ตอนที่ 630

Elixir Supplier

630 โหยหาความเจ็บปวด

 

“ผมคงต้องขอได้ดูเขาก่อนนะครับ” หวังเย้าพูด “แล้วเขาอยู่ที่ไหนครับ?”

 

“เขาอยู่ข้างนอกค่ะ ฉันจะไปพาเขามาเดี๋ยวนี้” เธอพูด

 

เธอเดินออกไปพาสามีของเธอเข้ามาในคลินิก โดยมีลูกชายของเธอคอยช่วยด้วย

 

“แม่ นี่คือหมอที่แม่พูดถึงคนนั้นน่ะเหรอ?” ลูกชายของเธอถามด้วยความประหลาดใจ

 

“ใช่ พูดเบาๆสิ ลูกพูดดังเกินไปแล้วนะ” เธอพูด

 

สีหน้าที่ลูกชายของเธอแสดงออกมานั้น บอกให้หวังเย้าได้รู้ว่า เขาไม่คิดว่า หวังเย้าที่อายุพอๆกับเขาจะเป็นหมอที่มีฝีมือเก่งกาจได้เลยสักนิด

 

“นี่เป็นครั้งแรกที่เขาป่วยแบบนี้รึเปล่าครับ?” หวังเย้าถาม

 

ลักษณะของคนไข้มีการเดินที่ไม่ปกติและเป็นอัมพาตครึ่งซีก รวมไปถึงใบหน้าที่เป็นอัมพาตครึ่งซีกด้วยเช่นกัน น้ำลายไหลลงมาจากมุมปากของเขาไม่หยุด

 

“ไม่ค่ะ นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อสองปีก่อนค่ะ” เธอพูด

 

“ใช่” คนไข้พูด

 

“ช่วยเอาเขานั่งทีนะครับ” หวังเย้าพูด

 

ปัญหาของอาการทั้งหมดนั้นอยู่ที่ส่วนสมอง เส้นเลือดเกิดการอุดตันขึ้นภายในสมอง และทำให้การไหลเวียนของโลหิตต้องหยุดชะงักไป ในทางแพทย์แผนจีนนั้น อาการนี้มีสาเหตุมาจากการหยุดนิ่งของพลังฉีและโลหิต

 

“นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเขาอย่างนั้นเหรอครับ?” หวังเย้าถามอีกครั้ง

 

“ไม่ค่ะ นี่เป็นครั้งที่สอง ครั้งแรกเป็นได้ปีกว่าแล้ว” เธอพูด

 

หวังเย้าตรวจดูร่างกายของคนไข้ โดยเฉพาะส่วนศีรษะของเขา “คุณต้องการให้เขารับการรักษาที่นี่เหรอครับ?”

 

“ใช่ค่ะ” เธอพูด

 

ลูกชายของเธอทำสีหน้าไม่เห็นด้วย เขาคิดในใจ ก็ใช่น่ะสิ เราก็ต้องมาที่นี่เพื่อรักษาอยู่แล้ว คิดว่าเราจะมาซื้อแพนเค้กหรือไง?

 

แม่ของเขาส่งสายตาดุมาให้ ในตอนที่เขากำลังจะพูดบางอย่างออกไป

 

“โอเค ถ้าอย่างนั้น ช่วยนั่งนิ่งๆด้วยนะครับ” หวังเย้าหยิบเข็มออกมา “อย่าขยับนะครับ”

 

เขาแทงเข็มลงไปที่ศีรษะของคนไข้ อาการของคนไข้นั้นต่างไปจากคนไข้รายก่อนที่เขาเคยรักษาไป พูดตรงๆก็คือ คนไข้รายนี้อาการหนักกว่ามาก ดังนั้น หวังเย้าจึงทำการกระตุ้นการไหลเวียนของพลังฉีและโลหิตในศีรษะของเขา ซึ่งก็คือจุดที่มีปัญหาอยู่นั่นเอง

 

“ทำแบบนี้มันจะได้ผลเหรอ? แทงเข็มลงไปบนหัวพ่อเนี่ยนะ?” ลูกชายของคนไข้รู้สึกกังวลเกี่ยวกับพ่อของเขา เขาเอาแต่จับจ้องไปที่มือของหวังเย้าไม่ให้คลาดสายตา

 

แม่ของเขาก็รู้สึกกังวลเช่นเดียวกัน เธอกำเสื้อแน่นและมีเหงื่อซึม “คุณรู้สึกยังไงบ้าง? ถ้ารู้สึกไม่ดีขึ้นมา ก็บอกเราเลยนะ”

 

“อืม” คนไข้พูด

 

