EP.376 กินคน

ในช่วงบ่ายวันถัดมา จู่ๆ น้ำจากแม่น้ำต้าวเจียงก็หยุดไหล เนื่องจากเผ่าปีศาจค้นพบความลับนี้และปิดกั้นทางน้ำจากปลายอุโมงค์

ทุกคนตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าสิ้นหวังอีกครั้ง การอดอาหารทำให้ผู้คนแทบสิ้นสติ

ลมพัดผ่านยามค่ำคืน ขณะที่หลินมู่อวี่นั่งอยู่บนขั้นบันไดของหน่วยวิญญาณอัคนีพร้อมเสียงท้องร้องดัง ไม่รู้ว่าเขาจะทนได้อีกนานเพียงใด…

“โฮก…”

มังกรน้อยส่งเสียงดังจากอีกมิติ

“ทำตัวดีๆ” หลินมู่อวี่คุยกับมังกรน้อยผ่านฌานสัมผัส “ตอนนี้ยังไม่มีสิ่งใดให้กิน เจ้าอยู่อีกมิติดีแล้ว หากข้าตาย…เจ้าจะได้เป็นอิสระ”

“โฮก!” มังกรน้อยส่งเสียงไม่พอใจราวกับไม่ต้องการพูดกับหลินมู่อวี่อีก กระนั้นมันก็เด็กเกินกว่าจะสื่อสารให้หลินมู่อวี่เข้าใจ

เมื่อมองไปรอบบริเวณ ผู้คนในหน่วยวิญญาณอัคนีต่างหิวโหยและหลับใหล หลินมู่อวี่ไม่สนใจอีกต่อไป ก่อนจะลุกเดินไปยังมุมหนึ่งของค่าย “วิ้ง!” มีเสียงดังขึ้นกลางอากาศพร้อมรอยแยกมิติเปิดออกพร้อมร่างของมังกรน้อยขนาดใหญ่ราวสามเมตรปรากฏขึ้น

“เกิดอะไรขึ้น?” หลินมู่อวี่ถามด้วยรอยยิ้ม

มังกรน้อยคลานมาด้านข้างของผู้เป็นนายก่อนจะอ้าปากกว้าง ภายในปากมีขาของสัตว์ร้ายปกคลุมไปด้วยหินหนาและหนักราวหนึ่งร้อยชั่ง หลังจากมังกรน้อยวางขาลงกับพื้น มันเงยหน้ามองส่งเสียงร้องพร้อมกระดิกหางรอคำชม

หลินมู่อวี่ประหลาดใจ เขากอดหัวมังกรน้อยพร้อมลูบเบาๆ “เจ้ามังกรน้อยทำดีมาก นี่คือเนื้อของสัตว์ชนิดใดกัน? ช่างน่าทึ่งยิ่งนัก!”

มังกรน้อยส่ายหัวและกระดิกหางรับสิ่งที่เจ้านายพูด หลินมู่อวี่ไม่เข้าใจคำพูด แต่สามารถเข้าใจการกระทำได้ มันคงกำลังบอกว่าได้กำจัดอสูรหลังจากเผชิญความยากลำบากในต่างมิติมานาน ก่อนจะทิ้งขาข้างหนึ่งเพื่อเป็นอาหารแก่เขา

หลินมู่อวี่พูดด้วยความยินดี “เอาล่ะ จงไปล่าสัตว์ในอีกมิติและนำเนื้อมาให้ข้า เจ้าคงต้องกินน้อยลง เนื่องจากข้าต้องการอาหารเหล่านี้จริงๆ หากกลับไปเมืองหลันเยี่ยน ข้าจะชดเชยคืนสองเท่าพร้อมทั้งสร้างเล้าไก่ให้ ตกลงไหม?”

