ตอนที่ 1502 วันชี้ชะตาของพรรคเสวียนชิง (14) / ตอนที่ 1503 วันชี้ชะตาของพรรคเสวียนชิง (15)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1502 วันชี้ชะตาของพรรคเสวียนชิง (14)

“ดูเหมือนข้าคงต้องใช้วิธีนี้เท่านั้น” ฉินเย่ว์พูดแล้วประกายเย็นเยียบก็พาดผ่านดวงตานาง “ถึงแม้ว่าวิธีนี้จะทำให้ข้าต้องนอนติดเตียงไปเป็นเดือน แต่ก็ดีกว่าต้องมาติดอยู่ที่นี่”

เมื่อคิดได้เช่นนั้น ฉินเย่ว์ก็หยิบผลไม้ออกมาจากธำมรงค์มิติแล้วกัดลงไปหนึ่งคำโดยไม่ลังเล พริบตาเดียวนางก็ปล่อยกลิ่นอายทรงพลัง สายลมรุนแรงพัดรอบตัวนาง

“นายหญิง ระวัง!” หั่วหั่วหน้าเปลี่ยนสีเมื่อเห็นพลังของฉินเย่ว์เพิ่มขึ้นกะทันหัน นางรีบพุ่งไปหาอวิ๋นลั่วเฟิง วินาทีที่ฉินเย่ว์โจมตีอวิ๋นลั่วเฟิง นางก็ยืนขวางหน้าอวิ๋นลั่วเฟิงแล้วป้องกันการโจมตี ใบหน้าอ่อนเยาว์ของนางเต็มไปด้วยความแน่วแน่และไร้ความกลัว

ก่อนที่นางจะติดตามอวิ๋นลั่วเฟิง นางก็ได้ใคร่ครวญถึงผลที่ตามมาแล้ว…

นางอาจต้องเสี่ยงชีวิตระหว่างที่ติดตามอวิ๋นลั่งเฟิง อาจจะถึงขั้นตายด้วยซ้ำ

แต่ถึงอย่างไร นางก็ไม่เสียใจ!

นางอยู่คนเดียวมาหลายปีและรู้สึกว่าหัวใจนางเต็มไปด้วยความโดดเดี่ยว แต่ว่าหลังจากที่อวิ๋นลั่วเฟิงเข้ามาในชีวิตนาง ชีวิตของนางก็กลับมามีสีสันอีกครั้ง ดังนั้นนางจึงมีความสุขมากที่ติดตามอวิ๋นลั่วเฟิง…

ตราบใดที่อิ๋นลั่วเฟิงมีชีวิตรอด นางก็ยินดีตาย!

“หั่วหั่ว!”

ตอนที่หั่วหั่วกำลังจะถูกโจมตีก็มีมือจากด้านหลังดึงนางเข้าสู่อ้อมกอด

พรูด!

นางกระอักเลือดออกมาจนย้อมเสื้อของหั่วหั่ว…

หั่วหั่วเบิกตากว้างขึ้นทีละน้อย หัวใจของนางสั่นเมื่อมองสตรีในอาภรณ์ขาวที่ดึงนางเข้ามาในอ้อมกอด

“นายหญิง…”

“หั่วหั่ว ทำไมเจ้าโง่อย่างนี้” หญิงสาวพูดพร้อมรอยยิ้มงดงามน่าตะลึงบนใบหน้า “ข้าอยากได้เจ้าเป็นเพื่อน ไม่ใช่โล่…เพื่อนตลอดชีวิต”

เลือดที่มุมปากนางเห็นได้ชัดเจนเหมือนพระจันทร์สีเลือดบนท้องฟ้า

“แค่ก!” อวิ๋นลั่วเฟิงกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง นางไม่สามารถทนได้จนเข่าข้างหนึ่งทรุดลงกับพื้น แต่นางก็ยังปกป้องเด็กหญิงชุดสีแดงในอ้อมกอดอย่างระมัดระวัง นางป้องกันการโจมตีด้วยแผ่นหลังเฉกเช่นภูเขาไทซาน

“เจ้ารอดจากการโจมตีของข้าได้อย่างไร” ฉินเย่ว์ยิ้มกว้างอย่างเย็นชา นางยกมือขึ้นฟ้าแล้วกระบี่คมยาวเต็มไปด้วยพลังฌานก็ปรากฏขึ้นในมือนาง…

ฉับ!

