ตอนที่197 ดูซิใครเร็วกว่า
เพื่อขจัดข้อสงสัยหลังตำรวจไต่สวนในภายหลัง หลินจือจำต้องมีพยานที่อยู่ เขาจงใจพาเพื่อนกลุ่มหนึ่งไปเที่ยวที่บาร์ ดังนั้นต่อให้ตำรวจบุกมาสอบสวนเขาถึงบ้าน ยังต้องกลัวอะไร?
ตามแผนที่วางไว้ คนที่จ้างวานจะต้องถึงโรงพยาบาลก่อนเที่ยงคืนและโทรรายงานหลินจือก่อนลงมือ แต่นี่มันก็เลยเที่ยงคืนไปแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ได้รับข้อความหรือสัญญาตอบรับใดๆ
หลืนจือเป็นกังวลเล็กน้อยจึงหันมาพูดกับหยางหมิงและคนอื่นๆว่า
“พวกนายตามสบายนะ เดี๋ยวฉันออกไปโทรศัพท์ก่อน”
หยางหมิงและคนอื่นๆพยักหน้า พลางดื่มสังสรรค์กันต่อไป
หลินจือเดินออกมานอกตัวบาร์หยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดดูดอย่างเป็นกังวล แต่เสี้ยวอึดใจนั้นเอง เขากลับถูกกลุ่มชายนิรนามจับล็อกตัวและลากขึ้นรถอย่างรวดเร็ว
“พวกมึงเป็นใครวะ? พวกมึงจะทำอะไรกู!!”
หลืนจือแหกปากตะโกนลั่น
แต่นี่เป็นเวลาเที่ยงคืนกว่าแล้ว แทบไม่เหลือฝูงชนเดินผ่านไปมาบนท้องถนน และไม่มีใครทันสังเกตเห็น เขาถูกจับขึ้นรถ
รถแล่นออกไปจนสุดทางและหยุดลงตรงตรอกซอกซอยมืดปราศจากผู้คน หลืนจือตกใจกลัวสุดขีด เขารีบขอร้องอ้อนวอนชายนิรนามกลุ่มนั้นทันที
“อย่าฆ่าผมเลย อย่าฆ่าผมเลยครับ พ่อ…พ่อผมเป็นประธานบริษัทจินหยวน มีบริษัทลูกในเครือมากมาย ถ้าจับตัวมาเรียกค่าไถ่ บอกผมมาได้เลยครับ ผมจะโอนให้ตามต้องการเลย ได้โปรดอย่าฆ่าผม…”
กลุ่มชายนิรนามเหล่านี้ล้วนแต่เป็นลูกพี่ลูกน้องหยางหู่ทันสิ้น พวกเขาเคยเป็นถึงกองกำลังจากหน่วยรบพิเศษ เมื่อรับมอบหมายภารกิจ เป้าหมายคือลงมือฉับไวและบรรลุภารกิจโดยเร็ว แน่นอนว่าพวกเขาไม่มาเสียเวลาต่อปากต่อคำกับหลินจือแน่นอน
ชายนิรนามคนหนึ่ง หยิบมีดพกขึ้นมาและเสียบไปที่ต้นขาของหลืนจืออย่างแรงชนิดปักลึกจนมิดด้าม
“อ๊ากกกก!!! อ๊ากกกก!!!…..”