มังกรน้อยพยักหน้ารับอย่างไม่ลังเล

เขาส่งมังกรผลึกโลหิตไปยังมิติอื่นทันที หลินมู่อวี่รู้ว่าพื้นที่ตรงนั้นรกร้างและแห้งแล้ง แม้ว่าเกล็ดที่คอจะมีบาดแผลจากการต่อสู้อย่างยากลำบาก แต่อย่างไรมันก็ยังง่ายต่อการล่าเหยื่อ ตอนนี้เขาไม่รู้เลยว่ามังกรน้อยจะนำอาหารมาให้อีกเมื่อไหร่…แต่เขาก็ไม่ต้องการที่จะให้กองทัพต้องอดตายอยู่ในเมืองตงฉวงนี้

“อาเหยียน”

หลินมู่อวี่ลากขาสัตว์ร้ายไปยังค่ายและออกคำสั่ง “ให้เฉินฮั่นก่อไฟปรุงเนื้อแก่ทุกคน”

ขณะเดียวกันหลินมู่อวี่ชักกระบี่ออกมาตัดเนื้อออกเป็นสองส่วน “ครึ่งหนึ่งสำหรับพี่น้องกองกำลังศักดิ์สิทธิ์ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งข้าจะนำไปมอบให้ท่านเซินเว่ยโหว”

ฉินเหยียนดีใจมาก “พี่ใหญ่…ได้เนื้อจากที่ใด?”

“จำได้หรือไม่ว่าข้าเลี้ยงมังกร?”

“อื้ม”

“มันล่าสัตว์มาจากที่อื่นมาให้”

“ยอดเยี่ยมไปเลย!”

“ไปส่งเนื้อที่จวนเจ้าเมืองกับข้าเถิด”

“ขอรับ!”

เฉินฮั่นก่อกองไฟและปรุงเนื้ออย่างตื่นเต้น ขณะที่หลินมู่อวี่กับฉินเหยียนลากครึ่งหนึ่งของสัตว์ร้ายไปยังจวนเจ้าเมือง มีคบไฟส่องสว่างไม่กี่ดวงระหว่างทาง เมื่อผ่านค่ายกองทหารเมืองชีไห่ ทั้งสองเห็นพวกเขาก่อกองไฟและทำอาหาร ไอน้ำพวยพุ่งจากหม้อเหล็กพร้อมกลิ่นแปลกประหลาดลอยออกมา

“เหตุใดพวกเขาจึงมีเนื้อ?” ฉินเหยียนเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ

“ข้าไม่ทราบ…”

หลินมู่อวี่ก้าวออกไปและเอ่ยถาม “ผู้ใดดูแลที่นี่?”

ผู้บัญชาการกองหมื่นลุกขึ้นพร้อมมีสีหน้าประหม่า คนผู้นั้นคือฉือฮั่ว “แม่ทัพหลินมู่อวี่เองหรือ กำลังออกไปไหนกลางดึกแบบนี้ขอรับ?”

“พวกเจ้ากำลังปรุงสิ่งใดอยู่?” หลินมู่อวี่ถาม

ฉือฮั่วหัวเราะ “ไม่มีอะไรขอรับ…พวกพี่น้องทหารขุดหนูได้สองสามตัว จึงนำมาทำอาหารกินกัน”

“งั้นหรือ? ขอข้าดูหน่อย”

หลินมู่อวี่เดินเข้าไปและยกฝาหม้อขึ้น ภายใต้แสงจากคบเพลิง เขาเห็นแขนขาของมนุษย์พร้อมไขมันที่ลอยอยู่เหนือน้ำ ทันใดนั้นร่างกายพลันสั่นสะท้านพร้อมกับรีบปิดฝาหม้อลง

“ฉือฮั่ว เจ้ากินเนื้อคน!?” หลินมู่อวี่ถามด้วยความประหลาดใจ

“ใช่ ข้ากินคน!” ฉือฮั่ววางมือลงบนด้ามดาบและกล่าว “ข้ากินได้ทุกสิ่งเมื่อหิวโหย เช่นนั้นแล้วการกินเนื้อคนผิดอย่างไร? หลินมู่อวี่ หากเจ้านำไปรายงานท่านเซินเว่ยโหว ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่!”

หลินมู่อวี่ยิ้ม “อาเหยียน ไปรายงานท่านเซินเว่ยโหวทันที”

“เจ้า!”

ฉือฮั่วพุ่งตัวเข้ามาพร้อมตะโกนดัง “อย่าหาว่าข้าไม่ปรานี!”

