ฮ่าๆๆๆ!
เสียงหัวเราะของหรงอวี้ค่อยๆ หายไป
ที่ลานบ้าน อาเฉวียนพูดด้วยความโกรธ “คุณชาย คุณชายอวี้คนนี้นั้นเกินไป หยิ่งเกินไปแล้ว นี้มันคางคกขึ้นวอชัดๆ
“อาเฉวียนทำไมต้องไปสนใจ” หรงจิ่งนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ วางหมากอย่างสงบ หมากรุกในมือวางลงบนกระดานหมากรุก
“ข้าเพียงแต่รู้สึกไม่พอใจแทนคุณชาย เมื่อคุณชายยังเป็นที่โปรดปรานของตระกูล คุณชายอวี้เอาใจท่านทุกอย่าง แถมยังตั้งใจเลียนแบบคำพูด การกระทำและการแต่งตัว ตอนนี้คุณชายถูกขังอยู่ที่บ้าน เขาถูกให้ความสำคัญ แต่กลับหยิ่งยโส รวมถึงคำพูดนั้นด้วย เขาไม่รู้หรือว่าคุณชายรู้สึกอย่างไรกับจักรพรรดินี”
“หุบปาก”
หรงจิ่งเงยหน้าขึ้น ดวงตาใสที่ไม่แยแสนั้นเต็มไปด้วยคำเตือน ได้จ้องมองไปที่อาเฉวียน
อาเฉวียนรู้ตัวว่าทำผิดพลาด จึงเงียบปากและก้มหัวลงไม่พูดมากกว่านี้
หรงจุนหันกลับไป มองไม่เห็นอารมณ์ใดๆในสีหน้าที่สงบของเขา เขาได้วาดภาพเหมือนของเจียงหลี นอกจากตัวเขาเองแล้ว ก็มีอาเฉวียนลู่เจี้ยและหรงอวี้ที่รู้เรื่อง
ที่หรงอวี้รู้ มันเป็นเรื่องผิดคาด
ในวันนั้น เขาที่พึ่งวาดภาพเสร็จและหมึกยังไม่แห้งจึงยังไม่สามารถเก็บได้ หรงอวี้มาโดยไม่ได้รับเชิญและบุกเข้าไปในห้องหนังสือของเขา แม้ว่ามันจะเป็นเพียงพริบตา แต่หรงจิ่งก็รู้ว่าคนในภาพวาดนั้น
หรงอวี้ได้เห็นมันแล้ว
แม้ว่ารูปลักษณ์ของเจียงหลีจะแตกต่างจากที่เขาภาพจำในเวลานั้น ตราบใดที่เห็นตัวจริง ก็สามารถรู้ได้ว่านางเป็นคนเดียวกันกับในภาพวาด
คำพูดเมื่อครู่นั้นของอาเฉวียนไม่ผิดเลย หรงอวี้จงใจจะมายั่วยุและกระตุ้นหรงจิ่ง
รับใช้บนเตียง
แม้ว่าหรงจิ่งจะรู้ แต่มันก็เป็นเพียงความคิดเพ้อเจ้อของหรงอวี้ แต่เมื่อเขาได้ยินคำเหล่านี้ ในใจของเขาก็ยังมีความผันผวน
ผลึบ!
