เมื่อซูฉิงได้ยินอย่างนั้น หัวใจเธอก็ดิ่งลงและรีบถามด้วยความเป็นห่วง “เกิดอะไรขึ้นกับคุณปู่ฮ่อคะ?”
“อาการของท่านผู้เฒ่าฮ่อค่อนข้างยุ่งยาก ตอนนี้เรากำลังรักษาฉุกเฉินเลยทำได้แค่ทำให้อาการของเขาคงที่และรอให้คุณมาดูครับ” เสียงของหมอหนีดูกังวลเล็กน้อย
“ได้ค่ะ ฉันจะรีบไปทันทีเลยค่ะ” ซูฉิงวางสายแล้วรีบไปโรงพยาบาล
ระหว่างทาง เธอโทรหาฮ่อหยุนเฉิง แต่มันกลับปิดเครื่อง
คิดว่าตอนนี้ฮ่อหยุนเฉิงคงยังอยู่บนเครื่องบิน
ซูฉิงรีบไปโรงพยาบาล และเมื่อเธอมาถึงห้องผ่าตัด เธอก็เห็นแม่ฮ่อและฮ่อเฉียนอยู่ตรงประตูแล้ว
ไฟสีแดงของห้องผ่าตัดยังคงเปิดอยู่
ฮ่อเฉียนและแม่ฮ่อสวมเสื้อผ้าสีสดใสยืนอยู่ ทั้งยังคุยถึงฝีมือการทำเล็บว่าที่ไหนดีที่สุด เพราะกะจะไปดูสักหน่อย
ถ้าไม่รู้คงคิดว่าพวกเขาแค่ผ่านไปมาเท่านั้น
ดวงตาของซูฉิงค่อยๆ นิ่งลง
เมื่อเห็นซูฉิงเดินเข้ามาก็จ้องด้วยความโกรธทันที “ซูฉิง เธอนี่มันช่างเป็นผู้หญิงไร้ยางอาย ยังกล้ามาที่นี่อยู่อีก! รีบไปให้ไกลเลยนะ คุณปู่ยังอยู่ข้างใน ถ้ารู้ถึงเรื่องแย่ๆ ของเธอต้องโมโหแน่!”
ขณะนั้นแม่ฮ่อก็พ่นลม “ที่นี่ไม่ต้อนรับเธอ ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!”
ซูฉิงกังวลอาการของท่านผู้เฒ่าฮ่อจึงไม่อยากเถียงกับสองคนนี้มาก
ใบหน้าเธอนิ่งและพูดอย่างเย็นชาว่า “หลีกทางไป!”
“ซูฉิง เธอคิดจะทำอะไร?” ฮ่อเฉียนและแม่ฮ่อเห็นว่าซูฉิงจะเข้าห้องผ่าตัดก็สบสายตากันและพากันไปยืนขวางซูฉิงที่หน้าประตู
“หลีกไปนะ!” ซูฉิงหรี่ตาลงเล็กน้อยด้วยท่าทีขึงขัง
พอฮ่อเฉียนนึกถึงเมื่อคืนที่ถูกซูฉิงตบก็รู้สึกโกรธอย่างมาก และในใจยังคงโมโหอยู่
เธอชี้ไปที่ซูฉิงก่อนจะตำหนิเสียงดัง “ซูฉิง นี่เธอหมายความว่าไง? นี่คือห้องผ่าตัดนะ คุณปู่กำลังอยู่ในนั้น เธอเป็นคนนอก คิดจะทำอะไรน่ะ?
เธอทำร้ายคุณปู่ยังไม่พอใช่ไหม ถึงได้คิดฆ่าเขา อยากได้ชีวิตคุณปู่ใช่ไหม?”
“เฉียนเฉียนพูดถูก เธอมันผู้หญิงไร้ยางอาย เร็วไสหัวออกไปซะ!” แม่ฮ่อและฮ่อเฉียนเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่นทั้งยังขวางซูฉิง
สายตาที่เย็นชาและทะลุทะลวงของซูฉิงกวาดไปที่แม่ฮ่อ “หุบปาก!”
เธอกำลังจะดึงผู้หญิงสองคนที่ส่งเสียงดังน่ารำคาญออกไป แต่ทันใดนั้นหมอหนีก็เปิดประตูห้องฉุกเฉินแล้วเดินออกมาด้วยท่าทีเร่งรีบ
ซูฉิงรีบถาม “หมอหนีคะ คุณปู่ฮ่อเป็นยังไงบ้างคะ?”
