ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 207
เจ้าของร้านของเป่าเหอถังที่เห็นมู่หรงจ้วงจ้วงเข้ามาเหมือนนางปีศาจร้าย เขาก็อดไม่ได้ที่จะสะดุ้งและพูดอย่างโมโห “สตรีผู้นี้ กล้าดียังไง…”
เมื่อเขาเห็นทหารองครักษ์สองคนที่อยู่ด้านหลังมู่หรงจ้วงจ้วงถือดาบไว้อยู่ ใบหน้าของเขาดูซีดเซียวอย่างหวาดกลัว และเขาก็พูดตะกุกตะกัก “องค์หญิงเสด็จข้าน้อยมีความผิด ผิดใหญ่หลวงนัก!”
ทหารองครักษ์อุ้มหยวนซื่อเข้ามา มู่หรงจ้วงจ้วงเอ่ยเสียงเข้มว่า “เจ้าเข้ามาคอยช่วยเหลือ ถ้าต้องการยาอะไร จะได้สั่งให้เจ้าไปเอามา”
“แย่แล้ว ทำไมเลือดถึงได้ไหลออกมามากมายขนาดนี้? เร็วเข้า รีบทาผงยาขาวลงไป” เจ้าของร้านอุทานเสียงดัง แล้วรีบหันหลังเดินไปหยิบยาที่ตู้ยา
อีกด้านนึง ทหารองครักษ์สองคนไล่ตามรถม้าของจวนมหาเสนาบดีไป และสกัดกั้นรถม้าที่ถนนหนานจงได้
คนขับรถม้ากล่าวอย่างโกรธเคือง “พวกเจ้าเป็นใคร? กล้าดียังไงมาขวางรถม้าของจวนมหาเสนาบดี?”
ทหารองครักษ์กล่าวอย่างเย็นชา “ข้ารับคำสั่งจากองค์หญิงใหญ่ให้มาตรวจสอบคดีจงใจทำร้ายร่างกาย โปรดให้ความร่วมมือ”
เมื่อคนขับรถม้าได้ยินว่าเป็นคนขององค์หญิง สืบสวนคดีทําร้ายคน จึงรีบลงมา “คดีทำร้ายคนอะไร?”
คนขับรถม้าขับรถไปข้างหน้าโดยไม่รู้ว่าหยวนซื่อได้ตกจากรถม้าไปแล้ว แม้ว่าจะได้ยินเสียงดัง แต่เขาก็ไม่ได้เหลียวหลังหันไปดู ทั้งยังไม่ได้ยินเสียงกรีดร้อง ดังนั้นเขาจึงไม่รู้เรื่องอะไรเลย
ม่านเปิดออก ในรถม้ามีเพียงฮูหยินหลิงหลงกับเซี่ยหว่านเอ๋อเท่านั้น มหาเสนาบดีเซี่ยไม่ได้อยู่ในนั้นด้วย
ฮูหยินหลิงหลงมองไปที่ทหารองครักษ์ทั้งสองคน “คดีทำร้ายร่างกายอะไรกัน ต้องมาตรวจสอบถึงจวนมหาเสนาบดี?องค์หญิงใหญ่ต้องมีเหตุผลใช่หรือไม่?”
ทหารองครักษ์ชำเลืองมองฮูหยินหลิงหลงและเซี่ยหว่านเอ๋อ “ต้องขออภัย ขอเชิญท่านทั้งสองไปกับพวกเราด้วย”
เซี่ยหว่านเอ๋อกล่าวอย่างโมโห “เจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นใคร? เจ้ากล้าพาตัวข้าไปเหรอ?”
ทหารองครักษ์กล่าวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า “พวกเราแค่ทำตามคำสั่ง ได้โปรดยกโทษให้พวกเราด้วย
เซี่ยหว่านเอ๋อฮึดฮัดเสียดัง และกล่าวกับคนขับรถม้า”ไม่ต้องไปสนใจพวกเขา มีเรื่องอะไรข้าจะจัดการเอง ไปกันเถอะ!”
