ตัวเมีย
คำคำนั้นทำให้ฉันขนลุกไปทั่วลำคอ คำสั้นๆ เพียงหนึ่งคำกลายเป็นดั่งเชือกเกลียวใหญ่และแข็งแรง ให้ความรู้สึกเหมือนทั้งร่างถูกผูกมัดเอาไว้
ฉันไม่อาจถามออกไปได้เลยว่ามันหมายความว่าอย่างไร ไม่สิ ไม่มีความจำเป็นต้องถาม เขาไม่ปล่อยเวลาแม้เพียงเสี้ยววินาที เขาจ้องฉันเขม็งและแสดงให้เห็นว่าตนมาที่นี่ทำไม ดวงตาสีแดงที่มองฉันอัดแน่นไปด้วยไฟปรารถนารุนแรง
ตัวเมีย ตัวเมียที่ต้องรองรับความใคร่ของเขา
สายตาที่เร่าร้อนทำให้รู้สึกราวกับคอถูกบีบ ฉันไม่อาจทำอะไรได้เลยและทำได้เพียงมองไปที่เขา
ผิวสีเข้ม สีผิวที่ให้ความรู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนพื้นเมืองต่างจากราธบันที่คล้ำจากแดด เป็นสีผิวที่ไม่เคยพบเห็นเลยสักครั้งในวิหารหลวง ทั้งยังมีรูปร่างที่ได้เห็นเป็นครั้งแรกที่นี่
เสื้อผ้าสีแดงเข้มที่เหมือนกับสีผมของเขาปกปิดบริเวณหน้าอกไม่เรียบร้อย กล้ามเนื้อแข็งแกร่งที่ทอแน่นจึงเผยออกมาอย่างไม่ปิดบังในทุกครั้งที่เขาขยับตัว เส้นผมยาวที่ปรกอยู่บนร่างกายนั้นกำลังพริ้วไหว ชวนให้รู้สึกอ่อนแรงอย่างบอกไม่ถูกและดูอันตรายในเวลาเดียวกัน
ภาพลักษณ์แบบนั้นของเขาทำให้ฉันนึกถึงสัตว์เดรัจฉานตัวใหญ่และมีสติปัญญา
‘เขาอันตราย…’
กว่าที่คิด
คำพูดนั้นวนเวียนอยู่ภายในลำคอ สัญชาตญาณกำลังกู่ร้อง ต้องหนีไป เร็ว เร็วขึ้นอีกนิด ไปให้ไกลกว่านี้ ต้องหนีให้พ้นจากเงื้อมมือของเขา สัตว์เดรัจฉานตัวนั้นกำลังจะจับฉันกิน
อาจเป็นเพราะเขารับรู้ได้ถึงความคิดของฉัน รูปปากของแอสรันจึงยกขึ้นคล้ายกำลังยิ้มเยาะ
“ไม่ได้”
ร่างกายของเขาเคลื่อนไหวก่อนที่ฉันจะได้ถามออกไปว่าอะไรคือไม่ได้
เขาเพิ่มแรงที่มือที่กำลังจับขาฉัน ใช้พละกำลังมหาศาลที่ไม่อาจขัดขืนได้แยกขาของฉันออก และแทรกตัวเข้ามาระหว่างขาราวกับว่าที่นี่คือที่ของตนตั้งแต่แรก
ตอนนี้สายตาของเขาไม่ได้จ้องอยู่ที่ตาของฉันอีกต่อไป สายตาที่เร่าร้อนและลึกล้ำกำลังโลมเลียส่วนล่างของฉัน หว่างขากำลังหดเกร็ง ฉันไม่เคยประสบกับความกระหายดิบเถื่อนที่หยาบคายและรุนแรงแบบนี้มาก่อน
เขาโน้มตัว ริมฝีปากของเขาสัมผัสเข้าที่ลำคอของฉัน
“อื้อ…”
ดวงตาของแอสรันหรี่ลงทันทีที่เสียงร้องแทรกผ่านริมฝีปากออกมาอย่างไม่อาจกลั้น ลิ้นของเขากวาดเลียอย่างเชื่องช้าราวกับกำลังลิ้มรส
“ดะ เดี๋ยวก่อน…อ อื้อ!”
