บทที่ 208 มองข้ามความหวังดีของผู้อื่น

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

บทที่ 208 มองข้ามความหวังดีของผู้อื่น

 

สิบวันให้หลัง หลัวซิวมาถึงเขาชิงหยาง

บนเขาชิงหยางมีวัดโบราณร้างวัดหนึ่ง ตัดขาดกับโลกภายนอก หลังจากผ่านป่าผืนนี้ไป สามารถเข้าไปด้านในดินแดนเมืองกู่เจี้ยน

ท้องฟ้าแลดูค่ำมากแล้ว หลัวซิวไม่คิดจะออกเดินทางตอนกลางคืน ด้วยเหตุนี้เขาจึงนอนพักที่วัดโบราณร้างชั่วคราว

ชายหนุ่มที่แต่งกายคล้ายปัญญาชนก่อไฟในวัดโบราณ ตอนที่หลัวซิวเข้ามา สีหน้าของชายหนุ่มปัญญาชนฉายความหวาดระแวงทันที

ภายใต้การสัมผัสด้วยสำนักของหลัวซิว ผลการฝึกตนของชายหนุ่มปัญญาชนคนนี้คือฝึกจิตขั้น8 ดูแล้วอายุน่าจะใกล้เคียงกับตน

พยักหน้าให้อีกฝ่าย เพื่อแสดงว่าตนไม่มีเจตนาร้าย หลังจากนั้นหลัวซิวก็นั่งขัดสมาธิตรงมุมหนึ่งในวัดโบราณ

ท้องฟ้าด้านนอกค่อยๆ มืดลง เมฆสีดำบดบังท้องฟ้า เต็มไปด้วยหมอก ไร้แสงของดวงจันทร์

ในวัดล้าง กองไฟลุกโชน หลัวซิวหลับตาลงและจดจ่อ ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ

ทางด้านชายหนุ่มปัญญาชน คอยมองเขาด้วยความระแวดระวังอยู่ตลอดเวลา ไม่คลายความระแวงลงแม้แต่น้อย

ทันใดนั้นเอง ด้านนอกวัดโบราณมีเสียงฝีเท้าดังขึ้น ตามด้วยคนเจ็ดแปดคนทยอยเข้ามา เดินเข้ามา

นำโดย คนที่มีรูปร่างอ้วนท้วม หูกาง แต่ใบหน้าของเขากลับเหี้ยมโหด

คนที่อยู่ด้านหลังของเขา ล้วนเป็นชายฉกรรจ์ร่างสูงใหญ่ หุ่นยักษ์ เป็นคนฝึกยุทธ์

คนเจ็ดแปดคนนี้ ล้วนเป็นจอมยุทธ์ชี่ไห่ ผลการฝึกตนของเจ้าอ้วนที่เป็นหัวหน้าสูงสุด คือชี่ไห่ขั้นแปด

หลังจากเจ้าอ้วนเดินเข้ามา เขากวาดมองรอบๆด้วยแววตาเยือกเย็น สายตาของเขาจับจ้องไปยังชายหนุ่มปัญญาชน

“จูเสวียนกวง เอาของออกมาเถอะ!” เจ้าอ้วนหัวเราะเยือกเย็นแล้วพูดกับชายหนุ่มปัญญาชน

ตอนที่เห็นคนพวกนี้ ชายหนุ่มปัญญาชนเหมือนเห็นศัตรูตัวฉกาจ กอดห่อผ้าที่อยู่ข้างกายเอาไว้

“ฉันไม่รู้ว่าพวกแกพูดอะไร” ชายหนุ่มปัญญาชนพูดด้วยความกระวนกระวายเล็กน้อย แต่การที่เขากอดห่อผ้าในมือแน่น เป็นการบ่งบอกทุกอย่างแล้ว

“มองข้ามความหวังดีของผู้อื่น!” เจ้าอ้วนหัวเราะเยือกเย็น แล้วส่งสายตาให้คนที่อยู่ข้างๆ

ชายร่างยักษ์เข้าใจทันที เดินเข้าไปหา ยื่นมือออกไปแล้วคว้าห่อผ้าในมือของชายหนุ่มปัญญาชน

ในเวลานี้ คล้ายว่าชายหนุ่มปัญญาตกใจ เขาถอยหลังแล้วเซไปมา ยืนไม่นิ่ง หงายหลังล้มลง ห่อผ้าในมือถูกโยนออกมาพอดี โยนมาทางหลัวซิวพอดิบพอดี

ตุ๊บ!

ห่อผ้าตกลงบนพื้น หล่นลงข้างหลัวซิวพอดี

ตาที่หลับเอาไว้ค่อยๆ ลืมขึ้น หลัวซิวขมวดคิ้วเป็นปมมองชายหนุ่มปัญญาชนที่สีหน้าตกตะลึงและทำตัวไม่ถูก ด้วยสายตาที่เฉียบแหลมของเขามีหรือที่จะดูไม่ออก รู้ว่าอีกฝ่ายเจตนาทำแบบนี้ เพื่อให้ตนกลายเป็นที่สนใจของคนพวกนั้น

เป็นจริงตามนั้น เมื่อเห็นห่อผ้าตกลงข้างๆ หลัวซิว เจ้าอ้วนที่เป็นหัวหน้าของจอมยุทธ์เจ็ดแปดคนมองมาที่ตนด้วยแววตาเยือกเย็น

“หนุ่มน้อย ส่งห่อผ้ามา” เจ้าอ้วนหรี่ตาลง พูดกับหลัวซิวด้วยน้ำเสียงสั่ง

ทว่า สิ่งที่เจ้าอ้วนและพวกคิอไม่ถึงคือ ชายหนุ่มชุดคลุมดำในสายตาพวกเขาที่ไม่มีลมปราณของนักยุทธ์ฝึกตน กลับหัวเราะเยือกเย็น “ไสหัวไป!”

