ตอนที่ 275 ซูฉิง แกตายเเน่

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

ใบหน้าของซูฉิงเริ่มเคร่งขรึมมากขึ้น
ในขณะนั้นเองที่โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น
ชูฉิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามองก็พบว่าเป็นฮ่อหยุนเฉิงที่โทรมา
เมื่อเห็นคำว่า “ฮ่อหยุนเฉิง” ที่กระพริบบนหน้าจอ หัวใจของเธอก็เต้นผิดจังหวะอย่างอธิบายไม่ถูก
นิ้วเรียวยาวกดปุ่มตอบรับ และซูฉิงรับสาย “ฮัลโหล ฮ่อหยุนเฉิง”
“ซูฉิง ฉันถึงประเทศ M แล้ว” เสียงทุ้มน่าดึงดูดของฮ่อหยุนเฉิงดังมาจากปลายสาย
“อืม แล้วทำไมจู่ๆ ถึงเดินทางไปทำงานที่ประเทศ M ล่ะ เกิดเรื่องอะไรหรือเปล่า” ซูฉิงถามอย่างเป็นห่วง
คืนนั้นเหมือนฮ่อหยุนเฉิงจะรีบร้อนมาก
ไม่ทันได้มีเวลาคุยกับเธอ มีเพียงเขียนโน้ตทิ้งไว้ให้เธอหน้าตู้เย็น
ต่อมาเธอถามหลินเหยียนเฟิงที่บริษัท ทุกอย่างของสาขาตระกูลฮ่อกรุ๊ปในประเทศ M ก็ปกติ
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฮ่อหยุนเฉิงถึงรีบไปที่ประเทศ M อย่างเร่งรีบขนาดนั้น
“ไม่มีอะไร แค่เรื่องส่วนตัวนิดหน่อยน่ะ” ฮ่อหยุนเฉิงกล่าวเบาๆ
“เรื่องส่วนตัว?” ซูฉิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
น้ำเสียงของฮ่อหยุนเฉิงเคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย “มีคนเห็นลูกเรือที่ไปทะเลกับพ่อของฉันปรากฏตัวที่ประเทศ M บางทีเขาอาจรู้อะไรบางอย่าง”
ในปีนั้น มีลูกเรือคนหนึ่งที่ออกทะเลกับฮ่อเจี้ยนกั๋วหายตัวไป
ทุกคนคิดว่าเขาถูกฝังอยู่ใต้ทะเลลึกไปแล้ว
แต่ว่าฮ่อหยุนเฉิงได้รับข่าวว่ามีคนที่ประเทศ M เห็นเขาอย่างกระทันหัน
เรื่องที่เกี่ยวกับการเสียชีวิตของพ่อในปีนั้น ฮ่อหยุนเฉิงจึงต้องรีบไปที่ประเทศ M อย่างรีรอไม่ได้
“เป็นแบบนี้นี่เอง” ซูฉิงพยักหน้า “นายเจอตัวเขาหรือยัง?”
