ตอนที่ 113 ข้ามปี (1)

ครั้นเผากระดาษเงินกระดาษทองเสร็จก็เหยียบเพื่อดับไฟ จากนั้นโขกศีรษะลงบนพื้นสามครั้ง และย้ายไปยังหลุมฝังศพที่อยู่ข้าง ๆ ต่อ โดยทำตามขั้นตอนเมื่อสักครู่อีกครั้ง

ถึงอย่างไรบรรพบุรุษก็ไม่ได้มีแค่คนเดียว ต้องดูแลให้ทั่วถึง

สี่พี่น้องหน้าแข็งจนชาไปหมดแล้ว ในที่สุดก็เผาเสร็จ จึงเดินกลับมา ระหว่างที่เดินก็ยังคงพูดคุยว่า “บรรพบุรุษ ตามพวกเราไปนะ พวกเราจะกลับไปข้ามปีใหม่ด้วยกัน”

พูดเช่นนี้ตลอดทางมาจนถึงบ้าน เมื่อมาถึงตรงหน้าป้ายวิญญาณของบรรพบุรุษก็โขกศีรษะลงบนพื้นอีกสามครั้ง จุดธูป การเชิญปีใหม่จึงถือว่าเสร็จสิ้นลง

ตอนที่พวกเขาเดินลงมาก็ได้เจอกับลูกชายของลุงใหญ่จ้าวมาเชิญปีใหม่ด้วย

ครอบครัวของลุงใหญ่จ้าวมีลูกชายทั้งหมดสามคน พี่ใหญ่เกษียณจากกองทัพ ได้รับมอบหมายให้ไปทำงานที่เหมืองถ่านหินแห่งหนึ่ง

พี่รองจมน้ำเสียชีวิตไปแล้ว

ส่วนพี่สามที่เหลืออยู่อีกคน อายุเท่ากับจ้าวเหวินเทา ห่างกันแค่วันเดียว ชื่อเล่นคือเสี่ยวอู๋จื่อ ชื่อจริงคือจ้าวเหวินอู๋

“พี่รอง พวกพี่เชิญปีใหม่เสร็จแล้วเหรอ!” จ้าวเหวินอู๋มือข้างหนึ่งถือไฟฉาย ส่วนอีกข้างถือกระดาษเงินกระดาษทอง

“เชิญเสร็จแล้ว ทำไมนายเพิ่งมาเนี่ย?” พี่รองจ้าวกล่าว

“พ่อบอกว่าเชิญเร็วบรรพบุรุษจะเดินทางไม่สะดวก” จ้าวเหวินอู๋เองก็หมดคำพูด พ่อของเขาบอกให้มาตอนไหนก็ต้องมาตอนนั้น

“งั้นเหรอ เอาล่ะ นายก็รีบไปเถอะ เผากระดาษเสร็จแล้วก็ดูไฟด้วยนะ!” จ้าวเหวินเทาเตือน

“ผมไปแล้วนะ อากาศหนาวจริง ๆ เลย พวกพี่ก็รีบกลับเถอะ!” จ้าวเหวินอู๋รีบพูดสองสามประโยค จากนั้นก็รีบสาวเท้าขึ้นเขาไป

“ลุงใหญ่เจ้าระเบียบซะจริง ๆ บอกว่าถ้าเชิญเร็วบรรพบุรุษจะเดินทางไม่สะดวก ทำอย่างกับเขาเคยเดินอย่างนั้นแหละ” พี่สามจ้าวพูดเยาะเย้ย

พี่สามจ้าวอายุมากแล้ว จึงยังจำเรื่องที่สองบ้านทะเลาะกันตอนนั้นได้อยู่

“พอแล้ว นี่วันข้ามปีนะ อย่าพูดจาซี้ซั้ว” พี่รองจ้าวกล่าว จากนั้นก็พูดกับบรรพบุรุษให้เดินตามพวกเขา เพื่อกลับไปข้ามปีที่บ้านต่อ

เมื่อมาถึงบ้าน ป้ายวิญญาณของเหล่าบรรพบุรุษก็ได้ถูกจัดเตรียมไว้ในบ้านของคุณพ่อจ้าวแล้ว เพราะนั่นคือบ้านหลัก แต่ก็เป็นเพียงสถานที่เล็ก ๆ ในห้องโถงใหญ่ เพียงวางลงบนโต๊ะ จัดป้ายวิญญาณ นี่ก็คือสถานที่ของเหล่าบรรพบุรุษแล้ว

