บทที่ 206 สัญลักษณ์แห่งสำนึก
สำหรับชายชุดคลุมยาวแดงแล้ว ดีหมีเดือดสามตาต่างหากที่เป็นเป้าหมายของเขา ชายหนุ่มชุดคลุมยาวดำคนนี้ไม่ธรรมดา เรื่องน้อยลงหนึ่งเรื่องก็มีปัญหาน้อยลงหนึ่งเรื่อง
“ทำไมต้องยกสัตว์ที่ฉันล่าได้ให้แกด้วย? ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อกี้นายเพิ่งลอบทำร้ายฉัน คิดว่าจะจบแบบนี้เหรอ?” หลัวซิวพูดน้ำเสียงเย้ยหยันและเยือกเย็น
“แกอยากตาย? ฉันทำให้แกสมปรารถนาเอง”
แววตาของชายชุดคลุมยาวแดงฉายลำแสงคมกริบ คว้ากระบี่ออกมา แสงดาบสีแดงดั่งเปลวไฟควบแน่น ฟันด้วยความดุเดือด
อยู่ในป่าลึก นักยุทธ์ผู้ฝึกตนฆ่าฟันกันเพราะพูดไม่ถูกคอ เป็นเรื่องที่ปกติมาก
ลำแสงของดาบพุ่งทะยานราวกับเปลวไฟที่ร้อนแรง ยังไม่ทันเข้ามาใกล้ก็มีความน่าหวาดกลัวแผ่ซ่านออกมา
ในรัศมีหนึ่งร้อยเมตรต้นไม้เหี่ยวแห้งและถูกแผดเผาในพริบตา อาศัยพลังจิตแท้ที่แข็งแกร่งของแดนฝึกจิตขั้น7 จู่โจมสุดกำลัง สามารถสังหารฝึกจิตขั้นต้นได้อย่างง่ายดาย
หากเปลี่ยนเป็นเมื่อก่อน หลัวซิวต้องใช้พลังแปรเสวียนเทียนยี่สิบสี่เท่าถึงจะสามารถเทียบเคียงกับฝึกจิตขั้นท้าย
แต่ว่าเวลานี้ พลังของเขาเพิ่มขึ้นไม่น้อย ร่วมกับ《วิชาพลังมังกรแท้》วรยุทธ์ระดับ8 ด้วยพลังแปรเสวียนเทียนหกเท่า ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถเทียบเคียงได้
ชายชุดคลุมยาวแดงที่ลงมือกับหลิวซิว ชื่อว่าหลี่หงเหวิน ในเขตการปกครองหวู่เฟิงสามารถขนานนามได้ว่าเป็นนักล่าอสูรเดี่ยวที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่
หลี่หงเหวินมักจะฆ่านักยุทธ์ผู้ฝึกตนเพื่อชิงของล้ำค่าและทรัพยากร คือหนึ่งในรายชื่อที่ขั้วอำนาจต่างๆ ต้องการไล่ฆ่า
ทว่าหลี่หงเหวินกลับฉลาดหลักแหลมอย่างมาก ไม่เคยหาเรื่องราชายุทธ์ร่วมกับเขาลงมือเหี้ยมโหด โดยมากล้วนฆ่าทำลายศพ ทำให้คนยากจะไล่ล่า
อีกทั้ง หลี่หงเหวินเก่งกาจมาก แม้ว่าจะถูกฝึกจิตขั้น8และฝึกจิตขั้น9ตามฆ่า ถึงแม้เขาจะไม่สามารถเอาชนะก็สามารถหนีรอดได้
สำหรับราชายุทธ์ที่สูงศักดิ์เหล่านั้น เขาไม่ไปหาเรื่อง เป็นธรรมดาที่ราชายุทธ์ก็ย่อมไม่มาหาเรื่องเขา
มือของหลัวซิวถือกระบี่เอาไว้ สีหน้านิ่งงันมองกระบี่ฉายเปลวไฟที่กวัดแกว่งไปมา ราวกับถูกล่ามด้วยโซ๋ตรวจให้อยู่ที่เดิม ทำได้เพียงรอความตายเท่านั้น
สิ่งนี้ทำให้มุมปากของหลี่หงเหวินกระตุกยิ้มเยือกเย็น “ไอ้หนุ่มนี้ป้องลำแสงกระบี่ก่อนหน้านี้ของฉันได้ น่าจะเป็นเพราะโชคช่วยเท่านั้น”
อย่างกะทันหัน ก่อนที่ลำแสงเปลวไฟของกระบี่จะไปถึงตรงหน้า หลัวซิวลงมือแล้ว
พลังจิตแท้ส่งไปยังกระบี่ยุทธ์ เปลวไฟดำของกระบี่ปะทุขึ้น หลัวซิวกวัดแกว่งกระบี่ คล้ายจะปะทะกับเปลวไฟที่ร้อนแรง
“ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!”
