ตอนที่ 1500 วันชี้ชะตาของพรรคเสวียนชิง (12) / ตอนที่ 1501 วันชี้ชะตาของพรรคเสวียนชิง (13)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1500 วันชี้ชะตาของพรรคเสวียนชิง (12)

 

ฉินเย่ว์แปลกใจกับท่าทางของเสี่ยวซู่ แต่ไม่นานก็กลับมามีสติ นางยิ้มเย้ยแล้วตอบ “นี่คือแส้พฤกษาเทพของเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกส่งต่อมารุ่นสู่รุ่น ว่ากันว่าหนึ่งในบรรพบุรุษของเผ่าเราได้มันมาจากซากโบราณ และเป็นเพราะแส้นี้ที่ทำให้พืชอสูรให้ความจงรักภักดีกับพวกเรา…”

 

สีหน้าของเสี่ยวโม่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและทรมาน เขากุมศีรษะแน่นแล้วเหงื่อก็ไหลออกจากหน้าผากเขาเพราะความเจ็บปวด

 

“เหมือนที่ข้าบอกก่อนหน้านี้ ไม่มีพืชอสูรใดหลบหนีจากเผ่าของพวกเราได้” ฉินเย่ว์หัวเราะเยาะด้วยสีหน้าถากถาง “ตอนนี้เจ้าได้รับความเจ็บปวดทรมานหรือยังเล่า”

 

“เสี่ยวซู่?” อวิ๋นลั่วเฟิงรีบดึงเสี่ยวซู่เข้ามาในอ้อมกอดแล้วใช้ฝ่ามือลูบแผ่นหลังเขาอย่างอ่อนโยน ดูเหมือนเสียงของนางจะมีพลังบางอย่างที่ทำให้เสี่ยวซู่ที่กำลังทรมานค่อยๆ ผ่อนคลายลง

 

“ข้าไม่ยอมให้เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าแน่นอน” นางให้คำสัญญาอย่างจริงจัง หลังจากนั้นนางก็เงยหน้าแล้วใช้ดวงตาร้ายกาจของนางมองไปที่ฉินเย่ว์

 

“ถ้าแส้พฤกษาเทพนี้ทำให้เสี่ยวซู่ทรมาน ข้าก็จะทำลายมัน!”

 

ทำลายมัน? ฉินเย่ว์หัวเราะเสียงดังเหมือนได้ยินเรื่องตลก เสียงหัวเราะของนางเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส “เจ้าน่ะหรือ”

 

“ใช่แล้ว ข้จะทำลายมัน!” อวิ๋นลั่วเฟิงยกมือขึ้นแล้วกระบี่ยาวก็ปรากฏขึ้นในมือนาง “หั่วหั่ว ฉาฉา ออกมาช่วยข้า”

 

หวืด!

 

ทันทีที่นางพูดจบ จิ้งจอกสีแดงเพลิงก็มาปรากฏตัวข้างหน้าอวิ๋นลั่วเฟิง และเวลาเดียวกันนั้น ร่างกายของจิ้งจอกก็ค่อยๆ ยืดออกแล้วเปลี่ยนร่างเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ รวมถึงลูกสุนัขบนศีรษะของเสี่ยวซู่เองก็กระโดดลงมาแล้วขยายร่างออกอย่างรวดเร็ว จากร่างขนาดเท่าฝ่ามือดูน่ารักกลายเป็นสัตว์อสูรวิญญาณสุนัขที่ดูน่ากลัว

 

“สัตว์อสูรวิญญาณขั้นจักรพรรดิปราชญ์งั้นหรือ” ฉินเย่ว์ชะงักขณะที่ความโลภในตานางฉายชัดขึ้น

 

ตอนแรกนางมาที่นี่เพราะผู้สืบทอดของเผ่า แต่นางไม่คิดเลยว่านางจะได้มาเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่ ไม่ใช่แค่นางเจอพืชอสูรที่สามารถเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ได้ แต่ยังมีสัตว์อสูรวิญญาณขั้นจักรพรรดิปราชญ์ถึงสองตัว

 

“นายหญิง” เสียงของปี้เซียวเป็นกังวลมากขึ้น “ถึงแม้ว่าฉินเย่ว์จะดูอ่อนเยาว์ แต่นางน่าจะกินผลไม้แห่งชีวิตเพื่อให้รักษาความเยาว์เอาไว้ ส่วนเรื่องความแข็งแกร่งของนาง นางน่าจะเป็นผู้ฝึกฌานขั้นจักรพรรดิปราชญ์ระดับกลาง!”