“อาการคงที่แล้วครับ แต่อาจกำเริบได้ทุกเมื่อ คุณรีบเข้าไปดูเถอะครับ” หมอหนีถอดหน้ากากออก ใบหน้ามีแต่เหงื่อ เห็นได้ชัดว่าอาการของท่านผู้เฒ่าฮ่อคงยุ่งยากจริงๆ
“เข้าใจแล้วค่ะ” ซูฉิงตอบหมอหนีย่างใจเย็น และกำลังจะตามเขาเข้าไป
แม่ฮ่อรีบเข้ามาขวางเธอทันที “หมอหนีคะ คุณหมายความว่ายังไง? ซูฉิงไม่ใช่หมอสักหน่อย คุณให้หล่อนเข้าไปแล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นกับคุณท่าน คุณจะรับผิดชอบได้ไหมคะ?”
“ได้ครับเพราะตอนนี้ฝีมือทางการรแพทย์ของทางเรารักษาคุณท่านไม่ได้แล้ว คุณซูเชี่ยวชาญด้านการแพทย์มาก ผมคิดว่าเธอทำได้ นั่นคือเหตุผลที่ผมแจ้งเธอให้มาครับ” หมอหนีขมวดคิ้วด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์เล็กน้อย
ซูฉิงเป็นลูกศิษย์ของฉียวี่ชู และก่อนหน้านี้เธอก็เคยรักษาท่านผู้เฒ่าฮ่อด้วยการฝังเข็มมาแล้วจนอาการท่านดีขึ้นมาก
ฝีมือการแพทย์ของซูฉิงนั้น ทุกคนต่างได้เห็นมาแล้ว
ไม่ใช่ว่าแม่ฮ่อกับฮ่อเฉียนจะไม่รู้ ทำไมพวกเขาถึงยังคอยขวางอยู่อีก?
หากเป็นตระกูลอื่น หาเป็นความหวังเดียวก็ต้องพากันลองแน่นอน
แต่แม่ฮ่อกับฮ่อเฉียนกลับทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวาง
“หากพวกคุณยังขวางฉันอีกจนยืดเวลารักษาคุณปู่ฮ่อออกไป และถ้าเกิดเรื่องอะไรร้ายแรง ฮ่อหยุนเฉิงกลับมาก็คงรู้ คุณคิดว่าเขาจะทำไงล่ะคะ?”
“หรือพวกคุณทำอะไรผิด ถึงไม่อยากให้ฉันช่วยชีวิตคุณปู่ฮ่อกันล่ะคะ?”
ซูฉิงก้าวเดินหาทั้งสองคน ดวงตาสีเข้มของเธอกวาดสายตามองพวกเขาอย่างทะลุทะลวง
แววตาของเธอนั้นทำให้คนอดสั่นไม่ได้
“เหอะ!” ฮ่อเฉียนประคองแม่ฮ่อก่อนจะเชิดคางทำเป็นสงบ “ถ้าเธอรักษาคุณปู่ไม่ได้หรือเกิดมีอะไรผิดพลาด พี่ฉันไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่!”
“ไม่ต้องห่วง ไม่มีวันนั้นแน่นอน” ซูฉิงไม่ต่อล้อต่อเถียงกับพวกเขาอีก ก่อนจะหันหลังเดินเข้าห้องไปพร้อมกับหมอหนี
หลังจากเปลี่ยนชุดผ่าตัดแล้ว ซูฉิงก็เดินไปที่เตียงผ่าตัด
เมื่อเห็นท่านผู้เฒ่าฮ่อนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงผ่าตัด หัวใจของซูฉิงก็หดตัวลงอย่างรุนแรง
ตั้งแต่ฝังเข็มครั้งสุดท้าย อาการของคุณปู่ฮ่อก็ดีขึ้นมาก
ทำไมจู่ๆ โรคนี้ถึงมากำเริบเอาตอนนี้?