คนขับรถม้ามองเข้าไปในรถ และพบว่าหยวนซื่อหายตัวไปแล้ว เขาอดตกใจไม่ได้ อย่างไรก็ตามในจวนมหาเสนาบดี สถานะของหยวนซื่อก็เท่ากับคนรับใช้ เขาเองก็ไม่กล้าเอะอะไป เพียงโบกมือไปที่ทหารคุ้มกันเล็กน้อย “พี่ใหญ่องครักษ์ พวกเราไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับคดีทำร้ายร่างกายจริง ๆ ได้โปรดกลับไปรายงานองค์หญิงด้วย”
ทหารองครักษ์กล่าวอย่างเคร่งขรึม “พูดไร้สาระอะไรกัน? เร็วเข้ารีบขับรถม้าตามพวกเรามา”
คนขับรถม้าอยากจะพูดต่ออีก ทหารหนึ่งในนั้นผลักคนขับรถม้าออก และขึ้นไปบังคับรถม้าด้วยตัวเอง เขาดึงบังเหียน หันรถม้ากลับ
เซี่ยหว่านเอ๋อโกรธจัด “เจ้าบังอาจมาก กล้าใช้กำลังพาตัวว่าที่พระชายาขององค์รัชทายาทหรือ? เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้าสามารถฟ้องร้องเจ้าต่อหน้าพระพักตร์ฮองเฮาได้? ดูซิว่าเจ้าจะมีกี่หัวให้ตัดกัน?”
ทหารองครักษ์ไม่สนใจนาง สะบัดแส้ม้าและบังคับม้าออกไปอย่างรวดเร็ว
เซี่ยหว่านเอ๋อหงายหลังจนเกือบล้มลง ฮูหยินหลิงหลงช่วยพยุงนาง หัวใจของนางเต้นระรัว
เมื่อออกจากพระราชวังมา มหาเสนาบดีเซี่ยไม่ได้กลับไปที่จวนพร้อมกับพวกนาง แต่ได้นัดพบกับเหลียงไท่ฟู่ จึงได้ให้คนขับรถม้าส่งตัวพวกนางกลับจวนไปก่อน
นางนึกถึงคำพูดของหยวนซื่อที่พูดในวังได้ และยังคงจำคำเยาะเย้ยของคนเหล่านั้นได้ดี นางเกลียดหยวนซื่อเข้ากระดูกดำ ฉวยโอกาสตอนที่หยวนซื่อไม่ทันระวังตัว ขยิบตากับเซี่ยหว่านเอ๋อ และผลักหยวนซื่อจนร่วงลงจากรถม้า ในขณะที่รถม้ากำลังวิ่งอยู่
นางไม่เห็นรถม้าขององค์หญิงใหญ่ที่อยู่ด้านหลัง จึงคิดว่าจะไม่มีใครรู้เรื่องนี้ แม้ว่าหยวนซื่อจะไม่ตาย แต่นางคงกลับจวนไปไม่ไหว
นางไม่เคยคิดว่าหยวนซื่อจะตกลงไปตาย แค่อยากจะสอนบทเรียนเล็กน้อยให้กับนาง รอจนกลับไปถึงจวนแล้วค่อยสั่งให้คนขับรถม้าออกมาตามหานาง คิดไม่ถึงว่าองค์หญิงใหญ่จะพบเข้า
สิ่งที่นางไม่คาดคิดก็คือ เซี่ยจื่ออันอยู่ในรถม้าขององค์หญิงใหญ่ด้วยเช่นกัน
ในสมองของนางมีเหตุอันควรหลายข้อที่หลุดพ้นจากตัวนางอย่างรวดเร็ว เช่น หยวนซื่อนั่งไม่มั่นคงและตกลงไป หรือหยวนซื่อคิดจะใส่ร้ายนางจึงจงใจกระโดดลงไป เพื่อให้ทุกคนคิดว่านางเป็นผู้หญิงที่ชั่วร้าย