 

ถ้าเสี่ยวไป๋เป็นผู้สืบทอดของเผ่าจริงๆ พวกเขาก็คงให้ความสำคัญกับนาง แล้วการส่งผู้ฝึกฌานขั้นจักรพรรดิปราชญ์ออกมาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก บนแผ่นดินนี้มีแค่เจ้าเมืองของเมืองระดับสูงไม่กี่เมืองเท่านั้นที่มีผู้ฝึกฌานขั้นจักรพรรดิปราช์ระดับสูง แต่ว่าจำนวนพวกเขาก็นับได้ด้วยมือข้างเดียวแล้วนอกจากพวกเขาผู้ฝึกฌานขั้นจักรพรรดิปราชญ์ระดับกลางก็ถือว่าแข็งแกร่งที่สุด

 

ถ้าความแข็งแกร่งของฉินเย่ว์อยู่ในขั้นจักรพรรดิปราชญ์ระดับกลางก็แสดงว่าความแข็งแกร่งของเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ด้อยกว่าเมืองใหญ่หลายเมืองเลย หรืออาจจะแข็งแกร่งกว่า…

 

“หั่วหั่ว หลอกล่อนาง!” หลังจากออกคำสั่งแล้วอวิ๋นลั่วเฟิงก็กระโดดลงบนลงของฉาฉาอย่างคล่องแคล่ว มันก็เข้าใจความต้องการของอวิ๋นลั่วเฟิงทันทีแล้วก็พุ่งไปหาฉินเย่ว์ด้วยความเร็วดุจสายลม…

 

พอเสี่ยวซู่หลุดการควบคุม ผู้คุ้มกันที่มัดไว้ก็หลุดออก ทันทีที่พวกเขาตั้งใจจะมาช่วยฉินเย่ว์ก็ถูกเสี่ยวโม่และอวิ๋นอี้หยุดไว้

 

“ต้องการจะสร้างปัญหาให้นายหญิงของพวกเรางั้นหรือ พวกเจ้าต้องผ่านพวกเราไปก่อน”

 

ซูจวิ้นเบิกตากว้าง สายตาของเขาเต็มไปด้วยความกลัว เขาคิดว่าเกราะเกล็ดมังกรเป็นไพ่ตายใบสุดท้ายของอวิ๋นลั่วเฟิงแล้ว แต่เขาไม่คิดว่านางจะซ่อนสัตว์อสูรวิญญาณขั้นจักรพรรดิปราชญ์เอาไว้อีกถึงสองตัว

 

…………………………………..

 

ตอนที่ 1501 วันชี้ชะตาของพรรคเสวียนชิง (13)

 

อวิ๋นอี้และเด็กหนุ่มที่เขาคิดว่าเป็นน้องชายของอวิ๋นลั่วเฟิงเองก็เป็นถึงผู้ฝึกฌานนั้นเซียนปราชญ์ระดับสูง…

 

แน่นอนว่าแค่เรื่องนี้อย่างเดียวซูจวิ้นก็กลัวจนเสียสติแล้ว แต่ฉากต่อมายิ่งทำให้เขาเข่าอ่อน หนูหาทองจำนวนมากปรากฏตัวขึ้นมาจากที่ใดไม่ทราบแล้วยกโขยงกันไปจัดการกับสาวใช้ของเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์

 

ปกติแล้วฉากยิ่งใหญ่แบบนี้ควรจะวุ่นวาย ทว่าหนูหาทองพวกนี้ดูเหมือนจะถูกฝึกมาอย่างดีภายใต้คำสั่งของผู้นำสองคน พวกเขาขยับตามคำสั่งแล้วกระโจนเข้าหาสาวใช้ของเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ก่อนลงมือกัดพวกนาง

 

หนึ่งในผู้นำคือชายหนุ่มหล่อเหลา และอีกคนก็คือหญิงวัยกลางคนงดงามที่สวมมงกุฏบนศีรษะทำให้ดูสูงส่งและสง่างาม ข้าหลังชายหนุ่มมีเด็กผู้หญิงน่ารักที่กำลังฉีกยิ้มหวานจนแก้มเป็นลักยิ้ม นางมองชายหนุ่มข้างหน้านางอย่างหลงไหล แต่หากคิดว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ไร้พิษภัยเพราะหน้าตาน่ารักและไร้เดียงสาของนางแล้วละก็ คิดผิดแล้ว

 

ศิษย์ของสำนักเสวียนชิงที่นางกระโจนใส่ถูกกินทั้งที่ยังมีชีวิต!