หวังเย้าเพียงแค่ยิ้มออกมาเท่านั้น หลังจากฝังเข็มเสร็จแล้ว เขาก็นวดให้กับคนไข้ต่อ หวังเย้าเริ่มจากบริเวณใบหน้าของคนไข้เป็นที่แรก เขาลงแรงเบาๆในตอนเริ่มแรก จากนั้น ก็ค่อยๆเพิ่มแรงเข้าไป เขากดไปตามจุดฝังเข็มและใช้มือทั้งสองข้างไล่ไปตามเส้นเลือด

 

จุดประสงค์ในการนวดก็เพื่อเป็นการจัดการกับเลือดที่คั่งค้างอยู่ หวังเย้าใช้แรงจากภายนอกในการบังคับให้เลือดที่อุดตันเส้นเลือดให้หลุดออกไป พลังฉีและโลหิตมีการไหลเวียนเหมือนกับสายน้ำ ถ้าหากการไหลเวียนเป็นปกติ น้ำก็จะไปบำรุงพืชพรรณที่อยู่ตามริมน้ำได้ แต่ถ้าหากการไหลเวียนเกิดการติดขัด มันก็อาจจะทำให้น้ำเอ่อล้นได้

 

“คุณรู้สึกยังไงบ้าง?” ผู้เป็นภรรยาถาม

 

“ฉันรู้สึกสบายมากเลย” คนไข้พูด

 

การนวดของหวังเย้าทำให้ตลอดทั้งศีรษะของเขารู้สึกอุ่นขึ้นมา อาการช้าและบวมก็หายไปด้วย เขารู้สึกสบายขึ้นมาก

 

“คุณช่วยยกแขนหน่อยได้ไหมครับ?” หวังเย้าถาม “ลองทำตามผมดูนะครับ”

 

หวังเย้าหยุดนวด “คุณลองบีบมือผมให้แรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ดูนะครับ”

 

กำลังและแรงในการเคลื่อนไหวในส่วนแขนของคนไข้รายนี้ดีกว่าคนไข้รายก่อน แต่อาการที่ขาของเขานั้นแย่กว่า

 

หลังจากที่ให้คนไข้ขยับแขนขาดูแล้ว หวังเย้าก็เริ่มการรักษาต่อ

 

“ดูเป็นมืออาชีพดีนี่นา” ลูกชายของคนไข้พูด “พ่อรู้สึกยังไงบ้าง?”

 

“พ่อรู้สึกสบายดี” คนไข้พูด

 

“ฉันว่า คุณดูเหมือนจะพูดติดขัดน้อยลงนะ” ผู้เป็นภรรยาพูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้น “คุณลองพูดอะไรหน่อยสิ”

 

“เธออยากจะให้ฉันพูดอะไรล่ะ?” คนไข้ถาม

 

“การพูดของเขาดีขึ้นมาก ลูกคิดเหมือนแม่ไหม?” เธอหันไปถามลูกชาย

 

“ครับ ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน” ถึงในตอนแรก ผู้เป็นลูกชายจะรู้สึกสงสัยในความสามารถของหวังเย้า แต่ตอนนี้ เขาก็ต้องยอมรับว่าหวังเย้านั้นเป็นหมอที่มีฝีมือจริงๆ การพูดของพ่อเขาดีขึ้นภายในเวลาสั้นๆ และใบหน้าพ่อของเขาก็ยังดูเป็นปกติมากขึ้นด้วย “หมอเก่งจริงๆ” มุมมองที่เขามีต่อหวังเย้าเริ่มเปลี่ยนไป

 

“เอาล่ะ วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ แล้วเอายาเม็ดนี้กลับไปกินด้วยนะครับ” หวังเย้าหยิบเม็ดยาที่เขาทำเมื่อไม่กี่วันก่อนยื่นให้คนไข้ “ส่วนค่ารักษา ฝังเข็มกับนวดอยู่ที่ 200 หยวน ส่วนยาก็ราคา 200 หยวนเหมือนกันครับ”

 

“อะไรนะ? นั่นมันแพงมากเลยนะ” ลูกชายของคนไข้พูดขึ้นมาด้วยความตกใจ ความรู้สึกประทับใจที่มีต่อหวังเย้าก่อนหน้านี้ได้หายไปจนหมด

 

“แต่ผมไม่คิดแบบนั้นนะครับ” หวังเย้าพูดด้วยท่าทีนิ่งเฉย

 

สมุนไพรทั้งหมดเป็นสมุนไพรป่า และส่วนใหญ่ก็ถูกเก็บมาจากแปลงสมุนไพรของเขาเอง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ได้รับการบำรุงจากค่ายกลรวมวิญญาณ สมุนไพรได้ดูดซับเอาพลังโดยรอบเข้าไป ดังนั้น พวกมันจึงมีคุณภาพสูงกว่าสมุนไพรที่เติบโตในป่าเขามาก เม็ดยายังมีน้ำสกัดจากจื้อหยู ซึ่งเป็นสมุนไพรรากที่หาซื้อไม่ได้ด้วยเงินผสมอยู่ด้วย

 

“เราจะจ่ายค่ะ” ภรรยาคนไข้พูด “เขาต้องกินยานานแค่ไหนคะ?”

