บทที่ 475 พี่มีผมแล้วทั้งคน / บทที่ 476 ชมฉันเร็วเข้า! Ink Stone_Romance
บทที่ 475 พี่มีผมแล้วทั้งคน
เสี่ยวชิงยังเล่าต่อไปด้วยสีหน้าตื่นเต้น “แล้วพี่เยี่ยก็เลื่อนขั้นแล้ว ตอนนี้พี่เยี่ยเป็นหัวหน้าแผนกผู้จัดการส่วนตัวแล้ว…”
ขณะที่ลั่วเฉินกำลังตั้งใจฟังอย่างเพลิดเพลิน เสียงฝีเท้าสองคู่ก็ลอยมาจากทางประตู
เยี่ยไป๋เดินกลับมาถึงห้องทำงานอย่างรวดเร็ว และผู้ที่เดินตามหลังมา ก็คือ…กงซวี่!
กงซวี่เพิ่งจะแต่งหน้าทำผมเสร็จ ทั้งร่างเปล่งออร่า พอเข้าห้องทำงานมา ห้องทั้งห้องพลันสว่างไสว “ไฮ”
“อ๊ะ! กง…กงซวี่!” เสี่ยวชิงอุทานอย่างตกใจ
กงซวี่เดินไปทางไหนก็เหมือนมีดวงดาวรายล้อมดวงเดือน มีบอดี้การ์ดจำนวนมากล้อมรอบ แม้จะเป็นบริษัทเดียวกัน ผู้ช่วยก็ไม่เคยเห็นกงซวี่ใกล้ขนาดนี้มาก่อน เวลานี้ได้เห็นตัวจริง ตื่นเต้นเสียจนเกือบจะเป็นลมล้มพับไป
“สวัสดี สาวน้อย ต่อไปเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ฝากตัวด้วยนะ!” กงซวี่เห็นดังนั้นก็ยิ่งปลดปล่อยฮอร์โมนของตัวเองอย่างเต็มที่ เขี้ยวที่เผยออกมาให้เห็นเป็นครั้งเป็นคราวเวลายิ้มทำเอาผู้ช่วยตัวน้อยหลงใหลเสียจนหัวปักหัวปำ
เยี่ยหวันหวั่นกระแอมเล็กน้อย มองกงซวี่อย่างรำคาญใจ เป็นสัญญาณให้เขาพอได้แล้ว
กงซวี่ถึงได้สำรวมขึ้น จากนั้นมองลั่วเฉินที่ยังคงเหม่อลอยอยู่ด้านข้าง พลางเลิกคิ้วขึ้น “พี่เยี่ย คนนี้คือลั่วเฉิน คนที่อยู่ในสังกัดพี่เหรอ?”
“อื้อ” เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า แล้วหันไปพูดกับลั่วเฉินว่า “ลั่วเฉิน กงซวี่เพิ่งจะเซ็นเข้ามาอยู่ในสังกัดฉัน ทักทายกันซะสิ”
กงซวี่นั่งลงบนโซฟาอย่างไม่ใส่ใจ เห็นว่าเวลาที่เยี่ยหวันหวั่นพูดกับลั่วเฉิน อ่อนโยนกว่าที่พูดกับตัวเองอย่างเห็นได้ชัด ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เขาถึงรู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมา จึงลูบคาง จุปากเอ่ยว่า “พี่เยี่ย พี่มีผมอยู่ทั้งคนแล้ว ยังจะเก็บหมอนี่ไว้ทำอะไร? ต่อไปพี่ตั้งใจดูแลผมคนเดียวก็พอแล้วล่ะ!”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ใบหน้าของลั่วเฉินที่กำลังจะเอ่ยทักทายกงซวี่พลันแข็งทื่อ
สีหน้าของเยี่ยหวันหวั่นก็ดำมืดลง
กงซวี่ ไอ้หมอนี่ ประเมินเขาต่ำเกินไปแล้ว!
นี่เพิ่งจะมาถึงก็เผยธาตุแท้ออกมาแล้ว…
สายตาเยี่ยหวันหวั่นเป็นประกายวาบ ส่งสายตาไปตักเตือนกงซวี่ “ถ้านายอยากจะอยู่กับฉันต่อไป อย่าพูดแบบนี้ให้ฉันได้ยินอีกเป็นครั้งที่สอง”
กงซวี่เห็นเยี่ยหวันหวั่นไม่พอใจ ก็รีบใช้รอยยิ้มไม้ตาย “พี่เยี่ยอย่าโกรธไปเลย ผมก็แค่ล้อเล่นน่า”
สีหน้าของลั่วเฉินยังคงดูไม่ดี สีหน้าหมองลงไปหลายส่วน
“พี่เยี่ย เดี๋ยวพวกเราไปกินข้าวด้วยกันเถอะ ถือว่าฉลองที่ผมมาร่วมทีม” กงซวี่เสนอความคิดออกมาอย่างเป็นกันเอง
เยี่ยหวันหวั่นจัดการงานทั้งหลายที่รับกงซวี่เข้ามา พลางเอ่ยว่า “ไว้วันหลังเถอะ ตอนนี้ฉันต้องรีบจัดการรับช่วงต่องานของนายให้เร็วที่สุด!”