ขณะที่กำลังเบี่ยงกายสุดชีวิตเพราะสัมผัสนั้น มือของเขาที่จับอยู่ที่ขาก็ขึ้นมาวางบนหน้าท้อง ฝ่ามือใหญ่ของเขากดลงไปบนหน้าท้องของฉันแน่นราวกับต้องการยืนยัน ใบหน้าของเขาที่ค่อยๆ ลูบจับบนหน้าท้องแบนราบพลันมีรอยยิ้ม การกระทำนั้นของเขาทำให้ฉันขนลุกซู่ขึ้นมาทั่วร่างอีกครั้ง
‘เขาไม่ได้แค่จะมัวเมาเฉยๆ…’
นี่มันไม่ใช่แค่ความปรารถนาที่จะสิ้นสุดลงเมื่อหลั่งออกมาหลังสอดใส่ส่วนนั้นเข้ามาแล้วขยับกาย เขากำลังต้องการอะไรที่มากกว่านั้น สิ่งที่จะถือกำเนิดขึ้นเมื่อสิ้นสุดการกระทำซ้ำๆ นั่นคือจุดประสงค์ของเขา
ฉันนึกย้อนถึงคำพูดที่อีเบลลีน่าตะโกนออกมา
“ตอนนี้ เจ้าจะต้องตั้งท้องลูกของเจ้าปีศาจนั่น”
ตอนนี้เอง ฉันเข้าใจคำพูดนั้นแล้ว ดูเหมือนอีเบลลีน่าจะรู้อยู่แล้วว่าแอสรันจะมาเพื่อขออะไรบางอย่าง
‘ทำข้อแลกเปลี่ยนอะไรไว้กันแน่’
เรื่องที่ฉันไม่รู้มีมากเหลือเกิน อีเบลลีน่าพบกับแอสรันได้อย่างไร รวมถึงทำข้อตกลงอะไรกับแอสรันเอาไว้ สัญญาอะไรไว้เป็นค่าตอบแทนให้กับข้อแลกเปลี่ยนนั้น
คนที่สามารถให้คำตอบกับคำถามมากมายที่แวบผ่านไปในหัวได้มีเพียงแอสรันเท่านั้น
ระหว่างที่ฉันกำลังคิดว่าควรจะเริ่มถามเขาจากตรงไหนอย่างไร ริมฝีปากที่โลมเลียลำคอก็เลื่อนต่ำลงมาด้านล่าง เขาฝังใบหน้าลงคล้ายต้องการจะมุดเข้าไประหว่างเสื้อและไหปลาร้า จากนั้นก็ส่ายหน้าราวกับว่าไม่พอใจ
สวบ
ฉันได้ยินเสียงเสื้อที่ใส่อยู่ถูกถอดออกเพราะการเคลื่อนไหวที่คล้ายกับการดูดดึงของสัตว์เดรัจฉาน เขาเลื่อนใบหน้าลงไปที่หน้าอกที่เผยออกมาของฉันอย่างไม่ลังเล
“อ๊ะ…!”
มือของเขาขยำทรวงอกขาวใสที่เผยออกมาอย่างแรง ความเจ็บแสบแล่นขึ้นตามกระดูกสันหลังและแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่าง ริมฝีปากของเขาที่อ้าออกขบกัดหน้าอกขาวที่อัดแน่นจนเต็มปากเต็มแรงโดยไม่มีโอกาสให้เอ่ยยั้ง เสียงเฉอะแฉะดังขึ้นพร้อมกับความเจ็บปวดที่แล่นผ่าน
“อ๊ะ อ้าก!”
ฉันไม่อาจข่มความเจ็บปวดได้จนบิดตัวและส่งเสียงร้อง แต่ทว่าเขาไม่หยุด กลับกดเรียวลิ้นอุ่นลงไปตรงจุดที่กัดเมื่อครู่แทน จากนั้นก็เริ่มตวัดเบาๆ คล้ายว่าจะปลอบประโลม
“ฮึ ฮึก!”
ฉันได้ยินเสียงดูดดึงผิวหนังเปียกชื้นจากเนินอก เขาดูดหน้าอกของฉันอย่างรุนแรงเสมือนกับตรงนั้นมีอะไรกำลังหลั่งออกมา
บางทีความรู้สึกที่ถูกสัตว์เดรัจฉานขบกัดหน้าอกคงเป็นแบบนี้ ภายในหัวรู้สึกมึนงงเพราะสัมผัสที่ดูดดึงอย่างหยาบคาย ฟันแหลมคมของเขากัดหนุบหนับอยู่ที่ยอดอก
“อะ อึ อื้อ!”
