรอ ลูกอุตสาห์ปลอดภัย!” หลิวหรานตวาดออกมาเมื่อได้ยินที่ฉู่เทียนเหอพูด

ฉู่เทียนเหอเปลี่ยนท่าทีในฉับพลันและได้แต่หัวเราะแหะ ๆ ให้กับภรรยาของตนเอง