“ตอนเย็นก็ไม่ว่างเหรอครับ?” กงซวี่เอ่ยถาม
เยี่ยหวันหวั่นตอบโดยไม่เงยหน้า “ตอนเย็นฉันมีธุระ”
“ธุระอะไร?” กงซวี่ถามอย่างไม่ละความพยายาม
“นัดแฟนเอาไว้น่ะ” เยี่ยหวันหวั่นตอบ
“อ้อ…” กงซวี่ถึงได้ล้มเลิกความพยายาม สีหน้าผิดหวังเหมือนกับเด็กน้อยที่ไม่ได้กินลูกอม
หลายชั่วโมงผ่านไป ท้องฟ้าค่อยๆ มืดมิด
เยี่ยหวันหวั่นเห็นว่าถึงเวลาสมควรแล้ว รีบจัดการข้าวของบนโต๊ะ แล้วพุ่งตัวออกจากบริษัท
ตั้งแต่แก้ปัญหาของหานเซี่ยนอวี่จนได้ทำงานที่กวงเย่า จนถึงได้ลั่วเฉินมาอยู่ในสังกัด แล้วยังช่วยลั่วเฉินจนได้รับบทพระรองในมังกรผงาดภาคต่อ วันนี้ยังล้มโจวเหวินปินศัตรูตัวฉกาจได้โดยบังเอิญ แถมยังได้กงซวี่มาอยู่ในสังกัด
หลังจากกลับมาเกิดใหม่ เธอทุ่มเทพยายามมานานขนาดนี้ ทุกอย่างก็เริ่มเข้าที่เข้าทางสักที…
ตอนนี้เวลานี้ เธออยากจะแบ่งปันข่าวนี้กับใครสักคนมากๆ
และในพริบตานี้เอง ในหัวของเธอก็มีภาพคนคนหนึ่งปรากฏขึ้นมา คาดไม่ถึงว่าจะเป็นแผ่นหลังโดดเดี่ยวท่ามกลางคืนมืดนั้น…
………………………………………………………..
บทที่ 476 ชมฉันเร็วเข้า!
จิ่นหยวน
ค่ำคืนลมพัดเอื่อย บรรยากาศในสวนดอกไม้เต็มไปด้วยผักกาดขาว ดอกไม้จีนและดอกทานตะวัน
โต๊ะกลมใต้ร่มไม้ ซือเยี่ยหานกำลังจิบชา ด้านข้างมีเสือขาวขนลื่นเป็นประกายนอนหมอบอยู่
เวลานี้เอง ด้านข้างโต๊ะกลมยังมีอีกคนหนึ่งนั่งอยู่ เขามีหน้าตาคล้ายคลึงกับซือเยี่ยหาน สวมชุดสูทสไตล์เรโทรพื้นขาวดิ้นทอง ดูไฮโซ กำลังนอนเท้าคางรออย่างเบื่อหน่ายอยู่ตรงนั้น “เมื่อไหร่อาสะใภ้ผมจะกลับมา?”
“มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ?” ซือเยี่ยหานเอ่ยถามด้วยสีหน้าเย็นชา
“ผมมาหาอาสะใภ้ ไม่ได้มาหาอา!”
ซือเซี่ยพูดพลางดวงตาเป็นประกาย จากนั้นพูดว่า “จริงสิ ได้ยินว่า…อาสะใภ้รับนักแสดงเข้าสังกัดอีกคนแล้ว อีกทั้งยังเป็นดาราดาวรุ่งของบริษัทพวกเขาด้วย หนุ่มน้อยที่กำลังดัง…ดูไม่ออกจริงๆ ว่าอาสะใภ้จะเก่งขนาดนี้!”
ซือเยี่ยหานได้ยินดังนั้น ปฏิกิริยาตอบรับเดียวที่มีคือมือที่กำลังยกชาขึ้นจิบชะงักเล็กน้อย ยากที่จะมองเห็นอารมณ์ใดจากนัยน์ตาล้ำลึกหนาวเหน็บคู่นั้น
เห็นซือเยี่ยหานไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบ ซือเซี่ยย่อมยอมรามือ เอ่ยขึ้นเนิบๆ “เฮ้อ ผมน่ะคิดไม่ถึงเลยว่า อาเก้าจะวางใจปล่อยอาสะใภ้ออกไปจริงๆ แล้วยังยอมให้เขารับนักแสดงผู้ชายคนแล้วคนเล่า ไม่กลัวจริงๆ เหรอว่าเขาจะงอกบนหัวเอา?