ร่างกายแอ่นรับราวกับถูกฟ้าผ่าทุกครั้งที่เขาทำเช่นนั้น พลันเกิดความรู้สึกหวาดกลัวว่าอาจจะถูกเขากัดขาดเดี๋ยวนี้
‘กลัว’
อากาศที่กดต่ำ อย่าว่าแต่ส่งเสียงร้องเลย กระทั่งการหายใจยังทำได้ยากลำบาก ร่างกายของเขาที่คร่อมอยู่ด้านบนทั้งแข็งแรงและหนัก แม้อยากขัดขืนแต่ความหวาดกลัวที่แล่นขึ้นมาถึงปลายคอทำให้ฉันไม่อาจส่งเสียงร้องอะไรออกไปได้ ราวกับเขายึดครองทุกสิ่งทุกอย่างในพื้นที่ที่เขาอยู่ รวมถึงลมหายใจของฉันด้วย
เขาโอบเอวของฉันแล้วละเลงลิ้นอย่างหนัก ยอดอกถูกบดขยี้และกดอยู่ภายในปากของเขา
“จะ เจ็บ…”
แม้จะบ่นพึมพำออกไปแบบนั้นแต่เขาก็ไม่สนใจ กลับยิ่งจดจ่อกับมัน ก้อนเนื้ออ่อนนุ่มสั่นไหวและบู้บี้อยู่ภายในปากของเขา หน้าอกที่แข็งเกร็งไวต่อเรียวลิ้นของเขามากขึ้น ฉันเริ่มสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอื่นแทนที่ความเจ็บแสบ ส่วนลึกภายในร่างกายเริ่มรู้สึกเสียวซ่านขึ้นมา
“อื้อ…”
เขาละใบหน้าออกเมื่อได้ยินเสียงคราง จากนั้นก็มองไปยังส่วนที่เขาหยอกเย้าเมื่อครู่ก่อนด้วยสีหน้าพึงพอใจ หน้าอกสั่นสะท้านพร้อมกับลมหายใจหอบแรง จุกสีชมพูที่ชูชันตรงปลายกำลังสั่นระริก
มือใหญ่ของเขากอบกุมทรวงอกอีกครั้ง เขาใช้ฝ่ามือดันมันขึ้นลงอยู่หลายครั้งคล้ายว่าเพลิดเพลินกับสัมผัสและน้ำหนักนั้น ฉันกัดริมฝีปากเพราะความรู้สึกที่ซัดโถมเข้ามา ทันใดนั้นเขาก็กล่าวขึ้น
“ชอบใจสินะ”
ใบหน้าของเขาแฝงรอยยิ้มเลือนลาง เขาดันไหล่ฉันให้นอนราบลงกับพื้นและเริ่มถอดเสื้อของฉันที่ลู่ลง ฉันจับปลายเสื้อไว้สุดแรงด้วยความตกใจ รอยยิ้มที่เคยอยู่บนหน้าเขาเมื่อครู่ก่อนหายไปอย่างรวดเร็ว
เขาปัดมือฉันออกและจับเสื้ออีกครั้ง
แคว่ก!
วินาทีต่อมา เสื้อผ้าของฉันขาดร่วงลงอย่างไร้เรี่ยวแรงไม่ต่างจากกระดาษทันทีที่เขาแกว่งมือ ฉันก็เหลือเพียงร่างเปลือยเปล่าที่มีชุดชั้นในปกปิดเพียงส่วนล่างในชั่วพริบตา ความรู้สึกอับอายที่แล่นเข้ามาทำให้ฉันตั้งใจจะปกปิดร่างกายอย่างรีบเร่ง ทว่ามือข้างหนึ่งของแอสรันเข้ามารวบมือทั้งสองของฉันแล้วกดไว้เหนือหัว จากนั้นก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราวกับคำราม
“อย่างที่เคยบอกไว้ ตอนนี้ข้าไม่เหลือเวลาให้รออีกต่อไปแล้ว เจ้าควรจะเตรียมพร้อมแล้วทำตามที่สัญญาเอาไว้”
น้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยของแอสรันเผยให้เห็นถึงความรีบร้อน
“…เตรียมพร้อม?”