เสียงกรีดร้องสุดแสนเวทนาของหลืนจือดังลั่นไม่หยุดจากภายในรถจนเหือดแห้ง เสียงคร่ำครวญยังคงดังต่อเนื่องกว่าสิบนาทีก่อนที่ทุกอย่างจะสงบลง
รถคันนั้นถอยหลังออกจากตรอกซอกซอย และเหวี่ยงร่างหมดสติของหลินจือกลับไปที่หน้าประตูบาร์ดังเดิม จากนั้นพวกเขาก็ขับรถหนีไปทางชานเมืองและเผาทั้งหมดเพื่อทำลายหลักฐาน
ช่วงประมาณตีสาม หยางหู่ส่งข้อความถึงจ้าวเฉียนว่า
“เรียบร้อยครับ”
จ้าวเฉียนเหลือบตาเอื้อมเปิดมือถือด้วยความมึนงง ก่อนจะหลับต่ออย่างไม่แยแส
ตอนประมาณเก้าโมงเช้าของวันรุ่งขึ้น ขณะที่จ้าวเฉียนกำลังดูหนังอยู่ ตำรวจก็มาหาเพื่อสอบปากคำ
หลังจากจ้าวเฉียนได้ยินสิ่งที่ตำรวจอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดไป เขาก็แสร้งทำเป็นตกใจอย่างมากและรีบเอ่ยถามทันทีว่า หลินจือเป็นอะไรหรือเปล่า พอตำรวจถามว่าในช่วงเวลาเกิดเหตุจ้าวเฉียนอยู่ที่ไหน และกำลังทำอะไรอยู่ เขาจึงเปิดกล้องวงจรปิดรอบบ้านให้ทางตำรวจดู สิ่งนี้เป็นเครื่องยืนยันชั้นดีว่าเขาไม่ได้ออกจากบ้านไปไหนเลย
ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรใดๆอีก คลิปจากกล้องวงจรปิดได้พิสูจน์แล้วว่า จ้าวเฉียนไม่ได้ออกไปไหนเลยตลอดทั้งคืน ดังนั้นเขาไม่ใช่คนร้ายในคดีลอบทำร้ายหลินจืออย่างแน่นอน
ตำรวจทำการคัดลอกคลิปจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานและเดินทางออกไป และยังเตือนจ้าวเฉียนอีกด้วย ช่วงนี้เขาไม่อนุญาตให้ออกไปจากเมืองตงไห่ได้ มิฉะนั้นทางทีมสืบสวนอาจเพ็งเล็งมาที่ตัวจ้าวเฉียนทันที
จ้าวเฉียนยิ้มกล่าวไปว่า
“ไม่ต้องกังวลคนรับ ผมไม่ออกไปไหนอยู่แล้ว หรือถ้าคุณตำรวจมีหลักฐานอะไรที่เชื่อมโยงมาถึงผมจริง ก็มาจับผมได้ทุกเวลาเลย”
ไม่นานหลักจากตำรวจจากออกไป พ่อของหลินจือ หลินหยุนก็พาบอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่งเข้ามาหา
จ้าวเฉียนไม่เคยรู้จักหลินหยุนมาก่อน ทั้งนี้ก็ยังไม่ทราบอีกว่า บอดี้การ์ดที่พามาด้วยมีฝีมือขนาดไหน? ดังนั้นเขาจึงไม่ยอมเปิดประตูรั้วหน้าคฤหาสน์ให้พวกเขาเข้ามาเป็นอันขาด
หลินหยุนกล่าวพร้อมสีหน้ามืดหม่นว่า
“แกใช่ไหมที่ทำร้ายลูกชายฉัน!”
จ้าวเฉียนหัวเราะเยาะเสียงดังลั่น พลางกล่าวตอบไปว่า
“คุณหลินกำลังใส่ร้ายผมอยู่งั้นเหรอ? ตำรวจก็เพิ่งได้หลักฐานพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผมไปเอง แล้วมากล่าวหากันแบบนี้มันหมายความว่ายังไง? ถ้าไม่เชื่อก็ลองไปถามตำรวจดูสิ!”
หลินหยุนเค้นน้พเสียงเย็นยะเยือกตอบกลับไปว่า
“อย่ามาเล่นลิ้นกันฉัน! ลูกชายฉันเพิ่งมีเรื่องกับแกเมื่อไม่นานมานี้ ถ้าไม่ใช่แกแล้วยังเป็นใครได้อีก! ฉันยอมรับนะว่า ลูกชายของฉันค่อนข้างเอาแต่ใจ แต่กรณีในครั้งนี้มันเกินไปจริงๆ! ตัดขาของแกออกมา แล้วฉันจะไว้ชีวิตแก! ไม่อย่างนั้นเตรียมตัวตาย!”