ช่วยไม่ได้ บรรพบุรุษในช่วงหลังมีจำนวนค่อนข้างมาก จึงไม่ได้มีห้องเป็นส่วนตัวของพวกเขาแล้ว อยู่ที่นี่เพื่อข้ามปีก็แล้วกัน

คุณแม่จ้าวทำการจัดเครื่องเซ่นอย่างจริงใจ

มีซาลาเปาถั่ว ขนมเข่ง ถั่วลิสง เมล็ดทานตะวัน สาลี่แช่แข็งอะไรพวกนั้น นี่ถือว่าอาหารเต็มโต๊ะมากแล้ว

จากนั้นก็จุดธูป โขกศีรษะคำนับ หลังจากเสร็จสิ้นพวกลูกชายจึงกลับไปทำให้ร่างกายอบอุ่นที่ห้องของตัวเอง

นี่เป็นเรื่องที่ต้องทำในวันข้ามปีทุกทุกปี

จ้าวเหวินเทากลับมาถึงห้องของเขาแล้ว เย่ฉูฉู่ก็เห็นหน้าของเขาแข็งจนเป็นสีม่วงอมเขียว

“คุณรีบขึ้นไปอบอุ่นร่างกายบนเตียงเร็ว ฉันต้มน้ำขิงน้ำตาลทรายแดงไว้ให้แล้ว” เย่ฉูฉู่กล่าวพลางยกน้ำขิงเข้ามา

สิ่งนี้ช่วยขับความหนาวได้ดีที่สุด ทั้งยังป้องกันไม่ให้เป็นหวัดได้ด้วย จ้าวเหวินเทานั่งลงบนเตียงเตา เมื่อน้ำขิงหนึ่งถ้วยลงไปอยู่ในท้อง เขาก็นั่งอยู่พักใหญ่กว่าจะเริ่มอบอุ่น

“กลางคืนนี้หนาวจริง ๆ เลย แข็งตายได้เลยนะ!” จ้าวเหวินเทาตัวสั่น

“ข้ามปีแล้ว อย่าพูดอะไรแบบนี้สิคะ” เย่ฉูฉู่เติมน้ำขิงใส่ถ้วยให้เขาต่อ

จ้าวเหวินเทาดื่มน้ำขิงถ้วยที่สองแล้ว “ภรรยา คุณเองก็ขึ้นมานั่งบนเตียงเถอะ นี่เพิ่งจะสองทุ่ม เหลือเวลาอีกตั้งนาน”

เย่ฉูฉู่ดึงผ้าห่มมาหนึ่งผืนคลุมลงบนตัวเขา ส่วนเธอก็ขึ้นมานั่งข้าง ๆ เขาพร้อมกับซุกขาเข้าไปด้านในผ้าห่ม

“คืนนี้พวกเราจะนั่งแบบนี้จนฟ้าสว่างเลยเหรอคะ?” เย่ฉูฉู่ถาม ถ้าเป็นแบบนั้นดูจะทุกข์ทรมานเกินไปหน่อยไหม?

“บ้านคุณอยู่ข้ามปีกันยังไงเหรอ?” จ้าวเหวินเทาถาม

“บ้านของฉันก็รอข้ามปีเหมือนกัน แต่ถึงเที่ยงคืนกว่า ๆ ก็นอนกันแล้ว ฉันโต้รุ่งไม่ไหว สี่ทุ่มกว่ากินเกี๊ยวเสร็จก็นอนแล้ว” เย่ฉูฉู่กล่าว

“ไม่เป็นไร ถ้าคุณง่วงก็นอนเถอะ” จ้าวเหวินเทายื่นมือออกมาโอบภรรยา “พวกเราข้ามปีกันเอง อยากจะทำอะไรก็ทำ”

“แล้วคุณล่ะคะ?” เย่ฉูฉู่มองเขาด้วยรอยยิ้ม

“ผมเองก็เหมือนกัน อีกเดี๋ยวง่วงก็นอนแล้ว” จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิ้ม “ผมไม่ใช่พี่ใหญ่สักหน่อย นอนตอนนี้พ่อกับแม่ไม่ด่าผมหรอก”