 

“เหมิงเหมิง ของพวกนี้รสชาติแย่มาก” ชายหนุ่มหันมาหาแล้วขมวดคิ้วเมื่อเห็นเด็กหญิงกำลังเคี้ยวร่างของศิษย์คนหนึ่ง “ถ้าเจ้าหิวข้าจะขอให้นายหญิงเอาสมุนไพรวิญญาณให้เจ้า อย่ากินของพวกนี้ ไม่อย่างนั้นเจ้าอาจจะท้องเสียได้ เจ้าแค่ฆ่าเขาก็พอ”

 

เด็กหญิงน่ารักกะพริบตาแล้วพยักหน้า จากนั้นนางก็กัดคอของศิษย์คนนั้น สังหารเขา แล้วโยนร่างของเขาออกไป “แบบนี้หรือไหน่ฉา” รอยยิ้มของเด็กหญิงยังดูน่ารัก และนางก็ดูไร้เดียงสาถ้าหากเมินรอยเลือดบนปากนางไป…

 

ชายหนุ่มหันกลับมาอีกครั้งก็เห็นเด็กหญิงกำลังแลบลิ้นออกมาเลียเลือดที่มุมปาก ตอนนี้นางดูน่ากลัวมาก…

 

“แค่ก!” ราชินีหนูกระแอมด้วยความอับอายเมื่อเห็นไหน่ฉากำลังจ้องเหมิงเหมิงอย่างหลงใหล จากนั้นนางก็พูดพร้อมรอยยิ้ม “พวกเราควรจัดการคนพวกนี้ก่อน จะได้ไปช่วยนายหญิง”

 

คำพูดของนางทำให้ไหน่ฉาหลุดจากภวังค์ เขายกมือขึ้นแล้วโจมตีคนที่อยู่ข้างหน้าเขา ดวงตาเขาเต็มไปด้วยความดุร้ายและรุนแรง

 

ใช่แล้ว ต่อให้เผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์แข็งแกร่งแล้วอย่างไร ใครก็ตามที่รังแกนายหญิงต้องตาย!

 

เทียบกับเหล่าหนูแล้ว อวิ๋นลั่วเฟิงไม่ได้สบายใจเหมือนพวกเขา ฉินเย่ว์แข็งแกร่งมาก แม้แต่ในเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ฉินเย่ว์ก็จัดอยู่ในอันดับที่ดีที่สุด! ถึงแม้ว่าจะมีฉาฉาและหั่วหั่วช่วยอวิ๋นลั่วเฟิงก็ยังทำให้นางบาดเจ็บไม่ได้…

 

“นายหญิง นี่ไม่ดีเลย พวกเราต้องหาทางจัดการนาง” หั่วหั่วถอยหลังไปหลายก้าวแล้วขมวดคิ้ว ใบหน้าเล็กๆ อมชมพูของนางปรากฏความวิตกกังวล

 

ฉินเย่ว์เป็นผู้ฝึกฌานขั้นจักรพรรดิปราชญ์ระดับกลางจริงๆ ด้วยพลังระดับนี้นางแข็งแกร่งกว่าพวกนางมาก พวกนางทำได้แค่ปกป้องไม่ให้อวิ๋นลั่วเฟิงบาดเจ็บแต่จัดการกับฉินเย่ว์ไม่ได้

 

แน่นอนว่าฉินเย่ว์ก็ลำบากเหมือนกัน ตอนแรกนางคิดว่านางจะจัดการอวิ๋นลั่วเฟิงได้ง่ายๆ แต่นางก็ต้องแปลกใจที่นางไม่สามารถทำให้อวิ๋นลั่วเฟิงบาดเจ็บได้แม้จะสู้มานานแล้ว! นี่ทำให้ฉินเย่ว์ยิ่งกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ จนใบหน้ามืดครึ้ม ถ้าเรื่องยังเป็นแบบนี้ต่อไปพวกนางจะได้เปรียบ…