“ช่วยด้วยครับ ช่วยด้วย….คุณหลินพยายามขู่ฆ่าผม! ผมกลัวจังเลย! สงสัยต้องโทรเรียกตำรวจหน่อยแล้ว!!”
จ้าวเฉียนเสแสร้งปั้นหน้าไร้เดียงสา กล่าวราวกับตัวเองกำลังหวาดกลัวอีกฝ่าย
หลินหยุนต้องการล้างแค้นให้แกลูกชายของเขา แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เขาเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากเหมือนกัน
“ก็ลองโทรหาตำรวจดูสิ! แล้วมาดูกันว่าฉันจะกลัวไหม!! รีบๆตัดขาแกออกมาก่อนที่ฉันจะบุกไปฆ่าแกภายในนั้น!”
จ้าวเฉียนระเบิดหัวเราพซ้ำสองอย่างชอบอกชอบใจ
“ขามันก็ขาผม ถ้าคุณหลินมีปัญญาก็มาเองด้วยตัวเองสิครับ ฉันอยากจะบอกอะไรคุณสักอย่างนะ ลูกชายของคุณมันไม่อยู่ในสายตาผมด้วยซ้ำ ไม่แม้แต่มีคุณสมบัติพอให้เหลียวมองด้วยซ้ำ! ที่ต้องการขาผม จะเอาไปต่อให้ลูกของคุณแทนเหรอ? เหอะๆ ไม่ตายก็บุญแค่ไหนแล้วครับ คุณควรกลับไปสวดมนต์ขอบคุณพระเจ้าซะนะ”
หลินหยุนโกรธจัดจนแน่นหน้าอกหายใจติดขัด และคำรามลั่นด้วยความเดือดว่า
“แม้ลูกชายฉันจะพิการตลอดชีวิต แต่ฉันก็มีทั้งเงินและทุกอย่างเพรียบพร้อม มีปัญญาดูแลเขาได้! ฉันขอถามแกจริงๆเถอะ จิตใจทำด้วยอะไรทำไมถึงทำกับลูกชายฉันโหดเหี้ยมขนาดนี้! ขอบอกไว้ก่อน แกเตรียมตัวตายได้เลย! ไป! พวกเรากลับ!”
หลินหยุนจากออกไปทันทีพร้อมกับพวกบอดี้การ์ด
รอยยิ้มของจ้าวเฉียนจางหายไปทันใด ดวงตาคู่นั้นค่อยๆเย็นยะเยือกลงจนใครเห็นต้องสั่นสะท้านถึงขั้วหัวใจ
“อยากฆ่าฉันงั้นเหรอ? ฉันเองก็รอไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ฮิฮิ…งั้นเรามาดูกันว่าใครจะเร็วกว่า!”
