EP.375 สิ้นหวัง
วันที่เก้าสิงหาคม อากาศร้อนจนสามารถทำอาหารบนพื้นได้ แต่สิ่งที่แย่ยิ่งกว่าคือเมืองตงฉวงขาดแคลนอาหารกว่าสี่วันแล้ว…
ม้าของหลินมู่อวี่และหมินยวี่หลินต่างถูกฆ่าเพื่อนำมาเป็นอาหาร แต่ก็ไม่สามารถช่วยพวกเขามากนัก ทหารกว่าสองหมื่นนายจำเป็นต้องกินทุกอย่างเพื่อประทังชีวิต แม้กระทั่งเปลือกไม้ รวมทั้งขุดดินหาไส้เดือนหรือหนู
เสียงท้องร้องดังก้องขณะที่หลินมู่อวี่เดินไปบนถนนในเมือง เขาเห็นทหารแห่งจักรวรรดิมากมายเต็มสองข้างทาง พวกเขาไม่เหลือแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะลุกเดิน…
“พี่ใหญ่!”
ฉินเหยียนวิ่งเข้ามาพร้อมริมฝีปากที่แห้งผาก “รีบกลับค่ายเถิด ข้าทำอาหารอร่อยๆ ไว้ให้ อาจทำให้ท่านอิ่มท้องได้บ้าง”
“โอ้?”
เมื่อหลินมู่อวี่กลับค่ายพร้อมฉินเหยียน ก็พบว่าเฉินฮั่นกำลังปรุงอาหารหม้อใหญ่พร้อมกลิ่นหอมลอยมา เขาจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ “นั่นคือสิ่งใด? เรากินอาหารหมดตั้งแต่เมื่อสองวันก่อนไม่ใช่หรือ?”
“เดี๋ยวท่านก็รู้ขอรับ!”
ไม่นานฉินเหยียนเปิดฝาหม้อออกเผยให้เห็นวัตถุสีดำลอยอยู่ในน้ำเดือดพร้อมส่งกลิ่นหอมจนหลินมู่อวี่อดไม่ได้ที่จะถาม “นี่คือ?”
“ข้านำหนังวัวออกจากเกราะ” ฉินเหยียนกล่าวอย่างตื่นเต้น “แม้หนังวัวจะกันน้ำและไฟ แต่หลังต้มไปกว่าหนึ่งชั่วโมงก็คลายตัวเหมือนหนังหมู มันจะต้องอร่อยอย่างแน่นอน พี่ใหญ่นั่งลงเถิด ข้าจะนำอาหารมาให้อีกสักครู่ รอทานของอร่อยได้เลย!”
หลินมู่อวี่ยิ้มขมขื่น “ข้าต้องการเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แล้วนำส่วนที่เหลือไปแจกจ่ายพี่น้องเถิด พวกเขาหิวโหยมานานหลายวัน”
“ขอรับ”
ไม่นานถ้วยซุปหนังวัวที่มีขนาดเท่าฝ่ามือถูกนำมาวางด้านหน้าหลินมู่อวี่พร้อมส่งกลิ่นหอมกรุ่น เขาใช้ตะเกียบคีบและกัดคำโต มันให้ความรู้สึกคล้ายกับกระดาษแข็ง กระนั้นเขาทำได้เพียงขมวดคิ้วและกลืนลงไป “อึก….” อย่างน้อยมันก็ทำให้เขาอิ่มไปได้สักระยะ
ขณะเดียวกันทหารส่งสารตะโกนเสียงดังจากนอกค่าย “ท่านผู้ดูแลหลินมู่อวี่แห่งกองกำลังศักดิ์สิทธิ์…ท่านเซินเว่ยโหวเรียกพบเพื่อหารือขอรับ!”
“ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”
“ขอรับ”
หลินมู่อวี่ลุกขึ้นพร้อมสั่งให้ฉินเหยียนและเฉินฮั่นดูแลค่าย ก่อนจะออกเดินทางไปยังจวนเจ้าเมืองและพบว่าเหล่านายพลต่างหน้าซีดเผือด แม้แต่หมินยวี่หลินก็มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก ขณะนี้เขาดูแตกต่างจากคราที่อยู่ในเมืองหลันเยี่ยนมาก
“ท่านแม่ทัพทั้งหลาย”
หมินยวี่หลินค่อยๆ ลุกขึ้นและมองฝูงชน “เรา…พร้อมจะกลับบ้านแล้ว”
หนึ่งในผู้บัญชาการกองหมื่นของเมืองหยาดสายัณห์ตกตะลึง “ท่านเซินเว่ยโหว พวกเราถูกล้อมเช่นนี้แล้วจะกลับบ้านได้อย่างไร?”