วงการบันเทิงมีหนุ่มๆ เยอะแยะขนาดนั้น มองกันจนตาลาย อาสะใภ้ยังสาว ยังไงก็ต้องชอบคนที่อายุเท่าๆ กัน อาเก้าอย่าได้มั่นใจนักเลยนะครับ…”
ซือเยี่ยหานยังไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบอะไร แต่สวี่อี้ที่อยู่ด้านข้างฟังมาถึงตรงนี้ สีหน้าพลันถอดสีเสียแล้ว
คุณชายซือเซี่ยนี่ก็จริงๆ เลย กลัวแต่จะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างนายท่านกับคุณหนูเยี่ยหวันหวั่นเพิ่งจะปรองดองกันได้นิดหน่อย พอเขามาก็มาพูดจาเหลวไหลไร้สาระต่อหน้านายท่าน
เขามาเยี่ยมผู้ป่วย หรือมายั่วโมโหกันแน่เนี่ย?
ด้วยสภาพร่างกายของนายท่านตอนนี้ จะทนรับการกระตุ้นอารมณ์ได้ยังไง…
เขาจนปัญญาที่ไม่อาจเปิดเผยอาการป่วยที่แท้จริงของซือเยี่ยหานได้ ทำได้เพียงเอ่ยขึ้นว่า “คุณชายซือเซี่ย คุณเข้าใจผิดแล้วครับ คุณหนูหวันหวั่นใช้สถานภาพเป็นผู้ชายครับ!”
ซือเซี่ยได้ยินดังนั้น ก็ถอนหายใจเบาๆ “แต่งตัวเป็นผู้ชายแล้วยังไง? ถึงเวลาจะพาทั้งผู้หญิงผู้ชายกลับมาด้วยล่ะสิ”
เหมือนว่าเขาไม่เห็นใบหน้าที่ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นอันตรายขึ้นเรื่อยๆ ของซือเยี่ยหาน ซือเซี่ยยังคงพูดต่อไป “อย่างนักแสดงที่อาสะใภ้รับเข้ามาใหม่คนนั้น อ้อ ใช่แล้ว คุณชายจอมเจ้าชู้สกุลกงคนนั้น ว่ากันว่าได้ทั้งหญิงและชาย…”
ได้ยินซือเซี่ยยิ่งพูดก็ยิ่งเพ้อเจ้อ สวี่อี้ทนไม่ไหวอีกต่อไป
กำลังคิดที่จะตัดบทเขา เวลานี้เอง ที่ด้านหลังก็มีเสียงฝีเท้าที่วิ่งมาอย่างรวดเร็วลอยมา เขาจึงหันกลับไปมองยังต้นตอของเสียง
จากนั้น ทั้งสามคนได้เห็นเงาร่างสีแดงวิ่งตรงมาทางพวกเขาอย่างรวดเร็วราวลมหอบ
หญิงสาวมองข้ามคนอื่นที่อยู่ด้วยกันกับซือเยี่ยหานไปจนหมดสิ้น วิ่งโผตรงเข้าสู่อ้อมกอดของซือเยี่ยหาน
ทันใดนั้น ซือเยี่ยหานรับหญิงสาวเต็มอ้อมกอด ถ้วยชาที่อยู่ในมือโยกไหวอย่างแรง จนเกือบจะกระเด็นโดนตัวหญิงสาว
คิ้วของซือเยี่ยหานขมวดเล็กน้อย กำลังจะเอ่ยปากพูดอะไร ทว่าริมฝีปากเย็นกลับอ่อนลงทันที…
เยี่ยหวันหวั่นที่โผตัวเข้าไปก็ก้มศีรษะลง จุ๊บเข้าที่ริมฝีปากของชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว เพราะวิ่งมาจึงทำให้หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะหอบหายใจ นัยน์ตาสุกใสราวดวงดาราเต็มไปด้วยชีวิตชีวา “ที่รัก ฉันกลับมาแล้ว คิดถึงฉันไหมคะ?”
อารมณ์ขุ่นเคืองของซือเยี่ยหานที่ถูกคำพูดของซือเซี่ยปลุกปั่นขึ้นมาพลันมลายหายไปเพราะหญิงสาว…
ดวงตาของเยี่ยหวันหวั่นเป็นประกายเจิดจ้า ใบหน้าเต็มไปด้วยความรอคอยคำชมเชย “ชมฉันเร็วเข้า! ฉันได้เลื่อนตำแหน่งแล้วนะ! แล้วก็ยังรับนักแสดงมาอีกคนด้วย! เก่งไหมๆ?”
ซือเยี่ยหานวางถ้วยชาในมือลง แล้วโอบหญิงสาวเอาไว้ จากนั้นให้ความร่วมมือโดยการเอ่ยชม “อื้อ เก่งมาก”
สวี่อี้ที่เป็นห่วงแทบตายว่าเจ้านายของตัวเองจะโมโหขึ้นมาพลันไร้คำพูด
คุณชายซือที่กว่าจะยุแยงสำเร็จด้วยตัวเองสักครั้ง ทว่ายังไม่ทันที่จะได้สมดั่งใจก็ถูกตอกกลับซะหน้าหงาย “…”
………………………………………………………………