“ยังเลย” ฮ่อหยุนเฉิงพูดอย่างเคร่งขรึม
เพียงมีคนเห็นเขาตามถนน และอาจเป็นไปได้ว่าจะมองผิดคน
แต่ทว่าฮ่อหยุนเฉิงกลับไม่คิดจะปล่อยโอกาสเพียงน้อยนิดนั้นไป
“อืม งั้นนายระวังตัวด้วยนะ” ซูฉิงเอ่ยสั่ง
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ซูฉิงถึงบอกข่าวเรื่องที่ท่านผู้เฒ่าฮ่ออาการหนักอย่างกระทันหันกับฮ่อหยุนเฉิง “จริงสิจู่ๆ ปู่ของนายก็อาการหนัก…”
เธอยังไม่ทันพูดจบ ฮ่อหยุนเฉิงก็ถามอย่างอดไม่ได้ “เกิดอะไรขึ้นกับปู่น่ะ? ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
ซูฉิงรีบพูด “ไม่เป็นไร ตอนนี้ช่วยไว้ได้แล้ว เขาไม่เป็นไรแล้วไม่ต้องกังวลนะ ฉันจะดูแลอาการเขาเอง พออาการนิ่งแล้วจะฝังเข็มให้ครั้งสุดท้าย”
ฮ่อหยุนเฉิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ขอบคุณนะซูฉิง”
“ยินดีน่า” ซูฉิงยิ้ม
เธอยังไม่ได้บอกฮ่อหยุนเฉิงเกี่ยวกับที่ฉียวี่ชูและเธอคาดเดา
เพราะยังไงก็ยังไม่มีหลักฐาน
เธอกลัวว่าฮ่อหยุนเฉิงจะกังวล
อีกทั้งไม่ง่ายเลยที่จะอธิบายเรื่องนี้ทางโทรศัพท์
“จริงสิ ทั้เธอไม่สบายเป็นยังไงบ้าง รู้สึกดีขึ้นหรือยัง?” ฮ่อหยุนเฉิงถามอีกครั้งด้วยความเป็นห่วง
หัวใจของซูฉิงรู้สึกอบอุ่นขึ้น “ดีขึ้นมากแล้วล่ะ”
“อยู่บ้านรอฉันกลับไปดีๆ ล่ะ” เสียงของฮ่อหยุนเฉิงอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย
น้ำเสียงนี้…ราวกับสามีที่เดินทางไปทำงานเอ่ยเตือนภรรยา คลุมเครือ และยั่วยวน
ใบหน้าของซูฉิงเปลี่ยนเป็นสีแดง “อื้ม”

วิลล่าบ้านตระกูลอู๋
อู๋ชิงหร่านกำลังนอนอยู่บนเตียง ในหัวมีแต่คำพูดของไป๋หลานและรูปถ่ายของซูฉิงที่อยู่กับเฉินจุนเหยียน
ซู! ชิง!!
เธอต้องแก้เกมให้ได้!
ที่เธอเป็นแบบนี้ก็เพราะยัยเลวซูฉิงนั่น!
ตั้งแต่อู๋ชิงหร่านถูกพาตัวกลับบ้าน อู๋เฉิงเจ๋อก็ขังเธอ ทั้งยังเตือนไม่ให้เธอออกไปไหนด้วย
อู๋ชิงหร่านรู้ว่าอู๋เฉิงเจ๋อกลัวว่าเธอจะไปหาเรื่องซูฉิงอีก
เธอไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ชายคนโตซึ่งมีท่าทีเด็ดเดี่ยวมาตลอด จู่ๆ ก็มาขี้ขลาด
ก็แค่ซูฉิง มีอะไรให้กลัวกัน!
แถมยังกักบริเวณเธอแบบนี้อีก!
ในช่วงที่ถูกกักบริเวณ อู๋ชิงหร่านก็เกลียดซูฉิงมากขึ้นเรื่อยๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคืนที่สวีหว่านเอ๋อร์และไป๋หลานเอาข่าวที่ซูฉิงอ่อยเฉินจุนเหยียนนมา
ใบหน้าที่สวยงามของอู๋ชิงหร่านถึงกับบิดเบี้ยว
“ซูฉิง เธอยังกล้ามาอ่อยเฉินจุนเหยียนอีกนะ ฉันไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่!”
ดวงตาของอู๋ชิงหร่านเต็มไปด้วยความชั่วร้าย เธอไม่ได้เฉินจุนเหยียน คนอื่นก็อย่าได้คิด!
ยัยซูฉิงผู้หญิงคนนี้ เธอไม่มีวันให้หล่อนได้อยู่อย่างสุขสบายแน่!
