ตอนที่ 623

Elixir Supplier

623 อาการดีขึ้นภายในสามวัน โดยที่ไม่ต้องกินยาหรือฉีดยา

 

“ด้วยการรักษาของอาจารย์ เขาจะใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะหายได้เหรอ?” พันจวินถาม

 

การเคลื่อนไหวของคนไข้มีปัญหา พันจวินพอจะเข้าใจอาการของโรคนี้ดี เพราะเขาเคยเจอคนไข้ที่อาการคล้ายกันในแผนกฉุกเฉินอยู่บ่อยๆ คนไข้ส่วนใหญ่ที่เป็นเส้นเลือดอุดตันและได้รับการรักษาทั่วไปจากโรงพยาบาล มักจะไม่สามารถกลับไปเป็นปกติได้อีก ความผิดปกติที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นไปอย่างถาวร หากคนไข้รักษากับทางโรงพยาบาล เขาก็อาจจะไม่ได้อาการดีขึ้น และอาจจะแย่ลงด้วยซ้ำ

 

“10 วัน” หวังเย้าพูด

 

“แค่ 10 วันเองเหรอ? แล้วเขาไม่จำเป็นต้องกินยาอะไรเลยเหรอ?” พันจวินถาม

 

“บางทีอาจจะน้อยกว่า 10 วันด้วย เพราะอาการของเขาไม่ได้แย่มาก ผมสามารถรักษาเขาให้กายได้ด้วยการนวดและฝังเข็มเท่านั้นก็พอแล้ว” หวังเย้าพูด

 

“อาจารย์มียาอะไรที่สามารถใช้รักษาอาการเส้นเลือดอุดตันไหม?” พันจวินถาม

 

“ตอนนี้กำลังทำอยู่” หวังเย้าพูด

 

“ช่วงก่อน มีคนไข้ที่เป็นเส้นเลือดอุดตันมาที่คลินิกพี่สาวของฉันเยอะเลยล่ะ” พันจวินพูด “ฉันช่วยให้พวกเขาอาการดีขึ้นไม่ได้ ถ้าพวกเขามาอีก ฉันแนะนำให้พวกเขามาที่นี่ได้ไหม?”

 

“ได้สิ แต่อย่ายัดเหยียดให้พวกเขาล่ะ ถ้าพวกเขาไม่อยากมาก็ไม่เป็นไร” หวังเย้าพูด “บ่ายนี้ ผมไม่รับคนไข้เพิ่มแล้ว ผมว่าจะอยู่ที่คลินิกแค่ช่วงเช้าสักสองสามวันน่ะ พี่ถามทำไมเหรอ? หรือมีเรื่องอะไรอยากให้ผมทำ?”

 

“ไม่มีอะไรหรอก” พันจวินพูด

 

เขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขาแค่อยากจะเรียนรู้จากหวังเย้าเท่านั้น แต่เขาก็ไม่อยากจะดึงดันจนเกินไป เขาชวนหวังเย้าไปทานอาหารกลางวันด้วยกัน หลังจากนั้น เขาก็กลับไป

 

หลี่ชื่อหยูเดินทางมาถึงตามเวลาในตอนบ่าย เขามาพร้อมกับรถบรรทุกที่เต็มไปด้วยต้นไม้ หวังเย้าขนต้นไม้ทั้งหมดขึ้นไปบนเนินเขาหนานชาน และเริ่มลงมือปลูกพวกมันทั้งหมด

 

หวังเย้าตรวจคนไข้ในตอนเช้าและปลูกต้นไม้ตอนกลางวัน ทั้งหมดใช้เวลา 7 วัน หลี่ชื่อหยูทำการขนส่งต้นไม้ทั้งหมดสี่รอบ

 

หวังเย้าปลูกต้นไม้รอบเนินเขาหนานชานเป็นสองแนว ต้นไม้แบบทรงพุ่มถูกปลูกเป็นแนวโค้ง ด้านหนึ่งของต้นไม้ทรงพุ่มเป็นหน้าผาที่สูงประมาณ 8 เมตร มันเป็นหน้าผาที่ค่อนข้างชันและเป็นแนวตั้งเกือบ 90 องศา อีกด้านหนึ่งเป็นก้อนหินขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ตัวหินมีความสูงเกือบ 10 เมตร อีกด้านของก้อนหินคือทิศใต้ของเนินเขาหนานชาน ก็เป็นหน้าผาสูงชันเกือบ 15 เมตร ต้นไม้ทั้งสองแถวดูเหมือนยังขาดอะไรไป แต่เมื่อพวกมันเติบโตเต็มที่แล้ว พวกมันก็จะกลายเป็นกำแพงธรรมชาติที่ปิดทางเข้าออกทางทิศตะวันตกไป

