ดวงตาที่เฉยชาของกู้ชูหน่วนหรี่ลงเล็กน้อยและมองไปทางปรมาจารย์เฟิง

ผู้เฒ่าที่ไหนโผล่มาอีกละนั่น คิดจะมาแย่งชิงตำรากลั่นยากับนางงั้นเหรอ

กู้ชูหน่วนชูป้ายขึ้น “แปดสิบล้านตำลึง”

“แปดสิบห้าล้านตำลึง”

“เก้าสิบล้าน”

ว้าว…

ทุกคนประหลาดใจ

ตำรากลั่นยาอายุวัฒนะเล่มเดียวถูกเสนอราคาถึงเก้าสิบล้านตำลึง…

นับเป็นราคาที่สูงเสียดฟ้าเลยทีเดียว ต่อให้เป็นคนในราชวงศ์ก็ยังยากที่จะมีมากขนาดนี้

ปรมาจารย์เฟิงยิ้มอย่างเมตตาพลางลูบเคราสีดอกเลาของตน “แม่นางน้อยเข้าใจเรื่องการกลั่นยางั้นหรือ”

“ไม่รู้”

“เช่นนั้นก็มีคนใกล้ตัวที่กลั่นยาได้?”

“ไม่มี”

“ถ้าอย่างนั้น แม่นางน้อยคงจะประมูลตำรากลั่นยาไปให้ผู้อื่นสินะ”

“ก็ไม่ใช่เหมือนกัน ข้าเห็นว่าม้วนตำราหนังแกะโบราณดูสวยมากจึงอยากได้ น่าเอาไปหนุนแทนหมอนดี”

ฮือฮา…

เกิดความวุ่นวายไปทั่ว

ผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้วหรือ

คิดจะเอาตำรากลั่นยาอายุวัฒนะไปทำเป็นหมอนจริงๆ น่ะรึ

นั่นมันเก้าสิบล้านตำลึงเชียวนะ

นอกจากนี้ใครยังมีใครบ้างที่ไม่เห็นว่าตำรากลั่นยาเป็นของล้ำค่า

แม้แต่ปรมาจารย์เฟิงก็ยังคิดไม่ถึงว่ากู้ชูหน่วนจะตอบแบบนั้น

“แม่นางน้อย ข้ายังมีม้วนหนังแกะโบราณอยู่อีกมาก ถ้าเจ้าชอบ คงจะดีกว่าถ้าเจ้ายอมตัดใจมอบตำรานี้ให้ข้า แล้วข้าจะมอบม้วนหนังแกะโบราณให้เจ้าสักสองสามเล่ม พร้อมกันนั้นจะมอบยาล้างไขกระดูกให้เจ้าเพิ่มอีกสองเม็ดด้วย”

ทุกคนตาลุกวาว โดยเฉพาะองค์หญิงตังตังกับกู้ชูอวิ๋นและคนอื่นๆ

ม้วนตำราหนังแกะโบราณที่ปรมาจารย์เฟิงมอบให้จะเป็นของธรรมดาๆ ได้อย่างไร นั่นจะต้องเป็นม้วนตำราที่คงอยู่มาช้านานแล้วเป็นแน่

นอกจากนี้ยังมียาล้างไขกระดูกอีกสองเม็ด ยาล้างไขกระดูกไม่ใช่ของที่หาซื้อได้ง่ายๆ ถึงมีเงินก็อาจจะหาซื้อไม่ได้เพราะเป็นยาที่มีอยู่น้อยมาก

ผู้หญิงคนนี้ทำบุญมาดีจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะได้ยาล้างไขกระดูกสองเม็ดกับม้วนหนังแกะโบราณจากปรมาจารย์เฟิง

ถ้าไม่ตอบตกลงนางก็โง่เต็มที

พวกนางอิจฉากู้ชูหน่วน ทุกคนอิจฉากู้ชูหน่วน แต่กู้ชูหน่วนกลับเอ่ยอย่างเฉยเมยว่า “ยาล้างไขกระดูกอะไรนั่นข้าไม่ต้องการ อีกอย่าง… ข้าชอบม้วนหนังแกะโบราณเล่มนี้ ต่อให้ม้วนหนังแกะโบราณเล่มอื่นดีแค่ไหนข้าก็ไม่ชอบ เพราะข้าชอบเล่มนี้ตั้งแต่แรกเห็น”

“…..”

ทุกคนนิ่งไม่ไหวติงและมองกู้ชูหน่วนอย่างชะงักงัน พร้อมกันนั้นก็คิดว่านางช่างโง่เขลาโดยแท้

คนบ้า

เงื่อนไขดีขนาดนี้ไม่อยากได้ แต่กลับไปแย่งชิงตำรากลั่นยาอายุวัฒนะที่นางไม่รู้เรื่องอะไรเลยสักอย่าง

ปรมาจารย์เฟิงไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ ทางสีหน้า เขาเพียงแค่เพิ่มราคาต่อไป “เก้าสิบห้าล้านตำลึง”

“หนึ่งร้อยล้านตำลึง”

“หนึ่งร้อยห้าล้านตำลึง”

“หนึ่งร้อยห้าสิบล้านตำลึง”

ฮือฮา…

เป็นการประมูลที่ทำให้ทุกคนตกใจอีกครั้ง

แม้ว่าหอประมูลเฟิงเซียงจะเปิดกิจการอยู่ในนครหลวงมาเนิ่นนาน แต่ตั้งแต่เริ่มเปิดมา น้อยนักที่จะมีการประมูลจนราคาสูงถึงหนึ่งร้อยห้าสิบล้านตำลึงเช่นนี้

นี่มัน…

จะน่ากลัวเกินไปแล้ว

องค์หญิงตังตังจ้องมองตาเขม็ง

ผู้หญิงคนนี้… นางแน่ใจนะว่าตัวเองไม่ได้ตะโกนผิด

หนึ่งร้อยห้าสิบล้านตำลึง…

เหตุใดนางจึงไม่เข้าไปแย่งชิง

มุมปากของเจ๋ออ๋องกระตุกอีกครั้ง อยากจะจินตนาการจริงๆ ว่านางไปรวบรวมเงินจำนวนมากขนาดนี้มาจากไหน