จ้าวเฉียนกล่าวกับตัวเองพร้อมเสียงหัวเราะแสนร้ายกาจ
หลินหยุนเป็นประธานบริษัทจินหยวน หากเขาใช้อำนาจในมือย่อมสร้างปัญหาใหญ่ให้อีกฝ่ายได้ไม่ยาก
แผนการแรกของเขาคือ จ้าวเฉียนจะบีบให้หลินหยุนหลุดออกจากตำแหน่งประธานบริษัท จากนั้นทุกอย่างมันจะยิ่งง่ายลงไปอีก
ด้านความปลอดภัยของตัวคฤหาสน์ของจ้าวเฉียนมาเป็นที่หนึ่ง ทั่วบริเวณตั้งแต่หน้ายันหลังบ้าน มีกล้องวงกรปิดติดตั้งพร้อมกับตัวบันทึกเสียงพร้อม
จ้าวเฉียนคัดลอกคลิปกล้องวงจรปิดหน้าบ้านขณะที่หลินหยุนพากลุ่มบอดี้การ์ดมาข่มขู่เขาทั้งหมด จากนั้นก็โทรหาหยางหู่โดยไว
“เสี่ยวหู่ มาหาฉันที่บ้านหน่อย มีเรื่องแล้ว”
“โอเคครับ ผมจะรับไปทันที”
หยางหู่รีบขับรถไปหา พอถึงบ้านจ้าวเฉียนก็มอบUSBที่รวบรวมคลิปกล้องวงจรปิดทั้งหมดให้พร้อมกล่าวว่า
“ช่วยกระจายคลิปพวกนี้ไปยังเว็บไซต์และสื่อทั้งหมด จะยิงเป็นโฆษณาด้วยเลยก็ยิ่งดี”
“เข้าใจแล้วครับ ผมจะลงมือเดี๋ยวนี้เลย”
หลังจากหยางหู่จากไป จ้าวเฉียนก็โทรหาหวู่เทียนจือ ประธานบริษัทฟู่ไห่ อินเวสเม้นท์
หวู่เทียนจือรู้สึกตื่นเต้นเกินจะควบคุม นี่เป็นครั้งแรกที่คุณชายจ้าว ลูกชายของคุณจ้าวฝู่โทรมาหาเป็นการส่วนตัว และไม่รู้เลยว่ามีเรื่องอะไรถึงโทรมาหา
“สวัสดีครับคุณชายจ้าว มีอะไรให้รับใช้ครับผม!”
หวู่เทียนจือรีบเอ่ยปากทักทายอย่างสุภาพ
“ผมอยากให้คุณไปกว่านซื้อหุ้นของบริษัทจินหยวนให้มากที่สุด ฉันสั่งให้หยางหู่ไปปล่อยข่าวเสียในสื่อทั้งหมดแล้ว ใช้โอกาสที่ราคาหุ้นตกตอนนี้ ซื้อมาโดยเร็ว ผมต้องการให้คุฯกลายไปเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่แทนหลินหยุน คงรู้ใช่ไหมครับว่าควรจัดการยังไงต่อ?”
จ้าวเฉียนสั่งการเสร็จสรรพ
หวู่เทียนจือรีบตอบรับสั่งโดยเร็ว
“เข้าใจแล้วครับ! ผมจะขึ้นกลายไปเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของจินหยวนเอง ผมจะลงมือทันทีครับ เตรียมช้อนหุ้นราคาต่ำที่สุด”
“หวังว่าจะได้รับข่าวดีจากคุณในอีกไม่ช้านะครับ อ่อ…แล้วก็ระหว่างนี้ ช่วยโอนหุ้นทั้งหมดของเหล่ยอู่มาในนามของฉันที”
“เข้าใจแล้วครับ ผมจะรับสั่งการเลขาให้ดำเนินการทันที ทุกอย่างจะต้องเสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุดครับ คุณชายจ้าวไม่ต้องห่วงนะครับ เตรียมรอฟังข่าวดีจากผมได้เลย!”
จ้าวเฉียนฮัมเพลงวางสายทิ้ง ท่าทีดูพึงพอใจ
สามวันต่อมา หยางหู่ทำการลงคลิปข่มขู่ของหลินหยุนออกไป ผ่านการสื่อและเว็บไซด์ทั้งหมดที่อยู่ในเครือของจ้าวฝู่
เช้าวันรุ่นขึ้น พาดหัวข่าวประเด็นร้อนแรนที่สุดคงหนีไม่พ้นข่าวฉาวของหลินหยุน
“หลินหยุน ประธานบริษัทจินหยวนพากลุ่มชายอันตพานข่มขู่ชายหนุ่มถึงหน้าบ้าน”
“หลินหยุน ประธานบริษัทจินหยวน มีสัมพันธ์สวาทกับหญิงขายบริการนับหลายสิบคน ในรายงานกล่าวว่า เขาแอบมีลูกนอกกฏหมายกับสาวเหล่านั้นอีกจำนวนหนึ่ง”
“สะเทือนวงการ! หลินหยุน ประธานบริษัทจินหยวน แอบปกปิดบัญชีบริษัท คอรัปชั่นเงินบริษัทกว่าพันล้าน!”
