บทที่ 264
เฉินโม่ก็ยังคงมีสีหน้านิ่งๆ ยิ้มมองเวินฉิง “พี่เวิน ตอนนี้ผมโตแล้ว ควรจะเปลีย่นให้ผมมาช่วยปกป้องพวกคุณได้แล้วนะ!”

“พี่วางใจเถอะ วันนี้มีผมอยู่ด้วย ใครก็ไม่กล้ามาทำอะไรเหม่ยหวา กรุ๊ปของเราได้!”

พอเห็นเฉินโม่มาพูดเตือน เวินฉิงก็ถอนหายใจอย่างเอือมระอา เธอไม่เชื่อคำพูดของเฉินโม่ ถึงแม้การมาของเฉินโม่ครั้งนี้ จะทำให้เปลี่ยนมุมมองของเธอที่มีต่อเฉินโม่ไม่น้อย แถมยังไปกราบเป็นศิษย์อาจารย์ลึกลับอีก แต่แค่เด็กมัธยมคนหนึ่ง จะไปสู้กับตระกูลว่านได้อย่างไรกัน?

ทางโต๊ะของว่านฉางหรู มีชายวัยกลางคนอ้วนเตี้ยคนหนึ่งลุกขึ้นมาทันที แล้วชี้หน้าด่าเฉินโม่ว่า “ที่นี่คือการประชุมสูงสุดของฮ่านหยาง รวมคนมีชื่อเสียงในทุกด้านของฮ่านหยางเอาไว้ มึงมันเป็นแค่เด็กที่พูดจาไม่ยั้งคิดคนหนึ่ง ไม่เห็นหัวผู้ใหญ่ทั้งหลายเลย ใครถือหางมึงให้กล้าทำแบบนี้วะ!”

“มึงมันไอ้เด็กไม่มีการศึกษา วันนี้กูจะสั่งสอนแทนพ่อแม่มึงเสียหน่อย!”

“อาเปียว เอาตัวไอ้เด็กนี่โยนออกไป!” ชายอ้วนตะโกนพูดใส่ลูกน้องที่อยู่ในงาน

ทันใดนั้น ชายร่างใหญ่สองคน ใบหน้าโหดร้ายก็เดินออกมา จ้องมองเฉินโม่อย่างเย็นชา

เฉินซงจื่อก็จะก้าวออกไป แต่ถูกเฉินโม่มาขวางไว้

“นอกจากจะจำเป็นจริงๆ ค่อยออกไป ในที่สาธารณะแบบนี้ ใช้วิธีของทางโลกมาแก้ปัญหาจะดีที่สุด” เฉินโม่พูดบอกกล่าวเบาๆ

มองดูชายวัยกลางคนคนนั้น เฉินโม่ก็พูดนิ่งๆ ว่า “คุณคงจะเป็นหลิวหงปิน ประธานของว่านหยวนกรุ๊ปใช่ไหม การวางแผนเล่นงานเหม่ยหวาครั้งนี้ คุณก็มีส่วนด้วย ในเมื่อบอกว่าผมจาไม่ยั้งคิด แล้วคุณกล้ามาพนันกับผมไหมล่ะ?”

หลิวหงปินหัวเราะเย็นพูดว่า “ถูกต้อง กูมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย แล้วมึงจะทำอะไรกูได้? จะว่าไปมึงรู้จักกูด้วย ก็ถือว่าพอมีความรู้อยู่บ้าง”

“ด้วยตำแหน่งฐานะของกูคงจะไม่ควรไปพนันอะไรกับมึงหรอก แต่ถ้ากูปฏิเสธ มึงก็คงจะบอกว่า กูเป็นถึงประธานของว่านหยวนกรุ๊ปกลับมากลัวเด็กมัธยมแค่คนเดียว ดังนั้นกูก็เลยยอมพนันด้วย ว่ามาเลย จะให้กูพนันอะไร?”

เฉินโม่พูดนิ่งๆ ว่า “พนันว่าผมจะนั่งอยู่ตรงนี้ แล้วตะโกนพูดว่า ใครยอมมาร่วมลงทุนช่วยเหลือกับเหม่ยหวา กรุ๊ปบ้างถ้าไม่มีใครออก ก็ถือว่าผมแพ้!”