หมินยวี่หลินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ห้าวันก่อนแม่ทัพฉายหงผู้บัญชาการกองทัพขวานศึกได้นำทหารขุดอุโมงค์ใต้กำแพงตะวันออก มันมีความยาวกว่าสองไมล์และทอดยาวออกจากวงล้อมของกองทัพเผ่าปีศาจ ดังนั้นข้าต้องการให้ผู้บัญชาการตั้งแต่กองร้อยขึ้นไปมารวมตัวกันเพื่อถอยทัพในคืนนี้”
หัวใจหลินมู่อวี่หล่นวูบ “แล้วทหารธรรมดาล่ะขอรับ?”
หมินยวี่หลินส่ายหัว “หากมีคนมากเกินไป…อาจถูกพวกปีศาจจับได้ อย่างไรก็ตามเราสามารถเกณฑ์ทหารใหม่หลังจากกลับถึงเมืองหลันเยี่ยนสำเร็จ พร้อมฝึกฝนพวกเขาจนแข็งแกร่ง จากนั้นคงไม่สายเกินไปที่จะกลับมาแก้แค้นให้กับทหารที่เสียชีวิตในเมืองตงฉวง”
ฉือยิงพยักหน้า “สิ่งที่ท่านเซินเว่ยโหวกล่าวสมเหตุสมผล พวกเราจะทำตามทันทีขอรับ!”
หลินมู่อวี่ไม่สามารถกล่าวสิ่งใดได้อีก จึงประสานหมัดกล่าว “ขอรับ!”
…
เวลาผันผ่านเชื่องช้ากระทั่งแสงดาวสลัวปรากฏยามค่ำคืน หลินมู่อวี่พาฉินเหยียน เฉินฮั่น และนายพลคนอื่นๆ เคลื่อนตัวไปตามตรอกทางตะวันออกของเมือง ตลอดสองข้างทางมีทหารแห่งจักรวรรดินอนตายจากการอดอาหาร รวมทั้งพลเมืองนับหมื่นในเมืองตงฉวง เนื่องจากพวกเขาบางคนถูกทหารปล้นเสบียงไปจนหมดตัว
ฉินเหยียนขมวดคิ้ว “ทหารนายอื่นทำได้เพียงรอความตายอย่างนั้นเหรอ?”
เฉินฮั่นเพียงถอนหายใจ
หลินมู่อวี่กล่าวอย่างเฉยเมย “รักษาชีวิตและกลับมาแก้แค้นให้พวกเขา ข้าไม่คาดคิดว่าจะถูกเผ่าปีศาจเข้าแทรกแซงก่อนที่จะได้ชำระหนี้เลือดกับจักรวรรดิอี้เหอ”
ฉินเหยียนกล่าว “เมื่อเทียบกับการก่อกบฏของจักรวรรดิอี้เหอ เผ่าปีศาจนั้นเหี้ยมโหดกว่ามาก อีกทั้งพวกมัน…กินคน…”
หลินมู่อวี่เพียงนิ่งเงียบ
ภายใต้แสงคบเพลิงที่ลุกโชน หมินยวี่หลินสวมเสื้อคลุมประจำตำแหน่งยืนมองกองทัพขวานศึกเดินเข้าหลุมที่ขุด พวกเขามีจำนวนราวแปดพันนาย จึงทำให้มีนายพลระดับสูงค่อนข้างมาก หลังจากทหารกว่าแปดสิบนายเข้าไปในถ้ำตามคำสั่ง ฉือยิงยกมือและกล่าวว่า “รอจนกว่าฉายหงจะเจอทางออกและยืนยันความปลอดภัย จากนั้นจงอารักขาท่านเซินเว่ยโหวขณะถอยทัพ”
ทุกคนประสานหมัดกล่าวเสียงเบา “ขอรับ!”