ทั้งสองคนเบียดตัวอยู่ในผ้าห่ม ระหว่างที่พูดคุย ก็รอเวลาไปเผากระดาษไหว้เจ้า และจุดประทัดรับประทานเกี๊ยว

เวลาในการเผากระดาษไหว้เจ้าของแต่ละบ้านไม่เหมือนกัน บางคนเร็ว บางคนดึก เร็วก็คือสามทุ่มกว่า ส่วนดึก ๆ ก็ต้องรอห้าทุ่ม จนเกือบจะถึงเที่ยงคืนนั่นแหละ

ตระกูลจ้าวจุดกันค่อนข้างดึก เพราะจะเผาเกือบเที่ยงคืน

พี่รองจ้าว พี่สามจ้าวและพี่สี่จ้าวห่อเกี๊ยวเสร็จแล้ว อาหารมื้อนี้เป็นแผ่นเกี๊ยวที่ทำจากแป้งขาวทั้งหมด แป้งขาวที่แบ่งทุกๆ ปีจะเก็บไว้เพื่อเกี๊ยวมื้อนี้

พวกผู้หญิงไปต้มน้ำให้ร้อนหนึ่งหม้อ ผู้ใหญ่และเด็กก็ล้างผมล้างเท้า เปลี่ยนชุดใหม่

เสื้อใหม่ที่ว่าก็คือนำเสื้อเก่ามาพลิกกลับด้าน นำมาตัดเย็บซ้ำ จากนั้นก็เปลี่ยนรองเท้าผ้าฝ้ายใหม่ พวกเด็กผู้หญิงเปลี่ยนยางมัดผมสีแดงอันใหม่ ส่วนพวกเด็กผู้ชายก็แบ่งดอกไม้ไฟอันเล็กคนละอัน

ดอกไม้ไฟชนิดที่ว่าหนึ่งห่อมี 20-30 แท่งประเภทนั้น จุดไฟแล้วก็จะเกิดประกายไฟเล็ก ๆ ปลอดภัยและราคาถูก ไว้ใช้หลอกเด็กได้ดีที่สุดเลยล่ะ

พวกผู้ชายยุ่งอยู่กับกระดาษไหว้เจ้าที่เป็นการเตรียมตัวขั้นสุดท้าย

คุณพ่อจ้าวและคุณแม่จ้าวไม่ได้มีอะไรต้องทำ เกี๊ยวก็ห่อเสร็จแล้ว จึงนั่งอยู่บนเตียงเตา ผู้สูงวัยทั้งสองเล่นไพ่ใบเล็กไปพลางพูดคุยไปพลาง เพื่อรอเวลา

ตอนที่ใกล้จะถึงสามทุ่ม ในหมู่บ้านก็เริ่มเกิดเสียงจุดประทัดดังขึ้น

คุณพ่อจ้าวและคุณแม่จ้าวมองนาฬิกาแขวน กล่าวว่า “บ้านใครเนี่ย จุดประทัดเร็วขนาดนี้!”

แต่หลังจากผ่านสามทุ่มไป มาถึงช่วงเวลาสี่ทุ่ม ในหมู่บ้านก็เต็มไปด้วยเสียงจุดประทัด แต่เสียงในแต่ละครั้งใช้เวลาไม่นาน เวลานี้ไม่ได้มีประทัดแขวนแบบพันนัดหมื่นนัด ต่อให้มีก็ไม่มีปัญญาซื้อ แค่ร้อยกว่านัดก็ถือว่าไม่เลวแล้ว

เย่ฉูฉู่นอนอยู่กับจ้าวเหวินเทา แต่ก็ถูกเสียงของประทัดดังจนปลุกให้ตื่น

“ถึงเวลาแล้วเหรอ?” เย่ฉูฉู่หันไปมองนาฬิกา

จ้าวเหวินเทากล่าว “ไม่เป็นไร ถึงเวลาแล้วพี่รองจะมาเรียกผมเอง คุณนอนต่อเถอะ”

“นี่สี่ทุ่มครึ่งแล้วนะ!” เย่ฉูฉู่มองนาฬิกาแขวนขนาดใหญ่บนกำแพงที่แม่ของเธอให้มา แสดงเวลาสี่ทุ่มครึ่งแล้ว