แม้จะย้อนถามไปแต่แอสรันก็ไม่ตอบกลับ มือใหญ่กลับเข้ามาคว้าต้นขาและแหกออก ฉันทำได้เพียงแยกขาออกตามการเคลื่อนไหวของเขาดั่งตุ๊กตา มือที่จับอยู่บนต้นขาถอดชั้นในของฉันที่ปิดส่วนล่างอยู่ แล้วเลื่อนใบหน้าลงไปยังส่วนนั้นที่เผยออกมาอย่างชัดเจนของฉัน
“…!”
ฉันตกใจมากจนลืมกระทั่งส่งเสียงร้อง ในชั่วขณะที่ลมหายใจอุ่นร้อนสัมผัสเข้ากับตรงนั้นฉันก็เบี่ยงร่างกายสุดชีวิต
เรียวลิ้นที่กระหายอกอิ่มเมื่อครู่ก่อนกำลังโลมเลียเหนือช่องทางรัก จากนั้นลิ้นเปียกชื้นก็แทรกผ่านเข้ามาระหว่างช่องที่เปิดอ้า มันโลมเลียผนังซ่อนเร้นด้านในอย่างไม่ลังเลเลยสักนิดราวกับนี่คือของตนมานานแล้ว ภายในห้องก้องกังวาลไปด้วยเสียงเฉอะแฉะอนาจาร
“ย อย่า! ตรงนั้น…!”
ก่อนที่ฉันจะได้พูดจบ เขาขยับกายยกขาของฉันขึ้นวางบนไหล่ของเขา เอวและสะโพกของฉันยกลอยขึ้นกลางอากาศ
เปาะแปะ
ฉันรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามีอะไรบางอย่างกำลังไหลออกมาจากส่วนลับ ในวินาทีที่ตระหนักได้ว่ามันคืออะไร ทั่วทั้งร่างพลันร้อนผ่าวด้วยความเก้อเขินและอับอาย มันไม่ใช่น้ำลายของแอสรัน ทั้งหมดนั้นคือสิ่งที่ไหลออกมาจากร่างกายของฉัน
ร่างกายของฉันกำลังรู้สึกตื่นเต้นและปรารถนาชายที่เป็นดั่งสัตว์เดรัจฉานอยู่ฝ่ายเดียว ด้านในท้องน้อยรู้สึกปวดบีบ ร่างกายกำลังตระหนักรู้โดยสัญชาตญาณว่าฉันต้องเตรียมรับอะไรต่อจากนี้
“ยะ หยุด…!”
ฉันบิดตัวอย่างสุดชีวิตพลางสะบัดแขนขา ชั่วครู่ การเคลื่อนไหวของแอสรันก็หยุดลง
“ปฏิเสธทำไม ในเมื่อเจ้าสัญญากับข้าเอาไว้แล้ว”
ไม่ใช่ฉัน!
แม้อยากจะตะโกนออกไปแต่นั่นเป็นเรื่องที่ไม่มีประโยชน์ เขาได้ทำข้อแลกเปลี่ยนกับอีเบลลีน่าและเรียกร้องค่าตอบแทนจากนาง อีเบลลีน่าในตอนนี้ก็คือฉัน ตราบใดที่ฉันครอบครองร่างกายของนาง ไม่ว่าอย่างไรฉันก็ต้องรับมือกับสถานการณ์นี้ให้ได้ แต่ทว่า…
“ดังนั้นจงยอมรับเสีย ยอมรับไปเรื่อยๆ จนกว่าเจ้าจะตั้งท้องลูกของข้า”
“ดะ เดี๋ยวก่อน…”
“เจ้าเองก็น่าจะรู้ดีว่าไม่อาจถอยได้แล้ว”
เขาขยับมือทั้งที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ฉัน ไม่นาน เสื้อผ้าท่อนล่างของเขาก็หลุดออกและสิ่งที่จับจองพื้นที่อยู่เบื้องล่างนั้นก็ผงาดเข้าสู่สายตาฉัน
“อา อา…”
ตอนรับขององค์ชายรัชทายาทเข้ามาก็เกินกำลังแล้ว แน่นอนว่าของแอสรันก็ไม่ด้อยกว่า อีกทั้งภาพน้ำกามที่หยดไหลออกจากแท่งร้อนที่แข็งขืนเต็มที่นั้นยังดูคล้ายกับน้ำลายของสัตว์เดรัจฉานที่กำลังไหล
ขณะที่คิดว่าสิ่งนั้นจะสอดแทรกเข้ามาในส่วนล่างของฉันต่อจากนี้ น้ำตาก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ช่วย ช่วยด้วย…”
“ไม่ตายหรอก เจ้าก็เตรียมพร้อมที่รับของข้าเข้าไปมาตลอดอยู่แล้ว”
ไม่รู้ ฉันไม่เคยเตรียมอะไรนั่นเลย!
