อัก……

ทุกคนต่างพากันอยากจะกระอักเลือด

จากสิบเจ็ดล้านตำลึง เพิ่มราคาขึ้นเป็นยี่สิบห้าล้านตำลึง ท้ายที่สุดแล้วนางจะนับหรือไม่?

อัครเสนาบดีกู้แทบจะกระอักเลือดออกมา

สีหน้าขององค์หญิงตังตังและเจ๋ออ๋องเขียวปั้ด

กู้ชูหน่วนอีกแล้ว นางจงใจจะหาเรื่องพวกเขาใช่หรือไม่?

ไม่ว่าพวกเขาจะประมูลอะไร นางก็แย่งชิงพวกเขา

เสี่ยวลู่ยิ้มกว้างและบิดเอว เขาหันไปทางกู้ชูหน่วนและกล่าวว่า “แขกผู้มีเกียรติหมายเลขที่ยี่สิบแปด เสนอราคายี่สิบห้าล้านตำลึง ยังมีใครให้ราคามากกว่านี้หรือไม่?”

อัครเสนาบดีกู้ถือป้ายอยู่นาน แต่ก็ไม่ชูป้ายขึ้น ในใจของเขาเต็มไปด้วยความโกรธและความเกลียดชัง

แม้ว่ากู้ชูหน่วนจะเป็นบุตรสาวของเขา แต่พวกเขาทั้งสองคนได้ตัดความสัมพันธ์พ่อลูกกันแล้ว กู้ชูหน่วนจะยอมมอบไข่มุกเหวินหยวนให้เขาได้อย่างไร

เสี่ยวลี่ว์กล่าวว่า “องค์หญิง ยี่สิบห้าล้านตำลึงแพงมากเกินไป พระพันปี……เกรงว่าจะไม่สามารถรวบรวมเงินได้มากขนาดนี้ในเพียงระยะเวลาอันสั้น เช่นนั้น……”

“ไม่ได้ ข้าจะยอมแพ้ไม่ได้ ยี่สิบหกล้านตำลึง”

“สามสิบล้านตำลึง” กู้ชูหน่วนกล่าวอย่างเฉื่อยชา

“สามสิบเอ็ดล้านตำลึง”

“สี่สิบล้านตำลึง”

องค์หญิงตังตังแทบจะเป็นลม

สี่สิบล้านตำลึงแลกกับไข่มุกเหวินหยวนหนึ่งเม็ด สมองของนางมีปัญหาหรือไม่

“ปัง……”

นางโยนป้ายทิ้งไป องค์หญิงตังตังจ้องมองไปที่กู้ชูหน่วนอย่างโกรธเคือง

เจ๋ออ๋องพูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง

ประมูลไข่มุกเหวินหยวนหนึ่งเม็ดด้วยเงินสี่สิบล้านตำลึง เกรงว่าแม้แต่ฝ่าบาทก็ต้องเชือดเนื้อตัวเอง

เจ๋ออ๋องถามว่า “ฝ่าบาททรงตอบกลับมาแล้วหรือไม่”

“กราบทูลท่านอ๋อง ผู้ส่งสารยังไม่กลับมาเลยพ่ะย่ะค่ะ”

“นานขนาดนี้แล้ว ทำไมยังไม่กลับมาอีก การประมูลใกล้จะจบลงแล้ว”

“นี่……บ่าวจะไปดูอีกทีพ่ะย่ะค่ะ”

“สี่สิบล้านตำลึงครั้งที่หนึ่ง สี่สิบล้านตำลึงครั้งที่สอง มีใครอยากจะเพิ่มราคาอีกหรือไม่ หากไม่มีใครต้องการเพิ่มราคา ไข่มุกเหวินหยวนก็จะเป็นของแขกผู้มีเกียรติหมายเลขยี่สิบแปด

เจ๋ออ๋องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟราวกับมดบนกระทะร้อน เขาอยากจะเพิ่มราคา แต่เขาไม่มีเงิน และฝ่าบาทก็ยังไม่ตอบกลับมา

หากเขาไม่เพิ่มราคา ก็จะสูญเสียไข่มุกเหวินหยวนไปอย่างสิ้นเชิง

เมื่อเห็นว่ากู้ชูหน่วนกำลังจะประมูล เจ๋ออ๋องก็ชูป้ายขึ้น “สี่สิบเอ็ดล้านตำลึง”

“สี่สิบห้าล้านตำลึง”

กู้ชูหน่วนตะโกนอย่างไม่ลังเล

เจ๋ออ๋องเหงื่อแตกเท่าเมล็ดถั่วและไหลลงมา เขากัดฟัน “สี่สิบหกล้านตำลึง”

“ห้าสิบล้านตำลึง”

“ท่านอ๋อง องครักษ์ที่เราส่งไปขอยืมเงินจากฝ่าบาท คนหนึ่งขาหัก คนหนึ่งหลงทาง และอีกคนหนึ่งถูกรถม้าชน ดังนั้น……พวกเขาจึงยังไม่ได้เข้าไปในวัง……”

“อะไรนะ?เป็นไปได้อย่างไร เมื่อครู่ทั้งสามคนออกไปแล้วเกิดเรื่องขึ้นพอดี?หรือว่ามีคนจงใจจะขัดขวางไม่ให้พวกเขาเข้าไปในวังเพื่อพบฝ่าบาท?”

“บ่าวก็สงสัยเช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ จึงส่งคนไปตรวจสอบ แต่…..แต่ตรวจสอบพบว่าพวกเขาบังเอิญถูกรถชนพ่ะย่ะค่ะ”

“แล้วอีกคนหนึ่งเล่า หรือว่าเป็นผู้ที่มาใหม่?แม้แต่พระราชวังอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้?”

“คนผู้นั้น…เขารู้ทางเข้าไปในวัง แต่เป็นลมอยู่ในตรอกและออกมาไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ”

“ไอ้พวกสวะ แล้วทำไมยังไม่รีบส่งคนเข้าไปที่วังเพื่อขอยืมเงินจากฝ่าบาทอีก”

“บ่าวส่งคนไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ แต่พระราชวังอยู่ไกลจากที่นี่ เกรงว่าจะไม่ทัน……”

“ห้าสิบล้านตำลึงครั้งที่สาม ขอแสดงความยินดีกับแขกผู้มีเกียรติหมายเลขยี่สิบแปดที่ได้รับไข่มุกเหวินหยวนไปครอบครอง”