หลินมู่อวี่ไม่ถอยหนี ก่อนจะคำรามเสียงทุ้มต่ำพร้อมควบแน่นปราณยุทธ์ พลังดวงดาราพลันปกคลุมร่างกายและพุ่งปะทะก้อนหินด้านหลังฉือฮั่ว เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม “ต้องการฆ่าข้าอย่างนั้นเหรอ? ดูสิว่าเจ้าคู่ควรจะเป็นคู่ต่อสู้ของข้าหรือไม่…อาเหยียน ไปกันเถิด!”

ฉือฮั่วยืนนิ่งพร้อมทหารเมืองชีไห่ที่รายล้อมด้วยความหิวโหย ก่อนจะมีผู้หนึ่งเอ่ยถาม “ท่านแม่ทัพ เจ้าเด็กนั่นกำลังไปรายงานท่านเซินเว่ยโหว ระ…เราควรทำอย่างไรดี?”

“ท้องอิ่มก่อนค่อยว่ากัน!”

ดวงตาฉือฮั่วเต็มไปด้วยความเย็นชา “รับคำสั่ง หลังทานอิ่มจงให้พี่น้องลับดาบ หากท่านเซินเว่ยโหวรู้เรื่อง พวกเราคงถึงคราจบสิ้นแล้ว ดังนั้นจงเตรียมตัวพร้อมโต้กลับเสมอ แล้วเปิดประตูให้พวกปีศาจเข้ามา ดูสิว่าท่านเซินเว่ยโหวจัดการกับพวกมันอย่างไร!”

“ขอรับท่านแม่ทัพ!”

ภายในจวนเจ้าเมือง หมินยวี่หลินตบโต๊ะเสียงดังจนเกิดรอยร้าวและกล่าวด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “ฉือฮั่วไอ้สัตว์ร้าย! พวกมันกินศพทหารจริงเหรอ?”

“จริงขอรับ ข้าและท่านหลินมู่อวี่เห็นมากับตา” ฉินเหยียนกล่าว

“ไอ้สารเลว!”

ดวงตาหมินยวี่หลินเปลี่ยนเป็นเย็นชา “ตามข้าไปจัดการกับเจ้าฉือฮั่ว!”

ทหารผ่านศึกฉือยิงประสานหมัด “ท่านเซินเว่ยโหว ฉือฮั่วเป็นคนของเมืองชีไห่และเป็นคนที่ท่านหลานกงส่งมา ทำให้เราไม่สามารถจัดการเหล่านายพลจากเมืองชีไห่ได้ การเสียชีวิตของหวังซีเป็นความผิดพลาดของเขาเอง หากเราจัดการฉือฮั่วเวลานี้ เกรงว่าเราจะเสียโอกาสในการกลับเมืองหลันเยี่ยนขอรับ”

“เรายังสามารถกลับเมืองหลันเยี่ยนได้อีกหรือ?”

หมินยวี่หลินยิ้ม “ไม่ต้องกล่าวสิ่งใดอีกและตามข้ามา…พวกเราไม่มีเวลาแล้ว!”

“ขอรับ!”

ทันทีที่ทุกคนออกจากจวนเจ้าเมือง ท้องฟ้าก็สว่างวาบพร้อมฝนเทลงมาอย่างหนัก ก่อนที่หมินยวี่หลินและคนอื่นๆ จะถึงค่ายทหารเมืองชีไห่ ทหารนายหนึ่งวิ่งฝ่าฝนเข้ามารายงานด้วยความเร่งรีบ “ท่านเซินเว่ยโหวเกิดเรื่องแล้วขอรับ ฉือฮั่วนำกองทหารกว่าห้าพันนายออกไปทางประตูทิศใต้เพื่อเปิดประตูปล่อยเผ่าปีศาจเข้ามาในเมือง”

“มันจบแล้ว…”

หมินยวี่หลินหลับตาลงด้วยความเจ็บปวดท่ามกลางสายฝน “เมืองตงฉวงจบสิ้นแล้ว…กองทหารหยางเว่ยคงต้องล่มสลาย…”

“ท่านพ่อ…รีบออกจากเมืองเถิดขอรับ!”