“จริงเหรอ เร็วขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย” จ้าวเหวินเทาปากก็พูดไป แต่ก็ยังขี้เกียจที่จะลุกขึ้น ขลุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มอบอุ่นจะตายไป

“อาหก พ่อให้มาเรียกไปจุดประทัดแล้วครับ!” เถี่ยต้านตะโกนจากด้านนอก

จ้าวเหวินเทากล่าว “นี่เพิ่งจะสี่ทุ่มครึ่งเองนะ ไม่ใช่ว่าจุดกันตอนห้าทุ่มครึ่งเหรอ ยังเหลืออีกตั้งหนึ่งชั่วโมง รีบไปไหนเนี่ย” แม้ว่าจะพูดแบบนี้ แต่เขาก็ยังลุกขึ้นจากเตียงอยู่ดี

“ใส่หมวกด้วยค่ะ” เย่ฉูฉู่พูดเตือนหนึ่งประโยค

“ผมรู้แล้ว ภรรยาคุณนอนเถอะ ผมจะออกไปดูหน่อย” จ้าวเหวินเทาออกไปแล้ว

เย่ฉูฉู่ได้ยินเสียงประทัดดังอยู่ด้านนอกอย่างต่อเนื่อง จึงนอนต่อไม่ได้แล้ว เธอหยิบเสื้อผ้าใหม่ที่ทำจากผ้าใหม่ที่โจวหมิ่นซื้อให้ในตู้ออกมา ชุดใหม่ของจ้าวเหวินเทาก็ทำแล้วเช่นกัน เธอวางไว้ด้านข้าง รอใส่พร้อมกัน

พวกผู้ชายและลูกไม่เหมือนกัน อีกเดี๋ยวก็ต้องทำงานกันแล้ว สวมใส่ชุดใหม่จะทำให้สกปรกได้

เย่ฉูฉู่นำเมล็ดทานตะวันที่ผัดไว้อย่างดีแล้ว ถั่วลิสง และลูกอมวางใส่ถาดชาขนาดใหญ่ นำมาวางไว้ข้างเตียงเตา จากนั้นก็หยิบสาลี่และลูกพลับแช่แข็งออกมาสองสามลูก เพื่อมาแช่ในน้ำเย็น

นอกจากของเหล่านี้ยังมีพุทราเชื่อมที่จ้าวเหวินเทาซื้อมาด้วย ซึ่งเย่ฉูฉู่หาจานมาใส่ไว้

หลังจากทำสิ่งเหล่านี้เสร็จ เธอก็เปิดกล่องเงินออกมาเริ่มหาเงิน อีกเดี๋ยวยังต้องใส่อั่งเปาให้พวกเด็ก ๆ อีก

พี่รองจ้าวมีลูกสามคน พี่สามจ้าวมีลูกสองคน พี่สี่จ้าวมีลูกสองคน แม้ว่าจะมีเด็กเจ็ดคน แต่ก็ไม่ต้องให้เงินมากมายอะไร แค่ใส่ให้พอเป็นพิธีก็พอแล้ว

ถึงอย่างไรให้ไปก็ไม่ได้คืนกลับมา เพราะลูกของพวกเธอยังไม่เกิดเลย

ทางฝั่งจ้าวเหวินเทาก็ถูกเรียกเข้าห้องพี่รองจ้าว

พี่รองจ้าวเป็นคนรักหน้าตามาก บ้านของเขาถูกเก็บกวาดสะอาดเรียบร้อย บนกำแพงหัวเตียงมีรูปวาดของเด็กชายตัวอ้วนแปะอยู่ บนกำแพงเตียงเตาแปะด้วยภาพของเทพเจ้าโชคลาภ ภาพวาดปีใหม่สองแผ่นนี้มีขนาดใหญ่มาก สีสันก็สดใสมากเช่นกัน เพิ่มความสว่างให้กับบ้านที่สร้างขึ้นแบบง่าย ๆ แห่งนี้ได้นิดหน่อยด้วย

…………………………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

แลดูลำบากจังค่ะ ข้ามปีกันท่ามกลางอากาศเย็นจัดแบบนี้ (ในขณะที่บ้านเรานั้นจุดธูปไหว้บรรพบุรุษ จุดประทัด เผากระดาษเงินกระดาษทองกันท่ามกลางอากาศที่ร้อนตับแตก)

ไหหม่า(海馬)