บทที่ 40 แกะรอย Ink Stone_Fantasy
ตราบใดที่ส่วนประกอบที่จำเป็นครบ นักเวทฝึกหัดก็สามารถอัญเชิญสัตว์ของตัวเองได้ ด้วยส่วนประกอบที่แตกต่างกันสัตว์ที่ถูกอัญเชิญก็แตกต่างกัน บางคนอาจอัญเชิญเป็นสัตว์ทั่วไป เช่น นกฮูก หรือ อีกา ในขณะที่บางคนอาจเป็นสัตว์วิเศษที่ทรงพลังมาก เช่น มังกรในตำนาน
เมื่อพวกมันถูกเรียกออกมาก็จะเชื่อมโยงระหว่างเจ้าของ ดังนั้น เจ้าของยังสามารถได้รับความสามารถพิเศษบางอย่างขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของสัตว์ และในทางกลับกัน ตราบใดที่สัตว์เลี้ยงแข็งแรงพอที่จะรับเวทมนตร์ได้ มันก็สามารถใช้เวทขั้นพื้นฐานของเจ้าของได้ ตัวอย่างเช่น หากใครสามารถอัญเชิญแมวมาเป็นคู่หูได้ ก็จะสามารถมองเห็นได้ดีในยามวิกาลและมีความคล่องตัวเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันแมวที่ถูกอัญเชิญก็สามารถช่วยเจ้าของในการร่ายเวทมนตร์พื้นฐานได้ เช่น เวทความมืด และเวทคงสภาพอวัยวะ แม้กระทั่งเวทมนตร์ศาสตร์มืดพื้นฐานบางอย่าง
อย่างไรก็ตาม พลังของสัตว์เลี้ยงก็ขึ้นอยู่กับเจ้าเจ้า และจำนวนครั้งการร่ายเวทก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของเช่นกัน หมายความว่าพลังที่เวทมนตร์ใช้ไม่ได้มาจากสัตว์เลี้ยง แต่มาจากเจ้าของ สัตว์เลี้ยงจะไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ถ้าเจ้าของมีพลังไม่เพียงพอ
สัตว์เลี้ยงที่ถูกอัญเชิญสามารถเติบโตได้ไปจนถึงระดับที่สูงขึ้น แต่ความสามารถพิเศษที่เจ้าของได้รับก็ไม่ได้ดีขึ้นตามไปด้วย หากสัตว์เลี้ยงตายหรือการเชื่อมต่อถูกทำลายเจ้าของจะสูญเสียความสามารถพิเศษที่ได้รับจากสัตว์เลี้ยงและอาจได้รับบาดเจ็บอีกด้วย
ลูเซียนไม่เคยให้ความสนใจกับการเรียนเวทมนตร์อัญเชิญมากนัก เพราะการมีสัตว์เวทในเมืองที่อยู่ภายใต้อำนาจของศานจักร อาจทำให้เขามีปัญหาใหญ่ตามมาได้ง่าย
ไม่กี่วินาทีต่อมาลูเซียนจึงค่อยๆ ตอบคำถามของนกฮูก “ไม่…ข้าไม่เห็นนักเวทไม่ว่าชายหรือหญิงคนไหนเลย”
นกฮูกกระพือปีกด้วยความพึงพอใจ “ดีมาก…เจ้าไม่ได้โกหกแน่นอน ลอร์ดโดโรเฝ้าดูเจ้ามาระยะหนึ่งแล้วและไม่มีใครมาหรือถามอะไรเกี่ยวกับนางเลย”
“เจ้านกสอดแนม…” ลูเซียนเกือบจะกลอกตาแสดงความหงุดหงิด
“คำถามที่สอง เกิดอะไรขึ้นในห้องลับของแม่มดและเจ้าพบอะไรที่นั่น?” นกฮูกกะพริบตาดวงกลมโตของมัน
“อืม…ข้าลงไปที่นั่นพร้อมกับทหารรักษาการณ์สองสามนาย…” ลูเซียนบอกนกฮูกว่าเกิดอะไรขึ้นในห้อง ยกเว้นในส่วนของตำราเวทมนตร์ที่ถูกเขาคัดลอกไปยังห้องสมุดห้วงจิตของเขา ไม่ว่าอย่างไร ก็ไม่มีใครเชื่อว่าจิตวิญญาณของเขามีห้องสมุดที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้อยู่