หลังจากตัดสินใจ อู๋ชิงหร่านก็แสร้งทำไปสูดอากาศที่สวน พอหล่อคนรับใช้ได้ ก็หนีออกจากบ้านตระกูลอู๋ทางสวนหลังบ้าน
เมื่อเห็นว่าเธอหลบหนีออกมาได้อย่างง่ายดาย อู๋ชิงหร่านก็รู้สึกดีขึ้นมาก
เธอหยิบโทรศัพท์มือถือที่แอบหยิบออกมาเมื่อหี้ก่อนจะหาชื่อในรายชื่อผู้โทร:
เฉินห้าวตง
นี่คือคนที่เคยจีบเธอ ตอนอยู่ต่างประเทศ ผู้ชายคนนี้จะคอยมาสนับสนุนเธอในทุกคอนเสิร์ตที่เธอแสดง
ได้ยินมาว่าเป็นคนสายดำ
เพียงแต่ว่าในเวลานั้นอู๋ชิงหร่านหยิ่งผยองและดูถูกเขา ทั้งยังปฏิเสธการจีบของเขา
ต่อมาเฉินห้าวตงปีนขึ้นไปจุดสูงสุด และตอนนี้เขาก็แข็งแกร่งมาก เป็นที่รู้จักกันในชื่อเฉินอี้เตา
ในแวดวงไม่มีใครไม่กลัวเขา
ตราบใดที่เขาเป็นคนลงมือทำ ก็ไม่เคยล้มเหลว
จ้องไปที่หน้าจอของโทรศัพท์ นัยน์ตาของอู๋ชิงหร่านก็แสดงความมืดมนไม่รู้จบ
ซูฉิง คราวนี้ แกตายแน่!
สูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะตัดสินใจกดโทรหาเฉินห้าวตง
“ฮัลโหล ฉันเอง อู๋ชิงหร่าน” อู๋ชิงหร่านบอกถึงตัวตนของตัวเอง
“คุณอู๋? คุณยังจำผมได้เหรอครับ” ชายฝั่งตรงข้ามมีน้ำเสียงที่เยือกเย็นและอาฆาต
“เฉินห้าวตง ช่วยฉันเรื่องหนึ่งสิ” อู๋ชิงหร่านถือโทรศัพท์ ดวงตาของเธอสั่นไหวอย่างบ้าคลั่ง
“เรื่อง?” เฉินห้าวตงลากหางเสียงตอนท้าย “ง่ายนี่ ตราบใดที่เป็นเรื่องของคุณอู๋ ฉันยินดีทำให้”
“ขอบคุณนะ” อู๋ชิงหร่านยกยิ้มมุมปาก ก่อนความจองหองจะผุดขึ้นในใจ
ตราบใดที่เฉินห้าวตงลงมือ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะจัดการยัยเลวซูฉิงนั่นไม่ได้!
“แต่ว่านะ ฉันอยากเจอคุณอู๋ก่อน เรามาคุยกันต่อหน้าดีกว่า” เฉินห้าวตงเปลี่ยนคำพูด เป็นน้ำเสียงที่แฝงด้วยเจตนาไม่ดี
อู๋ชิงหร่านกัดฟัน “ตกลง!”
เธอไปที่ไนต์คลับตามที่อยู่ที่เฉินห้าวตงส่งให้
ประตูเหล็กสีทอง แสงไฟนีออนแวบวับ และคำใหญ่ที่ด้านบนของประตู – สโมสรหงเฮย
ชายที่มามีแต่ชุดสูทรองเท้าหนัง เช่นเดียวกับผู้หญิงที่แต่งตัวเย้ายวน
อู๋ชิงหร่านขมวดคิ้ว เธอไม่อยากจะเข้าไปเหยียบที่แบบนี้จริงๆ
ไม่เข้ากับตัวตนของเธอเลย
แต่เมื่อเธอคิดถึงซูฉิงและเฉินจุนเหยียนที่เปียกโชกอยู่ว่อนอินเทอร์เน็ต เธอก็อิจฉาแทบจะตายอยู่รอมร่อ
เธอขมวดคิ้วและในที่สุดก็ก้าวเข้าไป
ทันทีที่เดินเข้าไป ชายในชุดสูทสีดำลักษณะคล้ายบอดี้การ์ดก็ทักทาย “คุณคือคุณอู๋ใช่ไหมครับ?”
“ใช่ ฉันเอง” อู๋ชิงหร่านพยักหน้าและตอบอย่างเฉยเมย ไม่พอใจเล็กน้อยกับการที่อีกฝ่ายจ้องมองอย่างหยาบโลน
“บอสของเราบอกว่าถ้าคุณมาให้เราพาคุณไปหาเขา เชิญมากับผมครับ”
บอดี้การ์ดพาเธอไปที่ห้องด้านบน
เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็นห็นชายที่มีแผลเป็นรุนแรงบนหน้านั่งอยู่บนโซฟา ร่างกายเต็มไปด้วยกลิ่นอายของการสังหารที่เยือกเย็น
นั่นเฉินห้าวตง!