“ฮ่าๆ แม่มึงยอมให้หุ้นส่วนของเหม่ยหวา กรุ๊ป51เปอร์เซ็นต์ ยังไม่มีใครหล้าออกมาเลย แค่เด็กที่ขนเพชรยังขึ้นอย่างมึงมาตะโกนพูด แล้วจะมีคนออกมาช่วยเหลืองั้นหรือ? มึงไปหลอกควายเถอะไป!” หลิวหงปินหัวเราะเยาะดังลั่น

“แต่ว่า เพื่อป้องกันไม่ให้มึงหาคนที่ไม่ได้มีเงินทุนจริงๆ มาหลอกช่วยเหลือ กูจะเพิ่มข้อแม้อีกหนึ่งข้อ คนที่ยอมก้าวออกมาช่วยเหลือเหม่ยหวา กรุ๊ป จะต้องมากกว่า10คน และจำเป็นต้องเป็นคนที่อยู่ในงานนี้ด้วย!”

“ถ้าหากว่ามึงยอมรับเงื่อไขนี้ได้ กูก็จะพนันกับมึง!”

ทุกคนก็มองไปยังหลิวหงปิน และแอบนับถือในใจ ถึงแม้พวกเขาจะไม่เชื่อว่าจะมีคนกล้าก้าวออกมา แต่ก็มั่นใจไม่ได้ว่าเฉินโม่จะไม่เตรียมคนไว้แล้ว หลิวหงปินพิจารณาได้รอบด้านจริงๆ

เฉินโม่ไม่รอช้า พูดนิ่งๆ ว่า “ผมยอมรับ ถ้าคนในงานก้าวออกมาไม่ถึง10คน ถือว่าผมแพ้!”

หลี่ซู่เฟินก็ดุไปว่า “เฉินโม่ อย่าวุ่นวาย!”

เวินฉิงเองก็มีสีหน้าร้อนรน “เสี่ยวโม่ เชื่อฟังคำแม่บุญธรรมสิ ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่จะให้นายมาก่อความวุ่นวายนะ!”

หลี่ซู่เฟินยอมยกหุ้นให้51เปอร์เซ็นต์ก็ยังไม่มีใครกล้าก้าวออกมาช่วยเหลือเหม่ยหวา กรุ๊ปเลย เฉินโม่พูดแค่คำเดียว จะทำได้อย่างไร?

หลิวหงปินหัวเราะพูดว่า “ได้ งั้นกูก็จะเล่นเป็นเพื่อนมึง เอาอะไรเดิมพันล่ะ!แต่กูบอกไว้ก่อนเลยนะว่า เดิมพันน้อยเกินไปกูไม่เล่นด้วยนะ!”

“วางใจเถอะ คุณต้องพอใจแน่นอน” เฉินโม่สีหน้าเปลี่ยน แล้วเสียงก็เย็นชา “ถ้าผมแพ้ จะยกเหม่ยหวา กรุ๊ปให้ ถ้าคุณแพ้ คุณจะต้องมานั่งคุกเข่าต่อหน้าแม่ผม แล้วโขกหัวรับโทษ!”

หลิวหงปินโมโหหนัก “ไอ้หนู มึงคิดจะเหยียดหยามกูงั้นหรือวะ!”

เฉินโม่ยิ้มเย็น “อะไรกัน คุณไม่กล้าพนันงั้นหรือ?”

หลิวหงปินหัวเราะ “การพนันที่ชนะแน่นอนแบบนี้ ทำไมกูจะไม่กล้าล่ะวะ!แต่ว่าตัวมึงสั่งการเหม่ยหวา กรุ๊ปได้อย่างนั้นหรือ?”

เฉินโม่มองหลี่ซู่เฟิน น้ำเสียงมีความมั่นใจ “แม่ครับ เชื่อผมสักครั้ง!”

เพื่อที่จะทำให้หลี่ซู่เฟินรับปาก เฉินโม่ถึงกับใช้พลังบำเพ็ญบางส่วน เพื่อส่งผลต่อการตัดสินใจของหลี่ซู่เฟิน