 

ซานเซียนมีความสุขที่ได้ช่วยรดน้ำต้นไม้ มันไม่มีแหล่งน้ำอยู่ใกล้ๆกับต้นไม้เหล่านี้ โชคดีที่หวังเย้ามีซานเซียนคอยช่วย

 

หวังเย้าวางแผนที่จะปลูกต้นไม้แบบเดียวกันนี้ที่ทางทิศตะวันออกของเนินเขา เขาจึงสั่งต้นไม้กับหลี่ชื่อหยูเพิ่ม ทันทีที่เขาโทรไป หลี่ชื่อหยูก็จัดการขนส่งต้นไม้มาให้ในทันที

 

หวังเย้าเก็บใบของจื้อหยูมาหลายใบเพื่อนำไปทำเป็นยา หลังจากที่ตัวยาเย็นลงแล้ว เขาก็เทมันใส่ลงไปในขวดกระเบื้อง นี่เป็นส่วนสุดท้าย ที่เขาจะนำไปทำเป็นยาเม็ดต่อไป

 

หวังเย้าจัดเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว เขาวางแผนที่จะทำยาในวันถัดไป หลังเก็บกวาดทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เขาก็เดินออกมาจากกระท่อมพร้อมกับเก้าอี้ตัวหนึ่ง เขาวางเก้าอี้ไว้ติดกับกกำแพงและนั่งลง

 

เมื่อได้ยินเสียงเจ้านายของมันเดินออกมาจากกระท่อม ซานเซียนเดินออกมาจากบ้านสุนัข

 

“ขอบคุณที่หลายวันมานี้นายคอยช่วยฉันนะ” หวังเย้าพูด

 

โฮ่ง! ซานเซียนเห่าตอบอย่างมีความสุข

 

“เด็กดี” หวังเย้าตบหัวซานเซียนเบาๆ “พรุ่งนี้จะเป็นวันที่สดใส”

 

การทำยาจำเป็นต้องทำในเวลาที่ดี รวมถึงสถานที่และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมด้วย ทั้งสามอย่างนี้ไม่ควรขาดสิ่งใดไป

 

เช้าวันต่อมา หวังเย้ามีคนไข้แค่คนเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือ เหอชื่อหลี่ การเดินของเขาดีขึ้นมาก ในตอนที่เดินเข้ามา เขากำลังหมุนลูกวอลนัทด้วยมือซ้าย และมีสีหน้าที่ดีขึ้นมาก

 

“อรุณสวัสดิ์ค่ะ หมอหวัง” หญิงสาวที่มาพร้อมกับเหอชื่อหลี่พูด

 

“อรุณสวัสดิ์ครับ เชิญนั่งก่อนครับ ผมคิดว่า อาการของคุณดีขึ้นมากเลยนะครับ” หวังเย้าพูดกับคนไข้

 

“ใช่แล้ว ขาซ้ายของผมมีแรงขึ้นมาก และแขนกับมือซ้ายก็เคลื่อนไหวได้ดีกว่าเดิมด้วย ดูสิ!” เหอชื่อหลี่ยืดแขนของเขา ซึ่งดูเป็นธรรมชาติมากกว่าแต่ก่อนมาก “ผมยังรู้สึกว่ามันหนักน้อยลงด้วยล่ะ”

 

“ดีมากครับ ผมขอตรวจดูหน่อยนะครับ” หวังเย้าพูด เขาตรวจดูอาการของเหอชื่อหลี่อย่างละเอียด “อาการของคุณเริ่มดีขึ้นแล้ว ผมคิดว่า ถ้ารักษาไปอีกครั้ง คุณก็น่าจะหายดี แล้วอีกสักเดือนค่อยกลับมาดูอาการกันอีกทีนะครับ”

 

“ได้ครับ” เหอชื่อหลี่พูด

 

หวังเย้ารักษาเขาด้วยการฝังเข็ม ตามด้วยการนวดรักษา เหอชื่อหลี่อยู่ในอารมณ์ที่ดีมาก แถมยังเล่นมุกกับหวังเย้าด้วย

 

“พ่ออย่าพูดมากสิ” ลูกสาวของเขาพูด

 

“ทำไมล่ะ? ตอนนี้ ผมพูดไม่ได้เหรอครับ?” เหอชื่อหลี่ถาม

 