ตัวหมากรุกในมือของเขาตกลงบนกระดานหมากรุกอีกครั้ง
อาเฉวียนมองไปที่ตัวหมากรุกที่เพิ่งร่วงหล่นลงไป อ้ำๆ อึ้งๆ หลังจากสับสนอยู่พักหนึ่ง ก็รวบรวมความกล้าเพื่อเตือนสติว่า “คุณชาย วางผิดแล้ว”
ผิดรึ
หรงจิ่งหยุดความคิดและจ้องมองไปที่ตัวหมากรุก แน่นอนว่าลงไปผิดไปแล้ว ไม่ควร ไม่อาจลงหมากตัวนี้ในตำแหน่งนี้
เขายิ้มจางๆ หยิบตัวหมากรุกโยนลงในกล่องหมากรุก ยืนขึ้นและพูดว่า “อาเฉวียนข้าจะฝึกฝนอย่างเงียบๆ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และห้ามให้ใครมารบกวน” ตระกูลหรงแล้วไง ข้าได้เลือกแล้ว
“ขอรับ” อาเฉวียนกล่าว
เมื่อหรงอวี้มาที่ห้องหนังสือของหรงเทียนเผิงอย่างอารมณ์ดี นอกจากหรงเทียนเผิงแล้ว ยังมีประมุขตระกูลหรงท่านอื่นๆ ด้วย
เขาตกอกตกใจและรีบเก็บอารมณ์ของตน และทำความเคารพผู้ใหญ่ที่อยู่ข้างใน จากนั้นก็นั่งลงในตรงที่ยังว่างอยู่
“หรงอวี้พูดถึงสิ่งที่ได้พบในวังมาสิ” หรงเทียนเผิงถาม
หรงอวี้พยักหน้าและพูดทุกอย่างที่เขารู้ “ในระหว่างวัน มีคนคอยปรนนิบัติจักรพรรดินี จึงเป็นการยากที่จะเข้าใกล้ มีแค่ช่วงเวลากลางคืนเท่านั้นที่นางจะอยู่คนเดียวในวัง ข้าเดาว่า นางอาจจะกำลังฝึกไม่อยากถูกรบกวน”
“แล้วเจ้าล่ะ เข้าวังไปตั้งนาน ได้เข้าใกล้จักรพรรดินีบ้างไหม ได้รับความไว้วางใจจากนางหรือไม่” หรงเทียนเผิงถามอีก
ใบหน้าของหรงอวี้รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
การแสดงออกของเขา ทำให้ดวงตาของหรงเทียนเผิงแข็งกร้าวในทันใด “หึ! คนไร้ประโยชน์ เจ้าเข้าวังไปสองสามเดือนแล้ว แม้แต่เข้าใกล้หญิงสาวคนเดียวยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ”
“ข้า” หรงอวี้ต้องการจะเถียง แต่ก็ไม่รู้จะพูดยังไง
“นายท่าน ในเรื่องนี้ หญิงสาวควรที่จะหยิ่งบ้าง นางมีสถานะที่แตกต่างออกไป หากนางไม่ต้องการ หรงอวี้ก็ยากที่จะเข้าใกล้ดังนั้น จึงอาจต้องใช้เวลาสักระยะเพื่อเข้าใกล้” ผู้อาวุโสตระกูลหรงกล่าวช่วย
“ต้องรออีกนานแค่ไหน ตระกูลหรงของเรานั้น รอนานเกินไปแล้ว!” หรงเทียนเผิงกล่าวอย่างไม่พอใจ
หากไม่ใช่เพราะลูกชายของตนนั้นไม่ได้มีเป้าหมายเดียวกันกับพวกเขา เขาจะมาตั้งความหวังไว้ที่หรงอวี้หรือ เขาเชื่อว่าตราบใดที่ลูกชายเต็มใจไม่มีผู้หญิงคนไหนในโลกที่จะไม่คลั่งไคล้ลูกชายของเขา
“นายท่าน จักรพรรดินีได้กล่าวแล้วว่า หลังจากที่ข้ากลับไป นางจะจัดให้ข้าไปรับใช้บนเตียง”
หรงอวี้รีบกล่าว
เจียงหลีพูดเพียงแค่ว่าไปรับใช้ แต่เขาเข้าใจว่านั่นคือการรับใช้บนเตียง!