…
ผ่านไปเกือบชั่วโมงฉายหงและคนอื่นๆ ยังไม่ออกมา หมินยวี่หลินขมวดคิ้วและเอ่ยถาม “เกิดสิ่งใดขึ้น? เหตุใดจึงใช้เวลานานถึงเพียงนี้ หมินจ้านลงไปตรวจสอบซะ”
“ขอรับท่านพ่อ!”
หมินจ้านชักดาบและกระโดดลงหลุมไป แต่เขารีบกระโดดทันทีออกเมื่อเท้าสัมผัสน้ำ “ท่านพ่อ แย่แล้วขอรับ ด้านล่างเต็มไปด้วยน้ำ!”
“อะไรนะ?!” หมินยวี่หลินตกใจ
ทันใดนั้นทุกคนต่างเห็นน้ำที่ปากทางเข้าท่วมสูงเกือบถึงพื้นที่ยืนอยู่ คนที่เข้าไปก่อนหน้าคงจมน้ำตายหมดแล้ว…ใบหน้าฉือยิงเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “มันจบแล้ว…เผ่าปีศาจคงพบอุโมงค์นี้ จึงขุดดินเปิดทางน้ำจากแม่น้ำต้าวเจียง ดังนั้นพวกฉายหงคง…”
ทุกคนนิ่งเงียบ ความหวังสุดท้ายหายไปแล้ว…
หมินยวี่หลินหลับตาลงพร้อมใบหน้าเผยความเจ็บปวด ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน ก่อนจะเงยหน้ามองท้องฟ้าและพึมพำ “เหตุใดจึงต้องเป็นข้า…เหตุใดกัน…”
“ท่านพ่อ…” หมินจ้านมองหมินยวี่หลิน “ตอนนี้เราควรทำสิ่งใดต่อไป…”
“กลับจวนเจ้าเมือง…” หมินยวี่หลินเอ่ยเสียงเบา “เราไม่เหลือเสบียงและหญ้าแล้ว ทหารทั้งสองหมื่นห้าพันนายคงไม่สามารถทนรับไหว วันรุ่งขึ้นเราจะเปิดประตูเมืองออกไปต่อสู้กับเผ่าปีศาจ บางทีหวังซีอาจพูดถูก แทนที่จะรอความตายอยู่ที่นี่ เราควรออกไปตายอย่างสมเกียรติเพื่อแสดงความภักดีต่อจักรวรรดิ”
“ขอรับ!”
เหล่านายพลระดับสูงทยอยกลับออกไปรวมทั้งหมินจ้านและฉือยิง เหลือเพียงพวกหลินมู่อวี่ที่ยังคงอยู่
…
“พี่ใหญ่เราไม่กลับไปหรือ?” ฉินเหยียนถามด้วยความประหลาดใจ
หลินมู่อวี่มองน้ำที่ท่วมปากหลุมและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “อาเหยียน ข้าเคยไปบ้านชาวประมงและพบว่าพวกเขาต่างมีอวนจับปลา ดังนั้นจงพาทหารไปค้นหาอวนทั้งหมดมา ส่วนท่านเฉินฮั่นกลับไปยังค่ายกองกำลังศักดิ์สิทธิ์และหน่วยวิญญาณอัคนีเพื่อรวบรวมคนที่ยังพอมีเรี่ยวแรงมาขยายอุโมงค์เปิดเส้นทางแม่น้ำต้าวเจียง”
ฉินเหยียนและเฉินฮั่นดวงตาเป็นประกาย ฉินเหยียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พี่ใหญ่ปราดเปรื่องยิ่งนักที่คิดวิธีนี้ได้!”
“ขอบใจ รีบไปและลงมือเถิด!”
“ขอรับ!”
