“ผู้ชายคนนี้คือ…………”ซูฉิงคิ้วขมวดเป็นปม เหมือนกำลังคาดเดาอยู่
แอนโธนี่ก็นยื่มือออกมาแล้วชี้ไปที่หน้าจอ พูดเสียงเรียบ”เป็นหลี่เฉิงหยาง และภาพพื้นหลังอยู่ที่ออสเตรเลีย”
“เป็นเขาจริงดด้วย”ซูฉิงหรี่ตาลง
ที่เธอคาดเดาไว้ก่อนหน้านี้ไม่ผิดเลย
ก็แสดงว่า ถังรั่วอิงกับหลี่เฉิงหยางรู้จักกันตั้งแต่แรกแล้ว
และไม่ใช่เพียงแค่เมื่อก่อน ตอนที่เปิดเผยราคาประมูลเพื่อทำร้ายเธอ ก็รู้จักกันแล้ว
“มีข้อมูลความสัมพันธ์ของพวกเขามั้ย”ซูฉิงถามต่อ
แอนโธนี่ส่ายหน้า “ไม่มีครับ”
ซูฉิงกัดริมฝีปาก “งั้นช่วยสืบต่อให้หน่อย”
“ไม่มีปัญหาครับ พี่ada!”แอนโธนี่ตอบรับปาก
แล้วเหมือนเขานึกอะไรขึ้นมาได้ “อ้อ พี่ada ที่พี่ได้รับบาดเจ็บครั้งนี้ เป็นเพราะอู๋ชิงหร่านบงการเฉินห้าวตงลงมือทำนะ”
“ฉันรู้แล้ว เมื่อกี้ฉันก็พึ่งคุยกับฮ่อหยุนเฉิง “ซูฉิงหยักหน้า “คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะเกลียดฉันขนาดนี้ อยากจะให้ฉันถึงตายเลย”
ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าอู๋ชิงหร่านจะบ้าระห่ำขนาดนี้ ตอนนั้นเธอไม่น่าให้อู่เจ๋อเฉิงพาเธอกลับไปเลย
“เรื่องนี้ก็จะโทษอู๋เจ๋อเฉิงไม่ได้ อู๋ชิงหร่านแอบหนีออกจากบ้านตระกูลอู๋ “แอนโธนี่เหมือนจะดูออกว่าซูฉิงกำลังคิดอะไรอยู่ เลยพูดอธิบายต่อ
ซูฉิงเม้มปาก “นายไปสืบหน่อยว่าตอนนี้อู๋ชิงหร่านอยู่ที่ไหน”
ใบหน้าแอนโธนี่นิ่งขรึม”พี่ada หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นกับพี่ ในช่วงเวลาที่พี่ยังไม่ฟื้นผมก็ได้ไปจับตาดูท่าทีของอู๋ชิงหร่าน แต่ว่าแปลกมาก เธอได้หายตัวไปแล้ว”
ซูฉิงคิ้วขมวด”หายตัวไปงั้นหรอ คนทั้งคนอยู่ดีๆ ก็หายตัวไปได้งั้นหรอ”
พอพูดจบ เธอก็มองแอนโธนี่ที่ทำท่ายักไหล่ “ใช่แล้ว ผมก็หาเธอไม่เจอ”
ซูฉิง:”………..”