เสียงตึกดังขึ้นพร้อมกับแท่งเอ็นของเขาที่ขึ้นมาวางบนช่องทางรัก ลมหายใจพลันสะดุด แม้จะมองไม่เห็นแต่ฉันก็สัมผัสได้ว่าแก่นกายของเขามันทั้งใหญ่โตและอวบแน่นจนน่ากลัวขนาดไหน ขณะที่ฉันตัวสั่นเพราะสิ่งนั้น ก็ได้ยินเสียงแอสรันบ่นพึมพำขึ้น
“อย่างไรก็ยังแคบไปอยู่ดี”
เป็นอย่างที่เขาพูด ฉันไม่คิดว่าร่างกายของฉันจะรับเอาสิ่งนั้นของเขาเข้ามาได้
‘ตายแน่ๆ’
ฉันขบริมฝีปากเพราะสัมผัสที่ถูไถอยู่บริเวณท้องน้อย ถ้ามันเข้ามาฉันตายแน่ จะต้องตายแน่ๆ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันจะรับมันเข้ามาได้
แก่นกายของสัตว์เดรัจฉานที่มนุษย์ไม่ควรโอบรัด
ส่วนหัวของมันกำลังจ่อตรงร่องส่วนล่างโดยไม่รู้ตัว
เขาลดเอวลง ร่องกลีบแคบแยกออก แก่นกายของเขาดันเข้ามาด้านในอย่างรุนแรง เสียงเฉอะแฉะดังขึ้นพร้อมกับน้ำกามที่ไหลเป็นทาง
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ…”
ริมฝีปากของฉันอ้าออกโดยอัตโนมัติเมื่อปลายหัวมนแทรกเข้ามาในร่องรักแคบที่ถูกแหวกออก ฉันหายใจไม่ออก ส่วนที่อวบที่สุดกำลังเปิดปากทางเข้าอย่างสุดกำลังเพื่อขยายทางให้ตนเข้าไป
แตกสลาย
ฉันติดอยู่ในภาพลวงตา แท่งเสาขนาดใหญ่ที่สอดใส่เข้ามาเหมือนกำลังจะฉีกร่างเป็นสองท่อน ความเจ็บปวดแสนสาหัสกำลังแผ่ซ่านจากส่วนล่างจนทำให้คิดอะไรไม่ออกทั้งสิ้น
แก่นกายของเขาดันเข้าไปลึกกว่าเดิมราวกับตอนนี้ไม่มีอะไรยากเย็นแล้ว เนื้อนุ่มของผนังด้านในหดเกร็งอย่างแรงประหนึ่งว่าต้องการขวางกั้นสิ่งนั้นเพราะตกใจกับผู้บุกรุกที่เข้ามาอย่างกะทันหัน แต่นั่นกลับทำให้ผู้บุกรุกพึงพอใจมากขึ้นเท่านั้น ไม่มีประโยชน์อะไรเลย
เสียงครางกระเส่าแฝงความเร่าร้อนของเขาดังขึ้นด้านบน เขาใช้มือทั้งสองข้างจับเอวของฉันและดันแก่นกายของตนเข้าไปยิ่งกว่าเดิม ราวกับต้องการทดสอบว่ามันจะเข้าไปได้ถึงตรงไหน
สิ่งที่ฉันทำได้มีเพียงยอมรับเขาเข้ามาเท่านั้น
“อ๊ะ…ฮึก…!”
แก่นกายของเขาที่สอดใส่เข้ามาอย่างไม่มีที่สิ้นสุดหยุดลงขณะที่ร่างกายกำลังจะแนบชิด ฉันสัมผัสได้ว่าปลายของแก่นกายของเขาแทงเข้ามาจนถึงด้านในท้อง แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว อาจเป็นเพราะยังไม่พอใจ เขาถึงได้ยังฝังร่างเข้ามาระหว่างขาของฉันลึกยิ่งกว่าเดิม
“อ๊ะ…!”