“พูดได้ครับ” หวังเย้าพูดด้วยรอยยิ้ม “ผมดีใจที่คุณอารมณ์ดี การมีอารมณ์ที่ดีก็มีส่วนช่วยในการรักษาเหมือนกันนะครับ”

 

หวังเย้ารักษาเหอชื่อหลี่เสร็จตอนประมาณ 10 โมง เมื่อเห็นว่าไม่มีคนไข้มาแล้ว เขาจึงปิดคลินิกเร็วกว่าปกติ เขาแขวนป้ายเอาไว้ที่หน้าประตู และบอกกับคนที่บ้านว่าเขาจะขึ้นไปบนเนินเขาหนานชาน

 

“เขามัวยุ่งเรื่องอะไรอยู่? ถึงขนาดกลับมากินข้าวกลางวันที่บ้านไม่ได้” จางซิวหยิงบ่น

 

“ปล่อยให้เขาทำตามใจเถอะ” หวังเฟิงฮวาพูด “เธอไม่เห็นเหรอ ว่ามีรถขนต้นไม่ไปที่เนินเขาน่ะ?”

 

เขาและภรรยาอยากจะช่วยลูกชายปลูกต้นไม้ด้วย แต่หวังเย้าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขา หวังเฟิงฮวาเคยขึ้นไปบนเนินเขาหนานชานอยู่สองสามครั้ง เพื่อไปดูการทำงานของหวังเย้า เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี เขาจึงตัดสินใจปล่อยให้ลูกชายของเขาทำงานไป

 

หวังเย้าเตรียมผงสมุนไพรทั้งหมดที่จะใช้ทำยาเม็ดอยู่บนเนินเขาหนานชาน เขายังมีถาดใส่สมุนไพรและน้ำสกัดจากจื้อหยูที่พร้อมนำมาใช้งานเรียบร้อยแล้ว

 

จากนั้น เขาก็เริ่มลงมือทำยาเม็ด เขาโรยผงสมุนไพรลงไปในถาด ฉีดน้ำสกัดจื้อหยูลงไปบนผงสมุนไพร และเขย่าถาดเพื่อให้ผงสมุนไพรกับน้ำจื้อหยูผสมกัน เขาทำขั้นตอนนี้ซ้ำๆไปเรื่อยๆ

 

แล้วผงสมุนไพรก็ค่อยๆรวมตัวกลายเป็นเม็ดกลมๆ ในตอนแรก มันมีขนาดเท่าเมล็ดข้าวเท่านั้น และต่อมา มันก็ค่อยๆใหญ่ขึ้น

 

การทำยาเม็ดจำเป็นต้องใช้ทั้งกำลังและแรงที่เหมาะสม หวังเย้าทำไปอย่างไม่รีบร้อน เขาทำงานไปจนกระทั่งถึงเวลาเที่ยง แต่ก็ไม่มีเวลาแม้กระทั่งจะทำอาหารกลางวันกิน และในที่สุด เม็ดยาชุดแรกก็เสร็จเรียบร้อย พวกมันไม่ได้ใหญ่มาก และมีขนาดประมาณเม็ดถั่ว ยาแต่ละเม็ดยังมีกลิ่นสมุนไพรโชยออกมาอีกด้วย

 

ได้เวลาทดลองยาแล้ว หวังเย้ามองออกไปนอกหน้าต่าง ฉันว่า ยาเม็ดพวกนี้คงไม่เหมาะกับซานเซียนหรอก

 

ในตอนที่เขากำลังลังเลอยู่นั้น เสียงมือถือของเขาก็ดังขึ้นมา เขาก็คือซุนหยุนเชิง ซึ่งต้องการให้เขารักษาคนไข้รายหนึ่ง เขาถามหวังเย้าว่า หวังเย้าสะดวกที่จะพบคนไข้ได้ตอนไหน

 

“ช่วยส่งเอกสารการรักษาของเขามาให้ผมได้ไหม?” หวังเย้าถาม “ผมอยากดูรายละเอียดก่อน แล้วค่อยบอกคุณว่าจะรักษาเขาได้ไหม”

 

“โอเค ขอบคุณนะ” ซุนหยุนเชิงพูด

 

เขาส่งข้อมูลทั้งหมดไปให้หวังเย้าผ่านทางอีเมลล์ คนไข้รายนี้เป็นชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่มีร่างกายผอมแห้งราวกับมัมมี่ อาการของเขาค่อนข้างพิเศษ ทันทีที่เขาป่วย เขาก็จะรีบหายามากินทันที โดยที่ไม่สนว่า อาการที่เป็นอยู่นั้นจำเป็นต้องกินยาหรือไม่ เขากินยาปฏิชีวนะและโคโรค(ก้อนนิ่วในถุงน้ำดีของวัว แพทย์จีนนำมาทำเป็นยาสมุนไพรและมีราคาสูง) เข้าไปเป็นจำนวนมาก ด้วยความคิดที่ว่า เขาจะสามารถขับพิษทั้งหมดออกไปจากร่างกายของเขาได้ด้วยยาเหล่านี้

