บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 159

หลังจากที่เธอเสนอเงินนั้น ทุกคนได้แต่มองเธออย่างตกใจ

เมเรดิธโกรธมากจนแทบจะฉีกป้ายประมูลเป็นชิ้น ๆ ผู้หญิงคนนี้จงใจที่จะเป็นปริปักษ์กับเธองั้นหรือ?

หล่อนคิดว่าเธอเป็นใคร? หล่อนกล้าดียังไงมาต่อสู้กับเธอ?!

เมเรดิธยอมให้ทำเช่นนี้ได้อย่างไร? เธอยกป้ายประกาศอีกครั้ง

ทุกคนคิดว่าเมเรดิธจะเพิ่มเงินสองถึงสามล้าน แต่เธอเพิ่มเพียง 500,000 ดอลลาร์เท่านั้น

ทันทีที่เธอพูดจบ มาเดลีนก็พูดสวนกลับอย่างเมินเฉย “20 ล้าน”

“ว้าว…”

ทุกคนต่างร้องอุทาน

เมเรดิธไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เธอระงับไฟแห่งความโกรธแค้นในตัวเธอและจ้องมองมาเดลีน จากนั้นเธอก็ฝืนยิ้มที่ไร้เดียงสาและอ่อนโยน

“คุณผู้หญิง คุณถูกอีกฝ่ายจ้างให้มาที่นี่เพื่อจงใจขึ้นราคาร้านหรือเปล่า? ใคร ๆ ก็รู้ว่าคู่หมั้นของฉันกำลังจะซื้อร้านนี้ให้ฉันเป็นของขวัญวันเกิด มันอาจเป็นไปได้ว่าที่ว่าคุณชอบที่จะขโมยของจากคนอื่นจริงไหม?”

“ขโมยของจากคนอื่น? คุณครอว์ฟอร์ด เป็นสิ่งที่คุณถนัดไม่ใช่หรือไงกัน?”

ใบหน้าของเมเรดิธเริ่มตึง “อะ อะไรคุณพูดถึงอะไรกัน?”

“ไม่มีอะไรนิ” มาเดลีนแสยะยิ้มอย่างชื่นบาน “ฉันก็แค่อยากถามคุณ คุณครอว์ฟอร์ด ว่าชื่อของคุณอยู่บนร้านหรือเปล่า? ถ้าใช่ ก็ทำเป็นว่าฉันไม่ได้พูดอะไร หากไม่เป็นเช่นนั้นโปรดเคารพกฎของการประมูล ผู้เสนอราคาสูงสุดจะเป็นผู้ชนะ”

“เธอ…” เมเรดิธพูดไม่ออกและกัดฟันด้วยความโกรธ เธอต้องการที่จะเพิ่มป้ายประกาศเพื่อเสนอราคาต่อไป แต่เธอไม่กล้าพอที่จะเพิ่มมากเกินไป ดังนั้น เธอจึงทำได้เพียงแค่มองไปที่เจเรมี่ “เจเรมี่…”

เจเรมี่มองไปที่เมเรดิธด้วยสีหน้าว่างเปล่า เขาพูดอย่างเรียบ ๆ ว่า “เธอพูดถูก ผู้เสนอราคาสูงสุดจะเป็นผู้ชนะ”

“… ” เมเรดิธไม่มีอะไรจะพูดกับเรื่องนั้น

ในขณะนี้ พิธีกรเริ่มประกาศซ้ำย้ำจำนวนตามที่มาเดลีนเสนอ

เมเรดิธอยู่ในอาการสติหลุดและเลือนลอยไป เมื่อเธอกลับมามีสติและกำลังจะเสนอราคาประมูลอีกครั้ง พิธีกรบนเวธีได้กระแทกค้อนปิดการประมูลลงไปแล้ว

พิธีกรเชิญมาเดลีนขึ้นเวที ขณะที่เธอเดินขึ้นเวทีขณะที่ทุกคนจ้องมองเธอ

เธอก้าวขาอย่างเชื่องช้า ทุกการเคลื่อนไหวของเธอสง่างาม เธอมีออร่าและเสน่ห์ที่ใครก็ไม่สามารถวางนิ้วของพวกเขาแตะต้องได้ไม่ว่าพวกเขาจะคิดอย่างไร

พิธีกรยิ้มและถามว่า “ชื่อของคุณคืออะไรครับ คุณผู้หญิงคนสวย?”

มาเดลีนยิ้มและพูดว่า “นามสกุลของฉันคือ ควินน์”

ควินน์?

เจเรมี่ใช้ความคิดนามสกุลนี้ มันค่อนข้างหายาก

เมเรดิธกำลังขบฟันของเธอในอีกมุมหนึ่ง ขณะจ้องไปที่มาเดลีนที่อยู่บนเวทีด้วยการเเสดงออกที่โกรธเกรี้ยวคล้ายกับหมาป่าที่โดนคุกคาม

เธอควรจะเป็นดาวเด่นหลักในคืนนี้ แต่ในช่วงสุดท้าย ไฟส่องเฉิดฉายของเธอถูกขโมยไปโดยผู้หญิงคนนี้ซึ่งดูเหมือนจะโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้!

เธอจะไม่สามารถปล่อยผ่านสิ่งนี้ไปได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น!

มีการเซ็นสัญญาโดยให้ทุกคนในห้องเป็นพยาน ผู้ประมูลประกาศว่ามาเดลีนเป็นเจ้าของร้านคนใหม่บน เฟิร์สคริสตัลสตรีท พวกเขาแสดงความยินดีกับเธอ

เสียงปรบมือดังสนั่นจากด้านล่างเวทีเช่นกัน

มาเดลีนยืนอยู่บนเวทีอย่างสง่างาม ผ่านแว่นกันแดด เธอเห็นเมเรดิธโกรธจนควันออกหูและเธอรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อเธอกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เจเรมี่ได้ลุกขึ้นและเดินเข้าไปหาเธอ

“เจเรมี่ คุณกำลังจะไปไหน?” เมเรดิธต้องการหยุดเขาแต่เจเรมี่ไม่หันกลับมา

เขาเดินขึ้นไปบนเวทีและมองไปที่ลักยิ้มบนแก้มของมาเดลีน เขาลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนจะพูดว่า “ในฐานะเจ้าของโรงแรมแห่งนี้ ผมดีใจที่งานจบลงอย่างสมบูรณ์แบบ”

เขายื่นมือไปหามาเดลีน “คุณควินน์ ขอแสดงความยินดีด้วย”

มาเดลีนมองไปที่มือของเจเรมี่และรู้สึกว่าฉากทั้งหมดนี้ช่างน่าหัวเราะเป็นอย่างยิ่ง

ในตอนนั้น เธอเคยอยากจับมือเขามาก แต่ตอนนี้ ความปรารถนาทั้งหมดนั้นหายไปแล้ว

เธอยิ้มและยื่นมือออกมา อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้ยื่นมือนั้นมาจับมือของเจเรมี่ ตรงกันข้าม เธอถอดแว่นกันแดดบนใบหน้า

ในขณะที่เธอถอดมันออก เธอได้เห็นการแสดงออกของเจเรมี่ที่หยุดชะงัก แม้แต่อากาศรอบตัว ก็เริ่มเย็นลง

กระนั้น มาเดลีนยังคงยิ้มในขณะที่การแสดงออกบนใบหน้ายังเหมือนเดิม เธอจับมือที่แข็งทื่อของเจเรมี่และพูดว่า “ขอบคุณ”