นางฟาดกระบี่แล้วทันทีที่การโจมตีของกระบี่ก็โดนเข้าที่แผ่นหลังของอวิ๋นลั่วเฟิงเหมือนอัสนีฟาด

นัยน์ตาของหั่วหั่วหดตัว นางหันหน้าไปมองกระบี่ที่ฟันนางแล้วดวงตาก็เป็นประกายเดือดดาล

ตายเสียเถอะ!

ใช่แล้ว มีแค่ความตายของคนพวกนี้เท่านั้นที่จะระบายความโกรธของนางได้

“แม่นาง เมื่อเจ้ากล้าต่อต้านเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ เจ้าย่อมไม่มีทาพบกับจุดจบที่ดี!” ฉิวเย่ว์เชิดหน้าแล้วมองอวิ๋นลั่วเฟิงอย่างดูถูกด้วยสายตาเย็นชาเหมือนกำลังมองคนตัวเล็กๆ ที่ไร้ความสำคัญ

ซูจวิ้นยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ดวงตาเป็นประกายชั่วร้าย

ฮึ่ม! เจ้าไม่มีวันเอาชนะข้าได้!

ตอนที่กระบี่กำลังจะปะทะกับแผ่นหลังของอวิ๋นลั่วเฟิง เถาวัลย์ก็งอกขึ้นมาจากพื้นแล้วปัดกระบี่ออกไป

ฉิวเย่ว์ชะงัก นางมองเด็กผู้ชายตัวน้อยที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมาข้างหน้าอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยความสับสน ดวงตางามของนางเต็มไปด้วยความแปลกใจ ใบหน้าของนางซีดเผือด “เจ้า…เจ้าไม่เป็นอะไรเลยหรือ”

เป็นไปไม่ได้! พืชอสูรนี้ถูกแส้พฤกษาเทพฟาดก็ควรจะต่อสู้ไม่ได้! ทำไมเขายังยืนขึ้นได้อีก

ตอนนี้เสี่ยวซู่ไม่ได้ดูใสซื่อเหมือนอย่างเคย ดวงตาสดใสของเขาเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร ใบหน้าอวบน่ารักของเขาทั้งเย็นชาและดุร้าย

เขาพูดทีละคำด้วยน้ำเสียงชั่วร้าย “เจ้า ทำร้าย ท่านแม่! ใครก็ตามที่ทำร้ายท่านแม่ต้องตาย!”

…………………………………..

ตอนที่ 1503 วันชี้ชะตาของพรรคเสวียนชิง (15)

ใบหน้าของฉินเย่ว์ยิ่งซีดเผือด นางถอยหลังไปสองก้าวแล้วกัดฟัน “เจ้าต้านการโจมตีของแส้พฤกษาเทพได้อย่างไร”

“เจ้าอยากรู้รึ” เสี่ยวซู่มองหน้าอย่างไม่พอใจ “เพราะว่า ‘วัสดุ’ ที่เจ้าเอามาทำแส้พฤกษาเทพก็คือท่านพ่อข้า!”

‘ท่านพ่อ’ ที่เสี่ยวซู่พูดถึงไม่ใช่อวิ๋นเซียว แต่เป็นพืชอสูรที่ให้กำเนิดเขา พืชอสูรก็เหมือนสัตว์อสูรที่สามารถให้กำเนิดลูกหลานได้เมื่อพวกเขาเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ แน่นอนว่าพวกที่เหมือนต้นไม้แห่งชีวิตที่ต้องติดอยู่ในตลอดไปแล้วไม่สามารถเดินได้ไม่มีความสามารถนี้

แผ่นหลังของอวิ๋นลั่วเฟิงชะงัก นางกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง ดวงตาสีดำของนางดูเศร้าสร้อย

นางรู้สึกเศร้าแทนเสี่ยวซู่!

นางจะไม่รู้สึกถึงความโกรธและเกลียดชังในใจของเสี่ยวซู่ได้อย่างไรในเมื่อนางอยู่กับเสี่ยวซู่มานานเถาวัลย์ที่สามารถนำมาทำแส้พฤกษาเทพได้ต้องเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของพืชอสูร ซึ่งนั่นก็เหมือนหัวใจของมนุษย์ เมื่อสูญเสียมันไปพืชอสูรก็มีแต่ต้องตายเท่านั้น แล้วเขาจะไม่โกรธได้อย่างไรเมื่อเห็นบิดาของเองถูกเอามาใช้เป็นแหล่งพลังให้คนอื่น

“เจ้า…เจ้าบอกว่าแส้พฤกษาเป็นบิดาเจ้างั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นเจ้าเป็นใครกัน”

ในที่สุดฉินเย่ว์ก็รู้สึกกลัว ไม่มีใครรู้ดีไปกว่านางว่าที่มาของแส้พฤกษาเทพคืออะไร หรือว่าเด็กคนนี้…

“เจ้าควักหัวใจของท่านพ่อออกมาเพื่อประโยชน์ของตัวเอง แล้วตอนนี้เจ้ายังทำร้ายท่านแม่ข้าอีก! ข้าจะไม่มีวันให้อภัยเจ้า!”