ตอนนี้ฉันคิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว ทั้งอีเบลลีน่า ทั้งข้อแลกเปลี่ยน ทั้งค่าตอบแทนอะไรนั่นด้วย ตอนนี้ในหัวของฉันมีเพียงการดำรงอยู่ของเขาที่สอดใส่อยู่ที่ส่วนล่างของฉันเท่านั้น
“ถึงจะให้เตรียมพร้อมไว้แล้วแต่ก็ยัง…แคบ…เล็กด้วย”
ฉันได้ยินเสียงทุ้มต่ำอำมหิตของเขาดังขึ้นด้านบน
‘เตรียมพร้อม…?’
หมายถึงเตรียมอะไรไว้แล้วกันแน่ ขณะที่กำลังแปลกใจ เขาก็เข้ามาแนบชิดร่างกายอีกครั้ง สิ่งที่สัมผัสอยู่ส่วนลึกแทงเข้าไปผนังด้านในจนส่งเสียงสวบ
“อ๊ะ อื้อ ฮึด!”
น้ำตาไหลรินเพราะความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคย ให้ฉันรู้สึกเพียงความเจ็บปวดยังดีเสียกว่า แต่นี่เบื้องหน้ากลับมีประกายไฟในทุกครั้งที่เขาขยับกายอยู่ภายใน ฉันไม่รู้เลยว่าควรจะต้องทำอย่างไร เหมือนว่าฉันได้รับอนุญาตให้ถูกกลืนกินและหวั่นไหวให้กับความรู้สึกที่แอสรันมอบให้เท่านั้น
หลังจากฝังร่างเข้ามา เขาก็ยกเอวขึ้นอย่างแรงอีกครั้ง ภาพการมองเห็นพลันเปลี่ยนเป็นขาวโพลนพร้อมกับเสียงดังปัก ความรู้สึกที่ตามมามีเพียงความเจ็บปวดแสนสาหัสและความสุขสมที่กลืนกินส่วนล่างของฉัน
พั่บๆๆ! จิตวิญญาณแตกสลายกลายเป็นผุยผงในทุกครั้งที่แก่นกายของเขาขยับเข้าออก
‘จะตายแล้ว’
เขากำลังเหยียบย่ำและฆ่าฉัน เขาขืนใจฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่ปรานี ฉันสามารถสัมผัสได้โดยสัญชาตญาณ ตอนนี้สิ่งที่ฉันสามารถทำได้มีเพียงแค่ยึดเขาไว้เท่านั้น
“ช่วย ช่วยด้วย…”
ฉันยื่นสองมือไปทางเขาราวกับร้องขอความเมตตา แต่เขากลับขยับเอวอีกครั้งโดยไม่สนใจมือของฉัน เขาเคลื่อนไหวอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อตอบสนองความต้องการและจุดประสงค์ของเขาเท่านั้น
เสียงร้องไห้ดังออกมาเพราะความรู้สึกถูกบดขยี้
‘ทำไมฉันต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ด้วย’
ในหัวรู้ดีว่าฉันต้องอดทนอดกลั้นกับสถานการณ์ทั้งหมด แต่จู่ๆ ก็รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมขึ้นมา คนที่ทำข้อแลกเปลี่ยนกับเขาคืออีเบลลีน่า แล้วทำไมต้องเป็นฉัน? ในตอนนั้นเอง
เจ้าอยากได้ร่างกายนี้มิใช่หรือ? เพราะฉะนั้นก็ต้องยอมรับทุกอย่างไป
“…!”
เสียงของอีเบลลีน่าดังขึ้นในหัว ฉันรู้ว่าถ้าหากฉันต้องการใช้ชีวิตอยู่ในร่างนี้ ในฐานะของอีเบลลีน่าก็ต้องรับทุกอย่างที่นางเคยทำไว้ไป
แท่งเนื้อของเขาที่กระทำชำเราช่องทางฉันออกแรงขยับแรงขึ้น เสียงน้ำแตกกระเซ็นผสมผสานกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อ ร่างกายที่ไม่อาจขัดขืนและทำได้เพียงยอมรับเข้ามากำลังสั่นสะท้าน มือที่ปัดป่ายในอากาศตกลงบนเตียงนอนอีกครั้งโดยที่ยังคว้าจับอะไรไม่ได้เลย
“อื้อ อื้อ!”