หลังจากเงียบไปสามวินาที เธอก็หาเสียงของเธอเจอแล้วพูด”เธอไม่ได้กลับไปที่บ้านตระกูลอู๋หรอ”
“ไม่ครับ “แอนโธนี่บึนปากทำหน้าเหมือนกำลังคิดแล้วพูด”นี่แหละที่ผมบอกว่าแปลก ทางฝั่งตระกูลอู๋ก็ได้ส่งคนตามหาอู๋ชิงหร่าน ประธานฮ่อก็กำลังตามหา ผมก็กำลังตามหา แต่ก็ไม่มีเบาะแสอะไร”
“น่าจะทำผิดแล้วร้อนตัวเลยหนีไปมั้ง”ซูฉิงเปิดดูข้อมูลและรูปภาพที่อยู่ในมือ
และพบว่าไม่เพียงแต่หนีไปแล้วจะง่าย ทั้งเมือง ล้วนมีกล้องวงจรปิดจับตาอยู่ นอกจากสามวันก่อนคนที่ถ่ายอู๋ชิงหร่านไว้
จนถึงเกิดเรื่องกับเฉินห้าวตง และก็ไม่มีใครเห็นอู๋ชิงหร่านอีกเลย
“เธอก็ไม่ได้ออกไปจากเมืองนี้ ไม่มีข้อมูลบันทึกการออกไปจากพื้นที่ ตอนสุดท่ายที่เธอปรากฏตัวก็อยู่ที่ในไนท์คลับของเจ้าของเฉินห้าวตง จากนั้นก็เหมือนว่าเธอไม่ออกมาเลย
แอนโธนี่บอกซูฉิงว่า”ตระกูลอู๋ได้ส่งคนไปที่ไนท์คลับนั้นแล้ว แต่ก็ไม่เจออู๋ชิงหร่าน”
“ไม่ต้องสนเธอแล้ว”
ซูฉิงรู้ว่าอู่ชิงหร่านบ้าไปแล้ว ตอนนี้เธอน่าจะหาที่หลบเอาชีวิตรอด แม้แต่ตระกูลอู่ก็ไม่กลับไป น่าจะรอเวลารอเวลาที่จะลงมือทำร้ายเลยอีกครั้ง
เพราะว่าถ้าหากว่าเธอถูกตระกูลอู๋จับกลับไป ตระกูลอู่จะต้องจับเธอขังไว้ไม่ให้ออกไปไหน
“รอให้เธอคิดว่ามีเรื่องเงียบมีโอกาส แล้วจะปรากฏตัวออกมาเอง”ซูฉิงเก็บข้อมูลไว้ข้างๆ แล้วเอนตัวนอนลง
ร่างกายของเธอยังไม่หายดี ตอนนี้เลยรู้สึกเหนื่อย
“พี่ก็พักผ่อนรักษาตัวนะ ส่วนเรื่องนี้ผมจะไปสืบต่อเอง”
แอนโธนี่ถอนหายใจ แล้วลุกขึ้นกำลังจะกลับ กลับเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้อีก แล้วก็หันมามองเธอด้วยสายตารู้อย่างรู้กัน
ซูฉิงที่มองอยู่ก็เข้าใจความหมายของเขาทันที
ความหมายก็คือเธอกับฮ่อหยุนเฉิง
ซูฉิงพลิกตัวหนีเหมือนมองไม่เห็น
จากนั้นก็ได้ยินเสียงเปิดปิดประตู ซูฉิงหลับตา ล้วนรู้สึกเหมือนมีเงาใหญ่มาบดบังตัวของเธอ
เธอไม่ได้ลืมตาขึ้นมา แต่พูดเสียงเรียบ “นายออกไป ฉันจะพักผ่อน”
“หิวมั้ย “ริมฝีปากบางของฮ่อยหุนเฉิงอ้าขึ้นเล็กน้อย แล้วพูดด้วยน้ำอ่อนโยน น่าฟังที่สุด”ซุปเมื่อกี้ของแอนโธนี่น่าจะไม่พอนะ”
ซูฉิงอยากจะส่ายหน้า แต่ท้องก็ทรยศร้องดังออกมา
และก็ไม่แกล้งทำเป็นหลับอีก ซูฉิงลืมตาใสขึ้นมาแล้วลุกขึ้นนั่งบนเตียงยิ้มหวานออกมา”ฉันอยากกินขนมจิ้งเกา”
“ฉันจะไปซื้อให้เธอ”
ฮ่อหยุนเฉิงก้มลงมามองเธอแล้วพูดเสียงขรึม
“อืม”ซูฉิงพยักหน้า
ฮ่อหยุนเฉิงก็โน้มตัวลงมาแล้วก็จูบที่หน้าผากของซูฉิง “รอฉันอยู่ที่นี่อย่างว่าง่ายนะ เข้าใจมั้ย”
ซูฉิง:……….
ผู้ชายชายคนนี้นี่!
ไม่เอาแต่ทำให้เธออายไม่ได้รึไง
“เข้าใจแล้ว รีบไปเถอะ!”ซูฉิงจ้องเขาอย่างไม่สบอารมณ์
ฮ่อหยุนเฉิงออกไปแล้ว ซูฉิงก็ถึงได้ถอนหายใจโล่ง
ไม่รู้ว่าทำไม ตั้งแต่ที่เธอฟื้นขึ้นมามักจะรู้สึกประหม่าเวลาอยู่ต่อหน้าเขา
บางทีอาจจะเป็นวันนั้น วันที่ฮ่อหยุนเฉิงลงมาช่วยชีวิตเธอ ความรู้สึกที่เธอมีต่อเขาก็ผุดขึ้นมาราวกับน้ำผุด จะกดไว้ก็กดไม่อยู่
ซูฉิงไม่อยากยอมรับว่า เธอยิ่งไม่อยากห่างจากผู้ชายคนนี้แล้ว……..