“อืม”

หมินยวี่หลินมองทุกคน “เหล่านายพลทั้งหลาย ข้าจะนำกองทัพขวานศึกและกองทหารเทียนฉงไปยังประตูเมืองทิศใต้เพื่อต่อต้านกองทัพเผ่าปีศาจ พวกเจ้าต่างมีกองทัพเป็นของตนเอง หากมีโอกาสจงฝ่าวงล้อมศัตรูหนีไปซะ”

“ขอรับ!” หลินมู่อวี่ ฉือยิง ซูเหวินเทียน และคนอื่นๆ ประสานหมัดรับคำสั่ง

หมินยวี่หลินก้าวเท้ามาหาหลินมู่อวี่และหยิบผ้าสีขาวจากแขนส่งให้ “ท่านแม่ทัพเป็นราชบุตรบุญธรรมของจักรพรรดิพระองค์แรก พระเชษฐาขององค์จักรพรรดินีและผู้นำวิหารศักดิ์สิทธิ์…หมินยวี่หลินรู้ดีว่าคงไม่สามารถมีชีวิตรอดกลับไปเมืองหลวง หากท่านพบองค์จักรพรรดินี โปรดมอบสิ่งนี้ให้และบอกว่า…หมินยวี่หลินจะตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณในชาติหน้า”

หลินมู่อวี่รับผ้ามาและกางออก มีตัวหนังสือสีแดงปักไว้ว่า ‘ชีวิตเพื่อฝ่าบาท’

ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน ก่อนจะรีบยัดผ้าลงถุงสรรพสิ่ง

หมินวี่หลินมองไปยังฝูงชนและประสานหมัด “ขอบคุณที่ต่อสู้ร่วมกันมา!”

ทุกคนต่างประสานหมัดคำนับ เมื่อหมินยวี่หลินหันกลับ ทุกคนก็แยกย้ายหายไปท่ามกลางสายฝน

หลินมู่อวี่และฉินเหยียนตรงไปยังค่ายกองกำลังศักดิ์สิทธิ์

“พี่ใหญ่…” ฉินเหยียนรู้สึกไม่ดีจึงกล่าวว่า “หากไม่ใช่เพราะเรารายงานเรื่องการกินเนื้อคนของฉือฮั่วก็คงไม่ต้องลงเอยเช่นนี้ ข้าขอโทษที่หุนหันเกินไป”

หลินมู่อวี่ส่ายหัว “อย่าโทษตัวเองเลย พวกเขาได้ลิ้มรสเนื้อมนุษย์แล้ว สักวันไม่หันมากินพวกเรางั้นหรือ? ไม่ช้าก็เร็วพวกเราจะต้องเผชิญหน้ากัน ตอนนี้ยังไม่สายเกินไป รีบกลับค่ายและเตรียมฝ่าวงล้อมหลังทานอาหารเสร็จเถิด”

“ขอรับ!”

หลังจากกลับไปยังค่าย เฉินฮั่นแบ่งชิ้นเนื้อสองชิ้นให้หลินมู่อวี่และฉินเหยียน เขารับมาและกินทันที เนื่องจากตระหนักดีว่าจะต้องกินเพื่อเสริมเรี่ยวแรงในการเอาตัวรอดกลับไปหาฉินอิน ถังเสี่ยวซี และฉู่เหยาให้ได้

หลังจากทานเสร็จ ทุกคนสวมเสื้อผ้าพร้อมคว้าดาบของตนมุ่งหน้าไปยังประตูทิศใต้

ทหารแห่งจักรวรรดิรวมตัวกันภายใต้ความมืดมิดรอบด้าน เนื่องจากคบไฟถูกดับจากสายฝน เมื่อประตูทิศใต้เปิดออก หมินยวี่หลินตะโกนดัง “โจมตีพวกมัน!”

ทว่าทันใดนั้นก็เกิดระเบิดขึ้น!

“เปรี้ยง!!”

ทหารหลายสิบนายถูกแรงระเบิดกลายเป็นชิ้นเนื้อ หลินมู่อวี่และทุกคนเห็นเผ่าปีศาจตนหนึ่งยืนตระหง่าน มันคือจอมพลของกองทัพอสูรเกราะ…เหล่ยฉง!

………………………………….