 

“กินวันละหนึ่งเม็ดพอครับ ลองเอาไปสัก 10 เม็ดก่อนดีกว่า” หวังเย้าพูด

 

“10 เม็ดสำหรับ 10 วัน รวมเป็น 2,000 หยวนนะคะ” เธอพูด

 

ครอบครัวของเธอจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลให้กับโรงพยาบาลไปหมื่นกว่าแล้ว เมื่อหักกับเงินชดเชยจากรัฐแล้ว เธอจึงจ่ายไปแล้วทั้งหมดประมาณ 8,000 กว่าหยวน ตราบใดที่หวังเย้าสามารถรักษาสามีของเธอได้ เธอก็ยินดีที่จะจ่ายเงิน 2,000 หยวน

 

“แม่!” ลูกชายของเธอติดสินใจหยุดแม่ไม่ให้แม่ของเขาต้องถูกหลอก ไม่อย่างนั้นแล้ว แม่ของเขาก็จะถูกคนอื่นจูงจมูกโดยที่ตัวเองไม่รู้ตัว

 

“หมอหวัง เราขอเริ่มซื้อไปสามเม็ดก่อนได้ไหม?” ลูกชายคนไข้ถาม

 

“ได้สิ” หวังเย้าพูด เขามั่นใจในยาที่เขาทำขึ้นมามาก ดังนั้น ยาสามเม็ดก็ไม่ได้แตกต่างอะไรสำหรับเขาเลย

 

“เราแค่อยากจะดูก่อนว่า ถ้ากินยาเข้าไปแล้วจะเป็นยังไงบ้างน่ะ” ลูกชายคนไข้พูด นายคิดจะคว้าเอาทุกอย่างที่คิดจะคว้าได้ใช่ไหม?

 

หวังเย้าไม่ได้สนใจเรื่องเงินอยู่แล้ว แต่ในเมื่อ เขาต้องเสียเวลาและลงแรงกับการทำยาขึ้นมาแล้ว เขาก็จำเป็นต้องคิดเงินให้คุ้มกับสิ่งที่เขาเสียไปด้วย เม็ดยาเหล่านี้ล้วนมีค่า

 

ภรรยาคนไข้จ่ายเงินซื้อยาไปทั้งหมดสามเม็ด เธอนำเม็ดยาห่อเอาไว้อย่างดี “ขอบคุณนะคะ หมอหวัง”

 

“ยินดีครับ เอานี่ไปด้วยนะครับ ผมเขียนข้อควรระวังเอาไว้ให้คุณ ผมคิดว่า เขาเป็นความดันสูงและคอลเลสเตอรอลสูงด้วย” หวังเย้าพูด

 

“ค่ะ” ภรรยาคนไข้พูด

 

“ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เขาต้องระมัดระวังในเรื่องการใช้ชีวิตให้มากขึ้น การอุดตันของเส้นเลือดมีความเกี่ยวข้องกับคอลเลสเตอรอลสูง, ความดันสูง, และน้ำตาลในเลือดสูง เขาจำเป็นต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เขาควรกินอาหารเบาๆและออกกำลังกายเป็นประจำด้วยนะครับ” หวังเย้าพูด

 

“ได้ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว” หลังจากที่แสดงความขอบคุณเสร็จแล้ว เธอ, ลูกชายและสามีก็พากันเดินออกไปจากคลินิก

 

“แม่ เขามันเป็นพวกต้มตุ๋น” เมื่อพวกเขาเดินออกมา ผู้เป็นลูกชายก็พูดขึ้นมาทันที

 

“ลูกหมายความว่ายังไง?” เธอถาม “แล้วก็เงียบเสียงลงด้วย แม่ไม่อยากให้หมอหวังมาได้บิน ลูกไม่เห็นเหรอ ว่าหน้าของพ่อเขาดีขึ้นกว่าเดิมน่ะ? แล้วพ่อก็ยังพูดชัดขึ้นด้วย หมอคนนี้มีฝีมือจริงๆ”

