“อืม “ซูฉิงนวดขมับ
ไม่รู้ว่าเป็นใคร ที่อยู่เบื้องหลังทำร้ายเธอ
และทันใดนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงหลินเหยียนเฟิงมาเคาะประตู”ท่านประธาน ผมเข้าไปได้มั้ยครับ”
ฮ่อหยุนเฉิงส่งเสียงดัง “เข้ามา!”
จากนั้นหลินเหยียนเฟิงก็ผลักประตูเดินเข้ามา แล้วเดินเข้าไปหาฮ่อหยุนเฉิง โค้งคำนับพูด”ท่านประธาน ได้ข่าวมาแล้วครับ”
“เกี่ยวกับคนที่อยู่เบื้องหลังบงการเฉินห้าวตงหรอ”ซูฉิงถามขึ้นมาทันที
“ใช่ครับ คุณซู”หลินเหยียนเฟิงพยักหน้า
“สืบได้ว่าใคร อยู่เบื้องหลังบงการเฉินห้าวตงแล้วงั้นหรอ”ซูฉิงถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน
เธออยากจะรู้มาก ว่าใครกันที่เกลียดเธอ ถึงกับจ้างเฉินห้าวตงมาฆ่าเธอ
“เป็นอู๋ชิงหร่านครับ “หลินเหยียนเฟิงพูดเสียงเรียบ
อู๋ชิงหร่าน?
ซูฉิงอึ้ง
เป็นเธอ!
ซูฉิงไม่ใช่ไม่เคยคิดมาก่อน เพราะก่อนหน้านี้อู๋ชิงหร่านจะเกลียดเธอเข้ากระดูกดำเลย หลายครั้งที่ลงมือทำร้ายเธอ
แต่ว่า ตอนนั้นอู๋เจ๋อเฉิงพาตัวอู๋ชิงหร่านกลับไปแล้ว ก็พูดรับประกันกับเธออีกครั้งว่าจะไม่ให้เธอออกมาก่อนเรื่องได้อีก
อีกทั้งซูฉิงก็ไม่คิดว่าจะมีอำนาจมากพอที่จะเรียกเฉินห้าวตงมาได้
หลินเหยียนเฟิงเหมือนจะดูออกว่าซูฉิงกำลังสงสัยอยู่เลยยื่นรูปให้กับซูฉิงดูหนึ่งใบ
ซูฉิงรับมา ก้มมองดูรูป
เป็นรู้ที่อู่ชิงหร่านกับเฉินห้าวตงอยู่ด้วยกันอย่างสนิทชิดเชื้อ
หลินเหยียนเฟิงพูดอธิบายว่า “เมื่อก่อนเฉินห้าวเฟิงเคยตามจีบอู๋ชิงหร่าน เขาได้ดีได้ทุกวันนี้ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว แต่ก็ลืมอู่ชิงหร่านไม่ลง ทั้งสองเลยร่วมมือกัน”
“เป็นอย่างนี้นี่เอง”ซูฉิงหรี่ตาลงอย่างรู้แจ้ง
อู๋ชิงหร่านผู้หญิงคนนี้ บ้าไปแล้วจริงๆ!
