ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 206

จื่ออันถามมู่หรงจ้วงจ้วงอย่างหยั่งเชิง “จริงสิ กุ้ยไท่เฟยก็วิตกยังวลมากใช่หรือไม่?”

มู่หรงจ้วงจ้วงกล่าว “นางร้องไห้อย่างโศกเศร้าเสียใจ ยิ่งเป็นบุตรชายแท้ ๆ ของนางด้วยแล้ว นางจะไม่กังวลได้อย่างไร? คนตายแล้ว แม้แต่ศพก็ยังหายไปอีก เป็นใครก็รับไม่ไหวกันทั้งนั้น นางเพียงร้องไห้อย่างหนักก็ถือว่าเข้มแข็งแล้ว ถ้าเป็นคนอื่นคงจะพยายามฆ่าตัวตายไปแล้ว”

จื่ออันพยักหน้า “ใช่สิ ยิ่งเป็นบุตรชายแท้ ๆ ด้วยแล้ว”

มีรถม้าวิ่งผ่านรถม้าของพวกนางไปอย่างรวดเร็ว มู่หรงจ้วงจ้วงเปิดม่านออกดูและเลื่อนม่านลง นางพูดอย่างเย็นชาว่า “เป็นรถม้าของจวนมหาเสนาบดี”

จื่ออันไม่ได้พูดอะไร หลังจากกลับจวนไปแล้ว นางยังจะต้องเผชิญกับพายุการนองเลือดอีก

หลังจากรถม้าเคลื่อนที่ไปได้ครู่หนึ่ง คนขับรถม้าก็ส่งเสียง “โอ๊ะ” และรีบดึงบังเหียน ม้าก็ทะยานขาหน้าขึ้น รถม้าก็เอนไปด้านหลัง ทั้งสองคนชนกันอย่างจังจนเกือบจะกลิ้งออกไป

“เกิดอะไรขึ้น?” มู่หรงจ้วงจ้วงกล่าวอย่างโกรธจัด และเปิดม่านออก แต่กลับเห็นทหารองครักษ์กันรีบลงจากม้า แล้ววิ่งไปอย่างรวดเร็ว

มีผู้หญิงคนหนึ่งนอนอยู่บนถนนที่เป็นพื้นหิน คบไฟของทหารองครักษ์กันส่องสว่างไปที่ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น มีเลือดไหลออกมาจากหน้าผากของนาง ที่แท้นางก็คือหยวนซื่อ

ที่แท้หยวนซื่อก็ถูกคนโยนลงจากรถม้า แต่โชคดีที่คนขับรถม้าพบเห็นได้ทันเวลา มิเช่นนั้นรถม้าคงวิ่งทับตัวนางไปแล้ว

มู่หรงจ้วงจ้วงและจื่ออันกระโดดลงมารับตัวหยวนซื่อจากมือของทหารองครักษ์ หยวนซื่ออาการสาหัสมาก เลือดไหลออกจากหน้าผากของนางอย่างต่อเนื่อง

มู่หรงจ้วงจ้วงโกรธจัดและสั่งทหารองครักษ์กัน “รีบไปสกัดกั้นรถม้าของจวนมหาเสนาบดี จับทุกคนไว้และรอจนกว่าข้าจะไปถึง”

”พ่ะย่ะค่ะ องค์หญิง!”

รถม้าหยุดลงข้างทาง จื่ออันก็รีบฉีกกระโปรงของนางออกเพื่อนำมาพันแผลที่หน้าผากของหยวนซื่อ ภายใจนางแค้นจนสุดคำจะบรรยาย แต่ว่าตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการห้ามเลือด

โชคดีที่นางมีผงหยุดเลือดติดตัวมาด้วย ก่อนหน้านี้เซียวท่าซื้อจากร้านขายยามาให้มู่หรงเจี๋ยใช้ แต่ว่าตอนนั้นมู่หรงเจี๋ยไม่จำเป็นต้องใช้ผงหยุดเลือดแล้ว นางจึงเก็บมันไว้ตรงช่องในแขนเสื้อ คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้จะได้ใช้มัน

แผลมีขนาดใหญ่มาก พอตกลงจากรถม้าหน้าผากก็ไปกระแทกพื้น ถนนในบริเวณนี้ล้วนเป็นแผ่นหินทั้งหมดเป็นเส้นทาง สำหรับเหล่าเชื้อพระวงศ์ไม่ใช่ถนนลูกรัง พวกมันแข็งแรงมาก มีแผ่นหินบางส่วนที่แตกอยู่ ดูจากบาดแผลน่าจะตกลงมาถูกแผ่นหินที่แตกนั่น มิฉะนั้นบาดแผลจะไม่ลึกมากเช่นนี้

เลือดไหลลงมาจากหน้าผากของหยวนซื่อเป็นทาง แทบจะใช้คำว่าเลือดไหลอาบหน้ามาอธิบายก็ย่อมได้ ผลของผงห้ามเลือดไม่ได้เห็นผลเร็วขนาดนั้น จื่ออันได้แต่ใช้ผ้าเช็ดหน้ากดแผลไว้เท่านั้น

ไม่นานผ้าเช็ดหน้าก็ชุ่มไปด้วยเลือด จ้วงจ้วงถอดเสื้อคลุมชั้นนอกออก ฉีกส่วนนึงให้จื่ออัน และจื่ออันก็พับมันแล้วกดลงไป แล้วกล่าวถามจ้วงจ้วงอย่างกังวลว่า “มีโรงหมออยู่บริเวณนี้หรือไม่?”

“เจ้าไม่ใช่หมอหรือ?” จ้วงจ้วงกล่าวถาม

“ผงห้ามเลือดใช้ไม่ได้ผล และข้าก็ไม่มียา รีบหาโรงหมอเถิด” จื่ออันมองไปที่ใบหน้าที่ซีดขึ้นเรื่อย ๆของหยวนซื่อและเลือดที่ไหลออกมาไม่หยุด นางวิตกกังวลมากจริง ๆ

คนขับรถม้ารีบพูด”องค์หญิง ที่ด้านหน้ามีร้านเป่าเหอถังอยู่ ไปที่นั่นดีกว่าไหมพ่ะย่ะค่ะ”

“เร็วเข้า รีบไป!” มู่หรงจ้วงจ้วงกล่าว

คนขับรถม้าบังคับม้าออกไป ระยะทางเพียงไม่กี่ร้อยเมตร ก็มาถึงเป่าเหอถัง คนขับรถจึงรีบไปเคาะประตู ในขณะนั้นร้านเป่าเหอถังได้ปิดแล้ว พอได้ยินเสียงคนเคาะประตู เขาก้พูดอย่างเหลืออดทนผ่านประตูออกมา “ปิดร้านแล้ว ไปร้านอื่นเลยไป”

คนขับรถม้าพูดเสียงดัง “เปิดประตู องค์หญิงอยู่ที่นี่”

“องค์หญิงอะไร เหลวไหล รีบไปซะ องค์หญิงจำเป็นต้องมารักษาโรคกับข้าหรือ?”

เมื่อได้ยินดังนั้น มู่หรงจ้วงจ้วงก็ก้าวไปข้างหน้าและเตะประตูจนเปิดออก