อารมณ์ของซูฉิงค่อนข้างไม่แน่นอน
ถ้าให้พูด เธอก็มีส่วนรับผิดชอบกับอาการท่านผู้เฒ่าฮ่อด้วย
“คุณซู คุณดูอาการท่านผู้เฒ่าฮ่อทีว่าเขาเป็นยังไงบ้าง”
คำพูดของหมอหนีทำให้สติของซูฉิงกลับมา
ซูฉิงที่ได้สติก็สวมหน้ากาก ดวงตาของเธอกลับมาจริงจังและสงบนิ่ง “หมอหนี อีกเดี๋ยวฟังฉันนะคะ”
“คุณซูวางใจได้ครับ ตอนนี้แพทย์และพยาบาลทุกคนที่อยู่ตรงนี้จะทำตามที่คุณสั่งครับผม” หมอหนีตอบด้วยความเคารพ
เพราะยังไงท่านผู้เฒ่าบ้านตระกูลฮ่อก็เป็นคนนอนตรงหน้า เป็นชายคนสำคัญ หากเกิดเรื่องในน้ำมือของพวกเขา พวกเขาก็คงไม่ได้อยู่ในวงการแพทย์อีกต่อไป
และหมอหนีก็ชื่นชมฝีมือการแพทย์ของซูฉิงมาก
เขาเชื่อว่าซูฉิงจะรักษาท่านผู้เฒ่าฮ่อได้
ซูฉิงเลิกเปลือกตาของชายชราเพื่อตรวจดูว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ ทั้งยังไม่มีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในปาก ถึงได้โล่งใจ
“มีดผ่าตัด” ซูฉิงพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ทั้งยังเอื้อมมือไปหาหมอหนีที่อยู่ข้างๆ
หมอหนีเองก็รีบยื่นให้
ซูฉิงหยิบมีดผ่าตัดขึ้นมา และผ่าลงบนข้อมือของท่านผู้เฒ่าฮ่ออย่างไม่ลังเล
เมื่อกรีดมีด เลือดก็ค่อยๆ ไหลออกมา
หมอคนอื่นๆ มองหน้ากัน และบางคนก็อุทานออกมาว่า “คุณซู นี่คุณทำอะไรน่ะ? ผู้ป่วยอยู่ในอาการโคม่าอยู่แล้ว ยังจะทำให้เลือดออกมาอีก! นี่มันคร่าชีวิตกันชัดๆ!”
ซูฉิงแสดงสีหน้าว่างเปล่ามองไปทางหมอหนีและพูดอย่างเฉยเมยว่า “หมอหนีคะ ฉันไม่ชอบให้คนมารบกวนระหว่างการผ่าตัดค่ะ”
“หมอหลิว อย่าพูดอะไรอีก เราแค่ต้องร่วมมือกับคุณซู ฉันรับประกันฝีมือการแพทย์ของเธอเอง!” หมอหนีพูดเสียงดัง
ทุกคน ณ ที่นี้ต่างพากันเงียบทันที
แต่ว่าก็ยังมีคนที่ไม่มั่นใจ
พวกเขาล้วนเป็นแพทย์ที่มีชื่อเสียงที่กลับมาจากการศึกษาโรงเรียนแพทย์ที่มีชื่อเสียงจากต่างประเทศและประกอบวิชาชีพเวชกรรมมากว่า 10 ปี ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่มีคุณสมบัติมารักษาท่านผู้เฒ่าฮ่ออยู่ตรงนี้
แต่ตอนนี้กลับต้องมาฟังคำสั่งของผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ไม่รู้จัก!
แต่เนื่องจากตำแหน่งของหมอหนีสูงกว่า พวกเขาจึงพูดอะไรไม่ได้มาก
เพียงหวังว่าซูฉิงจะไม่ฆ่าท่านผู้เฒ่าฮ่อจริงๆ ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงถูกฝังไปด้วยกันแน่!
“เข็มเงิน” ซูฉิงพูดกับหมอหนีด้วยเสียงเย็นชา
“ครับ คุณซู” หมอหนียื่นเข็มเงินให้ซูฉิงด้วยความเคารพ
ซูฉิงสอดเข็มเงินเข้าไปในจุดฝังเข็มทั้งหมดบนใบหน้าของท่านผู้เฒ่าฮ่อ จากนั้นเลือดที่ไหลจากข้อมือของเขาค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีดำ
“นี่มันโดนวางยาพิษใช่หรือเปล่า!” หมอหลิวอุทานออกมาอย่างอดไม่ได้