“แล้วหาตัวอู๋ชิงหร่านเจอมั้ย”ใบหน้านิ่งเครียดของฮ่อหยุนเฉิงถามเสียงขรึม
หลินเหยียนเฟิงส่ายหน้า”ไม่เจอครับ”
“งั้นนายมายืนบื้ออยู่ทำไม ยังไม่รีบไปตามหาอีก”ฮ่อหยุนเฉิงกัดริมฝีปากแล้วพูดเสียงเย็นเยือก
“ครับ ท่านประธาน! ” หลินเหยียนเฟิงรับตอบรับคำสั่ง แล้วหันหลังเดินออกไป
แล้วพูดบ่นใจใน ท่านประธานจะต้องไม่ชอบที่เขาไปเป็นก้างขวางคออีกแล้ว………
ซูฉิงรู้สึกเจ็บที่แขนเล็กน้อย เลยเปลี่ยนท่า จากนั้นก็ยื่นแขนออกมานวด
“ฉันช่วยเธอนวด”ฮ่อหยุนเฉิงมองซูฉิงที่กำลังนวดตัวให้ตัวเองอย่างลำบาก เลยรีบจับมือเรียวยาวของเธอมาแล้วก็ค่อยๆ นวดให้เธอเบาๆ
เขาที่มีท่าทางทำให้อย่างระมัดระวัง เหมือนกับว่าเธอเป็นของล้ำค่าของเขา
ซูฉิงก็อดที่จะหัวเราะขึ้น”นายไม่ต้องระวังขนาดนั้น ฉันไม่ใช่แจกันดอกไม้สักหน่อย”
“แต่ว่าฉันรู้สึกถนุถนอมนี่”เขาพูดออกมาจากจริงจัง
ซูฉิงก็ถึงกับอึ้งพูดไม่ออก ริมฝีปากแดงชมพูเม้มลง
เธอรู้สึกเขิน และก็อยู่ในสายตาของฮ่อหยุนเฉิง
สองตาคู่นี้ที่จ้องตากัน เหมือนอากาศหยุดไว้เพียงเท่านี้
“เอ่อ……..”ซูฉิงรู้สึกประหม่า อยากจะเปลี่ยนเรื่อง
แต่เธอที่ยังไม่ทันคิด ยังไม่ทันพูดอะไร ฮ่อหยุนเฉิงก็ยกมือใหญ่ของเขาขึ้นมา แล้วจับเข้าที่ท้ายทอยของเธอ แล้วก็ค่อยขยับเข้ามาจูบริมฝีปากบางของเธอ
ท่าทางที่คล่องแคล่วของฮ่อหยุนเฉิงที่เอาลิ้นสอดเข้าไปในปากของซูฉิงแล้วก็ตวัดพันกัน
เขาไม่ได้รีบร้อนหรือเอาแต่ใจ กลัวว่าแผลที่เธอเจ็บ เลยค่อยๆ อย่างอ่อนโยนมากที่สุด
มีเพียงมือที่จับที่ท้ายทอยของเธอ ส่วนอีกมือก็พยุงหลังของเธอไว้ ให้เธออยู่ในท่าทีสบายที่สุด
ความอ่อนโยนของเขา ทำให้ถึงกับตัวอ่อน…….
และทันใดนั้นเอง แอนโธนี่ก็เปิดประตูเข้ามาอย่างพลการ”พี่ซู ในที่สุดพี่ก็ฟื้นแล้ว สองวันมานี้ผมเป็นห่วงพี่จนกินไม่ได้นอนไม่หลับเลย!”
แอนโธนี่สืบได้เรื่องเกี่ยวกับถังรั่วอิง อยากจะบอกกับซูฉิง แต่กลับติดต่อซูฉิงไม่ได้ เขาเป็นห่วงว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับซูฉิงและพอถามก็ถึงได้รู้ว่าซูฉิงเข้าโรงพยาบาล
และพอได้ข่าวจากโรงพยาบาลว่าซูฉิงฟื้นแล้ว ก็รีบมาทันที
พอผลักประตูเข้ามา ก็เห็นทั้งสองคนจูบกับอย่างดูดดื่ม และยังมีความรู้สึกเหมือนกับคนตกอยู่ในห้วงแห่งรัก
ตอนนี้เขาก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที
“เอ่อ…….”
แอนโธนี่ที่ตอนนี้เผยหน้าแข็งทื่อ”อะแฮ่ม ขอโทษด้วยครับที่รบกวน ผมมาผิดเวลาแล้ว!”
เขาที่เมื่อกี้เป็นห่วงเกินไปเลยลืมเคาะประตู!
แอนโธนี่ที่พอหันหลังให้เตรียมจะออกไป
ใบหน้าร้อนผ่าวของซูฉิงก็ผลักฮ่อหยุนเฉิงออก มองเข้าด้วยสีหน้าอย่างเอาเรื่อง แล้วรีบเบี่ยงหน้าไปทางอื่น
ซูฉิงมองไปที่หน้าประตู มองเบื้องหลังของแอนโธนี่ที่หันหลังให้เขาแล้วพูดเสียงขรึม”นายยังไม่เข้ามาอีก”
ทำให้เธอรู้สึกอายมากเลย!
แอนโธนี่ถึงได้หันกลับมา แล้วก็ทักทายฮ่อหยุนเฉิง “เรื่องบังเอิญจริงๆครับ ประธานฮ่อ ผมมาหาพี่ซูเพราะมีธุระ”
เขามองซูฉิงแล้วทำหน้าจริงจัง “คุณวางใจเถอะ ครั้งหน้าเข้ามาผมจะเคาะประตูแน่นอน!”