เสียงร้องครวญครางที่ไม่อาจเล็ดลอดผ่านไรฟันหลุดออกมาในทุกครั้งที่เขาขยับกาย หลังจากโหมขยับกายอย่างบ้าคลั่งอยู่สักพัก เขาก็คำรามเสียงต่ำพร้อมกับแทงเข้ามาสุดแรง ฉันสัมผัสได้ว่าแก่นกายที่สอดใส่อยู่ส่วนลึกของเขาขยายใหญ่ขึ้นทั้งที่ยังอัดแน่นอยู่ภายใน ในเวลาเดียวกันนั้นร่างกายของฉันก็สั่นสะท้าน และสัมผัสได้ว่าส่วนล่างกำลังตอดรัดสิ่งที่สอดใส่เข้ามาเต็มที่
“อา…!”
พลุก ความอุ่นร้อนพุ่งทะลักออกมาในส่วนที่ลึกที่สุด ความรู้สึกนั่นทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยง
เขาหลั่งน้ำกามของเขาในตัวฉัน ทั้งยังหลั่งจนล้นปรี่ จนมันถึงกับไหลย้อนคล้ายจะอุดปิดส่วนล่างโดยไม่ให้มีช่องว่างแม้เพียงสักนิด ในขณะนั้นร่างกายก็สั่นสะท้านอีกครั้ง
‘ร้อน’
ร่างกายสั่นไหวเพราะความร้อนของมันที่ล้นอยู่เต็มท้องน้อย ความรู้สึกที่โอบกอดเปลวไฟคงเป็นแบบนี้ สิ่งที่เข้ามาอยู่ในร่างกำลังเผาไหม้ตัวฉัน
ฉันรู้สึกถึงความผิดปกติ สิ่งที่ฉันประสบมา รวมถึงในความทรงจำของอีเบลลีน่า น้ำกามของผู้ชายไม่เคยให้ความรู้สึกแบบนี้มาก่อน ฉันถอยตัวไปด้านหลังสุดแรง ทันใดนั้น ของสิ่งนั้นของเขาที่อัดแน่นอยู่ด้านในก็หลุดออกมาจากตัวฉันพร้อมกับความรู้สึกโหวง ฉันใช้มือกดหน้าท้องอย่างเร่งรีบ
เร็ว ต้องเอาของอุ่นร้อนที่อยู่ด้านในออกมา ฉันสัมผัสได้ว่าพวกของที่เติมจนเต็มอยู่ด้านในกำลังไหลออกมาเมื่อฉันกดหน้าท้องเต็มแรง
“ฮึ ฮึก!”
สิ่งนั้นที่ไหลผ่านช่องทางยังคงอุ่นร้อน
“…ทำอะไร”
ใบหน้าของแอสรันที่เห็นฉันทำแบบนั้นพลันเปลี่ยนเป็นดุร้าย สายตาราวกับไม่เข้าใจว่าตอนนี้ฉันกำลังทำอะไร พอเขามองเห็นน้ำกามของตนที่สร้างรอยเปื้อนอยู่บนเตียงนอนก็กัดฟันกรอดแล้วกล่าว
“ลุกขึ้น”
เรียวแขนของเขาเข้ามาโอบช่วงเอวฉัน แอสรันกอดฉันเบาๆ จากนั้นก็จับฉันให้นั่งบนตัวของเขาที่นั่งหมิ่นเหม่อยู่ปลายเตียง
“ฮึ… ฮึก…”
เสียงร้องสะอึกสะอื้นดังขึ้นเพราะความรู้สึกเบียดเสียดถูไถของส่วนล่างที่ยังคงแตะกัน
เขาใช้สองมือจับเอวของฉันยกขึ้น แก่นกายที่ตั้งชันจ่อเข้ากับส่วนล่างของฉัน ของใหญ่ยักษ์สัมผัสเข้ากับส่วนล่างที่ยังมีน้ำกามของเขาไหลออกมา ฉันจับไหล่ของแอสรันแล้วส่ายหน้า
“มะ ไม่… ไม่เอาแล้ว…”
แต่แอสรันก็ไม่ฟังคำขอร้องของฉัน ขณะที่ปลายหัวกำลังจะยัดเข้ามาในช่องทางรักอีกครั้ง เขาก็ออกแรงกดเอวฉันลง
“อ อ้าก!”
โลกพลันเปลี่ยนเป็นมืดมิดในทันที