ใบหน้าของหลี่หงเหวินฉายความเย้ยหยัน ฝึกจิตขั้น1ระยะเริ่มต้นสามารถต้านทานกระบี่ที่ตนฟันออกไปด้วยเรื่อยเปื่อยนั่นถือว่าเป็นเพราะโชคช่วย ตอนนี้กระบี่ที่ตนฟันสุดกำลัง แม้กระทั่งฝึกจิตขั้น4ระยะกลางขึ้นไปยังไม่กล้าปะทะซึ่งหน้า อาศัยความสามารถของเขาเนี่ยนะ?
สำหรับหลี่หงเหวิน การกระทำของชายหนุ่มชุดคลุมยาวดำเป็นการหาเรื่องให้ตนอับอาย อีกทั้งราคาที่เขาต้องแลกคือถูกลำแสงกระบี่เพลิงของเขากลืนกิน กลายเป็นผุยผง!
ทว่าวินาทีต่อมา รอยยิ้มเยือกเย็นด้วยความเย้ยหยันบนใบหน้าของหลี่หงเหวินนิ่งค้างทันที
“โฮ่ก!”
เสียงคำรามของมังกรดำขึ้น เปลวไฟดำกลายเป็นมังกร กลืนกินลำแสงกระบี่เพลิง
“นี่มันวรยุทธ์อะไรกัน?”
สีหน้าของหลี่หงเหวินแปรเปลี่ยน ร้องตะโกนเสียงดัง “ระเบิดซะ!”
ลำแสงกระบี่เพลิงที่ถูกเปลวไฟดำมังกรกลืนกินระเบิดตัวกะทันหัน เปลวไฟมังกรดำระเบิดบนท้องฟ้า เป็นเสี่ยงๆ พลังจิตปะทุออกมาแล้วเคลื่อนไปทั่วทุกสารทิศ
“ตาย!”
ตัวของหลัวซิวกลายเป็นลำแสง กระบี่ยุทธ์ดินฟาดฟันออกมา ปราณกระบี่กลายเป็นเปลวไฟดำมังกร พลังแข็งแกร่งมากกว่าเมื่อครู่หลายเท่า
ตอนอยู่บนชั้นเจ็ดของหอคอยมังกรบิน เขาจำเป็นต้องอาศัยพลังแปรเสวียนเทียนยี่สิบเท่าถึงจะสามารถเทียบชั้นกับฝึกจิตขั้น7
แต่ว่าฝึก《วิชาพลังมังกรแท้》แล้ว ร่วมกับการฝึกฝนด้วยความยากลำบากของตนก่อนหน้านี้ เคลื่อนพลังเพียงหกเท่า ก็สามารถรับมือกับฝึกตนขั้น7ระยะสุดท้ายได้!
นี่ คือข้อดีของวรยุทธ์วิชายุทธ์ชั้นสูง และเป็นเหตุผลว่าทำไมนักยุทธ์ฝึกตนจึงตามหาวิชายุทธ์ชั้นสูง
ระดับวิชายุทธ์ที่ฝึกฝนยิ่งสูง ความสามารถของผลการฝึกตนในระดับเดียวกันก็จะยิ่งแข็งแกร่ง ถึงขั้นที่ว่าระยะห่างจะเพิ่มมากขึ้นหลายเท่า สิบกว่าเท่า หลายสิบเท่า!
《วิชาพลังมังกรแท้》วรยุทธ์ระดับ8นี้ แข็งแกร่งกว่า《พลังทมิฬซวนโหลว》ที่หลัวซิวฝึกตนก่อนหน้านี้หลายเท่าอย่างไม่ต้องสงสัย
“เป็นไปไม่ได้!”