แอนโธนี่ไม่พูดก็ดีอยู่แล้ว พอพูดขึ้นมา ก็ยิ่งทำให้ซูฉิงอายยิ่งกว่าเดิม
เธอขยับไปข้างๆ เพื่อรักษาระยะห่างกับฮ่อหยุนเฉิง
ฮ่อหยุนเฉิงมองซูฉิงออก ถึงแม้ว่าใบหน้าจะเรียบเฉย แต่ใบหูกลับแดงระเรื่อ
เขายกยิ้ม ขำเบาๆ นั่งพับแขนโดยไม่พูดอะไร มีเพียงแววตานิ่งลึกที่มองเธอตลอด
“ดื่มนี่เถอะ”แอนโธนี่ก็ไม่พูดเรื่องหน้าอายอีก “นี่คือซุปที่ผมให้คนตั้งใจทำให้พี่ได้บำรุง ให้พี่มีกำลังวังชารับรองว่าได้ผลแน่ ”
“ขอบใจนะ”ซูฉิงยกยิ้ม พอดื่มเข้าไป น้ำซุปอุ่นๆ ก็อุ่นผ่านไปถึงลำไส้ที่เย็นมาสองวัน
พอเห็นอาการของซูฉิงดีขึ้นบ้างแล้ว แอนโธนี่ก็นั่งที่เก้าอี้ข้างๆ มองซูฉิงเหมือนจะพูดอะไรแล้วก็หยุด
ซูฉิงก็เข้าใจทันทีว่าเขามีเรื่องอะไรจะพูด
ทั้งสองอยู่ในสายตาของฮ่อหยุนเฉิงตลอด และความหมายก็ชัดเจนว่า หวังว่าเขาจะหลีกทางให้หน่อย
แต่ฮ่อหยุนเฉิงก็ไม่มีทีท่าว่าจะหลีกทางออกไปให้
เขาไม่อยากให้ซูฉิงอยู่กลับผู้ชายสองต่อสองแม้แต่นิดเดียว
ซูฉิงทำได้เพียงกระแอมลำคอแล้วเอ่ยสั่งอย่างเกรงใจ”ฮ่อหยุนเฉิง นายออกไปก่อนได้มั้ย”
“มีเรื่องอะไร ฉันรู้ด้วยไม่ได้หรอ”ฮ่อหยุนเฉิงมองด้วยนิ่ง
ซูฉิงจ้องเขาอย่างไม่สบอารมณ์”ให้นายออกไป นายก็ออกไปสิ!”
เห็นซูฉิงมีท่าทีอย่างนี้ ฮ่อหยุนเฉิงก็จนใจ แล้วก็ยกเท้าลง แล้วเดินล้วงกระเป๋าออกไปจากห้องพักผู้ป่วย “พวกเธอคุยกัน หากมีอะไรก็เรียกฉัน”
ตอนนี้ภายในห้องพักผู้ป่วยก็เหลือเพียงแอนโธนี่ กับซูฉิงเพียงสองคน
แอนโธนี่ก็ถามอย่างเป็นห่วง “พี่ada พี่เป็นอะไรมากมั้ย”
ซูฉิงยิ้ม”ฉันไม่ใช่อาการดีแล้วหรอ”
แอนโธนี่พยักหน้า “พี่ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ก่อนหน้านี้พอรู้ว่าพี่เกิดเรื่อง ผมเป็นห่วงพี่มาก”
“มาหาฉันมีเรื่องอะไร “ซูฉิงเอ่ยถาม
แอนโธนี่หยิบเอาโทรศัพท์ออกมาแล้วเปิดข้อมูล “ผมสืบข้อมูลเกี่ยวข้องกับถังรั่วอิงได้มาบ้าง”
“หรอ”ซูฉิงดีใจ “ข้อมูลอะไร”
“พี่ดูรูปนี้สิ”แอนโธนี่เปิดรูปถ่ายแล้วยื่นให้ซูฉิงดู
ซูฉิงหันไปจ้องดูรูปที่หน้าจอ
ในรูป เป็นหญิงวัยรุ่นอายุประมาณสิบห้าปี และอีกคนเป็นชายวัยรุ่นอายุประมาณ20 กว่าปี
หญิงวัยรุ่นถักผมเปียหางม้า แล้วสวมชุดเดรสสีขาว ซูฉิงดูออกได้ทันทีว่าเป็นถังรั่วอิง
และผู้ชาย……ถ่ายเห็นเพียงด้านข้าง ดูแล้วคุ้นๆ