 

“ผมเห็น แต่ยาเม็ดละ 200 หยวนมันแพงเกินไป บางทีเขาอาจจะแค่นวดถูกจุดก็ได้นี่” ลูกชายพูด

 

“พอได้แล้ว! ขนาดโสมป่ายังมีราคาเป็นหมื่นได้เลย” เธอพูด “แล้วยาพวกนี้จะมีราคาแพงบ้างไม่ได้เหรอ? ยานำเข้าที่โรงพยาบาลจ่ายมาให้เรายังราคาเม็ดละ 75 หยวนเลย แล้วทำไมลูกถึงไม่คิดว่ามันแพงบ้างล่ะ?”

 

“ก็นั่นมันเป็นยาของโรงพยาบาลนี่” ลูกชายพูด

 

“เลิกบ่นได้แล้ว กลับบ้านกันเถอะ” คนไข้พูด การพูดของเขายังคงติดขัดอยู่ แต่มันก็ดีกว่าเดิมมากแล้ว

 

“โอเค กลับบ้านกัน” ภรรยาของเขาพูด

 

ขณะเดียวกัน ภายในบ้านของซุนหยุนเชิง เจิ้งเหว่ยจวินได้ตื่นขึ้นมา

 

“หืมมม แปลกจริง คราวนี้เหว่ยจวินดูเหมือนจะตื่นเร็วกว่าเดิม” คุณหวูพูด “เหว่ยจวิน เธอรู้สึกเป็นยังไงบ้าง?”

 

การที่ชายหนุ่มตื่นขึ้นหลังจากนอนไปได้สองวัน ซึ่งเร็วกว่าปกติ คุณหวูจึงได้แต่หวังว่าจะไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับเขา

 

“ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษนะครับ แต่ผมรู้สึกดีกว่าตอนตื่นขึ้นมาครั้งก่อน ครั้งนี้ ผมรู้สึกเจ็บด้วย” เจิ้งเหว่ยจวินพูด

 

“เจ็บตรงไหนเหรอ?” คุณหวูถามด้วยความกังวล

 

“ทุกที่เลยครับ แต่มันไม่แย่ขนาดนั้น อย่ากังวลไปเลยครับ” เจิ้งเหว่ยจวินพูดด้วยรอยยิ้ม

 

“รอฉันเดี๋ยวนะ” เจิ้งชื่อฉงพูด

 

เขาไปที่คลินิกของหวังเย้า เพื่อเชิญให้ไปดูอาการของเจิ้งเหว่ยจวินที่บ้าน

 

“เขาตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่เหรอครับ?” หวังเย้าถาม

 

“เพิ่งตื่นตอนนี้เลยครับ” เจิ้งชื่อฉงพูด

 

หวังเย้ารีบไปที่บ้านของซุนหยุนเชิงพร้อมกับเจิ้งชื่อฉง เขาเข้าไปตรวจดูอาการของเจิ้งเหว่ยจวินอย่างละเอียด

 

“ผมคิดว่า ที่เขาตื่นขึ้นมาเร็วกว่าปกติน่าจะเป็นเพราะยาขับพิษครับ” หวังเย้าพูด

 

ยาขับพิษที่หวังเย้าให้เขากินเข้าไป มีปฏิกิริยาต่อต้านตัวยาที่ทำให้เจิ้งเหว่ยจวินต้องหลับลึก มันจึงทำให้ตัวยาหมดประสิทธิภาพเร็วกว่าปกติ

 

“แล้วเราควรจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดีครับ?” เจิ้งชื่อฉงถาม

 

“ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องเอายาตัวนั้นให้เขากินแล้ว ให้เขากินแค่ยาสองตัวของผมก็พอ” หวังเย้าพูด

 

“ได้” คุณหวูพูด

 

หวังเย้าหันออกไปมองดูท้องฟ้าด้านนอก “ผมจะกลับมาฝังเข็มให้เขาพรุ่งนี้ ตอนประมาณ 9 โมงนะครับ แล้วพวกคุณก็เอายาให้เขากินตอนประมาณ 8 โมงครึ่ง”

 

“โอเค” คุณหวูพูด

 

“ตั้งแต่นี้ไป เขาอาจจะต้องลำบากหน่อยนะครับ” หวังเย้าพูด

 

“ทำไมเหรอ?” คุณหวูถาม

 

“ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเขาจะค่อยๆฟื้นตัวขึ้นมา แล้วเขาก็จะเริ่มรู้สึกถึงความเจ็บปวด เตรียมใจเอาไว้หน่อยนะครับ” หวังเย้าพูด