 

สุดท้าย เพราะการที่เขากินยาเข้าไปมากเกินความจำเป็น จึงทำให้เขามีอาการดื้อยา มีอยู่วันหนึ่ง เขาได้ไปฉีดยาปฏิชีวนะ แต่ยาเหล่านั้นกลับไม่ได้ผลเลยแม้แต่น้อย ครอบครัวของเขาจึงต้องสั่งยาปฏิชีวนะจากต่างประเทศเพื่อรักษาชีวิตของเขา แพทย์ต้องใช้เวลาในการรักษาเขานานมาก ไม่นาน อวัยวะภายในของเขาก็ค่อยๆล้มเหลวไปทีละอย่าง เขาต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลและอยู่ในอาการโคม่า

 

“ช่วงนี้ผมคงไม่ออกไปจากหมู่บ้าน ให้เขามาหาผมที่คลินิกแล้วกันนะ” หวังเย้าพูด

 

“คุณช่วยมาดูอาการของเขาที่โรงพยาบาลไม่ได้เหรอครับ?” ซุนหยุนเชิงถาม

 

“ต้องขอโทษด้วย หลายวันต่อจากนี้ ผมคงยังออกไปไหนไม่ได้” หวังเย้าพูด

 

“งั้นผมจะลองบอกเขาดู” ซุนหยุนเชิงพูด

 

“โอเค” หวังเย้าพูด

 

เขาหาอะไรทานง่ายๆตอนสี่โมงเย็นที่บนเนินเขา ก่อนที่เขาจะไปดูต้นไม้ที่เพิ่งปลูกไปได้ไม่นาน ต้นไม้ทุกต้นมีการเจริญเติบโตเป็นที่น่าพอใจ

 

“เยี่ยม” หวังเย้าพูด

 

 

บ้านหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองเหลียนชาน ชายวัย 50 กำลังใช้มือซ้ายหมุนลูกวอลนัทในมือ และเขาก็ทำได้ดีมากด้วย

 

“คุณเริ่มดีขึ้นมาแล้วนะ” ภรรยาของเขาพูดด้วยรอยยิ้ม

 

“ใช่ ดีขึ้นมากเลยล่ะ” เขาพูด

 

“ลุงของเหอหลิงจะมากินข้าวเย็นกับเรานะ” ภรรยาของเขาพูด

 

“ดีเลย” เขาพูดออกมาอย่างยินดี

 

แขกที่นัดไว้ได้เดินทางมาถึงในตอนเย็น

 

“มือของพี่เขยขยับได้ดีขึ้นมากแล้วนะเนี่ย” แขกพูด

 

“ใช่ ฉันไปเจอหมอเก่งๆมา แล้วเขาก็นวดกับฝังเข็มรักษาให้ฉันน่ะ ฉันรักษากับเขามาได้ห้าวัน แล้วการรักษาก็ได้ผลดีมากด้วย จะบอกว่า แขนซ้ายของฉันกลับมาเป็นปกติแล้วก็ไม่ถูก แต่ฉันก็สามารถขยับทำอะไรต่างๆได้ไม่มีปัญหาล่ะนะ” ชายวัย 50 พูดด้วยรอยยิ้ม

 

“งั้นเรามาดื่มไวน์ฉลองกันเถอะ” แขกพูด

 

“อย่าดื่มเยอะล่ะ” ภรรยาของเขาพูด

 

หลังทานอาหารเสร็จ ทุกคนในครอบครัวก็มานั่งรวมตัวเพื่อพูดคุยกัน

 

“สนใจจะเล่นไพ่กันไหม?” แขกถาม

 

“เอาสิ” ชายเจ้าของบ้านพูด

 

มีหลายคนที่ร่วมเล่นไพ่ และเขาก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น เป็นเพราะอาการเส้นเลือดอุดตัน เลยทำให้เขาไม่สามารถจับไพ่ได้ แต่จะให้เขาใช้ปากคาบไพ่ก็คงจะไม่เหมาะ ดังนั้น เขาจึงไม่ได้เล่นไพ่มาเป็นเวลานาน และทำได้เพียงแค่นั่งมองเท่านั้น