เวลากลางดึกมีทหารหลายร้อยนายทำงานอย่างหนักเพื่อขุดดินขยายอุโมงค์ กระทั่งปากทางเข้ากลายเป็นสระน้ำรัศมีกว้างหลายร้อยเมตร ร่างของฉายหงและเหล่าทหารค่อยๆ ลอยขึ้นมา หลินมู่อวี่ออกคำสั่งให้ฝังพวกเขาในบริเวณใกล้เคียง และตามดังคาด…ในน้ำมีปลาจำนวนมากจากแม่น้ำต้าวเจียง ฉินเหยียนใช้อวนจับปลาตัวใหญ่หนักเกือบสามกิโลกรัมขณะที่เหล่าทหารส่งเสียงโห่ร้องให้กำลังใจ
เฉินฮั่นและคนอื่นๆ เริ่มทำตามฉินเหยียน ไม่นานก็จับปลาได้หลายร้อยกิโลกรัม พวกเขาตั้งหม้อขนาดใหญ่ไว้ด้านข้าง ไม่สำคัญแล้วว่าจะมีเครื่องปรุงรสหรือไม่ จากนั้นซุปปลาหม้อใหญ่ทำเสร็จอย่างรวดเร็วพร้อมแจกจ่ายให้ทุกคน แม้ว่าจะเติมเต็มท้องได้เพียงเล็กน้อย แต่มันก็มากพอสำหรับตอนนี้
จนถึงเวลาเที่ยงคืน พวกเขาจับปลาได้เกือบร้อยตัว จากนั้นฉินเหยียนนำปลาเหล่านี้ไปให้หมินยวี่หลินตามคำสั่งของหลินมู่อวี่
ทว่าในคืนนั้น จู่ๆ เศษอาหารมากมายตกลงมาจากท้องฟ้า มีทั้งขาหมูป่า เนื้อกวาง และแม้แต่ซากกระต่าย
ทหารในเมืองตงฉวงต่างส่งเสียงร้องยินดี
“อาหารเหล่านี้กินไม่ได้…”
หลินมู่อวี่เงยหน้ามองและกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “อาเหยียน ออกคำสั่งห้ามผู้ใดแตะต้องสิ่งที่ล่วงหล่นจากท้องฟ้า”
ฉินเหยียนพยักหน้า “ขอรับ!”
เฉินฮั่นประหลาดใจ “เหตุใดจึงกินไม่ได้หรือขอรับ?”
“จะมีสิ่งของร่วงจากท้องฟ้าได้อย่างไร? จะต้องเป็นอสูรปีกอย่างแน่นอน…พวกมันรู้ว่ากองทัพต่างมนุษย์หิวโซ จึงต้องการวางยาพิษในอาหารเหล่านี้ เช่นนั้นห้ามกินเด็ดขาด”
“ขอรับ…”
อย่างไรก็ตามทหารแห่งจักรวรรดิไม่มีอาหารตกถึงท้องมานาน หลายคนไม่ต้องการอดตายจึงยอมกินเข้าไปแม้จะรู้ว่ามีพิษ จากนั้นพวกเขาก็มีเลือดออกทวารทั้งตัวจนเสียชีวิตในที่สุด
…
เช้าวันรุ่งขึ้น ภายในโถงหลักจวนเจ้าเมืองช่างเงียบงัน
“มีทหารถูกวางยาพิษจนเสียชีวิตกี่นาย?” หมินยวี่หลินเอ่ยถามเสียงนิ่งเรียบ
“สามพันนายขอรับ” ฉือยิงตอบ
ใบหน้าหมินยวี่หลินเผยความเจ็บปวด “เผ่าปีศาจเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก! เอาล่ะ ไปร่วมมือกับท่านหลินมู่อวี่เพื่อขยายสระน้ำจากแม่น้ำต้าวเจียงเถิด และพยายามจับปลาให้มากที่สุด อย่าปล่อยให้มีผู้ใดต้องตายจากการอดอาหาร”
ขณะเดียวกันผู้บัญชาการกองหมื่นของกองทหารชีไห่เข้ามาประสานหมัดพร้อมกล่าวคำออก “ท่านเซินเว่ยโหว ข้าน้อยมีสิ่งที่ต้องรายงาน”
“ท่านแม่ทัพฉือฮั่ว โปรดกล่าวมา”
ฉือฮั่วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ทหารที่เพิ่งเสียชีวิต ร่างกายของพวกเขา…”
“หุบปาก!”
หมินยวี่หลินลุกขึ้นกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว “ข้าหมินยวี่หลิน ยอมตายเสียดีกว่าต้องกินคน!”
ฉือฮั่วผงะชั่วครู่ก่อนจะก้มหัวเคารพ “ขอรับท่านเซินเว่ยโหว ข้าน้อยไม่ตั้งใจกล่าวเช่นนั้น…”
………………………………….