หวืด!

เถาวัลย์จำนวนมากงอกขึ้นมาจากพื้นแล้วพุ่งเข้าโจมตีฉินเย่ว์

ฉินเย่ว์ไม่กล้าเผชิญหน้ากับเสี่ยวซู่ ดังนั้นนางจึงรีบหลบเถาวัลย์แล้วพุ่งลงภูเขาของสำนักเสวียนชิง

แต่ว่าทันทีที่นางกำลังจะหนีออกไปที่ประตูภูเขาได้สำเร็จ เปลวเพลิงก็ลุกขึ้นแล้วบังประตูไว้ทั้งบาน

เบื้องหน้าเปลวเพลิงคือจิ้งจอกเพลิงแปดหางที่กำลังจ้องหน้านางอย่างเย็นเยียบด้วยความโกรธ

“ถ้าเจ้าอยากออกไปก็ต้องผ่านกำแพงเพลิงไปก่อน แต่ว่า…” เสียงของเด็กหญิงเย็นเยียบเพราะควบคุมความโกรธไว้ไม่ได้ “ไฟของข้าสามารถเผาวิญญาณเจ้าได้ อย่าว่าแต่ร่างกายเลย!”

ถ้าอยู่ในการต่อสู้ หั่วหั่วอาจจะเอาชนะฉินเย่ว์ไม่ได้ เพราะถึงอย่างไรฉินเย่ว์ก็เป็นผู้ฝึกฌานขั้นจักรพรรดิปราชญ์ระดับกลาง อีกทั้งนางยังใช้ผลไม้นั่นเพื่อฝืนเพิ่มพลังอีก เพราะฉะนั้นไม่ว่าเปลวเพลิงของหั่วหั่วจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ทำอะไรนางไม่ได้อยู่ดีเพราะไม่สามารถโจมตีฉินเย่ว์ได้ แต่ว่า…

ถ้าฉินเย่ว์ต้องการจะหนี เปลวไฟของหั่วหั่วก็มีประโยชน์อย่างมาก

ถ้านางต้องการจะออกไป นางก็ต้องผ่านเปลงเพลิงไปก่อน ไม่อย่างนางก็ไม่สามารถอกจากที่นี่ไปได้!

ฉินเย่ว์ดูหวาดกลัวแล้วร้องอย่างโกรธเคือง “หลีกทางไป!”

ตูม!

หมัดที่ห่อหุ้มด้วยพลังฌานของนางเข้าโจมตีหั่วหั่ว

ตอนที่หั่วหั่วขยับหลบการโจมตี หมัดของฉินเย่ว์ก็ทะลุผ่านไฟ แล้วความเจ็บปวดจนหัวใจบีบรัดก็ทำให้นางกรีดร้อง “เป็นไปไม่ได้! ด้วยพลังตอนนี้ของข้า ข้าจะบาดเจ็บเพราะเปลวไฟของเจ้าได้อย่างไร เจ้าเป็นแค่สัตว์อสูรวิญญาณขั้นจักรพรรดิปราชญ์ระดับต่ำ!” ฉินเย่ว์ส่ายหน้าแบบไม่เชื่อ

หั่วหั่วจ้องนางอย่างเย็นชา “ถึงแม้ว่าเจ้าจะฝืนเพิ่มพลัง แต่ความแข็งแกร่งทางร่างกายและวิญญาณของเจ้ายังเหมือนเดิม เจ้าแค่เพิ่มพลังเพียงอย่างเดียว!”

“นั่นก็เป็นไปไม่ได้ ระดับดั้งเดิมของข้าก็สูงกว่าเจ้า แล้วเจ้าจะทำให้ข้าบาดเจ็บได้อย่างไร”

น่าเสียดายที่ก่อนหั่วหั่วจะเอ่ยตอบ เถาวัลย์ของเสี่ยวซู่ก็โจมตีนางจากข้างหลัง แล้วพริบตาเดียวร่างของนางก็ถูกมัด…