ซูฉิงที่กำลังตกอยู่ในภวงค์ความคิดของตัวเอง โดยไม่รู้ว่าภายในห้องพักผู้ป่วยมีอีกคนเข้ามา
แล้วก็เดินมาหยุดตรงหน้าเธอ
“ฮ่อหยุนเฉิงทำไมนายไปมาเร็วจัง……”ซูฉิงที่รู้สึกแปลกใจ นึกว่าฮ่อหยุนเฉิงกลับมาแล้ว เพราะเขาไปยังไม่กี่นาทีด้วยซ้ำ
แต่พอเธอเงยหน้าขึ้นมา คนที่อยู่ตรงหน้าเธอกลับเป็นเฉินจุนเหยียน
แม้เฉินจุนเหยียนที่อยู่ตรงหน้าจะสวมแมสกับแว่นตาดำ แต่เธอก็จำเขาได้
“ซูฉิง เธอไม่เป็นอะไรใช่มั้ย “เฉินจุนเหยียนถามอย่างเป็นห่วง
ซูฉิงยิ้ม “ไม่เป็นไร”
“ขอโทษ ซูฉิง ต้องโทษฉันที่ไม่ดีเอง……”เฉินจุนเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด
เพราะที่อู๋ชิงหร่านบ้าคลั่งอย่างนี้ ก็เป็นเพราะเขา
ถ้าหากไม่ใช่เขา อู๋ชิงหร่านก็คงไม่ต้องลงมือทำร้ายซูฉิงหลายครั้ง
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนาย อ้อ นายก็ต้องระวังตัวด้วยนะ”ซูฉิงพูดเสียงขรึม
ใครจะรู้ว่าอู๋ชิงหร่านที่บ้าคิดจะทำเรื่องบ้าๆ อะไรอีก ถ้าหากว่าอู๋ชิงหร่านรู้ว่าเฉินจุนเหยียนยังคงทำตัวเป็นห่วงเธออย่างนี้ แล้วเกิดบ้าขึ้นมาทำร้ายเฉินจุนเหยียนไปด้วย ไม่อยากจะคิดผลที่ตามมาเลย
เฉินจุนเหยียนที่พอได้ยินคำพูดของเธอก็รู้สึกอบอุ่นใจ “ซูฉิิง ขอบคุณนะที่เธอเป็นห่วงฉัน……”
เฉินจุนเหยียนที่ยังพูดไม่ทันจบ และทันใดนั้นเองเสียงเปิดประตูดังแอ๊ดก็ดังขึ้น
ฮ่อหยุนเฉิงกลับมาแล้ว
วินาทีที่เห็นเฉินจุนเหยียน ใบหน้าหล่อที่อารมณ์ดีเปลี่ยนเป็นนิ่งขรึมขึ้นมาทันที
เขาออกไปแค่ไม่กี่นาที เฉินจุนเหยียนก็มาแล้ว!
ฮ่อหยุนเฉิงเอาขนมจิ้งเกาไปวางไว้ตรงโต๊ะเล็กที่อยู่ตรงหน้าซูฉิง คิ้วขมวด แววตาแฝงไปด้วยความเย็นชา
“เฉินจุนเหยียน หวังว่าต่อไปคุณจะอยู่ห่างจากคู่หมั้นของผมนะ ถ้าหากไม่ใช่เพราะคุณ ซูฉิงก็คงไม่ต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสจนต้องเข้าโรงพยาบาลอย่างนี้”
เรื่องของซูฉิงกับเฉินห้าวตง แม้ฮ่อหยุนเฉิงจะปกปิดเอาไว้ ไม่ได้เผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต แต่พวกเขาก็มีคนวงในที่รู้เรื่องนี้อยู่บ้าง
เฉินจุนเหยียนน่าจะรู้ดี ที่เกิดเรื่องกับซูฉิงครั้งนี้ก็เพราะฝีมือของอู๋ชิงหร่าน
เพราะว่าเขาอู๋ชิงหร่านถึงได้รู้สึกริษยาซูฉิง แล้วทำร้ายเธอไม่หยุด
เฉินจุนเหยียนอึ้ง อ้าปากจะพูดอะไร กลับพูดซูฉิงพูดแทรก”เฉินจุนเหยียน นายกลับไปก่อนเถอะ ช่วงนี้นายก็ต้องระวังความปลอดภัยของตัวเองด้วย