“หุ้นบริษัทจินหยวนตกฮวบนับสิบจุดในชั่ววัน! ประธานบริษัทดังกล่าววางแผนกับฝ่ายบัญชีร่วมกันฉ่อโกง เงินหายไปจากระบบอย่างไร้สาเหตุ!”
………
ข่าวด้านลบกระหน่ำเข้ามาท่วมท้น หุ้นของบริษัทจินหยวนร่วงทะลุแนวรับ ดิ่งต่ำสุดในประวัติการณ์
เมื่อจำต้องเผชิญหน้ากับแรกกดดันจากผู้ถือหุ้นและคณะกรรมการบอร์ดบริหาร ทั้งยังความเห็นต่างๆนาๆของสาธารณชน หลินหยุนจึงจำเป้นต้องตั้งโต๊ะแถลงการณ์โดยด่วน
“ประธานหลินครับ จริงหรือไม่ที่คุณฉ่อโกงเงินบริษัทไปกว่าพันล้าน?”
หลินหยุนรีบตอบทันทีว่า
“ไม่ใช่อย่างที่ข่าวใส่ร้ายเลยครับ บริษัทของเราดำเนินการภายใต้กฎหมายของประเทศ แล้วผมจะทำเรื่องแบบนั้นได้ยังไง?”
“ประธานหลินค่ะ งั้นช่วยอธิบายหลักฐานการสนทนากับหัวหน้าฝ่ายบัญชีได้ไหมค่ะ ภายในข่าวมีทั้งรูปถ่ายที่พวกคุณออกไปรับประทานอาหารกันส่วนตัว รวมไปถึงข้อความ ทั้งยังบัญชีที่ปิดไม่ตรงงบรายรับรายจ่าย แต่กลับมีการแต่งเติมบัญชีเพื่อปิดบังภาครัฐ?”
หลินหยุนกระวนกระวายใจเกินจะหักห้าม เขารีบปาดเหงื่อเย็นบนหน้าผากออกไป และเอ่ยตอบพร้อมน้ำเสียงโดยชอบธรรมว่า
“ทั้งหมดเป็นข่าวลือ! พวกสื่อมันสร้างหลักฐานขึ้นมาเอง! หลังจากนี้ผมจะเดินหน้าฟ้องสื่อทุกช่องทาง ขอให้ทั้งหมดเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายนะครับ”
…..
นักข่าวพวกนั้นยังไม่ยอมแพ้และยังยิงคำถามออกไปอีกหลายสิบข้อ ซึ่งหลิยหยุนก็ปฏิเสธทั้งหมดโดยบอกว่ามันไม่เป็นความจริง
ในเวลาเดียวกัน ทางจินหยวนเองก็ขอให้สื่อทั้งหมดลบข่าวเท็พวกนี้ทิ้งไปซะ ทั้งยังเสนอเงินอีกว่าพวกเขาต้องการเท่าไหร่ถึงจะยอม
หรือนี่เป็นคำสั่งของจ้าวเฉียน? ไอ้เด็กนี่มันมีเส้นสายเยอะขนาดนี้เชียว?
แต่ข่าวฉาวยังคงพุดขึ้นราวกับดอกเห็ด หยางหู่ยังคงปล่อยข่าวพวกนี้ออกไปเรื่อยๆ ทั้งยังสั่งการให้ลูกน้องไปขุดมาเพิ่มอีก จนท้ายที่สุดกรมการกำกับหลักทรัพย์ หรือกลต.ของประเทศจีนไม่สามารถนิ่งนอนใจได้อีก และส่งจดหมายเปิดผนึกเข้าทำการตรวจสอบที่มาของทรัพย์สินทั้งหมดของหลินหยุน และบริษัทจินหยวนโดยตรง