“ช่างน่าเศร้า! เขาสูญเสียแขนของเขาไป!” นกฮูกถอนหายใจ “เด็กดี งานของลอร์ดโดโรจบแล้ว นอนหลับฝันดีเจ้าหนุ่มน้อย!” จากนั้นมันก็บินตรงไปยังหน้าต่างที่เปิดอยู่และค่อยๆ บินหายไปในความมืด
ในที่สุดลูเซียนตระหนักว่าโดโรเป็นชื่อของนกฮูก ไม่ต้องสงสัยเลยว่านกฮูกมีเจ้าของและลูเซียนก็สงสัยว่าเขาคือใคร
เมื่อขณะที่ลูเซียนกำลังพูดกับนกฮูกอยู่เขาได้สร้างร่องรอยที่มองไม่เห็นบนตัวนกฮูกโดโรด้วยพลังจิต เมื่อเขามั่นใจว่านกฮูกได้บินไปสักพักแล้ว ลูเซียนก็รีบใส่เสื้อคลุมสีดำของเขาและวิ่งออกไปจากประตู
ด้านนอกในเวลาเที่ยงคืนนั้นมืดสนิทและถนนก็เงียบเชียบ ลูเซียนแผ่กระจายพลังออกไปและตรวจพบนกฮูกในไม่ช้า
นกฮูกบินไม่เร็วมาก ลูเซียนค่อนข้างลังเลว่าจะตามนกโดโรไปดีหรือไม่ ดูเหมือนเป็นสัตว์เลี้ยงที่ไม่แข็งแกร่งนัก เพราะอย่านั้นลูเซียนจึงคาดเดาว่าเจ้าของของมันอาจเป็นนักเวทระดับฝึกหัด แต่มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีนักเวทคนอื่นอยู่ที่นั้นด้วย?
ไม่กี่วินาทีต่อมา ลูเซียนตัดสินใจที่จะเสี่ยง เพราะไม่ช้าก็เร็วเขาต้องการที่จะหานักเวทฝึกหัดหรือนักเวทคนอื่นๆ และเข้าร่วมกับพวกเขา มีโอกาสดีๆ เช่นนี้อยู่ตรงหน้าเขาแล้ว แล้วเขาก็ติดว่าคุ้มกับความเสี่ยงอย่างแน่นอน นอกจากนี้ หากลูเซียนพบว่าตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย เขาก็ยังคงมี ‘อาฆาตเหมันต์’ แหวนเวทน้ำแข็งระดับสองเพื่อช่วยเขาจากสถานการณ์คับขันได้
ลูเซียนวิ่งติดตามเป้าหมายไปตามถนน ในขณะเดียวกัน เขาก็รักษาระยะห่างระหว่างเขากับนกฮูกโดโรเพื่อให้แน่ใจว่ามันไม่รู้ตัว
ประมาณสิบนาทีต่อมา ลูเซียนเห็นนกฮูกบินเข้าไปในหน้าต่างชั้นสองของอาคารที่ตั้งอยู่ท่ามกลางความมืด เขาเข้าใกล้มันอย่างระมัดระวังและรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อเขาพบว่าเป็นร้านเหล้าคอปเปอร์โคโรเน็ต
ลูเซียนสวมแหวนอาฆาตเหมันต์บนนิ้วรอไว้แล้วก็เดินไปทางประตูหลังของร้านอย่างระมัดระวัง ด้วยเวทมนตร์ง่ายๆ เขาแอบเข้าไปในร้านและขึ้นไปชั้นบน โชคดีที่ไม่มีใครอยู่บนทางเดินในเวลานี้ ด้วยความช่วยเหลือจากพลังวิญญาณของเขา ลูเซียนสามารถได้ยินผู้ชายพูดด้วยเสียงเบาๆ ภายในห้องใดห้องหนึ่ง
…
ขณะฟังรายงานของนกฮูก สไมล์กำลังนั่งอยู่ในเก้าอี้โยกพร้อมกับแก้วไวน์ในมือ จากนั้นเขาก็หลับตาแล้วเอนหลังพิงเก้าอี้ “อืม…ดูเหมือนว่าเขาคนนั้นก็ไม่รู้จักแม่มดเช่นกัน ให้ตาย…ตอนนี้ข้าไม่มีเบาะแสอะไรแล้ว ข้าจะได้พบกับคนจากสภาเวทมนตร์แห่งทวีปได้อย่างไร…”
“สไมล์ ตราบใดที่เราเก็บข้อมูลต่อไป… “ โดโรพยายามปลอบใจเขาขณะที่เขารู้สึกหดหู่ก็มีเสียงคนมาเคาะที่หน้าประตู
โดโรกระโดดขึ้นไปที่เตียงทันทีและมุดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่ม ขณะที่สไมล์ก็กระโจนตัวออกมาจากเก้าอี้โยกแล้วถามอย่างประหม่าว่า “ใครกันน่ะ?!”