“จริงหรือ!” ดวงตาของหรงเทียนเผิงหรี่ลงอย่างรวดเร็ว
สมาชิกตระกูลหรงคนอื่นๆ ก็มองไปที่หรงอวี้ด้วยความกังวล
เป็นครั้งแรกที่ได้รับความสนใจขนาดนี้ หรงอวี้ตื่นเต้นในใจและพยักหน้าอย่างแรง
“ดี! เยี่ยมมาก! ในที่สุดเราก็รอจนถึงโอกาสนี้” หรงเทียนเผิงรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก
ทุกคนในห้องหนังสือ ก็แสดงสีหน้าที่ตื่นเต้นด้วยเช่นกัน
“หรงอวี้ เจ้ารีบกลับวังโดยเร็ว กำหนดวันที่ต้องรับใช้บนเตียงให้แน่นอนและส่งคนประกาศออกนอกวัง ในคืนนั้น จะเป็นวันที่ตระกูลหรงได้หลับมาอีกครั้ง” เสียงของหรงเทียนเผิงไม่สามารถขัดขืนได้
“หืม” หรงอวี้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
เร็วขนาดนั้นเชียวหรือ เขายังคิดที่จะพัวพันกับจักรพรรดินีที่สวยงามอีกสองสามวันก่อนที่จะลงมือ
“ทำสีหน้าอะไรของเจ้า” หรงเทียนเผิงมองเขาอย่างไม่พอใจ
“เปล่า ไม่มีอะไรขอรับ” หรงอวี้สงบอารมณ์อย่างรวดเร็ว เห็นนายท่านเช่นนี้ กลัวว่าคงจะไม่ไว้ชีวิตจักรพรรดินีเป็นแน่
หรงอวี้รู้สึกสงสารไปชั่วขณะ เมื่อเขาคิดถึงหญิงสาวที่สวยงามเช่นนี้ ยังไม่ทันได้เติบโตเต็มที่จะกลายเป็นเถ้ากระดูกซะแล้ว
“ยาขวดนี้ เจ้าหาโอกาส แอบให้นางกินในขณะที่เจ้ารับใช้อยู่บนเตียง” หรงเทียนเผิงหยิบขวดยาออกมาและยื่นให้หรงอวี้
หรงอวี้รับยามา ไม่กล้าถามอะไรอีก แล้วเก็บอย่างระมัดระวัง
“นายท่าน จักรพรรดินีเป็นผู้ฝึกตนขั้นหลิงไซว่ หากมองทะลุยานี้จะทำอย่างไร” มีคนถามอย่างเป็นห่วง
หรงเทียนเผิงมองไปที่หรงอวี้และหัวเราะ “นั่นขึ้นอยู่กับหรงอวี้ ตราบใดที่สามารถทำให้นางจิตใจเคลิบเคลิ้มหลงใหลอยู่บนเตียงได้ หลังจากเสพสังวาส ให้นางดื่มยานี้เมื่อไม่ทันตั้งตัว พลังฝึกตนของนางก็จะถูกปิดผนึก เมื่อถึงตอนนั้น อย่าว่าหลินไซว่เลย แม้แต่หลิงจงก็ไร้ประโยชน์!
“เมื่อหรงอวี้ได้ยินคำว่า ‘เสพสังวาส’ สายตาของเขาก็ร้อนขึ้นทันใด แม้ว่าเขาจะไม่สามารถช่วยชีวิตของจักรพรรดินีได้ หากเขาได้ลิ้มรสของจักรพรรดินีก่อน คิดๆ แล้วก็รู้สึกปลาบปลื้มเหมือนถูกกัดกินวิญญาณและกระดูก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นั้นคือสิ่งที่หรงจิ่งต้องการ แต่เขากลับได้มัน!
ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ เขาก็รู้สึกตื่นเต้นและรอไม่ไหว
“หรงอวี้”
เสียงของหรงเทียนเผิงดึงเขากลับสู่ความเป็นจริง
“นายท่าน”
หรงอวี้รีบข่มอารมณ์
“รู้แล้วใช่ไหมว่าต้องทำเยี่ยงไร” หรงเทียนเผิงมองเขาอย่างเฉียบขาด
หรงอวี้พยักหน้าอย่างรีบร้อน
“ดีมาก หลังจากที่เจ้าทำสำเร็จ จงส่งสัญญาณมา พวกข้าจะรออยู่นอกวังและเห็นสัญญาณของเจ้า ก็จะเข้าโจมตีพระราชวังและควบคุมวัง” หรงเทียนเผิงกล่าว
“รับทราบ นายท่าน หรงอวี้จะทำภารกิจให้สำเร็จแน่นอน”
“เอาละ อย่ารอช้า เจ้ารีบกลับไปก่อน เพื่อที่นางจะได้เรียกตัวเจ้าโดยเร็วที่สุด” หรงเทียนเผิงโบกมือและปล่อยให้หรงอวี้กลับไปที่พระราชวัง
หรงอวี้รู้ว่าหรงเทียนเผิงกังวลมาก แท้จริงแล้วเขาเองก็กังวลมากเช่นกัน
หลังจากที่เจียงหลีบอกว่า จะพิจารณาให้เขาไปรับใช้ หัวใจของเขาก็ระส่ำระสายอยากก่อเรื่อง ร่างที่น่าหลงใหลของจักรพรรดินี จะทำให้เขานึกถึงนางบางครั้ง
แต่เขาไม่คาดว่าความโชคดีจะมาเร็วขนาดนี้
เขาเพิ่งกลับเข้ามาในวังไม่ทันไร สารจากวังก็เรียกให้เขาไปที่วังจักรพรรดินีเพื่อรับใช้ในค่ำคืนนี้