“หนุ่มน้อยแกอยากตายเหรอ? เรื่องตระกูลจูของพวกเราแกก็กล้ายื่นมือเข้ามายุ่ง? แกเป็นศิษย์ตระกูลไหน?” เจ้าอ้วนที่เป็นหัวหน้าเผยสีหน้าโมโห

ในเวลาเดียวกัน จอมยุทธ์ชี่ไห่เจ็ดแปดคนล้อมวงเข้ามา เดินมาทางหลัวซิว

หลัวซิวทำเหมือนไม่ได้ยิน สายตาจับจ้องไปยังชายหนุ่มปัญญาชนที่ชื่อจูเสวียนกวง ทว่าตอนที่ความสนใจทั้งหมดมาอยู่ที่ตน อีกฝ่ายก็รีบวิ่งหนีออกไปจากวัดโบราณทันที

เจ้าอ้วนที่เป็นหัวหน้าก็สังเกตเห็นข้อนี้ กระโดดลุกขึ้น วิ่งตามจูเสวียนกวงออกไป

จอมยุทธ์ชี่ไห่ห้าคนที่เหลือ พุ่งตัวเข้ามาพร้อมกัน พุ่งเข้ามาหาหลัวซิว แต่ละคนใบหน้าเหี้ยมโหดมาก

หลัวซิวนั่งขัดสมาธิอยู่ที่เดิมไม่ขยับ ครุ่นคิด เจตนาฆ่าอันเหี้ยมโหดแผ่ซ่านออกมาจากตัวของเขา

ชั่วขณะหนึ่ง จอมยุทธ์ชี่ไห่ห้าคนที่พุ่งมาเหมือนถูกสายฟ้าจู่โจม แต่ละคนกระอักเลือก ร่างลอยออกไป

หลัวซิวในตอนนี้ ไอสังหารกลายเป็นห้วงกระบี่วิถีบู๊ อย่าว่าแต่จอมยุทธ์ชี่ไห่ธรรมดาๆ แม้กระทั่งจอมยุทธ์พรสวรรค์ ก็ไม่สามารถต้านทานห้วงกระบี่ได้

เจ้าอ้วนที่เป็นหัวหน้าตกตะลึง ภายใต้การครอบคลุมของเจตนาฆ่าอันน่าหวาดกลัวนี้ ขาของเขาอดไม่ได้ที่จะสั่นเทา หน้าผากและหลังของเขามีเหงื่อไหลออกมา

อย่างไม่ต้องสงสัย ชายหนุ่มชุดคลุมยาวดำที่ดูแล้วไม่มีอันตราย ต้องเป็นนักยุทธ์ที่เหนือกว่าจอมยุทธ์พรวรรค์แน่นอน!

“ผู้อาวุโสไว้ชีวิตด้วย…”

เจ้าอ้วนคุกเข่าลงกับพื้น รอบตัวของเขามีเหงื่อเย็นไหลออกมา

ในเวลานี้เอง เสียงฝีเท้าดังขึ้น จอมยุทธ์ชี่ไห่สองคนที่วิ่งออกไปเมื่อครู่ ลากตัวชายหนุ่มปัญญาชนจูเสวียนกวงกลับมา เห็นภาพนี้เข้าพอดี

เจ้าอ้วนนั่นคือพ่อบ้านประจำตัวตระกูลจูไม่ใช่เหรอ แต่กลับคุกเข่าลงตรงหน้าชายชุดคลุมยาวดำ?

เมื่อมองดูอีกครั้ง เพื่อนที่มาด้วยกันทั้งห้าคนล้มลงบนพื้น ทำให้จอมยุทธ์ชี่ไห่ทั้งสองคนที่จับตัวจูเสวียนกวงกลับมา ตกใจในทันที

ตอนที่สายตาของชายหนุ่มชุดคลุมยาวดำมองมา จอมยุทธ์ชี่ไห่ทั้งสองคนรู้สึกเหมือนถูกอสูรโบราณจับจ้อง ร่างกายของเขาหยุดนิ่งอยู่ที่เดิม นิ้วมือขยับไม่ได้

สำหรับชายหนุ่มปัญญาชนจูเสวียนกวงที่เดิมทีใช้หลัวซิวดึงดูดความสนใจและให้เขาเป็นแพะรับบาป แล้วตนก็หนีไปนั้น ก็ตกตะลึง

คนตระกูลจูเหล่านี้ล้วนเป็นจอมยุทธ์ชี่ไห่ซึ่งไม่ม่สัมผัสสำนึก ไม่รู้เลยว่า ห่อผ้าที่จูเสวียนกวงโยนออกไป ความเป็นจริงด้านในมีแค่เสื้อผ้ากับข้าวของเครื่องใช้เท่านั้น

สัมผัสได้ถึงแววตาที่เหี้ยมโหดมองมาที่ตน จูเสวียนกวงหนาวสั่นอย่างห้ามใจไม่ได้ รู้ว่าชายหนุ่มชุดคลุมยาวดำต้องอ่านแผนการของตนออกแล้วแน่ๆ

“ผู้อาวุโสโปรดอภัย ข้าไม่ได้ตั้งใจ” จูเสวียนกวงบอกให้ตนเองพยายามใจเย็นลง แล้วทำความเคารพชายหนุ่มชุดคลุมยาวดำ