“ข้ากำลังมองหาโดโร เจ้านกฮูก และเจ้า สไมล์” บุรุษผู้นั้นตอบเรียบๆ เสียงของเขาฟังดูแข็งกร้าวและเย็นชา
“อะไรนะ?!” โดโรกรีดร้องและดวงตากลมโตก็เปิดกว้างยิ่งขึ้น
เวทมนตร์ของสไมล์พร้อมแล้ว แต่เขาไม่กล้าโจมตีใส่คนแปลกหน้าที่เขาไม่รู้อะไรเลย
“ข้าถามว่าเจ้าเป็นใคร!” สไมล์ถามซ้ำ
“ข้าเป็นนักเวทและข้ารู้เรื่องแม่มด เหมือนเจ้า ข้าก็กำลังมองหาคนจากสภาเวทมนตร์แห่งทวีปเช่นกัน” น้ำเสียงหยาบกระด้างหยุดลงและกล่าวต่อ “ก่อนหน้านี้ ข้าได้ยินนกฮูกของเจ้า ถามเด็กหนุ่มคนหนึ่งเกี่ยวกับแม่มด ดังนั้นข้าจึงติดตามสัตว์เลี้ยงของเจ้ามาที่นี่”
“อะไรกัน?! เป็นความผิดพลาดของลอร์ดโดโร! น่าเศร้าจริงๆ!” นกฮูกตะโกนออกมา
สไมล์ผ่อนคลายลงเล็กน้อย อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าไม่ใช่ศาสนจักรที่จะพังประตูทันทีโดยไม่มีคำอธิบายใด ๆ
“ถ้าเจ้าเป็นพ่อมดเจ้าคงไม่ต้องรอให้ข้าเปิดประตูให้เจ้าหรอก” สไมล์ไม่ได้ลดท่าทีป้องกันของเขาลง นอกจากนี้ เขาสามารถบอกได้จากเวทมนตร์ หากชายผู้นั้นเป็นนักเวทหรือบาทหลวงปลอมตัวมาจากพลังทั้งสองที่แตกต่างกัน
จากนั้นประตูก็เปิดออก มีพลังเย็นยะเยือกคุกคามเข้ามาในพื้นที่ก่อนหน้าที่พ่อมดจะเข้ามา
สไมล์ก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว เขารู้ว่าพลังเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด เวทมนตร์ฝึกหัดของเขาแทบจะไม่มีประโยชน์ใดๆ เมื่อเผชิญกับพลังของนักเวทผู้นี้ แล้วเขาก็เห็นชายลึกลับในเสื้อคลุมสีดำและใบหน้าของเขาก็ซ่อนอยู่ในเงามืดของหมวกคลุมศีรษะ
ในทางกลับกัน ลูเซียนเห็นใบหน้าของนักเวทฝึกหัดก็ตระหนักว่าเขาเคยพบกับสไมล์มาก่อน ตอนที่ลูเซียนมาที่ร้านคอปเปอร์โคโรเน็ตครั้งแรก สไมล์เป็นผู้ชายที่มีจมูกเหมือนนกอินทรีที่นั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์
……………………………………….