หลี่หงเหวินหน้าเปลี่ยนสี เขาไม่สามารถเชื่อว่าฝึกจิตขั้น1ระยะต้นจะสามารถเทียบชั้นกับฝึกจิตขั้น7ระยะสุดท้ายได้
แต่ว่า ความเป็นจริงประจักษ์อยู่ตรงหน้าเขาแล้ว
สนับมือโน้มถ่วงถูกหลัวซิวเก้บไปนานแล้ว เวลานี้พลังการต่อสู้นำออกมาสุดฤทธิ์ ทำให้เขารู้สึกปลดปล่อยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
อาศัยแดนร่างเนื้อก่อนหน้านี้ พลังหกเท่าสามารถเคลื่อนได้ตลอดเวลาโดยไม่จำเป็นว่าร่างกายจะทนต่อการย้อนทำร้ายหรือไม่
สีหน้าเยือกเย็นและเย้ยหยันของหลี่หงเหวินในตอนแรกหายไปแล้ว แทนที่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมและอาฆาต
เขามีกระบี่ยุทธ์ในกำมือมากมาย เปลวไฟพลังจิตแท้ปะทุออกมา พลังที่ทำให้คนรู้สึกหวาดกลัว แผ่ซ่านออกมาจากตัวของเขา
“ดาบเพลิงเฟยหลัว!”
เขาชักดาบออกมา เปลวไฟขนาดใหญ่ เพลิงไฟร้อนแรงที่ไม่สิ้นสุดของพลังจิตแท้ประสานเข้ากับอานุภาพของกระบี่
อานุภาพของกระบี่นี้มากกว่ากระบี่เมื่อครู่มาก ทั้งยังแสดงทักษะยุทธ์ของวิชากระบี่ขั้น6ที่ทรงพลานุภาพ
“กระบี่เพลิง!”
เพลิงมรณะควบแน่นและลอยขึ้นเหนือกระบี่ยุทธ์ ห้วงกระบี่ที่เปี่ยมไปด้วยเจตนาสังหารอันน่าสะพรึงกลัว โจมตีดวงจิตของคู่ต่อสู้
ชั่วขณะหนึ่ง หลี่หงเหวินรู้สึกว่าจิตวิญญาณของตนคล้ายถูกกระบี่นับหมื่นทะลุทะลวง
“วิชายุทธ์ขั้น7 ห้วงกระบี่วิถีบู๊?”
เวลานี้หลี่หงเหวินตกใจจนหน้าถอดสี ถึงขั้นที่ว่าเขาเริ่มรู้สึกหวาดกลัว
เป็นฝึกจิตขั้น7เหมือนกัน หลี่หงเหวินคนนี้เทียบกับคู่ต่อสู้ที่หลัวซิวพบเจอบนหอคอยมังกรบินแล้วยังห่างกันไกลมาก
ผลการฝึกตนระดับเดียวกัน ความสามารถก็แบ่งเป็นสูงต่ำ ผู้แข็งแกร่งถึงขั้นสามารถสังหารผู้อ่อนแอในระดับเดียวกันได้
“หนี ต้องหนี ไอ้หมอนี่ไม่ใช่ฝึกเจ็ดขั้น1 ต้องเป็นไอ้แก่ประหลาดที่ซ่อนผลการฝึกตนแน่นอน!” หลี่หงเหวินหนีด้วยความบ้าคลั่ง
ทว่าความน่าหวาดกลัวของเพลิงมรณะของกระบี่ทับถมมาไม่หยุด คล้ายอากาศรอบตัวถูกตรึงเอาไว้ ทำให้เขาไม่สามารถหนีได้
“ไม่!พี่ใหญ่ของฉันไม่มีวันปล่อยแกแน่นอน!”
หลี่หงเหวินร้องคำรามด้วยความเจ็บใจ หลังจากนั้นวินาทีต่อมาเขาก็ถูกกระบี่ยาวหลายสิบฟุตฟันจนแตกเป็นเสี่ยงๆ
วินาทีที่หลี่หงเหวินตาย ลำแสงพุ่งทะยานออกมาจากหน้าผากของเขา พุ่งไปทางหลัวซิว
หลัวซิวยกมือขึ้นแล้วฟันกระบี่ออกไป ทว่ากระบี่ยุทธ์ฟาดฟันไปยังลำแสงที่พุ่งเข้ามา กลับไม่มีพลังแม้แต่น้อย ลำแสงนั้นผ่านการขวางกั้นของกระบี่ยุทธ์ แล้วเข้าสู่ตัวของเขา
“นี่มันอะไรกัน?”
หลัวซิวตรวจสอบร่างกายของตนเองในทันที ทว่ากลับไม่พบความผิดปกติ ลำแสงที่เข้ามาในร่างกายราวกับวัวโคลนลุยทะเล หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย